เอิ่ม AIS กับวิธีการแก้ปัญหาไม่มีผ่าปิดปาก้จ้าใช้บริการ

ส่วนตัว ไม่ค่อยโอเคกับมาตรการต้องปิดปากไปไหนมาไหน
คือคนเราไปห้างหลักๆก็คือหาอะไรกินและคงไม่มีใครสามารถปิดปากเวลากินได้
ซึ่งธุระอื่นๆในห้างก็มี จะบอกว่าเปิดปากได้ในร้านอาหารได้
เชื้อไม่แพร่กระจาย ซึ่งทุกคนรู้ว่ามันคงไม่จริง

ได้ไปใช้บริการ AIS ไม่ได้ติดผ้าปิดปากไป
ไม่ให้เข้าค่ะ เราไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่ทำไม่ถูกนะคะ ถูกต้องคะ
แต่ มีแต่นะ
7-Eleven ซึ่งส่วนใหญ่เด็กมันมีคุณวุฒิไม่เท่าพนักงาน AIS
มันยังมารับ order หน้าร้านจ่ายเงินได้ตามปกติ
ซึ่งเราก็บอกแล้วว่า ก็ถึงคิวค่อยออกมาก็ได้
พนักงานตอบว่าไม่ได้ค่ะ
เอกสารกรอกที่หน้าโต๊ะเท่านั้น
คือแบบเรามองในแง่ทักษะการแก้ปัญหานะคะ
คนอื่นจะด่าเราว่าเขาไม่ได้บริการคุณคนเดียว
อันนั้นไม่ว่ากันเรื่องความคิดเห็น

ตอนแรกว่าจะไม่เข้าไปเอาเงินคืนแล้ว คือโมโห
คิดอีกที องค์กรแบบนี้บาทนึงก็ไม่ควรให้ฟรีกินเปล่า

เรามีจ่าย advance ไปแล้วเปลี่ยนเป็นเติมเงิน
ณ วันที่เราปิดเบอร์เคาท์เตอร์บอกมีเงินคืน
แต่ต้องรอให้ Bill ออกมาก่อน
ในขณะที่ Dtac เขาสามารถคำนวณคืนได้เลย(รู้ยัง)

สติคะสติ
นึกได้ว่า Amazon มีผ้าปิดปากมัสลิน 20 บาท
ในใจคิดว่า บาทเดียวก็จะเอาคืน ไม่ให้คะ
พอมาถึงเคาท์เตอร์ น้องใช้เวลาหาข้อมูลคืนเงินนานมาก
เริ่มจากไม่รู้ว่าจะคืนจากเบอร์ไหน
ทั้งที่ยื่นใบเสร็จและใบลดหนี้ให้ไป
น้องคะในใบลดหนี้ไม่มี ก็ดูจากใบเสร็จก็ได้มั้งคะ
เรียกเก็บเงินได้โดยไม่มีเบอร์คงไม่ใช่มั้ง 
รอไม่ไหวมานั่งที่เก้าอี้เขียว จนต้องเดินไปบอกว่านานมากคะ
พี่ยังรออยู่นะคะ

สุดท้ายพนักงานเดินออกมาจากคอกมาเอาบัตรประชาชน
อ้าวสรุปคือเดินออกมาได้นี่ไม่มีใครล่ามโซ่ไว้นะคะ
น้องบอกที่ช้าเพราะเช็คประวัติมันไม่มีข้อมูลการคืนเงิน
คืออะไรอ่ะ สรุปองค์กรตั้งใจกินเงินลูกค้าแต่แรก

คือเราว่าค่ายโทรศัพท์มันก็บริการมีเรื่องไม่ถูกใจทุกค่ายนะ
เดี๋ยวจะหาว่าเราอวย dtac ไม่นะ
เรายอมรับสัญญาน internet AIS คือดี
True มีความหลากหลาย
แต่ในความหลากหลายก็ซ่อนความเฮงรวยเอาไว้

เริ่มเข้าใจแล้ว ทำไมพนักงานต้อนรับ
พนักงานเคาท์เตอร์จนองค์กรมีแนวปฎิบัติแบบนี้
สรุปดูเหมือนไม่ต้องเซ็นอะไรนะคะ

เยี่ยมือเอาบัตรประชาชนตูไป copy แจกเหรอ
10 นาทีแล้วยังไม่เสร็จนับตั่งแต่เอาบัตรไป
ไม่รวมรอคอยก่อนหน้านี้นะคะ