ร้านหนังสืออิสระ “บุ๊คโมบี้” bookmoby


“ที่ ๆ หนังสือคือคุณ”
คือสโลแกนของร้านหนังสือ “บุ๊คโมบี้” bookmoby


วันนี้ผมขออนุญาตพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับร้านหนังสืออิสระแห่งหนึ่ง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว  มีเสน่ห์ของความเป็นร้านหนังสือที่มีปฏิสัมพันธ์กับนักอ่านอย่างเหนียวแน่น   ซึ่งคำว่า “ปฏิสัมพันธ์” ที่ผมนำมาใช้ในที่นี่มีความหมายถึง “มีการร่วมกันทำกิจกรรมระหว่างสองฝ่าย (ซึ่งก็คือร้านขายหนังสือกับลูกค้าที่เป็นนักอ่าน)  โดยมีผลลัพธ์ที่ได้เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย”

ผมขอพูดสรุปเป็นความหมายที่เข้าใจกันได้อย่างง่ายก็คือ  ร้านหนังสือแห่งนี้มีกิจกรรมอีเว้นท์เกี่ยวกับหนังสือจัดขึ้นภายในร้านเป็นประจำ (ในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19)  เพื่อเรียกลูกค้าเข้ามาที่ร้านอย่างสม่ำเสมอ  ร้านหนังสืออิสระแห่งนี้มีชื่อว่า “บุ๊คโมบี้” bookmoby   ที่ตั้งอยู่ ณ ชั้น 4 ของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (ตรงข้ามห้างมาบุญครอง) นั้นเอง
 
หลายท่านที่เป็นนักอ่านอาจจะเคยไปซื้อหนังสือที่ร้านนี้มาแล้วหลายครั้ง  รวมทั้งตัวผมเองก็เคยไปร่วมฟังกิจจกรมที่ทางร้าน “บุ๊คโมบี้”  จัดขึ้นบ่อย ๆ ทั้งงานเปิดตัวหนังสือ และงานเสวนาทางวิชาการต่าง ๆ ฯลฯ  ดังนั้นในวันนี้จึงถือเป็นโอกาสดีที่ผมจะแนะนำร้าน “บุ๊คโมบี้” bookmoby ให้ทุกท่านรู้จักอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง


คลิปแนะนำร้านหนังสืออิสระ "บุ๊คโมบี้" (bookmoby)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คุณปนิธิตา  เกียรติสุพิมล (คุณจุ๋ม) 
ผู้จัดการร้าน “บุ๊คโมบี้” bookmoby


โดยรายละเอียดและเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผมนำเสนอนี้  ผมเรียบเรียงขึ้นมาจากการพูดคุยสัมภาษณ์ และสอบถามมาจาก คุณปนิธิตา  เกียรติสุพิมล (คุณจุ๋ม) ผู้จัดการร้าน “บุ๊คโมบี้”   ว่าแล้วก็ไปทำความรู้จักกับร้านหนังสืออิสระแห่งนี้กันดีกว่าครับ

-ถามว่าชื่อร้านว่าทำไมต้องเป็น “บุ๊คโมบี้”  คำตอบก็คือว่า ชื่อร้านเรามาจากหนังสือเรื่อง “โมบี้ดิ๊ก”  ที่เล่าเรื่องถึงวาฬสีขาวตัวใหญ่ในมหาสมุทร  ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าโลโก้ของร้านมีการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายวาฬกำลังว่ายน้ำอยู่  โดยมีการลดทอนรายละเอียดบางส่วนแต่ยังสื่อให้มองออกว่าเป็นวาฬ

-ทางเรามองว่าร้านหนังสือควรจะเป็นพื้นที่ให้นักเขียนกับผู้อ่านมาพบกันบ้าง  ที่ผ่านมา (ช่วงก่อนโควิด-19) เราจึงพยายามจัดงานอีเว้นท์เกี่ยวกับการเปิดตัวหนังสือ หรือการบรรยายที่เกี่ยวข้องกับหนังสืออยู่เป็นประจำ เพื่อเรียกลูกค้าใหม่ๆ เข้าร้านด้วย

-กลุ่มลูกค้าของร้านเราคือคนรุ่นใหม่และคนที่สนใจเรื่องงานศิลปะ  ซึ่งตรงกับสถานที่ตั้งของร้านที่อยู่ในหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC)  ดังนั้นคนที่มาเดินหอศิลป์ กทม. ก็คือคนที่เป็นลูกค้าของเรา

-ร้านหนังสือแต่ละร้านอาจจะมีสไตล์ที่ไม่เหมือนกัน  โดยเฉพาะตัวหนังสือที่วางขาย  สำหรับหนังสือในร้าน “บุ๊คโมบี้” หลักๆ แล้วจะเป็นหนังสือวรรณกรรมไทยและวรรณกรรมแปล  รวมทั้งหนังสืองานวิชาการที่น่าสนใจจำพวก non-fiction ต่าง ๆ  หนังสือการเมือง หนังสือปรัชญาศาสนา ฯลฯ  

-นอกจากนั้นเรายังมีโซนที่วางขายเฉพาะหนังสืองานศิลปะ  ซึ่งหนังสืองานศิลปะพวกนี้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มาเดินหอศิลป์ฯ ด้วยเช่นกัน

-เวลาที่ลูกค้าเดินเข้ามาในร้านหนังสือของเรา  เขาจะได้รับความแตกต่างจากร้านหนังสือที่เป็นเชนสโตร์ทั่วไป  คือเขาอาจจะไม่เจอหนังสือบางประเภทที่วางขายในร้านเรา แต่ลูกค้าจะเจอหนังสืออีกประเภทหนึ่งที่ทางเราคัดสรรมาแล้วว่าน่าจะตรงกับกลุ่มเป้าหมายของร้านเรา

-ส่วนหนังสืออีกประเภทหนึ่งที่ทางร้าน “บุ๊คโมบี้” ขายดีคือหนังสือที่นักเขียนทำเอง  ประเภทที่นักเขียนประพันธ์เองแล้วจัดพิมพ์เองเป็นโปรเจคพิเศษ  ที่ไม่ได้ผ่านการจัดพิมพ์จากสำนักพิมพ์ หรือหนังสือของสำนักพิมพ์เล็กๆ ที่เป็นสำนักพิมพ์อินดี้ , เป็นสำนักพิมพ์เกิดใหม่ ซึ่งเขานำหนังสือมาฝากขายที่ร้านโดยตรงโดยไม่ได้ผ่านระบบสายส่ง  หนังสือพวกนี้ทางร้านเราก็จะขายดีเช่นกัน  เพราะหนังสือประเภทนี้จะไม่มีวางขายในร้านทั่วไป

-สำหรับยอดขายของร้านบุ๊คโมบี้  ระหว่างการขายผ่านหน้าร้านกับการขายออนไลน์นั้นจะเป็นสัดส่วน 80 : 20 %  คือทางร้านเราจะขายหนังสือผ่านหน้าร้านหรือออฟไลน์ได้ 80% มากกว่าการขายออนไลน์ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊คของร้าน ที่ขายได้ 20%  สาเหตุเป็นเพราะว่าทำเลที่ตั้งของร้านมีความได้เปรียบกว่า  มีความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่จะเดินทางเข้ามาเลือกซื้อหนังสือเองมากกว่า

-ลูกค้าประจำของร้านเรามีค่อนข้างเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นใหม่และกลุ่มวัยรุ่น  ส่วนลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่เขารู้ว่าจะหาซื้อหนังสือเล่มที่เขาต้องการได้ที่ร้านเรา บางคนเดินเข้าร้านมาแล้วเขารู้เลยว่าต้องเดินไปที่มุมไหน หรือไปตรงชั้นหนังสือไหน  โดยไม่ต้องถามหาจากพนักงานขายหน้าร้านเลย

-สำหรับลูกค้าที่อยากจะสอบถามข้อมูลของหนังสือว่า  เล่มนี้เกี่ยวกับอะไร? เนื้อหาเป็นอย่างไร?  ทางพนักงานขายหน้าร้านของเราสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือได้ครบถ้วน  เพราะทางร้านจะรับสมัครน้องพนักงานขายที่เป็นนักอ่านอยู่แล้ว จึงพูดคุยแนะนำหนังสือเล่มต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้าได้

-หนังสือวรรณกรรมแปลที่เป็นงานวรรณกรรมระดับโลกต่าง ๆ จะมีลูกค้ามาตามหาซื้อไว้เพื่อเก็บสะสม คือบางเรื่องลูกค้าอาจจะเคยมีอยู่แล้วแต่พอหนังสือเรื่องนั้น ๆ พิมพ์ครั้งใหม่ออกมา  มีการออกแบบปกใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม  พอลูกค้ารู้เขาก็จะมาตามหาซื้อที่ร้านเรา

-ที่ร้าน “บุ๊คโมบี้” นี้  ถ้าลูกค้าซื้อหนังสือครบ 600 บาท  ทางร้านเรามีบริการส่งหนังสือไปถึงบ้านให้ฟรี  ด้วยไปรษณีย์ไทย (ถ้าลูกค้าต้องการ)  รวมทั้งทุกครั้งที่ลูกค้าซื้อหนังสือในร้านของเรา  ถ้าลูกค้าต้องการซื้อหนังสือเพื่อให้เป็นของขวัญแก่ผู้อื่น  ทางร้านเรามีบริการห่อของขวัญให้ฟรีด้วย

ภาพบรรยากาศภายในร้านหนังสืออิสระ “บุ๊คโมบี้” bookmoby
   


-สำหรับราคาขายหนังสือที่ร้าน  “บุ๊คโมบี้” นี้  หนังสือทุกเล่มในร้านเราจะขายหนังสือตามราคาปกเลย  ยกเว้นว่าในบางช่วงเวลาเราจะมีโปรโมชั่นร่วมกันกับสำนักพิมพ์ต่าง ๆ  โดยลดราคาหนังสือตามที่ทางสำนักพิมพ์กำหนดให้ในแต่ละช่วงเวลาต่าง ๆ  ยกตัวอย่างเช่น  ในเดือนกรกฎาคมนี้  เรามีโปรโมชั่นร่วมกับสำนักพิมพ์อ่านอิตาลี  ที่จะลดราคาหนังสือของอ่านอิตาลีให้ 15%  ซึ่งโปรโมชั่นต่าง ๆ จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามแต่ละช่วงเวลา เพื่อเป็นการชักชวนให้ลูกค้ากับมาที่ร้านเราอีกครั้ง   (สามารถติดตามรายละเอียดของโปรโมชั่นในแต่ละช่วงเวลาได้ที่ www.facebook.com/bookmoby/ )

-นอกจากนี้เรายังมีสินค้าที่ไม่ใช่หนังสือวางจำหน่ายด้วย  แต่สินค้าเหล่านี้ก็ยังมีความต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับหนังสืออยู่ด้วยเช่น  เสื้อยืดที่วางขายเป็นเสื้อยืดใบหน้านักเขียน (วรรณกรรมระดับโลก) ที่ทางสำนักพิมพ์นั้น ๆ ทำออกมาจำหน่าย , เสื้อยืดลวดลายคำคม (Quotes) ที่อยู่ในกระแสเป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่ , กระเป๋าผ้าลายที่ระลึกจากหนังสือเล่มต่าง ๆ , สมุดบันทึก , โปสการ์ด ฯลฯ

-ร้าน “บุ๊คโมบี้” ของเราร่วมรณรงค์ลดโลกร้อนด้วยการงดให้ถุงพลาสติกสำหรับใส่หนังสือในทุกกรณี ซึ่งลูกค้าขายประจำของเราทราบดี ลูกค้าแต่ละท่านมักจะนำถุงผ้าหรือกระเป๋ามาใส่หนังสือที่ซื้อ  ยกเว้นในกรณีที่วันนั้นฝนตกหนักจริง ๆ  ทางร้านเราจะมีถุงกระดาษให้ลูกค้าใส่หนังสือ  เพื่อช่วยป้องกันหนังสือจากน้ำฝนได้บางส่วนด้วย

-รวมทั้งร้านเราเข้าร่วมกิจกรรมกับมูลนิธิวิชาหนังสือและกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม  ในโครงการวัฒนธรรมร้านหนังสือ “หนังสือเดินทางร้านหนังสือ” (book passport) ด้วย  ซึ่งเงื่อนไขเป็นไปตามรายละเอียดของโครงการเลย
 
-สำหรับรายละเอียดของโครงการวัฒนธรรมร้านหนังสือ “หนังสือเดินทางร้านหนังสือ” (book passport) ท่านที่สนใจสามารถเข้าไปชมภาพบรรยากาศของงานวันเปิดตัวโครงการฯ ได้ที่ลิงค์นี้  https://pantip.com/topic/40050430

ภาพบรรยากาศภายในร้านหนังสืออิสระ “บุ๊คโมบี้” bookmoby (ต่อ)
 


อยากให้ทุกท่านอุดหนุนซื้อหนังสือจากร้านหนังสืออิสระ  เพื่อช่วยให้ร้านหนังสืออิสระอยู่รอดครับ


พาพันชอบพาพันขอบคุณพาพันขยัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่