ขอเชิญร่วมกิจกรรม ‘หนังสือเดินทางร้านหนังสือ’ Book Passport ในโครงการส่งเสริมวัฒนธรรมร้านหนังสือ



วธ.เปิดโครงการส่งเสริมวัฒนธรรมร้านหนังสือ
ชวนนักอ่านร่วมสนุกกับกิจกรรม Book Passport 


กระทรวงวัฒนธรรม โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับ มูลนิธิวิชาหนังสือ  เดินหน้าจัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมวัฒนธรรมร้านหนังสือ เพื่อสร้างเครือข่ายร้านหนังสือและระบบวิธีการกระจายหนังสือ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มจำนวนหนังสือที่มีคุณภาพให้มากขึ้นอย่างเพียงพอและตรงตามความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งขยายพื้นที่แหล่งความรู้พื้นฐานแก่ประชาชนทั่วประเทศอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิด ณ ร้านหนังสือริมขอบฟ้า ถนนราชดำเนินกลาง กทม. 
 
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๙  กรกฎาคม  ๒๕๖๓  นายอิทธิพล  คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) ประธานเปิดโครงการส่งเสริมวัฒนธรรมร้านหนังสือ กล่าวว่า  การอ่านเป็นทักษะสำคัญยิ่งตลอดชีวิตของทุกคนด้วยจะก่อให้เกิดการวางรากฐานแห่งการคิด วิเคราะห์ สร้างจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์  นอกจากนี้ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาคนที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ  ซึ่งประเทศไทยได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์  โดยมีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาคนในทุกมิติและทุกวัย ให้เป็นคนมีคุณภาพรู้จักรับผิดชอบสังคมและผู้อื่น มีนิสัยรักหนังสือและใฝ่ใจการเรียนรู้ การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ร้านหนังสือเล็กๆที่มีขึ้นในชุมชนต่างๆ จึงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาชาติที่ขาดเสียมิได้เช่นกัน ดังนั้นการสร้างสังคมนักอ่านและการเรียนรู้จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวบรรลุเป้าหมายอย่างแท้จริง

 
นายอิทธิพล  คุณปลื้ม 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.)

"สำหรับโครงการวัฒนธรรมร้านหนังสือ เป็นโครงการสนับสนุนร้านหนังสืออิสระให้เป็นสถานที่ส่งเสริมการอ่าน และแหล่งเรียนรู้พื้นฐานอันสำคัญของชุมชน ด้วยเหตุที่ร้านหนังสืออิสระดำเนินการโดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ซึ่งไม่เคยได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากภาครัฐและภาคส่วนอื่นๆอย่างจริงจัง  ร้านหนังสืออิสระเหล่านี้มีอุดมคติในการดำเนินงานอันเกิดขึ้นด้วยความรักหนังสือเป็นสำคัญ  ดังนั้นร้านหนังสืออิสระจึงแตกต่างกับร้านหนังสือใหญ่     เช่น เชนสโตร์ หรือบริษัทขนาดใหญ่ ที่มีอำนาจในการคัดเลือกหนังสือเพื่อวางจำหน่ายในร้านได้มากกว่า   จึงจำเป็นต้องเปิดโอกาสให้ร้านหนังสืออิสระทั่วประเทศ  มีสถานะมั่นคงขึ้นด้วยนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล เพื่อจะเป็นฐานของสำนักพิมพ์ นักเขียน นักแปล บรรณาธิการ และอาชีพอื่นๆมากหลายที่เกี่ยวข้อง  พร้อมทั้งขยายพื้นที่แหล่งความรู้พื้นฐานแก่ประชาชนทั่วประเทศอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง นอกจากนี้ร้านหนังสืออิสระยังจัดกิจกรรมต่างๆได้สะดวกและคล่องตัว เช่น การเสวนา อภิปรายในกลุ่มผู้ที่มีความสนใจใกล้เคียงกันในเรื่องรางต่างๆอันจะก่อประโยชน์แก่ชุมชนและสังคม อีกทั้งเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การแสดงความคิดเห็น ความคิดสร้างสรรค์อันจะพัฒนาบ้านเมืองได้โดยง่าย    กระทรวงวัฒนธรรม หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการวัฒนธรรมร้านหนังสือ  ซึ่งเริ่มด้วยหนังสือเดินทางร้านหนังสือ หรือBook Passport นี้ จะเป็นโครงการริเริ่มเพื่อส่งเสริมให้ร้านหนังสืออิสระที่มีอยู่ในประเทศไทย เป็นที่รู้จักแพร่หลาย เกื้อหนุนให้ดำเนินกิจการอย่างมั่นคงและรุ่งเรือง เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองด้วยความรู้สืบไป" รมว. วธ.กล่าว

นายชาย นครชัย 
อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.)

ด้าน นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า 

"ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๐ เห็นชอบแผนแม่บทส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สู่สังคมแห่งการเรียนรู้ของไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ถึง ๒๕๖๔ โดยสวธ. ได้ร่วมกับทุกภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ชุมชน และท้องถิ่น และบุคคล ในการขับเคลื่อน ส่งเสริม และสร้างกระแสรณรงค์การส่งเสริมการอ่าน ในรูปแบบต่างๆ อาทิ โครงการยกย่องบุคคล  องค์กรต้นแบบ ในการส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน  เพื่อช่วยสร้างขวัญและกำลังใจ แก่ผู้ที่เป็นกำลังสำคัญ ในการส่งเสริมและผลักดันให้เกิดวัฒนธรรมการอ่านในสังคมไทย  โครงการหนังสือติดดาว เพื่อแนะนำหนังสือดีแก่ผู้อ่าน  และในปี ๒๕๖๓  สวธ.ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมวัฒนธรรมร้านหนังสือ  นำร่องด้วยกิจกรรม Book Passport เชิญชวนนักอ่านร่วมสนุกกัน"


อาจารย์มกุฏ  อรฤดี  
เลขานุการมูลนิธิวิชาหนังสือ 

ด้านอาจารย์มกุฏ  อรฤดี  เลขานุการมูลนิธิวิชาหนังสือ กล่าวถึงรายละเอียดของกิจกรรม Book Passport ว่า    นักอ่านที่สนใจร่วมกิจกรรมต้องลงทะเบียนหมายเลขเล่ม Book Passport ทางออนไลน์ ตามลิงค์ที่ปรากฏในเล่มหรือในเพจ www.facebook.com/BookPassportTH  โดยประทับตราจากร้านหนังสืออิสระที่เข้าร่วมโครงการซึ่งสังเกตได้จากโปสเตอร์สัญลักษณ์โครงการฯที่ติดไว้ที่หน้าร้านหนังสืออิสระ เมื่อซื้อหนังสือที่ร้านหนังสือ พร้อมระบุ วัน เดือน ปี ที่ประทับตรา จึงจะสามารถมีสิทธิ์ในการจับสลากลุ้นรับรางวัลและของที่ระลึกในแต่ละเดือน ได้แก่ บัตรซื้อหนังสือ ร้านหนังสืออิสระทุกร้าน มูลค่า ๑,๐๐๐ บาท จำนวน ๕ รางวัล ทุกเดือน และลุ้นรับรางวัลรอบ ๖ เดือน ได้แก่ รางวัลที่ ๑ ตั๋วเครื่องบิน พร้อมที่พัก บัตรซื้อหนังสือรวมมูลค่า ๒๐,๐๐๐ บาท จำนวน ๑ รางวัล  รางวัลที่ ๒ บัตรซื้อหนังสือมูลค่า ๓,๐๐๐ บาท จำนวน ๒ รางวัล และรางวัลที่ ๓  บัตรซื้อหนังสือ มูลค่า ๑,๐๐๐ บาท จำนวน ๕ รางวัล

ทั้งนี้  ผู้ที่สนใจร่วมสนุกกับกิจกรรมสามารถขอรับ Book Passport ได้ที่ร้านหนังสืออิสระใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการฯ  อาทิ ร้านบุ๊คส์แอนด์บีลองกิ้งส์  ร้านแมวไทย  ร้านหนังสือเดินทาง  ร้านหนังสือน้ำพุบุ๊คสโตร์ ร้านเดอะบุ๊คส์  ร้านดีเคบุ๊คส์ ร้านเล่า เป็นต้น  ติดตามรายชื่อร้านและข่าวสารเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/BookPassportTH หรือ www.culture.go.th/culture_th



คลิปบันทึกพิธีเปิดงานโครงการส่งเสริมวัฒนธรรมร้านหนังสือ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


คลิปบันทึกการสัมภาษณ์ในพิธีเปิดงานแถลงข่าว Book Passport 'หนังสือเดินทางร้านหนังสือ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



รายชื่อร้านหนังสืออิสระ 
ที่ร่วมโครงการวัฒนธรรมร้านหนังสือ 
Book Passport ล่าสุด 
 
วันพฤหัสบดี ที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๐:๐๐ น. โครงการ Book Passport จะเกิดขึ้นในร้านหนังสืออิสระทั่วประเทศตามรายชื่อ
 
ซื้อหนังสือครบ ๓๐๐ บาท รับสมุด Book Passport ๑ เล่ม  พร้อมรับสมุดบันทึกโควิด-19 อีก ๑ เล่ม
 
ซื้อเสร็จก็ลงทะเบียนเป็นสมาชิก รอลุ้นรางวัลในเดือนต่อไป
 
  ๑. ร้านหนังสือ เปียบุ๊คส์ (PIA BOOKS)  กรุงเทพฯ
  ๒. ร้านหนังสือเดินทาง (Passport Bookshop) กรุงเทพฯ 
  ๓. ร้านหนังสือริมขอบฟ้า (Rimkhobfa Bookstore) กรุงเทพฯ
  ๔. ร้านหนังสือ สวนเงินมีมา กรุงเทพฯ
  ๕. ร้านหนังสือ A book with no name กรุงเทพฯ
  ๖. ร้านหนังสือ Books & Belongings กรุงเทพฯ
  ๗. ร้านหนังสือ Bookmoby กรุงเทพฯ
  ๘. ร้านหนังสือ BooksBerry กรุงเทพฯ
  ๙. ร้านหนังสือ Fathom Bookspace กรุงเทพฯ
๑๐. ร้านหนังสือ House of Common กรุงเทพฯ
๑๑. ร้านหนังสือ Mali Mali Book Café กรุงเทพฯ
๑๒. ร้านหนังสือ World at the corner กรุงเทพฯ
๑๓. ร้านหนังสือ Zombie Books กรุงเทพฯ
๑๔. ร้านหนังสือ Booktopia อุทัยธานี
๑๕. ร้านหนังสือท้ายตลาด หนองมน ชลบุรี
๑๖. ร้านหนังสือประณอม ชลบุรี
๑๗. ร้านหนังสือสุนทรภู่ ระยอง
๑๘. ร้านหนังสือ คาฟคาเฟ่ (กาแฟและหนังสือ) สังขละบุรี
๑๙. ร้านหนังสือ ‘ร้านเล่า’ เชียงใหม่
๒๐. ร้านหนังสือฮ้านปันนา PannaBook Cafe’ เชียงใหม่
๒๑. ร้านหนังสือ The Booksmith เชียงใหม่
๒๒. ร้านหนังสือเล็กๆ ที่รัก (Little Lovely Bookshop) ลำปาง
๒๓. ร้านหนังสือ Abdul ขอนแก่น
๒๔. ร้านหนังสือ Somjing (ห้องหนังสือสมจริง) ขอนแก่น
๒๕. ร้านหนังสือ Wandering Cat Books & Bar (แมวรอนแรม) ขอนแก่น
๒๖. ร้านหนังสือ Wild Dog Bookshop ขอนแก่น
๒๗. ร้านหนังสือ 10 mm. นครราชสีมา
๒๘. ร้านหนังสือน้ำพุ บุ๊คสโตร์ บุรีรัมย์
๒๙. ร้านหนังสือฟิลาเดลเฟีย อุบลราชธานี
๓๐. ร้านหนัง (สือ) 2521 ภูเก็ต
๓๑. ร้านหนังสืออธิษฐาน บุ๊คสโตร์ ภูเก็ต
๓๒. ร้านหนังสือเล็กๆ สงขลา
๓๓. ร้านหนังสือ Greenbook Cefe-Space หาดใหญ่
๓๔. ร้านหนังสือสาทรบุ๊คเซ็นเตอร์ 2529 สุราษฎร์ธานี
๓๕. ร้านหนังสือชื่นใจ บุ๊คช้อป สังขละบุรี
๓๖. ร้านหนังสือ The Reader จันทบุรี
๓๗. ร้านหนังสือเพื่อนการ์ตูน จันทบุรี
๓๘. ร้านหนังสือบูรพาสาส์น กรุงเทพฯ

โครงการวัฒนธรรมร้านหนังสือ Book Passport 
และ สมุดบันทึกโควิด 
คือส่วนหนึ่งของแนวคิด “วัฒนธรรมหนังสือแห่งชาติ”
 
เพื่อสนับสนุนให้ร้านหนังสืออิสระร้านเล็ก ๆ อยู่ได้ ขยายกว้างออกไปทั่วประเทศ เพื่อเป็นศูนย์รวมความรู้ในระบบความรู้พื้นฐานของประชาชน
 
ร้านหนังสืออิสระเปรียบเสมอร้านหนังสือกลาย ๆ ในชุมชนและท้องถิ่น จึงเป็นเสมือนเครื่องมือส่งเสริมการอ่านของรัฐ
 
โครงการนี้ชักชวนให้คนทั่วไปเข้าร้านหนังสือ โดยใช้เครื่องมือหนังสือเดินทาง มอบรางวัลทุกเดือน และรางวัลใหญ่ทุก 6 เดือน 
 
การขยายขอบเขตร้านหนังสือทั่วประเทศ ย่อมเป็นผลดีต่อการอ่านของชาติ และส่งผลต่ออาชีพที่เกี่ยวข้องกับการผลิตหนังสือ นับด้วยหลายสิบอาชีพ 
 
หากมีร้านหนังสือทั่วถึงในประเทศ จะขยายงาน และเพิ่มพูนรายได้แก่ผู้คนจำนวนหลายหมื่นคน ในแต่ละปีตะเพิ่มพูนรายได้แก่ผู้เกี่ยวข้องและคนไทยทั่วประเทศนับแสนล้านบาท ด้วยเหตุระบบความรู้ประชาชาติ
 
ในโครงสร้างวัฒนธรรมร้านหนังสือของชาติ ยังมีโครงการแปลหนังสือ วรรณคดี และวรรณกรรมแห่งชาติอาเซียน ทุกชาติ เป็นภาษาไทย ซึ่งบัดนี้ทุกชาติ ทุกประเทศได้ตอบรับที่จะร่วมมือดำเนินงานเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด 
 
โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซียได้ขอให้โครงการแปลหนังสือ วรรณคดี และวรรณกรรมแห่งชาติอาเซียน เป็นสัญลักษณ์แสดงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินโดนีเซียครบ 70 ปี
 
เป้าหมายการแปลหนังสืออาเซียนปีนี้-ปีหน้า ประเทศละ 10 เล่ม รวม 90 เล่ม และปีต่อๆ ไปจะทวีขึ้นจนถึงประเทศละ 50 เล่ม

พาพันขยันพาพันเคลิ้มพาพันชอบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่