แชร์ประสบการณ์ผ่านทดลองงานครั้งแรกแล้วนะ เย่

สวัสดีค่ะ กระทู้เดิมของเราจากสาวใสวัย 31 ขวบ ที่เริ่มหางานทำแบบจริงจังแล้วก็โชคดีที่ได้งานในสถาณการณ์เศรษฐกิจและโรคระบาดแบบนี้
วันนี้ได้ฤกษ์มาอัปเดตชีวิตอีกครั้งหนึ่งให้เพื่อนๆอ่านกันว่าเราผ่านทดลองงาน 90 วันแล้วนะคะ แต่กว่าจะผ่านมาได้ก็ลากเลือดทีเดียวเลยล่ะค่ะ ตื่นเต้น สนุก เศร้า เครียดกับทุกอย่างในการทำงานเหมือนเด็กจบใหม่ไรงี้ 
 
เดือนที่ 1 วันแรกที่เดินเข้าแผนกหัวหน้าเรียกเราไปคุยก่อนเริ่มงานว่าถ้ามีคนในแผนกพูดไม่ดีหรือพูดอะไรทำให้เราไม่สบายใจก็ไม่ต้องเก็บมาคิดนะให้ไประบายกับหัวหน้าได้เลย เราก็กังวลอยู่หน่อยๆว่าเพื่อนร่วมงานจะเป็นยังไง ทุกคนจะโอเคที่เราเข้ามาทำงานหรือเปล่าเพราะเรากลัวเค้าจะคาดหวังว่าเราต้องเก่งมากๆมาถึงต้องทำงานได้เลย ไม่เป็นตัวถ่วงของทีม แต่เจอกันวันแรกทุกคนต้อนรับเราอย่างดีเลยค่ะแนะนำทุกอย่างทั้งชวนไปกินข้าวเที่ยง ยื่นขนมให้กิน พาไปแนะนำกับแผนกอื่น พาไปส่งที่รถรับส่งของบรืษัท บอกให้พี่ที่ขับรถแวะรับเราตอนเช้าด้วยเพราะกลัวเราตกรถมาไม่ทันเข้างานตอนเช้า (บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องๆเล็กๆน้อยๆแต่สำหรับเราคือประทับใจมากค่ะ)
             อาทิตย์ต่อๆมา ก็เรียนรู้งานต่างๆให้มากที่สุดจากคนในแผนก ทุกคนเนื้อหางานเหมือนกันหมดมันเลยง่ายที่เราจะสามารถเดินถามทุกคนเรื่องงานค่ะ ตรงน้ำทำให้เราได้คุยกับทุกคนในแผนกแล้วสนิทกันขึ้นมานิดนึง แต่ปัญหาของเราจะอยู่ที่คนอีกแผนกนึงมากกว่าเพราะดูเค้าจะชอบทำงานกับคนเก่งๆมากว่าเราที่ไปอย่างงงๆ 55555555555 ดีลงานกันครั้งแรกเราก็โดนเหวี่ยงเลยค่ะ ส่งเมล์ตามงานก็โดนเมินไม่ตามงานให้ เศร้าใจนิดนึงแต่คิดว่าครั้งหน้าเอาทำให้ดีกว่านี้แน่นอนจะไม่งงอะไรแล้ว 
 
เดือนที่ 2 เรื่องงานเราก็ยังกระท่อนกระแท่นอยู่ แต่อาศัยว่าจำหน้าคนในบริษัทได้บ้างแล้วเลยมีการทักทายกันบ้างเวลาดีลงานเริ่มจะไม่อึดอัดและทำงานกันง่ายขึ้นแล้ว ดีใจมากค่ะที่เค้าเริ่มยอมรับเรากว่าเดือนแรกที่เอาชื่อเราไปพูดกับคนในแผนกเราว่าให้สอนงาน(ชื่อเรา)ดีๆหน่อย ดูไม่เรื่องเรื่องอะไรเลยแบบนี้จะรอดเหรอ เพื่อนในแผนกก็เทรนเราอย่างดีเลยค่ะว่าเวลาตามงานกับพวกเค้าอย่าไปทำท่าไม่มั่นใจพูดออกไปเสียงดังๆเลยว่าเราถูกแต่เราก็ต้องมั่นใจในข้อมูลตัวเองด้วยนะว่าเราทำถูก รีพอร์ทต่างๆต้องมีที่มาที่ไปถ้าเราทำเสร็จแล้วยังไม่มั่นใจส่งให้หัวหน้าช่วยตรวจก่อนก็ได้หรือให้เพื่อนในแผนกช่วยๆกันตรวจ เราจะได้ไปสู้อย่างมั่นใจ 
             กลางๆเดือนเราต้องเริ่มมีทติ้งกับทีมโปรเจ็ค ต้องเสนอรีพอร์ทกับ PM,PE,Expeditor ของแต่ละโปรเจ็ค เราตื่นเต้นมากกลัวผิดแล้วจะโดนดุแล้วทำให้การทำงานล่าช้าออกไปอีกแต่ผิดคาด ทุกคนให้กำลังใจดีมากบอกว่าครั้งแรกก็ประหม่าแบบนี้แหละครั้งต่อไปขอให้คล่องกว่านี้นะ มีปัญหาอะไรโทรมาปรึกษากับได้ตลอดเลยเพราะเราต้องอยู่ทีมเดียวกับไปอีกนานอยากให้คุยกันเยอะๆ  แต่เราเริ่มประเมินตัวเองว่าเราทำงานพลบาดหลายจุด ไม่ละเอียดรอบคอบเลย เริ่มกลัวว่าจะไม่ผ่านการประเมินงานแล้ว เครียดมากค่ะกดดันตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมทุกอย่าง ตรวจงานตัวเองซ้ำไปซ้ำมาก่อนจะให้เพื่อนช่วยดูให้ว่าโอเคหรือเปล่า เครียดจนเพื่อนดูออกเลยเริ่มชวนกันไปหาของกินแก้เครียดหลังเลิกงานไปบ่อยมากจนเพื่อนบอกว่าไม่ต้องเครียดหรอกคนที่จะประเมินให้ผ่านหรือไม่ผ่านก็เพื่อนๆในแผนกนี่แหละช่วยกันประเมิน คิดว่าคนในแผนกจะใจร้ายไม่ให้ผ่านขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงเราจะรู้แบบนั้นแล้วเราก็ยังเครียดอยู่ดี
             แต่ปัญหาของเราก็ยังมีกับอีกแผนกนึงนั่นแหละ ทุกคนเลยจะมีปัญหากับแผนกนี้แล้วเวลาโดนว่าจะโดนคำพูดแรงๆด้วยแต่เพื่อนในแผนกก็บอกว่าแรงแบบนี้แหละไม่ค่อยมีคนอยู่ได้หรอกเพราะงานก็หนักแล้วยังมาเจอคนพูดจาไม่ได้แบบนี้อีกแต่เธอก็ต้องอยู่ให้ได้นะเพราะนอกบริษัทก็ไม่มีใครมาว่าอะไรเธอได้แล้ว ทำงานของเราไปให้จบๆมีไรไม่สบายใจก็ไม่ต้องเก็บไปคิดเอามาเม้าท์กันในแผนกเราเองก็ได้จะได้ไม่ต้องเอาไปลงกับคนที่บ้านถือว่าเล่าสู่กันฟัง 555555555 (เราก็คิดแบบที่เพื่อนบอกเรานะคะ)
 
เดือนที่ 3 เข้าสู่เดือนที่จะตัดสินชีวิตการทำงานของเราแล้ว แต่เราคิดว่าเราสามารถทำงานได้ 80% แล้ว อีก 20% ที่เรายังทำไม่ได้คือบางปัญหาที่เรายังไม่เจอเราจึงทำมันไม่ได้ แต่ในโปรเจ็คต่างๆเราสามารถตอบปีญหาของทีมได้แล้วว่าปัญหาเกิดจากอะไรแล้วเราสามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง ทุกตรั้งที่ตอบได้ PM จะส่งเมล์ Good job(อิโมจิน่ายิ้ม) ให้เราส่วนตัวเสมอเลย 55555555 เราโชคดีมากที่ได้ทำงานร่วมกับทีมน่ารักแบบนี้ แต่บางโปรเจ็คก็ PM บางคนก็เปลี่ยนแผนงานโดยไม่บอกเราจนต้องโทรไปถามถึงจะส่งเมล์มาบอก เราชอบงานแบบนี้นะคะมีเรื่องให้เซอร์ไพซ์ตลอดเวลา 555555555
            จากที่สองเดือนแรกเราไม่ค่อยกล้าตามงานจากแผนกอื่นๆ มาถึงเดือนนี้เราตามจิกเลยค่ะไม่สนใจใครแล้วเพราะกลัวแต่ตัวเองจะไม่ผ่านโปรเท่านั่นค่ะ ใครจะไม่ชอบเราก็ขอให้พักก่อนเราอยากผ่านโปรจริงๆ ใครมีอะไรให้เราช่วยก็ช่วยหมดค่ะไม่เกี่ยงแต่งานเราต้องได้และทันเวลา เอาโน้ตบุ้คกลับบ้านไปตอบเมล์ทุกวันเลย เสาร์-อาทิตย์ยังต้องเปิดคอมทำงาน เพื่อนในแผนกพูดขำๆว่าไถ้าผ่านโปรแล้วไม่ต้องแบกโน้ตบุ้คไปทำงานตลอดเวลานะเพราะถ้าเธอทำแบบนี้จะไม่มีคนเกรงใจเราและจะใช้งานเธอตลอดเวลา เนี่ยไม่อยากสอนอะไรที่ร้ายๆกับเธอเลยแต่ไม่อยากให้เธอทำงานตลอดเงินเดือนเราไม่ได้เยอะเหมือนคนสั่งงานเรานะ 
 
            มาถึงวันที่ที่เราจะได้รู้ว่าผ่นหรือไม่ผ่านโปร HR เรียกไปในห้องแล้วยื่นซองขาวให้เปิดดูผลการประเมินเองเลย ในนั้นมีลายเซ็นขอผู้จัดการแผนก ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ผู้จัดการโปรเจ็ค หัวหน้างาน ให้เราผ่านค่ะ เราดีใจมากแบบมากๆเพราะเราชอบงานนี้ ชอบเพื่อนร่วมงานที่นี่ ชอบบรรยากาศของการทำงาน เราอยากอยู่และเติบโตจากที่นี่จริงๆถึงเราจะเป็นตำแหน่งเล็กๆด้วยอายุที่มากแล้วแต่ ณ ตอนนี้เรามีความสุขกับการเริ่มต้นที่นี่จริงๆค่ะ เรายังอยากตื่นเช้าไปทำงานและเรียนปัญญาใหม่ๆอยู่ ในระหว่างสามเดือนที่ป่านมาเราไม่เคยขาดลามาสายเลยสักครั้งเพราะยังสนุกอยู่ 555555555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่