รถลื่น Black Ice บนถนนที่เกาะใต้ นิวซีแลนด์ ...By Pla Gallery

สวัสดีค่า ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อน ชื่อปลานะคะ ปัจจุบันแต่งงาน มีลูกสองคนแล้วค่ะ อาศัยอยูในเมืองเล็กๆบนเกาะใต้  ที่ชื่อว่า Fairlie  ในประเทศนิวซีแลนด์ค่า
  
   เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ปลารู้สึกตกใจที่สุดในชีวิต..เสียใจที่สุดในชีวิตและดีใจที่สุดในชีวิตภายในวันเดียวเลยค่ะ.. ฟังดูแล้วอาจจะงงว่าเป็นไปได้ยังไง ? ปลาจะเล่าให้ฟังค่ะ 



   วันเสาร์ที่ผ่านมา ปลาขับรถพาเด็กๆไปเมืองTimaru ที่อยู่ห่างจากเมือง Fairlie ประมาณ 50km เพื่อไปงานวันเกิดลูกสาวคนเล็กของน้องสาวพี่ลุค (สามี)
 
     ปลาก็ขับไปเรื่อยๆจนผ่านไปครึ่งทาง แล้วปลาก็รู้สึกหนาวขึ้นมาเหมือนคนจะเป็นไข้ เลยจะจอดรถข้างทางหาเสื้อแจ๊คเกทใส่  ปลาไม่รู้เลยค่ะว่าถนนตรงนั้นมันเลื่อนมาก ปลาก็เหยียบเบรคเพื่อชลอความเร็ว แต่มันกลับเพิ่มความเร็วมากขึ้น และนั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ปลาจำได้..

    และสิ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหุตครั้งนี้ก็คือ
“BLACK ICE” คือถนนที่มีแผ่นน้ำแข็งบางๆปกคลุม จะมีลักษณะเหมือนกับถนนลาดยางตอนที่ฝนตกคือเป็นสีเทาเข้ม แต่จะถนนอันนี้จะมีความลื่นมากค่ะ จะมีโอกาสเกิดขึ้นมากเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาวตอนกลางคืนจนถึงช่วงเช้า แล้วก็จะมองไม่เห็นจากไกลๆค่ะ 
  
  พอรู้สึกตัวอีกที ปลานั่งอยู่ในรถที่มีกระจกแตกรอบตัว มีต้นไม้หักล้มทับอยู่บนหลังคารถ นี่คืออะไร ??ฝันใช่ไหม?? 



    ปลาพยามจะตื่นค่ะแต่มันไม่ได้ผล ปลารู้แล้วว่านี่คือเรื่องจริง ปลาเห็นพี่แคร์นั่งอยู่ข้างๆ 
  
พี่แคร์หนูเป็นอะไรไหม? เจ็บตรงไหนหรือป่าว? ตอนนั้นปลากลัวมากเลยค่ะ กลัวว่าพี่แคร์จะพูดไม่ได้ 😭 
 
 พี่แคร์ตอบกลับ  " หนูไม่เป็นไรแม่จ๋า แต่ว่าขาข้างนึงติดขยับไม่ได้ " 
   
   พี่แคร์โอเค แล้วเจ๊คกี้หล่ะ ? ปลาพยามหันไปดูข้างหลัง ซึ่งตอนนั้นขยับตัวยากมากเลยค่ะ มีเหล็กหักรอบตัวไปหมด อ้าว เจ๊คกี้ไปไหน? ปลาตกใจมากเลยค่ะ หันดูรอบตัว แล้วปลาก็เห็นเจ๊คกี้วิ่งอยู่นอกรถ ด้วยเลือดกำเดาไหลเต็มหน้า



   ปลาก็รีบหาทางออกจากรถเลยค่ะ แต่ว่าประตูข้างๆเปิดไม่ได้ เลยต้องปีนข้ามมาเบาะหลัง แล้วก็บีบตัวรอดประตูฝั่งขวาที่เจ๊คกี้เปิดทิ้งไว้ออกมา 
   พอเจ๊คกี้เห็นปลาออกมาจากรถ ก็รีบวิ่งมาหา ..ปลาถามว่าเป็นไงบ้าง หนูเจ็บตรงไหนหรือป่าว? เจ๊คกี้บอกมีเจ็บตรงขากับที่หลังแต่ไม่เยอะเท่าไหร่ ส่วนเลือดกำเดานี่ไหลเพราะหนูตกใจ ไม่ได้ชนกับอะไร แม่จ๋าไม่ต้องตกใจ 
   
   ตอนหลังปลามารู้ว่าพอรถชนปุ๊ป ปลากับพี่แคร์ก็หมดสติค่ะ มีเจ๊คกี้คนเดียวที่ยังรู้สึกตัว เจ๊คกี้เล่าให้ฟังว่า 
  " แม่จ๋ามุมที่พวกเราชน คนบนถนนใหญ่ไม่เห็นแน่นอน หนูก็เลยรีบวิ่งออกไปที่ถนนใหญ่ แล้วยกนิ้วโป้งขึ้นเพื่อขอความช่วยเหลือ "

   พอฟังถึงตรงนี้ปลาน้ำตาไหลเลยค่ะ คิดไม่ถึงเลยว่าเด็ก 8 ขวบเป็นฮีโร่ช่วยแม่กับพี่สาวได้ถึงขนาดนี้ 
   
   ตอนที่ปลาออกมาจากรถ ก็เริ่มเห็นคนเดินเข้ามาหา ตอนนั้นปลาก็ยังมึนๆอยู่นะคะ ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าต้องโทรหาพี่ลุค พอพี่ลุครับสายปลาก็ถามว่าตอนนี้อยู่บ้านหรือป่าว พี่ลุคบอกใช่ มีอะไร? 
   ปลาบอกว่าตอนนี้รถชนนะ พี่ลุคมาเล่าให้ฟังที่หลังว่าตอนแรกที่ฟัง นางนึกว่าปลาไปเฉี่ยวต้นไม้ หรือว่ารถคันอื่น บุบเล็กน้อย นางเลยดูไม่ค่อยตกใจ 
   ปลาบอกต่อว่า รถชนอยู่แถวนี้นะ ตอนนี้เจ็คกี้เลือดกำเดาไหลเต็มหน้าเลย ส่วนพี่แคร์ยังติดอยู่ในรถออกมาไม่ได้ เท่านั้นแหล่ะคะ พี่ลุคตะโกน 
What !! wait there ..will be there soon 
   
   พอคุยกับพี่ลุคเสร็จปลาก็พยามตั้งสติค่ะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น นี่คือเรื่องจริงใช่ไหม? แล้วปลาก็เห็นรถพยาบาล เห็นรถดับเพลิง เห็นพนักงานจากรถดับเพลิงมากกว่าสิบคน พยามจะตัดครึ่งต้นไม้ที่ทับอยู่บนหลังคา ปลายืนมองพี่แคร์ด้วยความสงสารแบบใจจะขาด ทำไมปลาไม่ติดอยู่ตรงนั้นแทนพี่แคร์ 



 ปลาจำได้ว่าพนักงานรถดับเพลิงถามว่าคนขับอยู่ไหน ? ปลาก็ตะโกนตอบไปว่า " ฉันนี่แหละคนขับ"  เท่านั้นแหละค่ะ ทุกคนก็รุมเข้ามา เธอออกมาได้ไงเนี่ย นั่งลงเดี๋ยวนี้เลย เธอไม่ควรขยับเลยนะ ? แล้วเธอไม่เจ็บเหรอ ? เออจริงด้วย ทำไมไม่เจ็บ??

     พยาบาลถามว่าเธอจะไปที่รถพยาบาลกับฉันไหม หรือว่าเธอจะอยู่ดูลูกเธอก่อน ถ้าเธอจะอยู่ เธอนั่งลงแล้วอย่าขยับเยอะนะ ปลาตอบไปว่า "ฉันจะอยู่" 
  
    ซักพักพี่ลุคก็มาค่ะ พอปลาเห็นพี่ลุคปุ๊ป เชื่อไหมคะว่า ปลารู้สึกเจ็บขึ้นมาทันที ..เจ็บหลัง.. เจ็บคอ ..เจ็บขา ..เจ็บเอว ..เจ็บคาง ..พอจับที่คางก็รู้สึกเหนียวๆ เหมือนมีเลือดแล้วก็น้ำอะไรก็ไม่รู้ มารู้ทีหลังว่ามันคือแผลไหม้ ซึ่งอาจจะถูกับพวงมาลัย..เข็มขัดนิรภัย หรือไม่ก็ถุงลมนิรภัย 
   
  พยาบาลบอกปลาว่าสามีเธอมาแล้ว เธอไปกับฉันได้แล้วนะ ปลาก็ตอบ ok ..ตอนที่ปลาจะลุกขึ้นยืนต้องให้พนักงานดับเพลิงสองคนมาช่วยกันประคอง เพราะตอนนั้นเดินไม่ไหวแล้วจริงๆค่ะ 
   พอไปถึงรถพยาบาล พยาบาลบอกให้นอนลงแล้วห้ามขยับ เวลามีใครถามอะไรให้พูดอย่างเดียว ห้ามขยับหน้าเข้าใจไหม? ปลาก็พยักหน้าตอบ yes !!  พยาบาลก็รีบดุเลยค่ะ  ยังไม่ทันไรเธอก็พยักหน้าแล้ว 😡   Oop..Sorry😅
  
    หลังจากนั้นก็มีตำรวจมาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น กินเหล้าไหม ..กินค่ะ..แล้วกินครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? ..จำไม่ได้ค่ะปลาตอบ ตำรวจฟังแล้วก็แอบขำ 
   อย่างที่ปลาได้บอกไปในตอนแรกว่าพวกเราจะไปขับรถไปงานวันเกิด เพราะฉะนั้นพ่อแม่ของพี่ลุค และน้องสาวอีก 4 คนอยู่ที่ในบริเวณใกล้เคียงอยู่แล้ว  พอรู้ว่ามีอุบัติเหุตทุกคนก็รีบมา ต่างคนก็ต่างแยกกันไปทำหน้าที่ น้องสาวพี่ลุคขึ้นรถมากับปลาคนนึง 


     ตอนอยู่บนรถพยาบาลสอบถามข้อมูลส่วนตัวว่า ปลาชื่ออะไร? อายุเท่าไหร่? น้องสาวพี่ลุคก็หวังดีช่วยตอบแทน พยาบาลหันมาแอบดุ  " เธอห้ามตอนแทนนะ เพราะที่ฉันถามมันมีเหุตผล ฉันจะทดสอบว่าความทรงจำเค้ายังดีอยู่ไหม? "  โอ้ว I'm sorry  น้องสาวพี่ลุครีบขอโทษ 
   หลังจากนั้นไม่นาน พนักงานดับเพลิงก็ช่วยพี่แคร์ออกมาค่ะ พวกเราไปโรงพยาบาลด้วยรถคนละคัน 




   พอถึงแผนกฉุกเฉิน ทั้งหมอทั้งพยาบาลก็พากันรุมเข้ามาเลยค่ะ ปลากับพี่แคร์ได้รับคำสั่งเหมือนกันคือให้นอนนิ่งๆห้ามขยับจนกว่าจะเห็นผลแสกน พวกเรานอนอยู่ห้องเดียวกันค่ะ คั่นกันด้วยผ้าม่านหนึ่งผืน ตอนนั้นเจ็คกี้ก็อยู่ในห้องด้วยค่ะ ถึงแม้ว่าจะดูไม่เจ็บมากนัก แต่ก็จะต้องเข้าเครื่องแสกนเหมือนกัน 
   
   แล้วพวกเราก็แยกกันไปเข้าเครื่องแสกนค่ะ ผลสรุปออกมาว่าข้างในพี่เจ็คไม่เป็นอะไรเลย ส่วนพี่แคร์มีกระดูกข้อเท้าข้างขวาแตก นอกนั้นก็ไม่เป็นอะไร ส่วนปลาข้างในก็ไม่มีอะไรแตกค่ะ นอกจากรอยช้ำรอบตัวซึ่งหนักหนาสาหัสเอาการ 

 
   
   ตอนที่เกิดเหุตคือวันเสาร์ น่าจะประมาณเกือบ 11 โมงเช้าค่ะ แล้วปลากับพี่เจ๊คก็ได้ออกจากโรงพยาบาลช่วงทุ่มนึง ..ส่วนพี่แคร์จะต้องนอนรอการผ่าตัดค่ะ ซึ่งยังผ่าเลยไม่ได้ ต้องรอให้ขาหายบวมก่อน 
   
  แล้วพี่แคร์ก็ได้เข้าผ่าตัดวันจันทร์ตอนเย็นค่ะ ใช้เวลาสองชั่วโมงเต็ม พี่แคร์ออกมาดูโล่งใจขึ้นเยอะเลยค่ะ ตอนก่อนเข้าไปแอบมีความกลัวอยู่บ้าง แต่ว่าไม่เยอะมากนัก เพราะที่โรงพยาบาลเค้าจะส่งหมอมาคุยก่อนค่ะ มีหมอที่จะวางยาสลบแล้วก็หมอที่จะผ่า หมอทุกคนพยายามจะทำความคุ้นเคยกับเด็ก โดยการเล่นตลกให้เด็กดู เพื่อเวลาที่เด็กเข้าไปในห้องผ่าแล้วเจอแต่หมอที่คุ้นเคยจะได้ไม่รู้สึกกลัว


 
   สำหรับเหุตการณ์ครั้งนี้ ทำให้ปลารู้สึกตกใจที่สุดในชีวิตกับรถชน ..แล้วก็ทำให้ปลารู้สึกเสียใจที่สุดในชีวิต ที่เด็กๆต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ ..แต่สุดท้ายปลาก็ดีใจที่สุดในชีวิตค่ะ ที่ทุกคนยังมีชีวิตอยู่ แล้วก็ไม่เป็นอะไรร้ายแรง รู้สึกดีใจที่ต้นไม้ต้นนั้นไม่ได้หล่นลงมาทับหัวปลาหรือว่าเด็กๆ รู้สึกดีใจที่กระจกไม่ได้แตกไปจิ้มโดนใคร..แล้วก็ไม่ได้ทำให้คนอื่นบนถนนพลอยบาดเจ็บไปด้วย

   และพอยิ่งได้เห็นสภาพรถที่ชน ปลาก็ยิ่งรู้สึกดีใจในความโชคดีของพวกเราจริงๆค่ะ ..ทุกคนที่เห็นสภาพรถต่างพูดเหมือนกันว่า พวกเธอรอดมาในสภาพนี้ได้ยังไง ? 
   
   หลังจากนี้เป็นต้นไป ก็คงต้องใช้เวลารักษาตัวกันยาวๆ พี่แคร์จะต้องใช้ไม้พยุงอย่างน้อยๆก็ 6 อาทิตย์ 
   ส่วนปลาก็หวังว่าจะฟื้นคืนสภาพได้อย่างเร็ว ซึ่งหมอบอกว่าอย่างน้อยๆก็ 2-3 อาทิตย์ ปลาอยากจะมีพลังกลับมาดูแลพี่แคร์ไวๆ ตอนนี้แค่จะขยับตัวยังลำบากเลยค่ะ😣 แต่ก็ยังโชคดีนะคะที่มือไม่เป็นอะไร เลยพอพิมพ์ได้บ้าง😅







 จากประสบการณ์ของอุบัติเหุตที่ผ่านมา ปลาอยากจะบอกว่าการคาดเข็มขัดนิรภัยนี่สำคัญจริงๆนะคะ รอยช้ำบนตัวปลาที่เห็นได้ชัดและเจ็บที่สุดตอนนี้ก็คือตรงที่คาดเข็มขัดนิรภัยค่ะ รู้เลยว่าตอนที่รถชนนั้นเข็มขัดดึงไว้แรงขนาดไหน? 
  
   แล้วถ้าไม่ได้คาดหล่ะ ..จะกระเด็นออกไปไกลแค่ไหน? หรือจะถูกกระแทกแรงแค่ไหน? อุบัติเหตุเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อย่าคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวเลยค่ะ ..ปลาขอฝากไว้ด้วยนะคะ ❤
   
   🕔 อาทิตย์ต่อมาปลากับเด็กๆพากันไปหาหมอในเมือง Fairlie มาค่ะ (เมืองเล็กๆที่พวกเราอยู่) 



  คราวนี้หมอโทรมาตามเองเลย นางบอกฉันอยากเจอพวกเธอ แหม๊ !! รู้สึกว่าสำคัญขึ้นมาทันที😂 
   พอไปถึงหมอก็ดูพี่แคร์ก่อน บอกว่าดูเรียบร้อยดี ..ดูเจ๊คกี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

   แล้วก็มาดูปลาเป็นคนสุดท้าย หมอก็เริ่มอ่านผล
แสกนจากโรงพยาบาล แล้วก็บอกว่าเธอโชคดีมากเลยนะเนี่ยที่เป็นแค่นี้ 
   
   แล้วหมอก็ถามว่าตอนนี้เจ็บตรงไหนที่สุด? ปลาบอกว่าตรงหัวไหล่กับใต้ราวนมตามแนวเข็มขัดนิรภัยเลยค่ะ หมอก็ลองมาจับๆดูแล้วบอกว่า เธอน่าจะเจ็บแบบนี้อีกนานเลยแหล่ะ แล้วก็จะเจ็บกว่าลูกสาวเธอด้วย เพราะอย่างน้อยลูกสาวเธอก็มีเฝือกกันอยู่ แล้วจากผลแสกนเค้าไม่ได้ทำตรงนี้นี่!! ..แล้วก็ตรงนี้ด้วย!!
    
   แต่ถึงแม้ว่าซี่โครงตรงจุดเหล่านี้จะร้าวก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี นอกจากกินยาแก้ปวดประคองอาการไป แล้วก็หวังว่าอาการจะค่อยๆดีขึ้นภายใน 4-6 อาทิตย์  พี่แคร์ได้ยินที่หมอพูดบอก " เย้ เราจะหายพร้อมกันเลยนะแม่จ๋า 😄"  

..แม่จ๋าจะดีใจดีไหมเนี่ย?🙄
   
  
   สรุปสุดท้ายจากประสบการณ์ครั้งนี้ ขอตอกย้ำในสิ่งที่ปลาเคยบอกไปแล้วดีกว่าเนอะว่า 

" อย่าคิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งไกลตัวนะคะ เราไม่มีทางรู้เลยว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นถ้าดีก็ดีไป แล้วถ้าเกิดเรื่องไม่ดีหล่ะ จะโชคดีหรือป่าว ? เพราะฉะนั้น อยากทำอะไรดีๆเพื่อใคร อยากบอกรักใคร อยากไปหาใคร...อย่ารอเลยค่ะ "  ...หรือฝันอยากทำอะไรซักอย่างก็เริ่มทำกันเถอะค่ะ เหมือนกับปลาที่อยากเขียนหนังสือซักเล่ม ❤ 


 
และอีกสิ่งที่สำคัญเช่นกัน คือ 

 " เราไม่มีวันรู้เลยว่าสิ่งที่เรามีอยู่นั้นมีค่ามากแค่ไหน จนถึงวันที่เราได้สูญเสียสิ่งนั้นไป เราจะรู้สึกเสียใจและเสียดาย แต่มันก็สายไปแล้ว ..เพราะฉะนั้นตอนนี้เรายังมีโอกาสอยู่ หันมามีความสุขแล้วก็พอใจกับสิ่งที่เรามีกันเถอะค่ะ " ❤

    ถ้าใครมีอะไรอยากเม้ามอยหรือแชร์ประสบการณ์เชิญได้ที่เฟสบุคเพจ Pla Gallery at นิวซีแลนด์ ค่า😄

https://www.facebook.com/plagallerynz/
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่