เนื่องจากอยู่ในช่วง Covid-19 ทำให้มีเวลาว่างมากขึ้น เลยคิดว่ามาเขียนแชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าท่องเที่ยว ประเทศอเมริกาไว้เผื่อใครมีแผนหลังโรคระบาดซาแล้วจะไปเที่ยวที่นั่น ยังไงก็ควรรอจนโรคหายไปจริงๆก่อนเนอะเพราะดูจากยอดผู้ป่วยของอเมริกาที่พุ่งสูงมากเหลือเกิน
อเมริกานี่ขึ้นแท่นว่าขอวีซ่าท่องเที่ยวยากเหลือเกิน แถมความสะใจอีกอย่างคือยื่นวันนั้น รู้ผลเลยตอนนั้น!!! ผ่าน ไม่ผ่าน ก็รู้เลยไม่ต้องเสียเวลารอแบบบางที่
จขกท. เริ่มจากมีเพื่อนอยู่ที่นั่นและพึ่งอกหักก็เอาวะไปท่องโลกกว้างดีกว่าจะได้ไม่ฟุ้งซ่านได้สักระยะนึง ถามเพื่อเสร็จสรรพก็นัดกันว่าจะลางานไปซัก 10 วัน รวมเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดต่างๆแล้ว ความใจแป้วก็มาตกที่ตอนยื่นขอวีซ่าค่ะ ในกระทู้นี้จะไม่ได้สอนการสมัครนะคะ จึงจะไม่มีการลงข้อมูลเชิงลึกให้
เริ่มจากกรอกข้อมูลในเวปไซต์ โดยข้อมูลทั้งหมดเราฉีกกฏทุกอย่างคือ เราจะพูดความจริงทั้งหมดเพราะว่าการขอวีซ่าอเมริกาต้องไปสัมภาษณ์ด้วยกับเจ้าหน้าที่สถานฑูต และเจ้าหน้าที่ทึกท่านเราเชื่อว่าเค้าผ่านมาหมดแล้วหลากหลายแบบสำหรับการสัมภาษณ์คน เค้าก็พอดูออกว่าเราพูดความจริงหรือโกหก
* เรากรอกความต้องการที่จะไปคือไปเที่ยวพักร้อนเพื่อพักผ่อน เนื่องจากเห็นว่าหลายๆคนอยากไปที่นี่นักเราก็อยากไปเห็นด้วยตาของตัวเอง อีกทั้งยังเห็นภาพในหลายๆฉากหนังที่เราดูโดยเฉพาะ New York เราก็เลยเลือกไปที่นี่เพื่อเที่ยวจุดเชคอินต่างๆ เวลากรอกข้อมูลสมัครควรตรวจตราให้ดีๆทุกครั้งจนกว่าจะแน่ใจแล้วค่อยกดเพื่อไปต่อที่จ่ายเงิน
* ที่พักเราตอบตามความจริงว่าไปพักกับเพื่อนที่กำหลังเรียนปริญญาโทอยู่ที่นั่นพร้อมใส่บ้านเลขที่และเบอร์โทรของเพื่อนที่ติดต่อได้จริงๆ
* ข้อมูลการเงินเราขอย้อนหลังไป 6 เดือนของทุกธนาคารที่เรามีและมีการเคลื่อนไหว อันนี้ติดไปด้วยนะคะเผื่อเจ้าหน้าที่ต้องการขอดู
* ตารางท่องเที่ยว เราทำตามจริงเป็นตารางง่ายๆว่าวันนี้ไปไหน ทำอะไร พร้อมระบุข้อมูลราคาของตั๋วเดินทางหรือตั๋วเข้าชมลงไปด้วย เพราะมันจะแปลว่าเราทำการวางแผนจริงๆ มีความรู้เบื้องต้นที่จะไปเที่ยว ส่วนตัวเราคิดว่าแล้วแต่คนนะคะแต่เราคิดแบบนี้เลยใส่ลงไปด้วย
หลังจากกรอกข้อมูลสมัครพร้อมจ่ายเงิน (โดยที่ไม่การันตีเลยว่าจะได้ไปไหม 555) พอถึงวันสัมภาษณ์ก็เตรียมตัวให้พร้อม ควรไปก่อนเวลาสักชั่วโมงถึงชั่วโมงครึ่ง ใครเอารถไปเองที่ตึกตรงข้ามสถาฑูตสามารถจอดได้นะคะเปิดแต่เช้าเลย เราได้คิวประมาณ 07.30 น. เราไปถึงตั้งแต่ฟ้ายังมืดเพราะกลัวรถติด
* การแต่งกายในวันนั้นควรแต่งให้ดูน่าเชื่อถือและสุภาพมากที่สุด เราใส่เสื้อเชิ้ตและมีสูททับไปอีกชั้นและกางเกงขายาวสีดำ (ไม่ใช่สแลค)
ปล. ของไม่ต้องเอาไปเยอะมากเพราะสุดท้ายก่อนเข้าก็ต้องฝาก และเผื่อเวลายืนรอจะได้ไม่หนักมาก
การสัมภาษณ์ !!!!!
เราเดินเข้าไปวันนั้นมีเปิดอยู่ประมาณ 6 ช่อง เจ้าหน้าที่มีทั้งที่หน้าฝรั่งจริงๆและหน้าออกแนวเอเชีย เกือบทุกคนสามารถพูดภาษาไทยสำเนียงฝรั่งได้ เราแอบดูว่าถ้าบางคนเริ่มงงกับคำถามภาษาอังกฤษเค้าจะพูดภาษาไทยให้เราเข้าใจค่ะ
แชร์ประสบการณ์ **ยื่น Visaท่องเที่ยว อเมริกา ด้วยตัวเอง** ผู้หญิงไปคนเดียว ไม่มีสปอนเซอร์
อเมริกานี่ขึ้นแท่นว่าขอวีซ่าท่องเที่ยวยากเหลือเกิน แถมความสะใจอีกอย่างคือยื่นวันนั้น รู้ผลเลยตอนนั้น!!! ผ่าน ไม่ผ่าน ก็รู้เลยไม่ต้องเสียเวลารอแบบบางที่
จขกท. เริ่มจากมีเพื่อนอยู่ที่นั่นและพึ่งอกหักก็เอาวะไปท่องโลกกว้างดีกว่าจะได้ไม่ฟุ้งซ่านได้สักระยะนึง ถามเพื่อเสร็จสรรพก็นัดกันว่าจะลางานไปซัก 10 วัน รวมเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดต่างๆแล้ว ความใจแป้วก็มาตกที่ตอนยื่นขอวีซ่าค่ะ ในกระทู้นี้จะไม่ได้สอนการสมัครนะคะ จึงจะไม่มีการลงข้อมูลเชิงลึกให้
เริ่มจากกรอกข้อมูลในเวปไซต์ โดยข้อมูลทั้งหมดเราฉีกกฏทุกอย่างคือ เราจะพูดความจริงทั้งหมดเพราะว่าการขอวีซ่าอเมริกาต้องไปสัมภาษณ์ด้วยกับเจ้าหน้าที่สถานฑูต และเจ้าหน้าที่ทึกท่านเราเชื่อว่าเค้าผ่านมาหมดแล้วหลากหลายแบบสำหรับการสัมภาษณ์คน เค้าก็พอดูออกว่าเราพูดความจริงหรือโกหก
* เรากรอกความต้องการที่จะไปคือไปเที่ยวพักร้อนเพื่อพักผ่อน เนื่องจากเห็นว่าหลายๆคนอยากไปที่นี่นักเราก็อยากไปเห็นด้วยตาของตัวเอง อีกทั้งยังเห็นภาพในหลายๆฉากหนังที่เราดูโดยเฉพาะ New York เราก็เลยเลือกไปที่นี่เพื่อเที่ยวจุดเชคอินต่างๆ เวลากรอกข้อมูลสมัครควรตรวจตราให้ดีๆทุกครั้งจนกว่าจะแน่ใจแล้วค่อยกดเพื่อไปต่อที่จ่ายเงิน
* ที่พักเราตอบตามความจริงว่าไปพักกับเพื่อนที่กำหลังเรียนปริญญาโทอยู่ที่นั่นพร้อมใส่บ้านเลขที่และเบอร์โทรของเพื่อนที่ติดต่อได้จริงๆ
* ข้อมูลการเงินเราขอย้อนหลังไป 6 เดือนของทุกธนาคารที่เรามีและมีการเคลื่อนไหว อันนี้ติดไปด้วยนะคะเผื่อเจ้าหน้าที่ต้องการขอดู
* ตารางท่องเที่ยว เราทำตามจริงเป็นตารางง่ายๆว่าวันนี้ไปไหน ทำอะไร พร้อมระบุข้อมูลราคาของตั๋วเดินทางหรือตั๋วเข้าชมลงไปด้วย เพราะมันจะแปลว่าเราทำการวางแผนจริงๆ มีความรู้เบื้องต้นที่จะไปเที่ยว ส่วนตัวเราคิดว่าแล้วแต่คนนะคะแต่เราคิดแบบนี้เลยใส่ลงไปด้วย
หลังจากกรอกข้อมูลสมัครพร้อมจ่ายเงิน (โดยที่ไม่การันตีเลยว่าจะได้ไปไหม 555) พอถึงวันสัมภาษณ์ก็เตรียมตัวให้พร้อม ควรไปก่อนเวลาสักชั่วโมงถึงชั่วโมงครึ่ง ใครเอารถไปเองที่ตึกตรงข้ามสถาฑูตสามารถจอดได้นะคะเปิดแต่เช้าเลย เราได้คิวประมาณ 07.30 น. เราไปถึงตั้งแต่ฟ้ายังมืดเพราะกลัวรถติด
* การแต่งกายในวันนั้นควรแต่งให้ดูน่าเชื่อถือและสุภาพมากที่สุด เราใส่เสื้อเชิ้ตและมีสูททับไปอีกชั้นและกางเกงขายาวสีดำ (ไม่ใช่สแลค)
ปล. ของไม่ต้องเอาไปเยอะมากเพราะสุดท้ายก่อนเข้าก็ต้องฝาก และเผื่อเวลายืนรอจะได้ไม่หนักมาก
การสัมภาษณ์ !!!!!
เราเดินเข้าไปวันนั้นมีเปิดอยู่ประมาณ 6 ช่อง เจ้าหน้าที่มีทั้งที่หน้าฝรั่งจริงๆและหน้าออกแนวเอเชีย เกือบทุกคนสามารถพูดภาษาไทยสำเนียงฝรั่งได้ เราแอบดูว่าถ้าบางคนเริ่มงงกับคำถามภาษาอังกฤษเค้าจะพูดภาษาไทยให้เราเข้าใจค่ะ