ในวันที่มีคาเฟ่ใหม่ ๆ ปรากฎขึ้นมากมาย หลากหลายสไตล์

และยังมีการแบ่งประเภทร้านกาแฟว่ามี 3 แบบด้วยกันคือ Slow Bar / Speed Bar และร้านที่มีทั้ง Slow Bar ผสม Speed Bar 
อย่างเช่นคาเฟ่สีขาว บรรยากาศปลอดโปร่ง ในซอยรัชดา 32 นี้ ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน
เราได้เห็นป้ายหน้าร้านว่า ‘Slow Bar’ Special Coffee ทำให้เราไม่ลังเลที่จะเข้ามาทำความรู้จักในทันที

            (บรรยากาศร้าน จาก Fb : Sonata By Craft Coffee JJ Market)

เข้ามาใน Sonata By Craft Coffee JJ Market จะพบกับคุณเบิร์ด Brewer หนุ่มสุดหล่อของเรา

ยืนต้อนรับอยู่กับเครื่องทำกาแฟมากมาย ในร้านจะเป็นสีขาวโปร่ง ตัดกับกระเบื้องลายสดใส ที่นั่งเก้าอี้ไม้ สลับกับโซฟาวินเทจสีเอิร์ธโทน

รอบตัวจะมีต้นไม้มองไปทางไหนก็รู้สึกผ่อนคลายสบายตา อีกทั้งโซนข้างหน้ายังเป็นบาร์ที่ให้ลูกค้าสามารถนั่งคุยกับเจ้าของร้านได้

Slow Bar คือการใช้วิธีชงแบบ ‘Hand Brewing’

ซึ่งจะแตกต่างจากร้านทั่วไปที่ใช้ Machine หรือเครื่องชงกาแฟใหญ่ ๆ ที่เราคุ้นเคยกัน

ทุกอย่างจะใช้มือทำหมดเลย การชงแต่ละแก้วจึงค่อนข้างจะใช้เวลา

เป็น Slow Bar ที่คนรักกาแฟ คอกาแฟ มารวมตัวกัน แลกเปลี่ยนความรู้กัน 

หนึ่งเลยคนชอบ Slow Bar จะชอบการมีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลายหลาก รสชาติที่ถูกใจ

สองคือมานั่งคุยกับบาริสต้า บางคนเคยมาแล้วคุยถูกคอก็กลับมา เหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนกัน

สังเกตได้เลยว่าร้าน Slow Bar ส่วนใหญ่จะมีบาร์ไว้นั่งคุย หรือดูบาริสต้าเพลิน ๆ

เราใช้เวลาพูดคุยพร้อมดูพี่เบิร์ดดริปกาแฟอย่างตั้งใจ ไม่นานกาแฟดริบเย็นก็อยู่ตรงหน้าเราแล้ว

เราเลือกเป็น Thai Bean (80.-) เพราะดมกลิ่นแล้วถูกจริต พี่เบิร์ดบอกว่าตัวนี้ Test ใกล้เคียงเหมือนเรากินแครกเกอร์สัปปะรดชีส

เราค่อย ๆ ละเมียดในการชิม ก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นของชีสจริง ๆ แก้วนี้ออกรสฟรุตตี้ เปรี้ยวกำลังพอดี ไม่ขมมาก

ใครสายกาแฟเปรี้ยวกลาง ๆ ไม่ขม น่าจะติดใจเมนูนี้

ยังไม่พอ เรายังสั่งเมนูที่มีทั่วไปทุกร้าน คือ กาแฟนม (Latte) (100.-)

เราคิดว่าที่นี่ต้องไม่เหมือนกาแฟนมที่เราเคยกินทั่วไปแน่ ๆ และก็ไม่ผิดหวัง

พี่เบิร์ดหยิบอุปกรณ์ชงกาแฟแปลกตาขึ้นมา เครื่องนี้ชื่อว่า แอโรเพรส (Aeropress)

คือเครื่องชงกาแฟที่ใช้แรงดันเข้ามาช่วยในการสกัดกาแฟ

ใช่ ๆ อยู่ที่เมล็ดกับการชง ดูเหมือนว่าเมนูจะน้อย แต่เรามีเมล็ดกาแฟให้เลือก 10 กว่าชนิด

ส่วนใหญ่ Slow Bar ทุกร้านก็จะมีเมล็ดกาแฟให้เลือกอย่างน้อย 3-4 ตัวอยู่แล้ว

อย่างตัวที่ต้องมีเลยคือเมล็ดไทย (Thai Bean) เราชอบแนะนำตัวนี้ให้สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มกิน

เราจะทำแยกเลเวลไว้ทั้ง คั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้ม อย่างลูกค้ามือใหม่ที่ยังไม่กินกาแฟเปรี้ยว

เราก็จะคั่วเข้มเก็บไว้ ให้ลูกค้าได้เลือกหลายแนว

เพราะลูกค้าเราหลาย ๆ คนมักมีประสบการณ์กับกาแฟเปรี้ยวครั้งแรกไม่ดี เหมือนกาแฟบูด ทำให้เค้าไม่ชอบ ไม่กล้ากินต่อ

แต่มาที่นี่พี่จะชงกาแฟเข้มให้กินก่อน แล้วจะชงกาแฟเปรี้ยวแบ่งไปให้เค้าชิมว่ามันประมาณนี้นะ 

ที่จตุจักรเป็นร้านของอาจารย์ที่สอนพี่ทำกาแฟ พอมาเปิดที่นี่ก็มาเป็นหุ้นกับอาจารย์

เหมือนเครือ ๆ เดียวกัน เราก็ตั้งชื่อเป็น By JJ Market ตอนนี้ก็จะมีแค่ที่นี่

ลูกค้าเก่าก็มีตามมา ส่วนใหญ่ก็เป็นคอกาแฟ มาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันเหมือนเดิม

ลูกค้าใหม่ก็มีที่เดินหลงเข้ามาคิดว่าเป็นคาเฟ่ทั่วไป พี่ก็อธิบายให้เค้าฟังว่าร้านเราเป็นสไตล์นี้

บางครั้งก็ชงให้ชิมก่อนเลย ไม่คิดตัง ก็คือป้ายยาก่อน 

ในร้านก็จะมี แอโรเพรส (Aeropress) ดริป (Drip Coffee) เตอร์กิช (Turkish) ไซฟอน (Syphon) และมอคค่าพอท (Moka Pot)

เหมือนเคยได้ยินมาว่า เมล็ดกาแฟพันธุ์เดียวกัน แต่เลือกชงคนละวิธีก็ได้รสที่ต่างกัน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น 

มันเป็นคาแรคเตอร์ของเครื่องชง ที่จะทำให้รสชาติต่างกัน เช่นเลือกเมล็ด Thai Bean ชงด้วย

แอโรเพรส (Aeropress) มันจะได้ Body (ความหนา) ที่เยอะขึ้น เพราะมีแรงดันที่เข้ามาช่วยในการสกัด

แต่ถ้ากินแบบดริป ก็จะได้ความสมดุลมากกว่า มีความหอมอโรม่า Body อาจจะไม่เยอะเท่า ก็เหมือนเรากินก๋วยเตี๋ยวปรุงกับไม่ปรุง

ก่อนอื่นก็จะเปิดเมล็ดกาแฟให้ดมเลย ให้ลูกค้าได้รู้ว่ากลิ่นแต่ละตัวเป็นประมาณนี้

แล้วพี่ก็จะอธิบายรสของกาแฟแต่ละตัวจะไปในทิศทางไหน รสชาติมันประมาณนี้

แล้วก็ถามเค้าว่าชอบกินกาแฟเข้มไหม ก็จะชงตามความต้องการของลูกค้าเลย

เรากำลังเพลิดเพลินกับการเรียนรู้เรื่อง Slow Bar

ไม่ช้ากาแฟนมที่ชงด้วยเครื่องแอโรเพรส (Aeropress) ก็มาเสิร์ฟ

รสชาติต่างจากการกาแฟนมทั่วไปแบบที่เราคิด กว่าจะได้แก้วนี้ แต่ละขั้นตอนพี่เบิร์ดดูใส่ใจมาก ๆ

นี่คงเป็นเสน่ห์ที่คอกาแฟหลาย ๆ คนหลงรัก

ตอนนั้นเราชอบทำกาแฟ แล้วมันเป็นงานประกวดเล็ก ๆ สำหรับ ‘Home Brewe’

คือเป็นการประกวดสำหรับคนชื่นชอบทำกาแฟอยู่ที่บ้าน ยังไม่ได้เปิดร้าน

ตอนนั้นก็ตกรอบไปนะ แต่ก็สนุกดี ได้ประสบการณ์ ได้เจอคนหลากหลาย

ที่ร้านก็มีเมนูโกโก้ ชาเขียว มานั่งเล่นได้นะ 

หากใครมีเวลา เราแนะนำให้มาเปิดประสบการณ์กับ Slow Bar กันสักครั้ง

ใครสายกาแฟดำอยู่แล้วน่าจะยิ่งชอบ แต่ใครไม่เคยลอง นี่น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีเลย

เพราะกว่าจะได้กาแฟแต่ละแก้ว ต้องผ่านหลากหลายกรรมวิธี เหมือนกับงาน Craft

ที่ค่อย ๆ ตั้งใจทำทีละชิ้น ส่งออกมาเป็นกาแฟให้เราได้ดื่ม

อีกทั้งยังได้พูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมองกับเจ้าของร้าน ไม่ว่าจะเรื่องกาแฟ (โดนป้ายยาไปเยอะ)

และได้ลองชงอีกด้วย ขอบอกว่าพี่เบิร์ด Friendly มาก ๆ ทำให้เราเผลอใจนั่งเรื่อยเปื่อยไปหลายชั่วโมง

ขนาดกลับบ้านมายังรู้สึกอยากไปลองเมล็ดอื่น ๆ เพิ่มเหมือนได้ค้นประสบการณ์ใหม่อย่างไงอย่างงั้น

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Sonata By Craft Coffee JJ Market เปิดให้บริการ อังคาร-อาทิตย์ 10.00-17.00 น.

บ่อยครั้งมีคลาสเรียน และจัด Workshop สามารถติดตามได้ที่

>> https://www.facebook.com/SonataByCraftCoffeeJJMarket

หรือโทร 062-535-5524

39 28 ซอย รัชดาภิเษก 32 แขวง จันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 

สามารถลง mrt ลาดพร้าวแล้วนั่งวินมาลงที่รัชดา 32 แยก 1

เมล็ดกาแฟไทย (Thai Bean)