ชีวิตขาลงไม่คิดไม่ฝันว่าจะต้องขึ้นศาล

เนื่องจากที่บ้านมีหนี้สินกู้มาใช้ในการทำธุรกิจแล้วขาดทุน
บัตรเครดิต หลายใบ ตีคร่าวๆ ห้าแสนบาท ไม่รวมดอกเบี้ย
หนี้จากการรีไฟแนนซ์รถยนต์ 2คัน ประมาณ ห้าแสนบาทยังไม่รวมดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่างๆ เบ็ดเสร็จแล้วมีหนี้อยู่ที่1.4ล้าน
ประเมินจากสภาพคล่องทางการเงินตอนนี้ฝืดมากไม่สามารถจ่ายเจ้าหนี้ได้ เจ้าหนี้เริ่มฟ้องเข้ามาแล้ว1เจ้า ทุนทรัพย์อยู่ที่ 428000 บริษัททิสโก้ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ มีนัดจะต้องไปไกล่เกลี่ยศาลเดือนสิงหาคมนี้
ยอดเงินกู้ 510000 
ดอกเบี้ย 14.21 ต่อปี
ชำระไปแล้ว233140 ตัดต้นตัดดอก219540
                              ตัดค่าติดตาม ค่าทวงถาม 13600
ตั้งฟ้องที่428000
โทรติดต่อไฟแนนซ์เรียกปิดบัญชีที่ 440000 ซึ่งตอนนี้หาไม่ได้เลย ดอกเบี้ยโหดค่าธรรมเนียมโหดมาก

คำถามที่อยากจะสอบถามเพื่อนสมาชิกที่มีประสบการณ์
1.เราสามารถต่อรองขอลดดอกเบี้ยที่ศาลได้ไหม
2.ไปเจรจาไกล่ในศาลเราจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
3.บ้านที่ไม่มีโฉนดที่ดิน กรรมสิทธิ์ของเรา แต่จ่ายค่าเช่าเทศบาลทุกๆเดือน ศาลสามารถบังคับเอาได้ไหม
4.ขั้นสุดท้ายหากศาลสั่งพิจารณายึดทรัพย์สามารถยึดเอาที่ดินชื่อพ่อที่เสียไปแล้วแต่ยังไม่ได้โอนให้เราได้ไหม  ปล.พ่อเสียไปเกือบ10ปียังไม่ได้แต่งตั้งผู้จัดการมรดก ไม่ได้ทำการใดๆทั้งสิ้น

หลังจากเล่าเรื่องนี้ให้แฟนฟังแล้วเขาดูเปลี่ยนไปจากเดิมมาก บอกกันสั้นๆว่าอยาก​อยู่​คนเดียว ทั้งๆที่เราผ่านอะไรกันมามากมาย เจอแบบนี้จุกเลยค่ะ

ทุกๆวันไม่มีรายรับเข้ามาเลย อาศัยยืมจากพี่น้องพอประทังเป็นช่วงที่แย่ที่สุดในชีวิตเลยค่ะ มองไปไหนก็ไม่เห็นทาง วอนเพื่อนๆสมาชิกช่วยแนะนำด้วยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
มันจะเครียดช่วงแรกแหละ เดี๋ยวก็หาย คดีแบบนี้ มันอยู่ที่ความคิด ถ้าคิดได้ก็หายจิตตก ถ้าคิดไม่ได้ก็ซื้อเตาถ่าน

ผมผ่านมาแล้ว google มี search ไปสิครับ มีทนายบางท่านให้คำแนะนำที่ดี เหมือนพระเจ้ามาโปรด แต่ก็มีนักกฏหมายอีกกลุ่มให้คำแนะนำประหนึ่งว่า "ยังไง ม รึ มก็ต้องไปซื้อเตาถ่าน ไม่มีทางอื่นหรอก" ผมจำได้ อ่านแล้วยังแค้นใจมันอยู่เลย

ประสบการณ์ชีวิต คดีทางแพ่ง อย่างมากก็ล้มละลาย คนจนหน้าบาง คนรวยล้มละลายออกหนังสือพิมพ์โครมๆ นั่งหัวเราะกิ๊กๆ มีนะ แต่ไม่จ่าย ซุกดีกว่า แต่คนจยอ๊ายอาย ทั้งๆที่ก็ม่ได้ลงหนังสือพิมพ์ ซักกะหน่อย

บ้านไม่มีโฉนด ไม่ยึด ที่ดินพ่อ อย่าโอนมา โอนมาก็ยึด โอนให้ลูกคนอื่นไป ไปนี่งกินข้าวต้มให้สบายใจ ใครอยากฟ้องเชิญ มีอารมณ์ก็ไปศาล ไม่มีอารมณ์ก็ไม่ต้องไป

ฟันธง ล้มละลาย แน่นอน รายงานตัวก็ล้ม 3 ปี หายหัวไปเลย ก็ล้ม 5 ปี แบล็คลิสตลอดชีวิต มีเงินเมื่อไหร่ เจ้าหนี้เอาแน่นอน ดังนั้น ก็อย่ามีเงินที่ตัว จบ  

อ้อ ลืม อย่าคิดถ่ายโอนทรัพย์สินเด็ดขาด มีอะไรตอนนี้ก็ให้เขายึดไป มิเช่นนั้นจะเปลี่ยนแพ่งเป็นอาญา ได้ไปกินข้าวต้มในซังเตแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่