JJNY : 4in1 ยางผันผวนหนัก5วันร่วงเกือบ30บ./10ด.โยกหนีหุ้นไทย3แสนล./ธนาธรนำทีมธัชชัยชิงเก้าอี้อบจ.ปากน้ำ/โฟกัสไม่ทนแล้ว

ราคายางผันผวนหนัก ทุบสถิติ 5 วัน ร่วงเกือบ 30 บาท
https://ch3thailandnews.bectero.com/news/216604
 

 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันที่ 5 ที่ราคายางปรับลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคารับซื้อจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนน้ำยางสด บ้านทับพรุ ที่ ต.เขาดิน อ.เขาพนม อยู่ที่ 42 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งลดลงวันเดียว 4 บาท หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือน ราคาพุ่งไปสูงสุดอยู่ที่ 73 บาท ต่อกิโลกรัม ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนยาง ที่กรีดยางขายน้ำยางข้นได้รับผลกระทบอย่างหนัก รายได้หายไปเกือบ 30 บาทต่อกิโลกรัม
  
นายบุญส่ง นับทอง นายกสมาคมชาวสวนยางจังหวัดกระบี่ ระบุว่า สาเหตุเดียว คือ การฮั้วกันของพ่อค้าคนกลาง โดยเฉพาะล้งรับซื้อที่ขณะนี้เกือบทั้งหมด จะถูกจีนซื้อไปแล้ว เป็นผู้กุมราคา รวมหัวกันฮั้วกดราคาลงมาอย่างหนัก จึงอยากเรียกร้องให้ทางรัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน
  
ล่าสุดนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แจ้งให้คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เร่งตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว เพราะหากมีการฮั้ว กดราคารับซื้อจริง จะถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายเรื่องการแข่งขันกันทางการค้าทันที ซึ่งผู้กระทำผิดจะมีบทโทษหนักถึงขั้นติดคุก

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

 
10 เดือน นักลงทุนโยกเงินหนีหุ้นไทย 3 แสนล้าน คาดรีเทิร์นกลับปีหน้า
https://www.dailynews.co.th/economic/805271
 
คาดปีหน้าเม็ดเงินลงทุนไหลรีเทิร์นเข้าตลาดหุ้นไทย หลังปีนี้ดิ่งหนัก 10 เดือน ไหลออก 3 แสนล้าน สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ 
 
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ เฟทโก้ เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในเดือนต.ค.63 พบว่า ในอีก 3 เดือนข้างหน้าตลาดหุ้นไทยยังซบเซาอยู่ที่ระดับ 61.27  ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ซึ่งเกิดจากปัจจัยการเมืองในประเทศเป็นหลัก รองลงมาคือ การถดถอยของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงความกังวลต่อการแพร่ระบาดระลอก 2 ของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้ช่วง 10 เดือนที่ผ่านมามีเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไทยถึง 300,000 ล้านบาท มากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์
 
"จากปัจจัยลบต่างๆตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นเพราะส่วนใหญ่หุ้นไทยเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และทยอยย้ายเงินออกจากตลาดหุ้นไทยหันไปลงทุนหุ้นในประเทศอื่นที่เกี่ยวข้องกับหุ้นเทคโนโลยี อาทิ หุ้นซูม และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับนิวนอร์มัลอย่างต่อเนื่องเพราะมีการเติบโตค่อนข้างดี"
 
อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังการเลือกตั้งสหรัฐจบลงและ นายโจ ไบเดน ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่จะช่วยให้ตลาดหุ้นไทยกลับขึ้นมาฟื้นตัวได้ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐที่ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งส่งอานิสงส์มายังประเทศไทยช่วยให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และหุ้นที่เกี่ยวข้องกันเศรษฐกิจฟื้นตัวตาม รวมทั้งเงินทุนไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทยจากราคาถูกที่น่าดึงดูดใจ โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่หันไปลงทุนหุ้นเทคโนโลยีจะนำกำไรที่ได้กลับเข้ามาในหุ้นเศรษฐกิจและท่องเที่ยวไทยอีกครั้ง บวกกับการปรับประมาณการลงของนักวิเคราะห์ขณะนี้เริ่มนิ่งและคาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปีหน้าจะกลับขึ้นมา 30-40% จากปี 63 นี้ที่ลดลง 30-40% หรือกลับขึ้นมาในระดับเดิม
 
“หากนายโจ ไบเดน ชนะ ตลาดหุ้นสหรัฐอาจไม่ถูกสนับสนุนมากเท่านายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยมองว่าบรรยากาศการค้าขายระหว่างประเทศจะดูดีขึ้น เพราะนายโจ ไบเดน น่าจะไม่ทำเหมือนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ทำในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้เม็ดเงินไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่มากขึ้น รวมถึงไทยยังมีความน่าสนใจอยู่ แต่ประเทศไทยต้องบริหารจัดการความเสี่ยงภายในให้ได้ โดยเฉพาะการชุมนุมทางการเมือง”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่