ลงทุนหุ้น VS ลงทุนอสังหาฯ ยกที่1



ลงทุนหุ้น VS ลงทุนอสังหาฯ แบบไหนดีกว่ากัน? อาจเป็นคำถามที่หลายๆคนเคยสงสัย วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ความแตกต่างของการลงทุนทั้งสองแบบนี้ โดยจะเป็นการวิเคราะห์จากประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัวของเราเองจากที่ได้ลงทุนทั้งสองแบบ โดยรูปแบบการลงทุนของเราจะเป็นสายฟาร์มค่าเช่าและปันผลครับ เชิญพบกับหุ้นฝ่ายน้ำเงิน และอสังหาฯฝ่ายแดงครับ
แบบไหนดีกว่ากัน? อืมม เป็นคำถามที่ค่อนข้างตอบยากพอสมควรนะครับ กับคำจำกัดความแค่คำสั้นๆว่า
“ดี” เพราะฉะนั้นเราจะตอบในมุมมองต่อ 4 สิ่งนี้ครับ ผลตอบแทน สภาพคล่อง การประเมินมูลค่า ความเสี่ยงในการลงทุน
.
.
ยกที่1 (เสียงระฆัง)
-ผลตอบแทน
ความจริงแล้ว ทั้งสองประเภทนี้สามารถให้อัตราผลตอบแทนต่อปีได้ไม่ต่างกันเลยล่ะครับ
เช่นหากต้องการผลตอบแทนต่อเงินลงทุนต่อปี 8% ก็สามารถเลือกหุ้นที่ให้เงินปันผล8%ต่อปี
หรืออสังหาฯที่สามารถให้ผลตอบแทนในอัตรานี้ได้
เงินลงทุน1ล้าน ไม่ว่าจะลงในอสังหาฯหรือหุ้นก็สามารถทำได้เท่ากัน ท่ี ปีละ80,000หรือเดือนละ6,666
(ไม่คิด ภาษี ณ ที่จ่าย ค่าบำรุงซ่อมแซม อื่นๆ)
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าหุ้นตัวไหนให้ผลปันผล8% บ้านหลังไหน คอนโดห้องไหนให้ผลตอบแทน8%ต่อปี?
สำหรับหุ้น สามารถเปิดเว็บไซต์ www.set.or.th กดดูข้อมูลรายตัวได้เลยครับ แต่ก่อนอื่นต้องพิจารณาพื้นฐานบริษัท งบการเงิน ความแข็งแกร่งของกิจการ มูลค่า และอื่นๆอีกมากมายครับ ไม่ใช่เห็น8%ก็ซื้อมั่ว แบบนี้ก็ไม่ได้นะ
สำหรับอสังหาฯ รู้จากไหนดี จากนายหน้าบอก จากเซลล์โครงการบอก (555เชื่อเหรอ ถามจริง ถ้าใครบอกการันตียีลด์ กี่%ๆ ให้ถามกลับเลยว่าการันตีหรือรับประกันด้วยอะไร มีลายลักษณ์อักษรหรือไม่)
ก่อนอื่นเลย หลักการลงทุนส่วนตัวของเราเอง เราจะไม่ซื้อคอนโดใหม่หรือบ้านใหม่จากโครงการ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าค่าเช่าเฉลี่ยนในตลาดจะเป็นเท่าไหร่ เมื่อเราไม่รู้อัตราค่าเช่า เราก็จะไม่สามารถ ประเมินใส่ในสูตรได้ (ค่าเช่าต่อปี / ราคา= อัตราผลตอบแทนต่อเงินลงทุนต่อปี) อีกข้อคือ เรามองว่าหากโครงการยังขายไม่หมด เราไม่สามารถประเมินได้ว่าทิศทางจะไปทางไหน ตึกนี้ โครงการนี้จะได้รับความนิยมไหม จะร้างไหม ลูกบ้าน ผู้เช่าเป็นอย่างไร และอื่นๆ
วิธีการส่วนตัวของเราที่ทำก็คือ เราจะเช็คค่าเช่าเฉลี่ยของแต่ละตึก แต่ละโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการเช็คจากเว็บต่างๆที่มีโพสต์ปล่อยเช่า เช็คจากนิติโครงการ เดินเข้าไปถามเลยบอกว่าอยากเช่า มีราคาเท่าไหร่บ้าง
จากนั้นค่อยถามต่อว่า มีห้องขายด้วยมั้ย เมื่อได้ราคาทั้งสองอย่างแล้ว เราก็สามารถคำนวณได้ภายใน1นาทีว่าผลตอบแทนนั้นถึง8%ไหม คุ้มค่าแก่การลงทุนหรือไม่ครับ แต่แน่นอนว่าต้องพิจารณาด้านอื่นเพิ่มเติมด้วยเช่นกันนะครับ เช่น ทำเล สภาพทรัพย์สิน ความได้เปรียบในการแข่งขัน และอื่นๆ
.
.
สำหรับยกที่ 1 ผลตอบแทน เราคิดว่า เสมอ1:1ครับ
แม้ว่าข้อแตกต่างคือกระแสเงินสดในรูปของเงินปันผลนั้นจะจ่ายประมาณปีละ1-2ครั้งแล้วแต่นโยบายบริษัท
แต่ค่าเช่าจากอสังหาฯส่วนใหญ่จะจ่ายเป็นรายเดือน ให้ความรู้สึกเหมือนได้เงินเข้าทุกเดือน แต่ความจริงแล้ว อัตราผลตอบแทนก็ไม่แตกต่างกันครับ

โปรดติดตามตอนต่อไป ยกที่ 2 “สภาพคล่อง”

สุดท้ายนี้ขอฝากเพจแนะนำด้านการเงิน การลงทุน แนะนำหนังสือ ด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/sharingiscaringreviewer/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่