ลงทุนหุ้น VS ลงทุนอสังหาฯ แบบไหนดีกว่ากัน? อาจเป็นคำถามที่หลายๆคนเคยสงสัย วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ความแตกต่างของการลงทุนทั้งสองแบบนี้ โดยจะเป็นการวิเคราะห์จากประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัวของเราเองจากที่ได้ลงทุนทั้งสองแบบ โดยรูปแบบการลงทุนของเราจะเป็นสายฟาร์มค่าเช่าและปันผลครับ เชิญพบกับหุ้นฝ่ายน้ำเงิน และอสังหาฯฝ่ายแดงครับ
(สำหรับยกที่1 คลิกที่นี่
https://pantip.com/topic/39931906 )
แบบไหนดีกว่ากัน? อืมม เป็นคำถามที่ค่อนข้างตอบยากพอสมควรนะครับ กับคำจำกัดความแค่คำสั้นๆว่า
“ดี” เพราะฉะนั้นเราจะตอบในมุมมองต่อ 4 สิ่งนี้ครับ ผลตอบแทน สภาพคล่อง การประเมินมูลค่า ความเสี่ยงในการลงทุน สำหรับวันนี้พบกับยกที่2 สภาพคล่องครับ
.
.
ยกที่2 (เสียงระฆัง)
-สภาพคล่อง
ก่อนอื่นสภาพคล่อง แปลว่าอะไร สภาพคล่อง หมายถึงความสามารถในการเปลี่ยนสิ่งของหรือสินทรัพย์ไปเป็นเงินสด เช่นการขายของพอขายของก็จะได้เงินสดกลับมา การที่จะมีสภาพคล่องสูงหรือต่ำนั้นขึ้นอยู่กับการที่จะเปลี่ยนของหรือสินทรัพย์ชนิดนั้นไปเป็นเงินได้ในระยะเวลาเท่าใด (อ้างอิงจาก วิกิพีเดีย)
เราเชื่อว่าหลายๆคนอาจเคยได้ยินประโยคที่ว่า “อย่าซื้ออสังหาฯเยอะเดี๋ยวจะติดมือ” มันแปลว่าอะไร จริงๆแล้วก็แปลว่ามันขายออกยาก หรือใช้เวลานานในการขายนั่นเองครับ (แน่นอนว่าที่ออกได้ไวก็มี)
.
.
ในทางบัญชีนั้น ได้บัญญัติประเภทของสินทรัพย์ไว้สองประเภท นั่นคือ
-สินทรัพย์หมุนเวียน นั่นคือ สินทรัพย์ที่สามารถแปลงสภาพเป็นเงินสดได้ไว เช่น เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ลูกหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ
-สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน นั่นคือ สินทรัพย์ที่สามารถแปลงสภาพเป็นเงินสดได้ช้า ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์
.
.
แล้วแบบไหนที่เรียกช้าแบบไหนเรียกเร็ว ?
หุ้น สมมุติอยากขาย ในเวลาทำการตลาดจันทร์-ศุกร์ ตั้งขายได้เลย เร็วสุดอาจจะ1นาทีก็สามารถเป็นไปได้ หรือภายใน1 วัน เป็นต้น
อสังหาฯ สมมุติอยากขาย ก็ต้องเริ่มจากลงประกาศขาย ฝากนายหน้า เป็นต้น ถ้าโชคดีต้ังราคาไม่สูงก็อาจขายออกได้ไว ภายใน1อาทิตย์หรือ1วันก็เป็นไปได้ แต่อาจไม่บ่อยนัก หากโชคไม่ดีก็อาจต้องรอถึงหลายเดือนเลยก็เป็นไปได้เช่นกัน
.
.
แล้วสภาพคล่องสำคัญอย่างไร?
ส่วนตัวเราคิดว่าในการลงทุน หากเก็บเงินสดไว้มากเกินพอดี ก็อาจทำให้พลาดโอกาสในการลงทุน และทำให้เงินนั้นงอกเงย แต่กลับกันหากนำเงินไปลงทุนจนหมด เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินที่ต้องการใช้เงินสดก็อาจติดขัดหรือเกิดปัญหาได้ เรามองว่าหุ้น สามารถแลกเป็นเงินได้เลยทันทีที่ต้องการ แต่อสังหาฯไม่เป็นแบบนั้นแน่นอน เราจึงคิดว่าเพื่อความปลอดภัยในเส้นทางการเงิน การมีสภาพคล่องสูงก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามครับ
สรุป
หุ้นสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เร็วกว่าอสังหาฯ จึงมีสภาพคล่องสูงกว่านั่นเองครับ
.
.
สำหรับยกที่ 2 สภาพคล่อง เรามองว่าหุ้นชนะไปอย่างค่อนข้างขาดลอย ทำให้คะแนนเป็น2:1 หุ้นนำอยู่ครับ
โปรดติดตามตอนต่อไป ยกที่ 3 “การประเมินมูลค่า”
สุดท้ายนี้ขออนุญาตฝากเพจ การเงิน การลงทุน และแนะนำหนังสือดีๆด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/sharingiscaringreviewer/
ลงทุนหุ้น VS ลงทุนอสังหาฯ ตอนที่2
ลงทุนหุ้น VS ลงทุนอสังหาฯ แบบไหนดีกว่ากัน? อาจเป็นคำถามที่หลายๆคนเคยสงสัย วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ความแตกต่างของการลงทุนทั้งสองแบบนี้ โดยจะเป็นการวิเคราะห์จากประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัวของเราเองจากที่ได้ลงทุนทั้งสองแบบ โดยรูปแบบการลงทุนของเราจะเป็นสายฟาร์มค่าเช่าและปันผลครับ เชิญพบกับหุ้นฝ่ายน้ำเงิน และอสังหาฯฝ่ายแดงครับ
(สำหรับยกที่1 คลิกที่นี่ https://pantip.com/topic/39931906 )
แบบไหนดีกว่ากัน? อืมม เป็นคำถามที่ค่อนข้างตอบยากพอสมควรนะครับ กับคำจำกัดความแค่คำสั้นๆว่า
“ดี” เพราะฉะนั้นเราจะตอบในมุมมองต่อ 4 สิ่งนี้ครับ ผลตอบแทน สภาพคล่อง การประเมินมูลค่า ความเสี่ยงในการลงทุน สำหรับวันนี้พบกับยกที่2 สภาพคล่องครับ
.
.
ยกที่2 (เสียงระฆัง)
-สภาพคล่อง
ก่อนอื่นสภาพคล่อง แปลว่าอะไร สภาพคล่อง หมายถึงความสามารถในการเปลี่ยนสิ่งของหรือสินทรัพย์ไปเป็นเงินสด เช่นการขายของพอขายของก็จะได้เงินสดกลับมา การที่จะมีสภาพคล่องสูงหรือต่ำนั้นขึ้นอยู่กับการที่จะเปลี่ยนของหรือสินทรัพย์ชนิดนั้นไปเป็นเงินได้ในระยะเวลาเท่าใด (อ้างอิงจาก วิกิพีเดีย)
เราเชื่อว่าหลายๆคนอาจเคยได้ยินประโยคที่ว่า “อย่าซื้ออสังหาฯเยอะเดี๋ยวจะติดมือ” มันแปลว่าอะไร จริงๆแล้วก็แปลว่ามันขายออกยาก หรือใช้เวลานานในการขายนั่นเองครับ (แน่นอนว่าที่ออกได้ไวก็มี)
.
.
ในทางบัญชีนั้น ได้บัญญัติประเภทของสินทรัพย์ไว้สองประเภท นั่นคือ
-สินทรัพย์หมุนเวียน นั่นคือ สินทรัพย์ที่สามารถแปลงสภาพเป็นเงินสดได้ไว เช่น เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ลูกหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ
-สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน นั่นคือ สินทรัพย์ที่สามารถแปลงสภาพเป็นเงินสดได้ช้า ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์
.
.
แล้วแบบไหนที่เรียกช้าแบบไหนเรียกเร็ว ?
หุ้น สมมุติอยากขาย ในเวลาทำการตลาดจันทร์-ศุกร์ ตั้งขายได้เลย เร็วสุดอาจจะ1นาทีก็สามารถเป็นไปได้ หรือภายใน1 วัน เป็นต้น
อสังหาฯ สมมุติอยากขาย ก็ต้องเริ่มจากลงประกาศขาย ฝากนายหน้า เป็นต้น ถ้าโชคดีต้ังราคาไม่สูงก็อาจขายออกได้ไว ภายใน1อาทิตย์หรือ1วันก็เป็นไปได้ แต่อาจไม่บ่อยนัก หากโชคไม่ดีก็อาจต้องรอถึงหลายเดือนเลยก็เป็นไปได้เช่นกัน
.
.
แล้วสภาพคล่องสำคัญอย่างไร?
ส่วนตัวเราคิดว่าในการลงทุน หากเก็บเงินสดไว้มากเกินพอดี ก็อาจทำให้พลาดโอกาสในการลงทุน และทำให้เงินนั้นงอกเงย แต่กลับกันหากนำเงินไปลงทุนจนหมด เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินที่ต้องการใช้เงินสดก็อาจติดขัดหรือเกิดปัญหาได้ เรามองว่าหุ้น สามารถแลกเป็นเงินได้เลยทันทีที่ต้องการ แต่อสังหาฯไม่เป็นแบบนั้นแน่นอน เราจึงคิดว่าเพื่อความปลอดภัยในเส้นทางการเงิน การมีสภาพคล่องสูงก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามครับ
สรุป
หุ้นสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เร็วกว่าอสังหาฯ จึงมีสภาพคล่องสูงกว่านั่นเองครับ
.
.
สำหรับยกที่ 2 สภาพคล่อง เรามองว่าหุ้นชนะไปอย่างค่อนข้างขาดลอย ทำให้คะแนนเป็น2:1 หุ้นนำอยู่ครับ
โปรดติดตามตอนต่อไป ยกที่ 3 “การประเมินมูลค่า”
สุดท้ายนี้ขออนุญาตฝากเพจ การเงิน การลงทุน และแนะนำหนังสือดีๆด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/sharingiscaringreviewer/