เราเป็นคนนึงที่ตั้งใจเรียนมาก จบบัญชีมาด้วยเกรด 3.95 เรามีความที่ต้องการเป็น CPA เราเลือกมาทำงานเป็นผู้ช่วยผู้สอบบัญชี เพื่อเก็บชั่วโมง โดยมีเงื่อนไขตามกฎหมายว่าต้องฝึกงานอย่างน้อย 3 ปี 3,000 ชั่วโมง สอบผ่าน 6 วิชา ถึงแม้ว่าทางนี้ก็ไม่ง่าย งานที่หนักหนาสาหัส ทำงานดึกดืนแต่ไม่มีโอที เสาร์ อาทิตย์ ก็ไม่ได้พักจนกระทั่งตอนนี้เราทำงานเป็ผู้ช่วยผู้สอบได้ 8 เดือนกว่าๆ เงินเดือน 20,000 บาท ส่งกลับบ้าน 2,000-3,000 ต่อเดือน ซึ่งก่อนหน้านี้เราทำงานบัญชีบริษัทต่างชาติ เป็นงานสัญญาจ้าง 1 ปี มีความสุขมากๆที่ได้ทำงานที่นี้ แต่เราเลือกที่จะไม่อยู่ต่อ เพราะไม่สามารถจะเป็นพนักงานประจำได้ เราคิดถึงความั่นคงในชีวิตเราเลยออก ส่วนบ้านเราทำธุรกิจคือขายอาหารเช้าและบริการที่พักให้นักท่องเที่ยวงานนี้ก็หนักไม่แพ้กัน ตื่นตั้งแต่ตีสี่ ตีห้าไปเตรียมของ ขายกว่าจะเสร็จก็ประมาณบ่ายสองของทุกวัน ได้พักช่วงบ่ายถึงเย็น ช่วงดึกก็ต้องเตรียมอาหารบางส่วน แต่ถ้าช่วงเทศกาลก็จะไม่ได้พัก ชึ่งทำงาน 7 วัน พี่เราก็ทำงานอยู่ที่บ้านแล้วโดยคนแรกเป็นเหมือนหุ้นส่วนกับแม่ขายน้ำ ของกินเล่น พี่อีกคนกำลังจะเปิดคาเฟ่ แต่ทุกคนก็ต้องช่วยธุรกิจหลักคือขายอาหารในช่วงเช้า มีอยู่วันนึงแม่โทรมาแล้วบอกว่าให้กลับไปช่วยงานที่บ้าน โดยให้เงินเดือนเดือนละ 10,000
ซึ่งเราก็บอกว่าเราต้องการชั่วโมง cpa ให้ครบ 3 ปีก่อนแล้วจะกลับพี่เราเลยตะโกนเข้ามาในโทรศัพท์ว่าเห็นแก่ตัว ทุกคนก็มีความฝันของตัวเองทั้งนั้น คิดหรอว่าคนอื่นเขาอยากกลับมาบ้าน แต่เพราะสงสารแม่ไงเลยกลับมาช่วย แม่ก็เสริมมาว่าไม่คิดบ้างหรอว่าจะอยู่กับแม่ได้อีกกี่วัน ไม่คิดบ้างหรอว่าอยากตอบแทนบุญคุณแม่ แล้วก็บอกว่าให้เวลาทำได้ถึงสิ้นปีนี้ แล้วออก เราก็ได้แต่เงียบเพราะเราเสียใจที่เราอดทนตรากตรำเก็บชม.มาได้ 8 เดือนเพื่ออะไร เพราะเป้าหมายของเราคือ 3 ปี แต่ละวันที่จะผ่านไป ไม่ใช่เรื่องง่ายในการทำงานออดิทก็ไม่ง่าย จนกระทั่งตอนนี้ผ่านมาหลายวันแล้วตั้งแต่ที่คุยกับแม่เราก็เครียดเรื่องนี้มาก เราไปทำงานก็รู้ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะทำงานต่อ มันเครียดอยู่ในใจถามตัวเองว่าฉันจะเอายังไง เราจะแก้ปัญหานี้ยังไงเราต้องยอมทิ้งความฝันแล้วไปเป็นแม่ค้าขายอาหารที่บ้านใช่ไหม หรือจริงๆเราก็คิดผิดที่มัวแต่พยายามเน้นใบ cer เพราะก็ไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไร งานที่ทำก็แก้แล้วแก้อีก คนรีวิวมีหลายคนกว่าจะรีวิวครบหมด ก็แก้แก้อีก งานที่ทำก็ไม่มีโอที เที่ยงคืน ตีหนึ่งทุกวัน ซึ่งบางครั้งร่างกายก็ไม่ไหว สู้ทำงานที่บ้านพัฒนาร้าน ได้อยู่กับแม่ เราควรเลือกทางไหนดี
ไม่กลับไปทำงานที่บ้านเท่ากับเห็นแก่ตัว??
ซึ่งเราก็บอกว่าเราต้องการชั่วโมง cpa ให้ครบ 3 ปีก่อนแล้วจะกลับพี่เราเลยตะโกนเข้ามาในโทรศัพท์ว่าเห็นแก่ตัว ทุกคนก็มีความฝันของตัวเองทั้งนั้น คิดหรอว่าคนอื่นเขาอยากกลับมาบ้าน แต่เพราะสงสารแม่ไงเลยกลับมาช่วย แม่ก็เสริมมาว่าไม่คิดบ้างหรอว่าจะอยู่กับแม่ได้อีกกี่วัน ไม่คิดบ้างหรอว่าอยากตอบแทนบุญคุณแม่ แล้วก็บอกว่าให้เวลาทำได้ถึงสิ้นปีนี้ แล้วออก เราก็ได้แต่เงียบเพราะเราเสียใจที่เราอดทนตรากตรำเก็บชม.มาได้ 8 เดือนเพื่ออะไร เพราะเป้าหมายของเราคือ 3 ปี แต่ละวันที่จะผ่านไป ไม่ใช่เรื่องง่ายในการทำงานออดิทก็ไม่ง่าย จนกระทั่งตอนนี้ผ่านมาหลายวันแล้วตั้งแต่ที่คุยกับแม่เราก็เครียดเรื่องนี้มาก เราไปทำงานก็รู้ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะทำงานต่อ มันเครียดอยู่ในใจถามตัวเองว่าฉันจะเอายังไง เราจะแก้ปัญหานี้ยังไงเราต้องยอมทิ้งความฝันแล้วไปเป็นแม่ค้าขายอาหารที่บ้านใช่ไหม หรือจริงๆเราก็คิดผิดที่มัวแต่พยายามเน้นใบ cer เพราะก็ไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไร งานที่ทำก็แก้แล้วแก้อีก คนรีวิวมีหลายคนกว่าจะรีวิวครบหมด ก็แก้แก้อีก งานที่ทำก็ไม่มีโอที เที่ยงคืน ตีหนึ่งทุกวัน ซึ่งบางครั้งร่างกายก็ไม่ไหว สู้ทำงานที่บ้านพัฒนาร้าน ได้อยู่กับแม่ เราควรเลือกทางไหนดี