ควรเลือกทางเดินไหนดี ชีวิตตังเอง (เนรคุณ)​ กับ ทำตามผู้ใหญ่ (กตัญญู)​

อธิบายก่อนเลยนะคะ
ตั้งแต่เกิดมา ก็จำได้ว่า เราอาศัยอยู่​กับตายาย พ่อแม่ทำงานที่กรุงเทพ จนเราอยู่ม.2 แม่ตั้งท้องมีน้อง พ่อกับแม่ต้องกลับมาอยู่บ้าน (เราไม่สนิทกับพ่อแม่)​
พอคลอดน้อง ได้ไม่ถึงปี พ่อก็ไปทำงานที่กรุงเทพ​เหมือนเดิม ส่วนเราก็อยู่กับแม่ น้องและตายาย จนเราอยู่ม.5 แม่ทะเลาะกับตายาย (พ่อแม่ไม่ถูกคอกับตายาย)​ ทำให้แม่อยู่ไม่ได้ ต้องย้ายไปเช่าบ้านอยู่กับน้อง 2คน ส่วนเราก็อยู่กับตายายเหมือนเดิม เพราะเรารู้สึกว่าอยู่กับตายายสบายใจกว่าอยู่กับแม่ แต่บ้านหลังที่เราอยู่กับตายายแม่เราเป็นคนสร้างเอง และห่างจากบ้านที่แม่เช่าอยู่ประมาณ​3 กิโล มีช่วงหนึ่งที่เราต้องไปอยู่กับแม่ และแม่เป็นคนที่ไม่ชอบอยู่บ้าน ชอบไปเที่ยวบ้านเพื่อน
จนวันนั้น แม่จะออกไปเที่ยวบ้านเพื่อน แม่ชวนเราไปด้วย แต่เราไม่รู้​จะไปทำไม อยากอยู่บ้านมากกว่า เราก็ปฏิเสธ​ แม่ไปตั้งแต่สายๆ จนถึงตอนเย็น เราอยู่บ้านทั้งวัน ไม่มีกับข้าว มีแค่ข้าวสาร ก็หุงกินเอง ส่วนมือถือก็ไม่มี บ้านก็ห่างจากร้านค้าประมาณ​2โล วันนั้นทำให้เราคิดได้ว่าต้องกลับไปอยู่ตากับยาย เพราะไม่งั้นเราอยู่ไม่ได้ วันต่อมาเราเลยให้แม่พาไปหาตายาย แล้วเอารถมอไซร์ มาขนของที่บ้านเช่าแม่ ไปอยู่กับตายาย พอถึงวันที่ต้องจ่ายค่ารถรับส่งนักเรียน ประมาณ​เดือนละ 4 ร้อย แม่ไม่จ่ายให้ เลื่อนไปเป็นอาทิตย์ก็ยังๆม่จ่าย​ เราก็เลยไปบอกยายว่าแม่ยังไม่จ่ายค่ารถให้ ยายก็เลยจ่ายให้เรา เวลาผ่านไปสักพักแม่ก็คงเริ่มจ่ายค่าเช่าบ้านไม่ไหวก็เลยกลับมาอยู่ที่บ้านกับตายายเหมือนเดิม ผ่านไปไม่กี่เดือนก็สร้างบ้านใหม่อีกหลัง ห่างประมาณ​2กิโล (แม่อยู่กับน้อง2คน)​

     พอเราใกล้จะเรียนจบม.6 เป็นช่วงที่จะสอบเข้ามหาลัย เราติดมหาลัยราชฎัชของจังหวัดที่อยู่ติดจังหวัดเรา ระยะทางจากบ้านประมาณ​80กิโล แต่แม่ไม่อยากให้ไป ไม่รู้​ว่าเป็นเพราะค่าเทอมแพงรึป่าว เราเลยเสนอไปว่างั้นขอเรียนผู้ช่วยพยาบาล เรียน6เดือน จำไม่ได้แล้วว่าเทอมเท่าไร แต่ถูกที่สุดแล้ว และอาที่เป็นน้องของพ่อ ก็จะช่วยจ่ายอีก1หมื่น แม่ก็บอกขอคิดดูก่อน
จนสุดท้ายแม่ตัดสินใจ ให้เราไปทำงานกับน้า แม่บอกว่า ไม่มีเงินส่งเรียน ถ้าอยากเรียนก็หาเรียนเอง (น้าเป็นอาจารย์​ที่วิทยาลัยในกรุงเทพ มีลูก มีครอบครัวแล้ว)​ เราแค่ไปอาศัยอยู่ชั่วคราว แม่ให้เงินติดตัว 3 พันบาท (น้าบอกว่าไม่พอ)​ แต่เราก็จะประหยัด
ต่อมาพ่อเราทำงานที่กรุงเทพ​พาเราไปสมัครงาน ใส่กางเกงขาสั้นไป ด้วยความไม่รู้ พ่อเลยพาไปห้องพ่อ เราก็ได้เจอว่าพ่ออยู่กับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่แม่
แล้วเอากางเกงผู้หญิง​คนนั้นให้ใส่ พอสมัครงานเสร็จ​พ่อพาไปส่งห้องน้า และบอกเราว่าอย่าเล่าให้แม่ฟังว่าพ่ออยู่กับผู้หญิง แต่ผู้หญิง​คนนั้นไม่ได้มีอะไรกัน แค่เพื่อน (พ่อกับน้าไม่ถูกคอกัน)​ ไปถึงเราเล่าให้น้าว่าใส่กางขาสั้นไป พ่อพาไปเปลี้ยนที่ห้อง น้าสงสัยว่าทำไมพ่อมีกางเกง เราก็เล่าให้ฟังหมดเลย จนสุดท้ายพ่อแม่แยกทางกัน  ในระหว่างที่ทำงาน น้าพาเราไปหาห้องให้เราอยู่คนเดียว ผ่านไปเกือบเดือน ได้ยินว่าแม่ซื้อรถเก๋งมือสอง ราคาเกือบแสน (รู้สึกน้อยใจที่แม่บอกไม่เงิน แต่ซื้อรถ)​ **ลืมบอก แม่ทำอาชีพค้าขาย เราก็กลับบ้านบ้างปีละครั้ง 2ครั้ง แล้วก็มีญาติห่างๆกัน พูดต่อหน้าเรากับแม่ว่า มีเงินซื้อรถขับ แต่ทำไมไม่มีเงินส่งลูกเรียน ในความรู้สึกเราทำสีหน้าไม่ถูก แม่ก็ยิ้มและหัวเราะ 
จนเราทำงานได้2 ปี เราก็เรียนต่อ ปวส. เรียนที่วิทลัยที่น้าสอนอยู่ เรียนเฉพาะวันอาทิตย์​ หาเงินส่งตัวเองเรียน มีบ้างที่ขอยืมแม่ แต่ก็คืนทุกครั้ง 
ส่วนน้าที่เป็นอาจารย์​ลาออกตอนที่เราใกล้จบ เพราะได้งานแถวบ้านต่างจังหวัด ที่เราเคยอาศัยอยู่กับตายาย

    พอเรียนจบ  วันรับวุฒิ​ ให้ผู้ปกครองมาแสดงความยินดี ก่อนถึงวันรับ เราโทรถามแม่แล้วว่าจะมาไหม แม่บอกไม่มา ไม่มีเงินค่ารถ (น้ามีรถยนต์​ และเป็นคนที่ชอบให้คนอื่นจ่ายค่าน้ำมัน ค่าข้าว ค่าอื่นๆ)​ แม่ก็คงไม่อยากมาเพราะเหตุผลนี้ เราก็เข้าใจ
แต่น้าบอกว่าจะมา สุดท้ายแม่เรามาด้วย
ส่วนบ้านที่ตายายอยู่ (บ้านที่แม่สร้าง)​ น้ากลับไปทำงานที่บ้านก็อาศัยอยู่กับตายาย (น้ามีลูกสามคน)​ ตอนนี้เห็นว่าน้าต่อเติมบ้าน และปูพื้นส่วนนั้น
( บ้านหลังนี้เราคิดว่าจะเป็นของเรา เพราะแม่เราสร้าง และตายายเคยบอกไ้ว้ว่าจะให้เรา)​ เราเคยคิดว่าอนาคตถ้าสร้างเนื้อ สร้างตัวได้ จะกลับไปอยู่บ้านหลังนั้นและดูแลตากับยาย  เพราะก่อนที่น้าจะได้งานแถวบ้าน น้าเคยคิดจะซื้อบ้านที่กรุงเทพ​ อาศัยอยู่กรุงเทพ​ แต่ตอนนี้อะไรๆก็เปลี่ยนไปหมด
ปัจจุบัน​เราอายุ23ปี จบปวส. ทำงาน​บริ​ษัทเอกชน
มีแฟนอ่อนกว่า 3ปี คบกันได้ 8 เดือน ทำงานใกล้กัน แฟนความคิดเป็นผู้ใหญ่​ รักญาติ​รักครอบครัว​ มีพี่น้อง 7คน แฟนคนรองสุดท้อง น้องสุดท้องเป็นผู้หญิง
เราก็คุยเรื่องอนาคตว่าถ้าเกิดเราไปกันได้ แต่งงานกัน จะให้ใครไป อยู่​กับครอบครัว​อีกฝ่าย ซึ่งในความคิดเรา เราอยากไปอยู่กับครอบครัว​แฟน เพราะตายาย้าไปอยู่ด้วยแล้ว ส่วนแม่ อายุ สี่สิบต้นๆ น้องอายุ 10ปี กว่าเราจะสร้างตัวได้ น้องก็คงดูแลแม่ได้แล้ว แต่เราก็ไม่ได้ทิ้งแม่นะ แค่ไปอยู่กับทางครอบครัวแฟน พี่สาวพี่ชายแฟนก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัว 
(ระยะทางบ้านแฟนกับบ้านเราประมาณ​8ร้อยกว่ากิโล)
แฟนก็เห็นด้วย และอยากให้ไปอยู่กับเขา เขาเป็นลูกชายสุดท้อง ส่วนน้องสาวเขา ถ้าแต่งงานก็ต้องย้ายออก
 
    แต่เมื่อไม่นานมานี้ น้าเราลงมากรุงเทพ​ มาทำธุระ ขออาศัย​นอนกับเรา 1 คืน 
น้ามาถึง แฟนก็เลิกงานพอดี ซื้อข้าว ปลา อาหาร น้ำมา นั่งกินกัน 
คำแรกที่น้าคุยกับแฟนเรา คือ " เมื่อไหร่จะไปขอ"
แฟนตอบว่า " ไม่นานครับ"
(สำหรับเรามันไม่ใช่เรื่องที่จะถามกันตอนนี้)
น้าถามต่อว่า " ถ้าแต่งกันแล้วจะต้องไปอยู่กับเรานะ เพราะเรามีแม่ ต้องดูแล พ่อก็ไม่มี"
แฟนตอบว่า " ผมก็ลูกชายคนสุดท้อง ต้องดูแลพ่อแม่ ครับ"
น้า " งั้นต้องทำไง แสดงว่า ก็ต้องแยกไปคนละทาง "
แฟนเราทำสีหน้าเครียด กินข้าว​ไม่ลงเลย
เราก็บอกน้าไปว่า แม่ ให้น้องดูแล เพราะแม่ก็ยังไม่แก่มาก น้าบอกว่า ก็เป็นคน #เนรคุณ​สิ
คำนี้เราหยุดพูด และเงียบ ไม่คุยอะไรต่อ น้าก็พูดขึ้นมาว่า คนในหมู่บ้านคนหนึ่ง มีลูก2คนแล้วนะ แต่ค่าสินอนเป็นแสน เราไม่สนใจ เราพยายามพูดเรื่องอื่น และตักกับข้าวให้แฟนกิน แต่แฟนกินไม่ลงแล้วล่ะ อีกอย่างทำงานมาเหนื่อยๆ ต้องมาถูกถามอะไรแบบนี้ และเราคบกับแฟนได้แค่ 8 เดือน จะรีบให้แต่งงานกันทำไม (คิดในใจนะว่า น้าและแม่ต้องการค่าสินสอนแพงๆ เพราะไม่อยากเสียหน้า หรืออับอายใคร?? )​
    เพื่อนรุ่นเดียวกัน ค่าสินสอดแสนสองแสน จบป.ตรี
พ่อแม่ส่งเรียน มีสังคมที่ต่างจากเรามาก เราแค่สาวโรงงาน ที่ up ตัวเองให้ได้ไปอยู่ ในออฟฟิศ สังคมก็ต่างกันมาก จะให้เราหาผู้ชายรวยๆ ก็คงไม่มีใครเอา หน้าตาก็บ้านๆ ( แม่เคยพูดไม่รู้เล่นหรือจริง บอกว่าทำไมไม่หาคนดีๆ หมายถึงรวยๆนั่นแหละ​ หรือไม่เพื่อนลูกพี่ลูกน้องที่เป็นตำรวจ)​
เราคิดว่าถ้าอยากให้ลูกได้ดีกว่านี้ ทำไมไม่ส่งเรียน จะได้เจอสังคมดีๆกว่า ทำงานโรงงาน ก็มีแค่ผู้ชายโรงงานนี่แหละ​ 
   คำว่าเนรคุณ มันทำให้เราคิดย้อนไปเมื่อตอนที่เราอยู่กับตายาย มีช่วงหนึ่งที่ ตาป่วย เป็นอัมพฤก​ นั่ง เดิน ไม่ได้ มีแค่เรา กับยาย ที่ดูแลตา ทั้งป้อนข้าว น้ำ
เช็ดขี้ เยี่ยว  เพราะลูกทุกคนคิดว่ารอวันที่พ่อจากไปแค่นั้น แต่สุดท้าย ตาก็กลับมาเดิน นั่ง ได้เหมือนเดิม เพราะเรานวดให้ตาทุกวัน
    น้าอยากให้เราเดินตามเส้นทางของน้า อยากให้เรียนจบป.ตรี ส่งตัวเองเรียน เหมือนน้า อยากให้ทำงานในวงการราชการ ถึงน้าจะเป็นแค่อัตราจ้าง
แต่น้าไม่เคยรู้เลยว่า ชีวิตคนเราต่างกัน ชอบต่างกัน

   เราคิดว่าอนาคตอย่างมีธุระ​กิจของตัวเอง ไม่เป็นลูกจ้างใคร แฟนเราก็คิดเหมือนกัน

**คนที่เข้ามาอ่านเรื่องราวชีวิตเรา
อยากขอความคิดเห็นว่า เราควรจะเลิกกับแฟน แล้วกลับไปอยู่กับแม่ (เอาจริงๆ ตรงๆ ไม่อยากอยู่กับแม่ อย่างที่เล่ามาข้างต้น)​ หรือจะสร้างตัว ให้ได้ดี แล้วแต่งงานเอาค่าสินสอนให้แม่ ทำงานของตัวเองต่อไป ( ถ้าได้เงิน ให้ก้อนใหญ่ ความคิดแม่กับน้าอาจจะเปลี่ยน)​
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ทำตามที่ตัวเองเห็นควร มีความสุขกับชีวิต ไม่ต้องสนใจใคร  และไม่ต้องคิดไปเปลี่ยนความคิดคนอื่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่