หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ความผิดพลาดในงานราชาภิเษกพระนางเจ้าวิคทอเรียแห่งอังกฤษ(สาระฮะ)
กระทู้สนทนา
ประวัติศาสตร์
วิชาการ
การศึกษา
หน้าต่างโลก
อารยธรรม (Civilization)
ก่อนที่เราจะพูดถึงงานราชาภิเษกที่ผิดพลาดเราก็ต้องรู้จักก่อนว่าพระองค์ทรงเป็นใครนะฮะ ควีนวิคทอเรียเป็นกษัตริย์ผู้ครองจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่และเรืองอำนาจที่สุดในโลก นั่นก็คือ “เกาะบริเตนใหญ่” ซึ่งอังกฤษถือว่าเป็นมหาอำนาจที่รุ่งเรืองเอามากๆ ถ้าเอาอังกฤษเทียบกับอเมริกาในสมัยนี้(คือไม่ได้เทียบในด้านของความเจริญทางเทคโนโลยีนะ แต่เทียบในด้านการเรืองอำนาจจริงๆ)ผมว่าอังกฤษชนะอเมริกาอย่างเด็ดขาดเลย เพราะมีอาณานิคมประปรายไปทั่วโลกซึ่งอาณานิคมพวกนี้ถ้ารวมทั้งหมดนั้น มันใหญ่กว่าสหราชอาณาจักรถึง 40 เท่า(รวมไอร์แลนด์ด้วย) คือเอาง่ายๆ อังกฤษมีลูกน้องมาก ลูกน้องที่อังกฤษรักที่สุดคือ “บริทิชราช” หรือ British Raj ซึ่งก็คือชมพูทวีปนั่นเอง(รวมทั้งจังหวัดพม่าของจักรวรรดิอินเดียด้วย) ซึ่งนั่นคือผลงามชิ้นเยี่ยมของบริษัทอินเดียตะวันออกที่ทำให้กับรัฐบาลอังกฤษ
พระรูปของสมเด็จพระราชินีนาถวิคทอเรียซึ่งได้มาจากเจ้าเมืองไทรบุรีสมัยร.3 ซึ่งถึงแม้ว่าพระบาทสมเด็จ(ตอนนั้นอังกฤษได้ปีนังจากเรามาซึ่งก็อยู่ใกล้เคียงเมืองไทรบุรี)พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจะทรงเกลียดชาวตะวันตกมาก แต่เป็นเรื่องแปลกที่พระนั่งเกล้าฯ กลับมีรับสั่งให้นำมาแขวนไว้ในพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย สร้างความตกตะลึงแก่ชาวต่างชาติที่มาเฝ้าเป็นอย่างมาก ที่เมื่อพระมหากษัตริย์แห่งสยามซึ่งเป็นที่เล่าขวัญกันในหมู่ชาวตะวันตกว่าเป็นผู้ที่อนุรักษ์นิยมที่สุดในเอเชีย ทั้งยังตรัสบริพาษด่าถึงกษัตริย์อังกฤษพระองค์นี้อยู่เสมอ กลับนำพระรูปของราชินีอังกฤษพระองค์นี้มาแขวนและใส่กรอบแขวนไว้อย่างดีในท้องพระโรงอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่ราชาภิเษกของกษัตริย์สยาม แม้แต่ในสมัยร.4 ก็ไม่ได้มีรับสั่งให้นำรูปราชินีอังกฤษออก ทำให้ภาพนี้ถูกประดับอย่างสง่างามถึง 18 ปีเต็ม ซึ่งเป็นเรื่องที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้และไม่เคยกล่าวถึง.
สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียเป็นหนึ่งในพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล พระองค์ครองราชย์เป็นเวลา 63 ปี และเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่สุดของอังกฤษ ก่อนที่จะมีพระราชินีนาถเอลิซาเบ็ธที่ 2 โค่นแชมป์ โดยในตอนเริ่มต้นรัชสมัยของพระองค์ซึ่งเป็นการเปิดยุคที่รุ่งเรืองที่สุดในอังกฤษ ไม่มีใครเชื่อว่าการครองราชย์ในครั้งนี้จะดำเนินไปได้ด้วยดีนัก เพราะพิธีราชาภิเษกของพระองค์ค่อนข้างทุลักทุเล!
พระราชพิธีราชาภิเษกองสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี 28 มิถุนายน 1838 เพียงหนึ่งปีหลังจากที่พระองค์ทรงครองราชย์ เนื่องจากในธรรมเนียมของอังกฤษเมื่อกษัตริย์ครองราชย์จะไม่ราชภิเษกทันทีแต่หากจะครองราชย์ไปซักระยะนึงก่อนจึงค่อยมีราชพิธีอันยิ่งใหญ่ โดยทรงรับราชภิเษกเป็นราชินีแห่งสหราชอาณาจักรเมื่ออายุ 18 พิธีที่จัดขึ้นในมหาวิหารเวสมินเตอร์ หลังจากที่ขบวนราชพิธีซึ่งนำโดยรถม้าทองคำที่ล้อมรอบด้วยประชาชนผู้มาเฝ้าประชาชนโดยเดินทางจากราชวังบัคกิ้งแฮม สู่โบสถ์ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งรถม้าทองคำหรือรถม้าโกลด์สเตทโค้ชซึ่งไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักนอกจากพระราชพิธีใหญ่ ซึ่งหากเป็นพระราชพิธีเล็กๆ จะใช้รถม้าที่มีพื้นเป็นสีดำลายทองแทน ในภาพคือรถม้าในงานราชาภิเษกของอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งเป็นรถม้าที่นั่งได้ไม่สบายนัก เพราะเนื่องจากเป็นรถม้าที่มีน้ำหนักมากทั้งยังโบราณคร่ำครึ ถึงขนาดที่กษัตริย์อังกฤษหลายพระองค์บ่นอยู่เสมอว่าเป็นรถม้าที่น่ากลัวทั้งยังชวนผวาอีกด้วย นั่นก็เพราะน้ำหนักมาก ทั้งยังเก่าแก่ อีกทั้งลวดลายแบบบาร็อคที่ดูฟุ้งเฟ้อจนเกินตัว ทำให้กษัตริย์บางองค์ต้องถึงขนาดฝืนยิ้ม เพื่อให้พสกนิกรของพระองค์มีความสุข
อลิซาเบธที่สองผู้โค่นเเชมป์ราชินีวิคทอเรีย
รถม้าทองคำที่ใช้จนถึงปัจจุบัน
William Lamb
วิลเลียมแลมบ์ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์(ยังไม่มีคำว่าเหนือ)
ซึ่งเป็นไวส์เคาทน์ที่สองแห่งเมลเบิร์น นอกจากนี้ยังเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของยุคพระนางเจ้าวิคทอเรียผู้ยิ่งใหญ่แต่อ่อนแอ
การวางแผนสำหรับพิธีราชาภิเษกนำโดยนายกรัฐมนตรีวิลเลียม แลมบ์ซึ่งถือบรรดาศักดิ์เป็นไวส์เคาทน์แห่งเมลเบิร์น โดยเป็นไปอย่างยากลำบากและไม่มีการซักซ้อมอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ในเดือนมีนาคมปี 1838 ซึ่งเป็นปีที่จัดงานได้เกิดการการคัดค้านต่าง ๆ นานาจากหลายฝ่าย โดยพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่แต่สุดจะเละเทะนี้หมดเงินไปประมาณ 70,000 ปอนด์สเตอลิงก์(ซึ่งถ้าใช้เครื่งคิดเลขสมัยนี้คิดมันคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนฮะในการคิดค่าเป็นเงินบาท เพราะว่าค่าเงินสมัยก่อนมันดูถูกแต่ค่าของมันจริงๆ แล้วสุดจะแพงเลย ซึ่งก็คล้ายๆ กับทางบ้านเราสมัยก่อนนี่เองกว่าจะเก็บเงินถึงบาทมันใช้เวลานานมาก แต่ในสมัยนี้หาง่ายนิดเดียว) ซึ่งถ้าเทียบกับงานราชาภิเษกของพระเจ้าวิลเลียมที่สี่แล้วจะพบว่าในงานราชาภิเษกของเจ้าหญิงวิกทอเรียในการขึ้นเป็นราชินีโดยสมบูรณ์นั้น ใช้งบประมาณน้อยกว่างานของวิลเลียมที่สี่ผู้เป็นลุงถึงครึ่งหนึ่ง คือถ้าอธิบายให้เข้าใจก็จะพบว่างานราชิภิเษกของวิกทอเรียนั้นใช้เงินไป 70,000 ปอนด์ แต่งานราชาภิเษกของวิลเลียมที่สี่ใช้เงินไป 140,000 ปอนด์ ซึ่งถือว่างานของราชินีองค์นี้ไม่ได้ลงทุนอะไรเลยฮะ ซึ่งถึงแม้ว่างานราชาภิเษกของพระเจ้าวิลเลียมที่สี่จะดูแพงแล้วก็จริง แต่ถ้าเทียบกับพิธีราชาภิเษกของพระเจ้าจอร์จที่สี่กลับใช้เงินราว 240,000 ปอนด์สเตอลิงก์ซึ่งเงินส่วนใหญ่นำไปสร้างมงกุฎอันใหม่ชื่อว่า Coronation Crown Of George IV (ถ้าเราศึกษาประวัติศาสตร์อังกฤษก็คงรู้ๆ อยู่ว่ายุคของพระเจ้าจอร์จที่สี่เป็นยุครีเจนซี่ ซึ่งเป็นยุคที่ชนชั้นสูงใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยและหรูหราเกินเหตุ โดยชาวยุโรปมักจะนิยมชมชอบศิลปะอันหรูหราของอินเดียและจีน ซึ่งแสดงให้เห็นจากการที่ชาวยุโรปมักจะนิยมสวนสาธารณะแบบอินเดียและจีนซะส่วนใหญ่) ซึ่งในงานพระราชพิธีราชาภิเษกของจอร์จที่สี่นั้นเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการใช้เงินมาจัดราชพิธีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่ประชาชนและบรรดาพวกที่นิยมระบอบสาธารณรัฐหรือที่เรียกกันติดปากว่า “พวกล้มเจ้า” ซึ่งมีให้เห็นเป็นเรื่องปกติและเป็นเรื่องแปลกที่ในสหราชอาณาจักรพวกล้มเจ้ามักจะเป็นชาวไอร์แลนด์ซะส่วนใหญ่ ส่วนชาวอังกฤษคงไม่ต้องถามหรอกฮะในหัวของเค้าความคิดแบบชาวไอร์แลนด์แทบไม่มีปรากฏให้เห็นเลย
พระเจ้าจอร์จที่สี่แห่งสหราชอาณาจักร ผู้ใส่ชุดราชาภิเษกที่ออกจะดูไปทางอินเดียนิดนึงกับมงกุฎของพระองค์ซึ่งผมไม่มั่นใจว่ามงกุฎอันนั้นเป็นมงกุฎอิมพีเรียลสเตทรึว่ามงกุฎโคโรเนชั่นคราวน์ออฟจอร์จเดอะโฟร์ธ(มงกุฎราชาภิเษกของจอร์จที่สี่)กันแน่
ในปี 1838 ซึ่งเป็นปีราชาภิเษกของควีนวิคทอเรียได้มีการทางรถไฟที่สร้างขึ้นใหม่สามารถส่งผู้คนจำนวนมากเข้ามาในลอนดอนและมีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าชมถึง 400,000 คนมาเข้าเฝ้าในขณะที่ขบวนเสด็จของราชินีจะมา รวมทั้งการงานขึ้นบอลลูนในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่นิมที่สุดในเกาะบริเตนใหญ่ โดยงานมีกำหนดการณ์ที่จะจัดขึ้นสองวันแต่ในที่สุดก็ยืดเวลาไปถึงสี่วันเพราะได้รับความนิยมกันมาก กรีนพาร์คให้ความสำคัญกับการจัดแสดงพลุกลางคืนหลังพิธี โดยในพระราชพิธีราชาภิเษกเป็นช่วงเวลาที่อากาศดีค่อนข้างดีและเหตุการณ์ทั้งหมดถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของทั้งสื่อมวลชนและสาธารณชนแม้ว่าคนบางส่วนจะได้รับอุบัติเหตุเพราะความสับสนและความเขลาของเขา
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ภาพประวัติศาสตร์ ศรีสุลต่านฮามังกุบุโวโนที่ 10 เสด็จฯ เข้าร่วมพระราชพิธีฝังพระศพสุสุฮูนันแห่งสุรการ์ตา
นอกจากเป็นช่วงเวลาที่ชาวไทยอยู่ในห้วงแห่งความโศกเศร้าแล้ว ชาวเมืองสุรการ์ตาหรือโซโลในเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซียเอง ก็อยู่ในห้วงแห่งความโศกเศร้าด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อสุสุฮูนันปาบุกุโวโนที่ 13 ผู้เป็นกษั
สมาชิกหมายเลข 5648798
มาดูการครองราชย์ แบบฝรั่งเศสบ้างครับ ผมว่าต่างจากอังกฤษพอสมควรนะ
https://www.youtube.com/watch?v=42lBjrzTXj8
สมาชิกหมายเลข 7777274
ตอนที่ 8 ครองเทคโนโลยีคือครองโลก ค.ศ.1600-1699
แรง มีหน่วยเป็น “นิวตัน” ความดัน มีหน่วยเป็น “ปาสกาล” ชื่อหน่วยเหล่านี้ เป็นชื่อบุคคลจริง วิชาวิทยาศาสตร์ที่เราต้องท่องจำสูตรคำนวณกันตั้งแต่เด็ก บุคคลเหล่านี้มีส่วนสำคัญต่อกา
สมาชิกหมายเลข 5429714
เผยโฉม 10 ราชินี "อายุน้อยที่สุด" ในประวัติศาสตร์โลก อันดับ 2 เป็นพระมเหสีตั้งแต่ 6 ขวบ!
จากเจ้าหญิงสู่ประมุข: เปิดตำนาน 10 ราชินีที่ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ รับมงกุฎแห่งอำนาจตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ราชินีถือเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจ ความสง่างาม และความรับผิดชอบสูงสุดในราชสำนักทั่วโลก แต่รู้หรือไม่
สมาชิกหมายเลข 8930230
พระราชประวัติ ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง’
พระราชประวัติ 'สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง' ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเคียงคู่ "ในหลวง ร.9" เพื่อความผาสุกของพสกนิกรชาวไทย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบร
ต้นโพธิ์ต้นไทร
ทำเนียบ 10 ราชินีโลก "อายุยืนที่สุด" ควีนผู้ทรงเป็นประจักษ์พยานแห่งประวัติศาสตร์
ทำเนียบ 10 ราชินีที่อายุยืนที่สุดในโลก ผู้ทรงเป็นประจักษ์พยานแห่งประวัติศาสตร์ ตำแหน่ง "ราชินี" ไม่ว่าจะในฐานะผู้ครองราชย์หรือพระมเหสี ต่างก็เป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงและเกียรติยศ การมีพระชน
วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวานครับผม
พระราชประวัติ สมเด็จพระพันปีหลวง แม่ของแผ่นดินไทย
พระราชประวัติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นพระนางผู้เปี่ยมด้วยพระเมตตาและพระราชจริยวัตรอันงด
สมาชิกหมายเลข 6652492
บอกเล่าเรื่องราวชีวิต Queen Elizabeth II ผ่านภาพบรมฉายาลักษณ์
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เป็นราชินีที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักรและเครือจักรภพ ตั้งแต่ปี 1952-2022 พระองค์ทรงครองบัลลังก์มานานกว่า 70 ปี ทำให้เธอเป็นประมุขที่ทรง
NUMBER 24 x SHUTTERSTOCK THAI
ราชินีหญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก
By pornphanh บุคคลที่ทีนเอ็มไทยนำมาเสนอในวันนี้ ล้วนเป็นผู้หญิงที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติต่างๆ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงโด่งดังในประวัติศาสตร์โลกอีกด้วย ทั้ง12 คนนี้ได้รับสมยานามต่างๆนาๆ ทั้งใน
สมาชิกหมายเลข 3110689
กษัตริย์ตองกาทำพิธีราชาภิเษกขึ้นครองราชย์ แต่ทำไมไม่มีราชวงศ์ไทยเข้าร่วมพิธีเลยครับ ทั้งที่เป็นพระราชพิธีสำคัญมาก
เจ้าชายมกุฏราชกุมารจากญี่ปุ่นและเจ้าหญิงมาซาโกะยังทรงเสด็จเข้าร่วมเลย ตอนพระราชพิธีฉลองครองราชย์60ปีของในหลวงเรา ทางเราก็เชิญกษัตริย์จากตองกาเสด็จมาร่วมด้วย การที่ผู้นำหรือประมุขของรัฐจะเสด็จเข้าร่ว
สมาชิกหมายเลข 2383202
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ประวัติศาสตร์
วิชาการ
การศึกษา
หน้าต่างโลก
อารยธรรม (Civilization)
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ความผิดพลาดในงานราชาภิเษกพระนางเจ้าวิคทอเรียแห่งอังกฤษ(สาระฮะ)
ก่อนที่เราจะพูดถึงงานราชาภิเษกที่ผิดพลาดเราก็ต้องรู้จักก่อนว่าพระองค์ทรงเป็นใครนะฮะ ควีนวิคทอเรียเป็นกษัตริย์ผู้ครองจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่และเรืองอำนาจที่สุดในโลก นั่นก็คือ “เกาะบริเตนใหญ่” ซึ่งอังกฤษถือว่าเป็นมหาอำนาจที่รุ่งเรืองเอามากๆ ถ้าเอาอังกฤษเทียบกับอเมริกาในสมัยนี้(คือไม่ได้เทียบในด้านของความเจริญทางเทคโนโลยีนะ แต่เทียบในด้านการเรืองอำนาจจริงๆ)ผมว่าอังกฤษชนะอเมริกาอย่างเด็ดขาดเลย เพราะมีอาณานิคมประปรายไปทั่วโลกซึ่งอาณานิคมพวกนี้ถ้ารวมทั้งหมดนั้น มันใหญ่กว่าสหราชอาณาจักรถึง 40 เท่า(รวมไอร์แลนด์ด้วย) คือเอาง่ายๆ อังกฤษมีลูกน้องมาก ลูกน้องที่อังกฤษรักที่สุดคือ “บริทิชราช” หรือ British Raj ซึ่งก็คือชมพูทวีปนั่นเอง(รวมทั้งจังหวัดพม่าของจักรวรรดิอินเดียด้วย) ซึ่งนั่นคือผลงามชิ้นเยี่ยมของบริษัทอินเดียตะวันออกที่ทำให้กับรัฐบาลอังกฤษ
พระรูปของสมเด็จพระราชินีนาถวิคทอเรียซึ่งได้มาจากเจ้าเมืองไทรบุรีสมัยร.3 ซึ่งถึงแม้ว่าพระบาทสมเด็จ(ตอนนั้นอังกฤษได้ปีนังจากเรามาซึ่งก็อยู่ใกล้เคียงเมืองไทรบุรี)พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจะทรงเกลียดชาวตะวันตกมาก แต่เป็นเรื่องแปลกที่พระนั่งเกล้าฯ กลับมีรับสั่งให้นำมาแขวนไว้ในพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย สร้างความตกตะลึงแก่ชาวต่างชาติที่มาเฝ้าเป็นอย่างมาก ที่เมื่อพระมหากษัตริย์แห่งสยามซึ่งเป็นที่เล่าขวัญกันในหมู่ชาวตะวันตกว่าเป็นผู้ที่อนุรักษ์นิยมที่สุดในเอเชีย ทั้งยังตรัสบริพาษด่าถึงกษัตริย์อังกฤษพระองค์นี้อยู่เสมอ กลับนำพระรูปของราชินีอังกฤษพระองค์นี้มาแขวนและใส่กรอบแขวนไว้อย่างดีในท้องพระโรงอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่ราชาภิเษกของกษัตริย์สยาม แม้แต่ในสมัยร.4 ก็ไม่ได้มีรับสั่งให้นำรูปราชินีอังกฤษออก ทำให้ภาพนี้ถูกประดับอย่างสง่างามถึง 18 ปีเต็ม ซึ่งเป็นเรื่องที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้และไม่เคยกล่าวถึง.
สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียเป็นหนึ่งในพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล พระองค์ครองราชย์เป็นเวลา 63 ปี และเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่สุดของอังกฤษ ก่อนที่จะมีพระราชินีนาถเอลิซาเบ็ธที่ 2 โค่นแชมป์ โดยในตอนเริ่มต้นรัชสมัยของพระองค์ซึ่งเป็นการเปิดยุคที่รุ่งเรืองที่สุดในอังกฤษ ไม่มีใครเชื่อว่าการครองราชย์ในครั้งนี้จะดำเนินไปได้ด้วยดีนัก เพราะพิธีราชาภิเษกของพระองค์ค่อนข้างทุลักทุเล!
พระราชพิธีราชาภิเษกองสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี 28 มิถุนายน 1838 เพียงหนึ่งปีหลังจากที่พระองค์ทรงครองราชย์ เนื่องจากในธรรมเนียมของอังกฤษเมื่อกษัตริย์ครองราชย์จะไม่ราชภิเษกทันทีแต่หากจะครองราชย์ไปซักระยะนึงก่อนจึงค่อยมีราชพิธีอันยิ่งใหญ่ โดยทรงรับราชภิเษกเป็นราชินีแห่งสหราชอาณาจักรเมื่ออายุ 18 พิธีที่จัดขึ้นในมหาวิหารเวสมินเตอร์ หลังจากที่ขบวนราชพิธีซึ่งนำโดยรถม้าทองคำที่ล้อมรอบด้วยประชาชนผู้มาเฝ้าประชาชนโดยเดินทางจากราชวังบัคกิ้งแฮม สู่โบสถ์ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งรถม้าทองคำหรือรถม้าโกลด์สเตทโค้ชซึ่งไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักนอกจากพระราชพิธีใหญ่ ซึ่งหากเป็นพระราชพิธีเล็กๆ จะใช้รถม้าที่มีพื้นเป็นสีดำลายทองแทน ในภาพคือรถม้าในงานราชาภิเษกของอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งเป็นรถม้าที่นั่งได้ไม่สบายนัก เพราะเนื่องจากเป็นรถม้าที่มีน้ำหนักมากทั้งยังโบราณคร่ำครึ ถึงขนาดที่กษัตริย์อังกฤษหลายพระองค์บ่นอยู่เสมอว่าเป็นรถม้าที่น่ากลัวทั้งยังชวนผวาอีกด้วย นั่นก็เพราะน้ำหนักมาก ทั้งยังเก่าแก่ อีกทั้งลวดลายแบบบาร็อคที่ดูฟุ้งเฟ้อจนเกินตัว ทำให้กษัตริย์บางองค์ต้องถึงขนาดฝืนยิ้ม เพื่อให้พสกนิกรของพระองค์มีความสุข
อลิซาเบธที่สองผู้โค่นเเชมป์ราชินีวิคทอเรีย
รถม้าทองคำที่ใช้จนถึงปัจจุบัน
William Lamb
วิลเลียมแลมบ์ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์(ยังไม่มีคำว่าเหนือ)
ซึ่งเป็นไวส์เคาทน์ที่สองแห่งเมลเบิร์น นอกจากนี้ยังเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของยุคพระนางเจ้าวิคทอเรียผู้ยิ่งใหญ่แต่อ่อนแอ
การวางแผนสำหรับพิธีราชาภิเษกนำโดยนายกรัฐมนตรีวิลเลียม แลมบ์ซึ่งถือบรรดาศักดิ์เป็นไวส์เคาทน์แห่งเมลเบิร์น โดยเป็นไปอย่างยากลำบากและไม่มีการซักซ้อมอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ในเดือนมีนาคมปี 1838 ซึ่งเป็นปีที่จัดงานได้เกิดการการคัดค้านต่าง ๆ นานาจากหลายฝ่าย โดยพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่แต่สุดจะเละเทะนี้หมดเงินไปประมาณ 70,000 ปอนด์สเตอลิงก์(ซึ่งถ้าใช้เครื่งคิดเลขสมัยนี้คิดมันคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนฮะในการคิดค่าเป็นเงินบาท เพราะว่าค่าเงินสมัยก่อนมันดูถูกแต่ค่าของมันจริงๆ แล้วสุดจะแพงเลย ซึ่งก็คล้ายๆ กับทางบ้านเราสมัยก่อนนี่เองกว่าจะเก็บเงินถึงบาทมันใช้เวลานานมาก แต่ในสมัยนี้หาง่ายนิดเดียว) ซึ่งถ้าเทียบกับงานราชาภิเษกของพระเจ้าวิลเลียมที่สี่แล้วจะพบว่าในงานราชาภิเษกของเจ้าหญิงวิกทอเรียในการขึ้นเป็นราชินีโดยสมบูรณ์นั้น ใช้งบประมาณน้อยกว่างานของวิลเลียมที่สี่ผู้เป็นลุงถึงครึ่งหนึ่ง คือถ้าอธิบายให้เข้าใจก็จะพบว่างานราชิภิเษกของวิกทอเรียนั้นใช้เงินไป 70,000 ปอนด์ แต่งานราชาภิเษกของวิลเลียมที่สี่ใช้เงินไป 140,000 ปอนด์ ซึ่งถือว่างานของราชินีองค์นี้ไม่ได้ลงทุนอะไรเลยฮะ ซึ่งถึงแม้ว่างานราชาภิเษกของพระเจ้าวิลเลียมที่สี่จะดูแพงแล้วก็จริง แต่ถ้าเทียบกับพิธีราชาภิเษกของพระเจ้าจอร์จที่สี่กลับใช้เงินราว 240,000 ปอนด์สเตอลิงก์ซึ่งเงินส่วนใหญ่นำไปสร้างมงกุฎอันใหม่ชื่อว่า Coronation Crown Of George IV (ถ้าเราศึกษาประวัติศาสตร์อังกฤษก็คงรู้ๆ อยู่ว่ายุคของพระเจ้าจอร์จที่สี่เป็นยุครีเจนซี่ ซึ่งเป็นยุคที่ชนชั้นสูงใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยและหรูหราเกินเหตุ โดยชาวยุโรปมักจะนิยมชมชอบศิลปะอันหรูหราของอินเดียและจีน ซึ่งแสดงให้เห็นจากการที่ชาวยุโรปมักจะนิยมสวนสาธารณะแบบอินเดียและจีนซะส่วนใหญ่) ซึ่งในงานพระราชพิธีราชาภิเษกของจอร์จที่สี่นั้นเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการใช้เงินมาจัดราชพิธีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่ประชาชนและบรรดาพวกที่นิยมระบอบสาธารณรัฐหรือที่เรียกกันติดปากว่า “พวกล้มเจ้า” ซึ่งมีให้เห็นเป็นเรื่องปกติและเป็นเรื่องแปลกที่ในสหราชอาณาจักรพวกล้มเจ้ามักจะเป็นชาวไอร์แลนด์ซะส่วนใหญ่ ส่วนชาวอังกฤษคงไม่ต้องถามหรอกฮะในหัวของเค้าความคิดแบบชาวไอร์แลนด์แทบไม่มีปรากฏให้เห็นเลย
พระเจ้าจอร์จที่สี่แห่งสหราชอาณาจักร ผู้ใส่ชุดราชาภิเษกที่ออกจะดูไปทางอินเดียนิดนึงกับมงกุฎของพระองค์ซึ่งผมไม่มั่นใจว่ามงกุฎอันนั้นเป็นมงกุฎอิมพีเรียลสเตทรึว่ามงกุฎโคโรเนชั่นคราวน์ออฟจอร์จเดอะโฟร์ธ(มงกุฎราชาภิเษกของจอร์จที่สี่)กันแน่
ในปี 1838 ซึ่งเป็นปีราชาภิเษกของควีนวิคทอเรียได้มีการทางรถไฟที่สร้างขึ้นใหม่สามารถส่งผู้คนจำนวนมากเข้ามาในลอนดอนและมีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าชมถึง 400,000 คนมาเข้าเฝ้าในขณะที่ขบวนเสด็จของราชินีจะมา รวมทั้งการงานขึ้นบอลลูนในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่นิมที่สุดในเกาะบริเตนใหญ่ โดยงานมีกำหนดการณ์ที่จะจัดขึ้นสองวันแต่ในที่สุดก็ยืดเวลาไปถึงสี่วันเพราะได้รับความนิยมกันมาก กรีนพาร์คให้ความสำคัญกับการจัดแสดงพลุกลางคืนหลังพิธี โดยในพระราชพิธีราชาภิเษกเป็นช่วงเวลาที่อากาศดีค่อนข้างดีและเหตุการณ์ทั้งหมดถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของทั้งสื่อมวลชนและสาธารณชนแม้ว่าคนบางส่วนจะได้รับอุบัติเหตุเพราะความสับสนและความเขลาของเขา