เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนเข้าร่วมกับ OYO

1.        OYO เป็นบริษัทสัญชาติอินเดีย ก่อตั้งโดย Ritesh Agarwal ที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจาก Softbank ก่อตั้งปี 2013 (7 ปี)
2.        OYO ในไทยจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด ขนาดเล็ก กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในปลายปี 2561 เลขที่ 0105561118055 ทุนจดทะเบียน 148 ล้านบาท เป็นบริษัทต่างชาติ 100%  ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นสิงคโปร์ งบการเงินปี 2562 ตรวจสอบโดยบริษัท อีวาย ในปี 2562 ขาดทุนประมาณ 22 ล้านบาท ข้อมูลทั่วไปและงบการเงินดูได้จากเวปไซต์ dbd.go.th
บริษัท โอโย เทคโนโลยี แอนด์ ฮอสพิทอลลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด
1 อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี ห้องเลขที่ S05 ชั้นที่ 27 ถนนสาทรใต้
แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
3.       เมื่อคุณเข้าร่วมกับOYO นอกจากคุณจะเสียค่าคอมมิชชั่นให้กับ OTA แล้วคุณจะต้องจ่ายค่า partnership fee อีกด้วย ซึ่งค่าpartnership fee จะคิดจากทุกการจองรวมถึงแขก walk in ด้วย ทาง OYO อ้างว่าเนื่องจากเป็นหุ้นส่วนใช้แบรนด์เค้า แล้วเค้าทำการตลาดให้ ในอีกความหมายนึงคือคนเข้าพักเข้ามาพักส่วนหนึ่งเพราะชื่อเสียงของเขานั่นเอง
4.       ทุกการจองที่เกิดก่อนเข้าร่วมกับ OYO จะถูกโหลดเข้าระบบและจะต้องเสียค่า partnership fee  แต่เค้าอาจจะยกเว้นให้อันนี้อาจได้แต่ไม่ทั้งหมด การคิดค่า partnership fee สำหรับการจองที่เกิดขึ้นก่อนเข้ากับ OYO อาจจะไม่ได้ระบุชัดเจนในสัญญา สัญญาเก่ากับสัญญา ณ ปัจจุบันอาจมีเงื่อนไขที่ไม่เหมือนกัน คุณต้องอ่านสัญญาให้ดี ถ้าไม่มีในสัญญาคุณต้องคุยกับเค้าให้ชัดเจนก่อนเซ็นสัญญา ถ้าคุยแล้วไม่เคลียร์ไม่เข้าใจไมเหมือนที่คุย ไม่แนะนำให้เซ็น ถ้าคุณเซ็นสัญญาแล้วเค้าจะมีอำนาจเอาสัญญานี้ไปเปลี่ยนการเป็นเจ้าของและเข้าไปควบคุม OTA Extranet ได้ทั้งหมด คุณจะไม่ยอมก็ไม่ได้แล้วเพราะเค้าจะอ้างว่าเซ็นแล้วยกเลิกไม่ได้  
5.       OYO จะมาติดตั้งป้ายให้ ถ่ายรูปห้องพัก  ให้ปลอกหมอนโลโก้OYO ปรับปรุงข้อมูลใน OTAของคุณใหม่หมด 
6.       คุณจะต้องให้สิทธิกับ OYO ทั้งหมดทั้งการกำหนดราคา การตลาด ตอบคำถามลูกค้า รวมถึงการรับเงินจาก OTA ด้วย
7.       คุณจะเข้า extranet OTA ไม่ได้ ดูอะไรก้อไม่ได้ ดูได้แต่ระบบของOYOเท่านั้น  เมื่อเข้ากับ OYOแล้ว โรงแรมของคุณจะถูกย้ายจากการดูแลของทีมOTA ในจังหวัดที่คุณทำอยู่ไปที่คนคนนึงหรือหน่วยงานนึงในกรุงเทพเพื่อดูแลโรงแรมที่เข้ากับโอโยโดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่น Agoda โรงแรมคุณจะถูกย้ายไปที่กรุงเทพ ทีม Agoda ในจังหวัดจะให้อีเมลของส่วนกลางมาให้ มีคำถามอะไรส่งข้อความไปทางอีเมล ส่วน Booking.com จะให้คุณคุยกับ Customer service แทนทีมที่ดูแลอยู่เดิม เพราะถือว่าคุณมอบความเป็นเจ้าของให้ทางโอโยแล้ว   ถ้าโรงแรมจะทำการยกเลิกสัญญากับโอโย อยากจะขอExtranet OTA คืนจะทำโดยตรงกับ OTA ไม่ได้  มีต้องให้โอโยส่งเอกสารมาให้ OTAนั้นๆเท่านั้น   ส่วนปัญหาเรื่องการจองของลูกค้าคุณติดต่อ customer service ของ OYO เพื่อให้ความช่วยเหลือหรือติดต่อ OTA ได้เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
8.       ก่อนการยกเลิกสัญญาต้องเคลียร์เรื่องเงินให้จบก่อน ถ้าเคลียร์ยังไม่จบหรือเคลียร์ช้าจะยกเลิกไม่ได้ เมื่อเคลียร์เสร็จ ทางโอโย่จะออกจดหมายเพื่อส่งให้OTA คืนPasswordกลับมาให้เจ้าของ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ คุณจะขายห้องไม่ได้2อาทิตย์เพราะระบบโอโยจะปิดและทางOTAจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ในการทำเรื่องคืนทุกอย่างคืนมาให้โรงแรม ดูคำตอบความเห็นที่1 ของ OYOเรื่องการยกเลิกสัญญา ได้ที่ https://pantip.com/topic/40083918

9.        ก่อนเซ็นสัญญา
9.1             แนะนำให้อ่านรีวิวและข่าวที่เกี่ยวกับโอโย่ทั้งภาษาไทยและสื่อภาษาอังกฤษ ถามเพื่อนฝูงและคนที่อยู่วงการ ไม่ต้องรีบเซ็นสัญญา อ่านสัญญาให้เข้าใจ  ไม่ต้องกลัวว่าเค้าจะขึ้นค่าคอมมิชชั่นถ้าเซ็นช้า   อาจมีค่าปรับถ้ายกเลิกสัญญาก่อนกำหนด อย่าฟังทำพูดของเซลล์ว่าโอโยไม่เรียกร้องหรอก คุณต้องคิดไว้เสมอว่าโอโยจะเรียกร้องหรือไม่เรียกร้องก็ได้ตามสัญญา เพราะทุกอย่างโอโยยึดสัญญาเป็นหลัก  ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้บริหารซึ่งเป็นอินเดียว่าจะเรียกร้องค่าเสียหายกับคุณหรือไม่ พึงระลึกไว้เสมอว่าโอโยเป็นบริษัทที่ดำเนินงานเพื่อแสวงหากำไร  ไม่ใช่พระเจ้าที่มาช่วยท่านให้พ้นจากวิกฤติ
9.2             พิจารณาว่าเงื่อนไขสัญญาเป็นธรรม เอารัดเอาเปรียบหรือไม่  
9.3             พิจารณาว่าหลังหักคอมมิชชั่นแล้วคุณคาดว่าจะมีกำไรหรือไม่ อีกความหมายหนึ่งคือคุ้มค่าหรือไม่ นอกจากความคุ้มค่าในแง่การเงินแล้ว คุ้มที่จะแลกกับสิ่งที่เสียไปคืออำนาจทั้งหมดในการจัดการ การบริหารการขายและการเงินของคุณหรือไม่
9.4             พิจารณาว่าบริษัทน่าเชื่อถือหรือไม่ ฐานะการเงินของบริษัทมั่นคงหรือไม่ ผู้บริหารมีคุณธรรมในการดำเนินธุรกิจหรือไม่ อีกความหมายหนึ่งคือคุณต้องดูวัฒนธรรมขององค์กร โดยดูจากผู้บริหารเป็นหลัก วัฒนธรรมองค์กรจะสะท้อนออกมาจากการบริหารงานและการดำเนินธุรกิจของบริษัท  เนื่องจากบริษัทได้เก็บเงินแทนคุณไปก่อน คุณต้องมั่นใจว่าบริษัทมีความสามารถจะจ่ายเงินคืนให้คุณครบถ้วนเมื่อถึงเวลาจ่าย
9.5             โดยรวมแล้วคุณมั่นใจในทีมของโอโยหรือไม่ ทั้งด้านการตลาด customer service และการเงิน 
-          พนักงานขายมีหน้าที่ขายแต่คุณต้องดูด้วยว่าที่แผนกการตลาดที่ทำหน้าที่กำหนดราคา ทำโปรโมชั่น  หาลูกค้า Off line (กลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้ขายผ่านช่องทางออนไลน์) ทำงานดี ทำและทำได้อย่างที่บอกคุณหรือไม่  เค้ามีจุดแข็งในการหาลูกค้ากลุ่มไหน เหมาะสมกับโรงแรมคุณหรือไม่ เค้ามีหลักฐานอย่างเช่นโรงแรมที่โอโยทำการตลาดและประสบความสำเร็จมีการแสดงตัวเลขให้คุณดูได้หรือไม่ ปกติบริษัทที่รับบริหารแบบนี้จะไม่การันตีผลสำเร็จของงาน อาศัยความเชื่อถือและผลงานในอดีตมาพิจารณาว่าจะใช้บริการหรือไม่
-          ทางด้านการเงินมีการจ่ายเงินตรงตามเวลา กระทบยอดขายและรายได้ตรงตามกำหนดและแก้ไขปัญหาได้อย่างทันเวลาหรือไม่ 
-          Customer service ทำงานได้มีมีประสิทธิภาพ ติดต่อได้ตลอดเวลาและลูกค้ามีความพึงพอใจการบริการหรือไม่

หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อหลายๆท่าน ท่านอาจจะเจอข้อมูลรีวิวที่ดีและไม่ดีในอินเตอร์เน็ต อย่าเชื่อข้อมูลเหล่านั้นทั้งหมดหรือว่าเชื่อสิ่งที่เซลล์บอกทั้งหมดเพราะท่านกำลังฟังความข้างเดียว ท่านต้องพิจารณาโดยใช้เหตุและผลด้วยตัวของท่านเอง

กระทู้นี้ถูกปิด ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่