สวัสดีค่ะ เนื่องจากอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ทราบ ว่า หลังจากที่เราโดนรถของคนอื่นนั้นมาเฉี่ยวชน นอกจาก คู่กรณีจะต้องซ่อมรถให้เรากลับมาเป็นดั่งเดิมแล้ว และเรายังมีสิทธิ ใดที่เราสมควรจะได้อีกบ้าง ที่บริษัทประกัน ไม่ได้บอกเรา
เนื่องจากว่า เมื่อ กลางเดือน เมษายนที่ผ่านมา สามีได้ขับรถไปทำงานที่ต่างจังหวัด และ ประสบอุบัติเหตุ ด้วยการที่รถคู่กรณี ชนท้าย อย่างแรง ซึ่งรถคู่กรณีนั้นคือรถกระบะ ที่มีความแข็งแรงมากกกกกกกกกกกกกกกกก มาชนตูด แจ๊สน้อยของบ้านเรา บอกเลยว่า "ยับ" เป็นการชนหนัก ที่แบบว่า กินเข้ามาถึง ที่ใส่ยางอะไหล่ หลังคาโครงรถดุ้ง ประตูหลัง ซ้ายและขวา ปิดไม่สนิท และ กระจกหลัง แตกละเอียดดดดดดดดดดดด ยิบ ดังภาพปลากรอบ !!! เอ้ย ประกอบ

จากภาพ เหมือนจะไม่เยอะ แต่พอ มาเห็นสภาพแจ๊สน้อยของแม่แล้ว สงสารเลยทีเดียว มันเยินมากกกกกกก ค่ะ
ก็ทำการเคลมประกัน กันไป แต่โชคดีค่ะ ที่ คนไม่เป็นอะไร เลย สามีตัวอ้วน 130 กก. บอกว่าตอนโดนชนนั้น ตูดลอยจากเบาะกันเลยทีเดียว ไปกระแทกพวงมาลัย กลับมา ก็เริ่มมีอาการตอนเช้า ว่า เจ็บหลังเจ็บอกเล็กๆ
เช้ามา ก็พาแจ๊สน้อยเข้าศูนย์เลยค่ะ และพาสามีหาหมอต่อ โดนไป 1 เข็ม รักษาเส้นประสาทอักเสบเล็กน้อย
ส่วนรถนะเหรอ??? ศูนย์ประเมินมา ว่า ไม่ต่ำกว่า 45 วันในการรักษาอาการนี้ โอ้วววว แม่เจ้า เพราะตัวถังรถคด และสามีมีบอกช่างไปว่าหลังคาดุ้งด้วย เค้าก็ไปตรวจดูอีกที เลยมาบอกว่า หลังคา ต้องดูอีกทีว่า เคาะได้หรือเปล่า ถ้าได้ก็ ไม่นาน แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยน ก้อาจจะเกิน 60 วัน โอ้ยยย จะเป็นลม
แต่ที่แน่ๆ ต้องถอดท้าย ทำใหม่ ด้วยความที่เป็น ศูนย์ เราก็ไว้ใจเนอะ ในการทำของศูนย์
ระหว่างที่รอซ่อมนั้น ก็หาข้อมูลในการที่ว่าเราเสียโอกาสอะไรไปบ้างจากการไม่ได้ใช้รถ คันนี้เป็นระยะเวลานาน บวกกับว่า มีเพื่อนที่เป็นทนาย เคยเล่าประสบการณ์ของมันให้เราฟังว่า รถซีวิค ใหม่ ของมัน ออกมาได้แค่ ไม่ถึงปี โดนชน เละ ทั้งหน้าหลัง ซ่อม 1 เดือนกว่า เหมือนกัน มันเรียกร้อง ตามสิทธิ์ คือ "ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม" และ "ค่าเสื่อมราคารถจากการเกิดอุบัติเหตุ"
ค่าสินไหมตัวแรก เพื่อนๆ คงเคยได้ยินอยู่แล้ว แต่บอกเลยหลายคนก็ไม่รู้ ในจุดนี้ว่า เราสามารถเรียกร้อง ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อมได้ไม่ว่าจะซ่อม แค่กี่วันก็ตาม ที่หลายคน ละทิ้ง ตรงนี้เพราะ หลายท่านคิดว่า ยุ่งยาก เนื่องจาก เราต้องเป็นคนดำเนินเรื่องเอง ต้องไปที่บริษัทประกันของคุ๋กรณีเอง ยื่นเอกสารเอง ต่อรองเอง ดังนั้นหลายท่าน ที่ซ่อม แค่ระยะเวลา 3 วัน 5 วัน เลย ไม่ไปดำเนินการ แต่อยากจะบอกว่า ไปเถอะค่ะ ไปใช้สิทธิ์ของตัวเอง เพราะ มูลค่าก็ไม่น้อยนะ ขั้นต่ำ อยู่ที่ 500 บาทต่อวันเลยทีเดียว ส่วนค่าเสื่อมราคา จะอธิบายต่อจากนี้
ผ่านไป 56 วัน ทางศูนย์โทรมาแจ้งว่า รับรถได้แล้ว ดีใจ ว่าจะได้รถกลับคืนมาเสียที วันที่ไปรับ ก็รีบ อันนี้ เราผิดเอง พลาดเอง แต่ ทางศูนย์ ก็ไม่ให้ช่างมา แจ้งรายละเอียดแต่ให้น้องแอดมิน มาแจ้ง รายละเอียดการซ่อม ให้เรา และ เปิดให้ดูรถไม่หมด และบอกไม่หมด ทำให้เราพลาดในการเซ็นต์รับรถ ออกมา
เมื่อได้รถมาแล้ว เราก็ ดำเนินการตามที่เพื่อนแนะนำในการเรียกร้องค่าสินไหมที่เกี่ยวกับค่าเสื่อมราคารถ ว่า เราต้อง นำรถเรา ไปให้เต๊นท์รถ ประเมินราคา และทำใบเสนอราคาให้เรา ว่าเค้ารับซื้อได้ที่เท่าไหร่ ในส่วนนี้ อาจจะยากหน่อย ถ้าไม่รู้จักกัน เพราะก็ไม่ค่อยมีใครทำให้เท่าไหร่ แต่ก็ให้ได้ราคามา เพื่อ ทำเป็นจดหมาย แล้วนำไปยื่น ที่บริษัทประกัน อย่างแจ๊สของเราคันนี้ รุ่นปี 2014 ตัวรองท๊อป ราคาซื้อขาย ณ วันนี้ เลย ยังอยู่ที่ 3.8 แสน -4.2 แสน ได้อีก อยู่ที่ไมล์กิโล ของรถด้วย แต่ เมื่อเราเอาไปให้เต๊นท์ประเมิน ได้เพียง 2.2 แสน และมีเต๊นท์บางเต๊นท์ ให้เพียง 3 แสนเท่านั้น
เพราะอะไรนะเหรอ? เพราะ เมื่อเขาเปิดดูท้ายรถ เค้าบอกเลยว่า สภาพ การซ่อมมานั้น งานหยาบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ทำเม็ดอาร์ค (คืออะไรไม่รู้ แต่รู้แค่ว่าอยู่ตรงประตู) หายยย อีกต่างหาก ไอ้เม็ดบ้านี่ก็สำคัญ เห็นสามีบอกแบบนั้น แล้วตรงที่ใส่ยางอะไหล่ ก็โป้ว สีมาแบบ ได้น่าเกลียดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ดูจากรูปปลากรอบ

สามีเมื่อเพื่อนบอกแบบนั้น ก็ปวดจิต เพราะความ ผิดพลาดของตัวเอง ที่ไม่ได้ตรวจก่อนรับรถให้ดี ขอบอกเลย ว่า เราก็ไม่คิดว่ามันจะซุกอยู่ใต้พรม แบบนี้
ราคา ยิ่งตกลง แบบเห็นได้ชัด เต๊นท์ที่ให้ 3 แสน นี่ก็ใจดีสุดๆ แล้วนะ เพราะ ก็จะต่อ จะกด ต่อไป อีก อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับเพื่อนๆ ว่า ซ่อมศูนย์ไม่ใช่ดี เสมอไป ก่อนตรวจรับรถทุกครั้งเช็คให้ละเอียดเลยนะคะ
เมื่อเราได้ราคา เราก็ ทำจดหมาย เพื่อเรียกร้อง ค่าเสียหายจากบริษัท ประกัน ดังนี้
1. ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2563 - 10 มิถุนายน 2563 เป็นจำนวน 55 วัน วันละ 500 บาท เป็นเงิน 27500 บาท
2. ค่าเสื่อมราคารถจากการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ 100000 บาท
รวมเป็น 127500 บาท
เดี๋ยวมาต่อ ****
แชร์ประสบการณ์ เมื่อเป็นฝ่ายถูก และรถโดนชนหนัก ต้องเรียกร้องค่าเสื่อมราคากับประกัน
เนื่องจากว่า เมื่อ กลางเดือน เมษายนที่ผ่านมา สามีได้ขับรถไปทำงานที่ต่างจังหวัด และ ประสบอุบัติเหตุ ด้วยการที่รถคู่กรณี ชนท้าย อย่างแรง ซึ่งรถคู่กรณีนั้นคือรถกระบะ ที่มีความแข็งแรงมากกกกกกกกกกกกกกกกก มาชนตูด แจ๊สน้อยของบ้านเรา บอกเลยว่า "ยับ" เป็นการชนหนัก ที่แบบว่า กินเข้ามาถึง ที่ใส่ยางอะไหล่ หลังคาโครงรถดุ้ง ประตูหลัง ซ้ายและขวา ปิดไม่สนิท และ กระจกหลัง แตกละเอียดดดดดดดดดดดด ยิบ ดังภาพปลากรอบ !!! เอ้ย ประกอบ
จากภาพ เหมือนจะไม่เยอะ แต่พอ มาเห็นสภาพแจ๊สน้อยของแม่แล้ว สงสารเลยทีเดียว มันเยินมากกกกกกก ค่ะ
ก็ทำการเคลมประกัน กันไป แต่โชคดีค่ะ ที่ คนไม่เป็นอะไร เลย สามีตัวอ้วน 130 กก. บอกว่าตอนโดนชนนั้น ตูดลอยจากเบาะกันเลยทีเดียว ไปกระแทกพวงมาลัย กลับมา ก็เริ่มมีอาการตอนเช้า ว่า เจ็บหลังเจ็บอกเล็กๆ
เช้ามา ก็พาแจ๊สน้อยเข้าศูนย์เลยค่ะ และพาสามีหาหมอต่อ โดนไป 1 เข็ม รักษาเส้นประสาทอักเสบเล็กน้อย
ส่วนรถนะเหรอ??? ศูนย์ประเมินมา ว่า ไม่ต่ำกว่า 45 วันในการรักษาอาการนี้ โอ้วววว แม่เจ้า เพราะตัวถังรถคด และสามีมีบอกช่างไปว่าหลังคาดุ้งด้วย เค้าก็ไปตรวจดูอีกที เลยมาบอกว่า หลังคา ต้องดูอีกทีว่า เคาะได้หรือเปล่า ถ้าได้ก็ ไม่นาน แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยน ก้อาจจะเกิน 60 วัน โอ้ยยย จะเป็นลม
แต่ที่แน่ๆ ต้องถอดท้าย ทำใหม่ ด้วยความที่เป็น ศูนย์ เราก็ไว้ใจเนอะ ในการทำของศูนย์
ระหว่างที่รอซ่อมนั้น ก็หาข้อมูลในการที่ว่าเราเสียโอกาสอะไรไปบ้างจากการไม่ได้ใช้รถ คันนี้เป็นระยะเวลานาน บวกกับว่า มีเพื่อนที่เป็นทนาย เคยเล่าประสบการณ์ของมันให้เราฟังว่า รถซีวิค ใหม่ ของมัน ออกมาได้แค่ ไม่ถึงปี โดนชน เละ ทั้งหน้าหลัง ซ่อม 1 เดือนกว่า เหมือนกัน มันเรียกร้อง ตามสิทธิ์ คือ "ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม" และ "ค่าเสื่อมราคารถจากการเกิดอุบัติเหตุ"
ค่าสินไหมตัวแรก เพื่อนๆ คงเคยได้ยินอยู่แล้ว แต่บอกเลยหลายคนก็ไม่รู้ ในจุดนี้ว่า เราสามารถเรียกร้อง ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อมได้ไม่ว่าจะซ่อม แค่กี่วันก็ตาม ที่หลายคน ละทิ้ง ตรงนี้เพราะ หลายท่านคิดว่า ยุ่งยาก เนื่องจาก เราต้องเป็นคนดำเนินเรื่องเอง ต้องไปที่บริษัทประกันของคุ๋กรณีเอง ยื่นเอกสารเอง ต่อรองเอง ดังนั้นหลายท่าน ที่ซ่อม แค่ระยะเวลา 3 วัน 5 วัน เลย ไม่ไปดำเนินการ แต่อยากจะบอกว่า ไปเถอะค่ะ ไปใช้สิทธิ์ของตัวเอง เพราะ มูลค่าก็ไม่น้อยนะ ขั้นต่ำ อยู่ที่ 500 บาทต่อวันเลยทีเดียว ส่วนค่าเสื่อมราคา จะอธิบายต่อจากนี้
ผ่านไป 56 วัน ทางศูนย์โทรมาแจ้งว่า รับรถได้แล้ว ดีใจ ว่าจะได้รถกลับคืนมาเสียที วันที่ไปรับ ก็รีบ อันนี้ เราผิดเอง พลาดเอง แต่ ทางศูนย์ ก็ไม่ให้ช่างมา แจ้งรายละเอียดแต่ให้น้องแอดมิน มาแจ้ง รายละเอียดการซ่อม ให้เรา และ เปิดให้ดูรถไม่หมด และบอกไม่หมด ทำให้เราพลาดในการเซ็นต์รับรถ ออกมา
เมื่อได้รถมาแล้ว เราก็ ดำเนินการตามที่เพื่อนแนะนำในการเรียกร้องค่าสินไหมที่เกี่ยวกับค่าเสื่อมราคารถ ว่า เราต้อง นำรถเรา ไปให้เต๊นท์รถ ประเมินราคา และทำใบเสนอราคาให้เรา ว่าเค้ารับซื้อได้ที่เท่าไหร่ ในส่วนนี้ อาจจะยากหน่อย ถ้าไม่รู้จักกัน เพราะก็ไม่ค่อยมีใครทำให้เท่าไหร่ แต่ก็ให้ได้ราคามา เพื่อ ทำเป็นจดหมาย แล้วนำไปยื่น ที่บริษัทประกัน อย่างแจ๊สของเราคันนี้ รุ่นปี 2014 ตัวรองท๊อป ราคาซื้อขาย ณ วันนี้ เลย ยังอยู่ที่ 3.8 แสน -4.2 แสน ได้อีก อยู่ที่ไมล์กิโล ของรถด้วย แต่ เมื่อเราเอาไปให้เต๊นท์ประเมิน ได้เพียง 2.2 แสน และมีเต๊นท์บางเต๊นท์ ให้เพียง 3 แสนเท่านั้น
เพราะอะไรนะเหรอ? เพราะ เมื่อเขาเปิดดูท้ายรถ เค้าบอกเลยว่า สภาพ การซ่อมมานั้น งานหยาบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ทำเม็ดอาร์ค (คืออะไรไม่รู้ แต่รู้แค่ว่าอยู่ตรงประตู) หายยย อีกต่างหาก ไอ้เม็ดบ้านี่ก็สำคัญ เห็นสามีบอกแบบนั้น แล้วตรงที่ใส่ยางอะไหล่ ก็โป้ว สีมาแบบ ได้น่าเกลียดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ดูจากรูปปลากรอบ
สามีเมื่อเพื่อนบอกแบบนั้น ก็ปวดจิต เพราะความ ผิดพลาดของตัวเอง ที่ไม่ได้ตรวจก่อนรับรถให้ดี ขอบอกเลย ว่า เราก็ไม่คิดว่ามันจะซุกอยู่ใต้พรม แบบนี้
ราคา ยิ่งตกลง แบบเห็นได้ชัด เต๊นท์ที่ให้ 3 แสน นี่ก็ใจดีสุดๆ แล้วนะ เพราะ ก็จะต่อ จะกด ต่อไป อีก อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับเพื่อนๆ ว่า ซ่อมศูนย์ไม่ใช่ดี เสมอไป ก่อนตรวจรับรถทุกครั้งเช็คให้ละเอียดเลยนะคะ
เมื่อเราได้ราคา เราก็ ทำจดหมาย เพื่อเรียกร้อง ค่าเสียหายจากบริษัท ประกัน ดังนี้
1. ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2563 - 10 มิถุนายน 2563 เป็นจำนวน 55 วัน วันละ 500 บาท เป็นเงิน 27500 บาท
2. ค่าเสื่อมราคารถจากการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ 100000 บาท
รวมเป็น 127500 บาท
เดี๋ยวมาต่อ ****