อย่างที่บอก DTAC ขี้เกียจแต่ฉลาด สมควรเลี้ยงไว้ ขงจื้ออาจเคยกล่าว

สร้างความวุ่นวายทุกวัน... ตัวเลขผลประกอบการดีขึ้น กลัวหุ้นจะขึ้น...หรือครับท่าน มีคนเคยพูดไว้ว่า "เราต้องการคนที่ฉลาด ขยัน และซื่อสัตย์มีคุณธรรม แต่ถ้าไม่มีข้อสุดท้าย เราก็อยากให้เขาโง่และขี้เก

ขงจื้อกล่าวไว้เมื่อหลายพันปีก่อน ฉลาด และขยัน ส่งไปเป็นแม่ทัพคุมศึก ฉลาด และขี้เกียจ ให้วางแผนอยู่ที่เมืองเป็นเสนาธิการ โง่ และขี้เกียจ เก็บไว้ใช้งานได้เล็กๆน้อยๆก็พอได้ โง่ และขยัน เอาไปตัดหัว

"ขงจื๊อ"เคยกล่าวไว้ว่าเจอคนโง่และขยัน ให้ตัดหัวทิ้ง เพราะทำให้งานเสีย และก่อความเดือดร้อนไม่รู้จบ ขงจื้อเคยกล่าวไว้ คนฉลาดและขยัน ควรส่งเสริมให้เป็นแม่ทัพ, คนฉลาดและขี้เกียจ ควรเลี้ยงไว้เป็น

พอดี อ่านกระทู้ฮอต http://pantip.com/topic/32463688 แล้วนึกถึง factor ของการบริหารงาน หรือกระทั่งทำงานที่อาจจะจัดได้เป็น 2 คู่ คือ "โง่, ฉลาด" กับ "ขยัน, ขี้เกียจ" ซึ่งเมื่อมาไขว้ก

สวัสดีคับ เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะคับ วันไหนขยันทำงาน ประกอบงานขายออนไลน์ ขยันทำแล้วนอนดึกๆ ตื่นเช้ามาได้ลูกค้าตลอด แบบว่า4-5วันติดต่อกันก็เคย เลยคิดว่าท่านเทวดา ท่านดูเราอยู่ตลอด ท่านจะช่วยเฉพาะตอนที่

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้มีเรื่องจะปรึกษาหน่อย เป็นเรื่องเกี่ยวกับการคิด ทัศนคติ! ของแต่ละคน  สำหรับทุกคนแล้ว การที่เราเลือกทำงานในที่ที่มันโอเค ตำแหน่งใดๆ ไหวแค่นี้ และไม่อยากเรียนรู้อะไรเพิ่ม

เคยมีปราชญ์หลายๆคนจำแนกบุคคลไว้ ทั้งกูรู ก็พูดบอก น่ะ ผู้บริหารที่ฉลาดแต่ขี้เกียจจะบริหารองค์กรได้ดีกว่าผู้บริหารที่โง่แต่ขยัน จากหลักฐานที่ปรากฎทั่วไปพบว่า วิบัติขององค์กรนั้นมักเกิดขึ้นจากบุคคล 3 ป

คือยายบอกเราว่าเราอ่ะฉลาดแต่ขี้เกียจแบบนี้ไม่มีทางรุ่งหรอกไม่มีใครเขาเอาหรอก พ่อก็ว่าเราเราเลยตั้งคำถามกับพ่อว่าฉลาดกับขี้เกียจและโง่แต่ขยันอันไหนดีกว่าพ่อเราบอกโง่แต่ขยันดีกว่าเพราะคนโง่ถึงขยันอ่านหน