"โรคหลอดเลือดหัวใจ" เป็นอีกหนึ่งโรคที่คนไทยเป็นกันจำนวนมาก โดยพบว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต ที่ติดอันดับ 1 ใน 4 ของประชากรโลกรวมทั้งในประเทศไทย โดยปัจจุบันมักพบในผู้ที่มีอายุเพิ่มมากขึ้น และพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง
หลายคนมีอาการเจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย แต่ก็ไม่มั่นใจว่าเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า นพ.วัฒนา บุญสม ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจวิชัยเวช รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้หลาย ๆ ท่านได้สังเกตุอาการเบื้องต้นกันครับ
การเจ็บหน้าอกข้างซ้าย ส่วนมากเข้าใจกันว่าเป็นอาการของหลอดเลือดหัวใจตีบหรือเปล่า โดยทั่วไป หัวใจอยู่ข้างซ้ายใช่ แต่อาการเจ็บมันจะบอกตำแหน่งได้ไม่ชัดเจนครับ
ถ้าเป็นหลอดเลือดหัวใจตีบ อาการเจ็บอาการที่พบจะมีตั้งแต่ มีอาการจุก อาการแน่น เหมือนมีอะไรมากด มารัด มาทับ บริเวณหน้าอก ถ้าเป็นมาก ๆ จะมีร้าวไปกราม ไปไหล่ ไปแขน หรือไปคอ บางทีไปที่ท้อง อาการจะคล้ายโรคกระเพาะ
แต่ว่าตัวที่กระตุ้นให้เจ็บ เช่น บางคนเวลาออกแรงเยอะๆ จะมีการเจ็บมากขึ้น พอพักแล้วเบาลง อันนี้ให้สงสัยว่าจะเป็นหลอดเลือดหัวใจ อาการพวกนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นข้างซ้ายเป๊ะ ๆ นะครับ บางทีมันบอกยากว่าตำแหน่งอยู่ตรงไหน แต่อยู่ตรงแถวบริเวณหน้าอก ตรงแถว ๆ ลิ้นปี่ แต่ว่าอาการ ยิ่งออกแรง ยิ่งเป็นเยอะขึ้น เพราะฉะนั้นเวลามีอาการมาก ๆ หรือสงสัย ให้ไปหาคุณหมอดีกว่านะครับ โดยเฉพาะถ้าเป็นอาการใหม่
วิธีตรวจโรคหัวใจ มีแบบไหนบ้าง? เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัย
โรคหัวใจมีหลายแบบ....โรคหัวใจมีทั้ง
-โรคกล้ามเนื้อหัวใจ
-โรคหลอดเลือดหัวใจ
-โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
-โรคลิ้นหัวใจตีบ ลิ้นหัวใจรั่ว
เนื่องจากโรคหัวใจมีหลายแบบ การตรวจโรคหัวใจ จึงแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
การตรวจเพื่อหาโรค
ถ้าเกิดเรามีอาการ แล้วเราไปหาคุณหมอ คุณหมอเขาจะตรวจวินิจฉัยตามอาการนั้น เช่น เจ็บ มีแน่นหน้าอก มีอะไรแบบนั้น การตรวจเช่นหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือการตรวจเรื่องการเหนื่อย คุณหมออาจจะทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เอ็กซ์เรย์ดู
ตรวจเอ็กโคคาร์ดิโอแกรม เป็นอัลตร้าซาวน์ดูหัวใจ
หรือการตรวจวิ่งสายพาน เพื่อจะหาโรคว่ามีหลอดเลือดหัวใจตีบหรือเปล่า
การตรวจอื่น ๆ เช่น การฉีดสี การสวนหัวใจ เพื่อดูว่าหลอดเลือดหัวใจตีบหรือเปล่า หรือการตรวจเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ ฉีดสีดูหัวใจ อันนี้เป็นการตรวจเพื่อหาโรค
อีกกลุ่มนึงคือ
การตรวจเพื่อป้องกันโรค อันนี้เป็นอันที่หลายๆ คนยังไม่ได้รับทราบตรงนี้เยอะ อย่างเช่นคนที่มีกรรมพันธุ์ หรือมีปัจจัยเสี่ยงสูง ๆ อาจจะเกิดโรคหัวใจในอนาคต การตรวจดูเบาหวาน ดูไขมัน ดูความดัน เป็นพื้นฐานที่เราตรวจกันอยู่แล้ว เพื่อดูปัจจัยเสี่ยง แต่ถ้าคนที่มีปัจจัยเสี่ยงสูง การตรวจเพื่อหาโรค เช่น การดูค่าหินปูนในเส้นเลือดหัวใจ การดูหลอดเลือดแขน หลอดเลือดขา หลอดเลือดคอว่าตีบไหม เพราะการดูหลอดเลือดแขน ขา หรือคอที่ตีบ อาจจะสัมพันธ์กับหลอดเลือดหัวใจที่ตีบ เพราะหลอดเลือดทั้งตัวเอ็นอวัยวะเดียวกัน ถ้าเจอตีบที่จุดอื่น หลอดเลือดหัวใจก็อาจจะตีบด้วย ถ้าเกิดเราเจอภาวะการตีบหรือรอยโรคที่จุดไหน การดูแลรักษาป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดโรคในอนาคตก็สิ่งที่จำเป็นมาก
เพราะโรคหัวใจ...ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
ต้องรู้ทันและระวังให้ดีครับ
ติดตามข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับโรคหัวใจ จากศูนย์หัวใจวิชัยเวช ได้ใหม่ ในบทความต่อไปครับ
เจ็บหน้าอกข้างซ้าย เหนื่อยง่าย เป็นโรคหัวใจหรือเปล่า?
หลายคนมีอาการเจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย แต่ก็ไม่มั่นใจว่าเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า นพ.วัฒนา บุญสม ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจวิชัยเวช รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้หลาย ๆ ท่านได้สังเกตุอาการเบื้องต้นกันครับ
การเจ็บหน้าอกข้างซ้าย ส่วนมากเข้าใจกันว่าเป็นอาการของหลอดเลือดหัวใจตีบหรือเปล่า โดยทั่วไป หัวใจอยู่ข้างซ้ายใช่ แต่อาการเจ็บมันจะบอกตำแหน่งได้ไม่ชัดเจนครับ
ถ้าเป็นหลอดเลือดหัวใจตีบ อาการเจ็บอาการที่พบจะมีตั้งแต่ มีอาการจุก อาการแน่น เหมือนมีอะไรมากด มารัด มาทับ บริเวณหน้าอก ถ้าเป็นมาก ๆ จะมีร้าวไปกราม ไปไหล่ ไปแขน หรือไปคอ บางทีไปที่ท้อง อาการจะคล้ายโรคกระเพาะ
วิธีตรวจโรคหัวใจ มีแบบไหนบ้าง? เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัย
โรคหัวใจมีหลายแบบ....โรคหัวใจมีทั้ง
-โรคกล้ามเนื้อหัวใจ
-โรคหลอดเลือดหัวใจ
-โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
-โรคลิ้นหัวใจตีบ ลิ้นหัวใจรั่ว
เนื่องจากโรคหัวใจมีหลายแบบ การตรวจโรคหัวใจ จึงแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
การตรวจเพื่อหาโรค
ถ้าเกิดเรามีอาการ แล้วเราไปหาคุณหมอ คุณหมอเขาจะตรวจวินิจฉัยตามอาการนั้น เช่น เจ็บ มีแน่นหน้าอก มีอะไรแบบนั้น การตรวจเช่นหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือการตรวจเรื่องการเหนื่อย คุณหมออาจจะทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เอ็กซ์เรย์ดู
อีกกลุ่มนึงคือ การตรวจเพื่อป้องกันโรค อันนี้เป็นอันที่หลายๆ คนยังไม่ได้รับทราบตรงนี้เยอะ อย่างเช่นคนที่มีกรรมพันธุ์ หรือมีปัจจัยเสี่ยงสูง ๆ อาจจะเกิดโรคหัวใจในอนาคต การตรวจดูเบาหวาน ดูไขมัน ดูความดัน เป็นพื้นฐานที่เราตรวจกันอยู่แล้ว เพื่อดูปัจจัยเสี่ยง แต่ถ้าคนที่มีปัจจัยเสี่ยงสูง การตรวจเพื่อหาโรค เช่น การดูค่าหินปูนในเส้นเลือดหัวใจ การดูหลอดเลือดแขน หลอดเลือดขา หลอดเลือดคอว่าตีบไหม เพราะการดูหลอดเลือดแขน ขา หรือคอที่ตีบ อาจจะสัมพันธ์กับหลอดเลือดหัวใจที่ตีบ เพราะหลอดเลือดทั้งตัวเอ็นอวัยวะเดียวกัน ถ้าเจอตีบที่จุดอื่น หลอดเลือดหัวใจก็อาจจะตีบด้วย ถ้าเกิดเราเจอภาวะการตีบหรือรอยโรคที่จุดไหน การดูแลรักษาป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดโรคในอนาคตก็สิ่งที่จำเป็นมาก