แชร์ประสบการ์และความรู้สึก"ฝ่ายบุคคล (อดีต)" เมื่อต้องกลับมาหางานอีกครั้ง

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่าชีวิตเราเพิ่งเข้าวัยทำงาน "อายุกำลังจะย่าง 24"
โดยกระทู้นี้เจตนาคือเราอยากมาตีแพร่ความรู้สึกและมุมมองของคนที่ "เคยเป็นคนเลือกคนอื่น"
และตอนนี้กลับต้องเป็นคนถูกเลือกและยังไม่ถูกเลือกสักที 55555555

ขอเราประวัติส่วนตัวก่อนนะคะ "เราจบในสาขาสังคมศาสตร์ จากมหาลัย Top 3 ถ้าพูดถึงในสายสังคมอาจเรียกเป็น Top1 เลยก็ได้"
ตอนที่เข้าไปแล้ว เรารู้สึกแบบ "ฉันเก่งกว่าคนอื่นตั้งเยอะ จบไปยังไงฉันมีงานทำชัว" ไม่เคยกลัววิกฤตโลก สังคม การหางานยาก

จนเมื่อเรียนจบกลางปี 2562 มาเจอกับตัวเอง เหมือนฟ้าฝ่า 555555
ทุกออย่างมันไม่ได้ง่ายเหมือนที่เราคิดจริงๆ เราไปสัมภาษณ์ในครึ่งปีหลังน่าจะเกิน 10 ที่ - 20 ที่ เงียบหายกริบเมฆไปหมด
"แต่เราโชคดีที่มีคุณแม่ที่เข้าใจโลกอะไรทำนองนี้ เพราะแม่เราทำงานออฟฟิศ มาแทบจะตลอดชีวิต"

แม่เราพูดเสมอว่าเวลาเห็นเราเปื่อยๆ ไม่เอาอะไรแล้ว (เพราะเรานอยแบบ เ*ี้ย ตูจบมหาลัยที่ยากมากนะกว่าจะเข้าได้ ทำไมยังต้องมาเหนื่อยกับการหางานอีกกกกกก 55555)  "งานหนะสมัครเป็นร้อยกว่ามันจะได้ สัมภาษณ์เป็นครึ่งร้อยนะ"

เราไม่เคยเชื่อคำพูดดังกล่าวแม่เลยนะ จนวันนึงเราได้เข้าไปในการทำงานจริงๆ
เรามาได้งานตอนช่วงปลายปี โดยที่เราจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าสมัครบริษัทนี้ไป "เพราะบริษัทนี้อัพเดทจ็อบในเว็บหางานทุกวัน"
เราก็คิดว่า "เค้าอัพเดทหาพนักงาน เราส่งไปแล้ว เค้าคงไม่เอาเราแล้ว เค้าคงเห็นเรซูเม่เราแล้ว แต่ไม่โอ"
ซึ่งจู่ๆวันนั้นที่นั้นโทรมาและบอกให้เราไปสัมภาษณ์อีกวัน และเราก็ได้งานเลย ตอนนั้นพูดตรงๆดีใจมากก

"จนพอเราไปทำงานเราเข้าใจแล้วว่า ทำไมเราถึงมีความรู้สึกแย่ เพราะเราไม่เข้าใจโลกแบบที่แม่มองจริงๆ"

ในส่วนงานเราจะไม่พูดถึงหน้าที่อื่นๆนะคะ จะพูดให้เห็นงาน " Recuite , งานสรรหาพนักงานที่เราได้ทำ "
ตอนเราเข้าไปทำคือ 

1. บางทีบริษัทไม่ได้ต้องการคนทันที่ แต่เรียกมาสัมภาษณ์ไว้เผื่อเลือก บางที 2 อาทิตย์กว่าจะเลือกได้ , ซึ่งพี่ๆลุงๆป้าที่ทำงาน
คงเข้าใจในส่วนนี้ แต่ในมุมมองของเด็กจบใหม่ ถ้าวันนั้นเค้าไม่เอาเลยเราก็คงเฟลไปแล้ว

2. งานที่เปิดรับสมัครทุกวัน คนสมัครเป็น 100 เปิดดูจริงๆไม่เกินครึ่ง (ดูจากประวัติของ HRคนเก่า)
เพราะเราเคยเรียกมาสัมภาษณ์ น้องบอกเคยส่งมานานมากแล้ว (ก่อนเราทำมางาน) แต่พี่ไม่เรียกสักที 
คือบางที่ HR เรียกเข้ามาสัมภาษณ์ เพราะสัมภาษณ์ไปงั้น เผื่อฟลุ๊คเจอแจ็คพ็อต
หรือเรียกไปเพราะหน้าที่ กลัวนายด่า กลัวโดนติ ทั้งๆที่เด็กที่เรียกมาดูยังไงก็ไม่ได้เลย

3. อันนี้พีคสุด "งานที่อัพเดททุกวัน อัพเดทไปงั้นเพราะแพคเก็จบริษัทซื้อมาแล้ว"
หัวหน้าเราเคยให้เราอัพเดทจ็อบให้มันเด้งขึ้นหน้าแรกของผู้สมัคร ทั้งๆที่จ็อบนั้นแทบจะไม่ต้องการคน
หรือไม่ต้องการเลย โดยเหตุผลที่ว่า "ผมซื้อแพ็คเกจเว็บมาเดือนละตั้งหลายตังนะ"
อัพเดทไปก่อน ถ้าต้องการคนก็ไล่เรียกมาสัมภาษณ์อีกที

4. เรามีคู่แข็งเสมอและโลกไม่ได้รักคนแบบเราเท่านั้น
"เคยมีพนักงาน 2 คนมา คนนึงเรียบร้อย , คนนึงกร่านโลกมากกก"
มันไม่ใช่ว่าคนเรียบร้อยจะได้งานเสมอไป หรือ คนที่กร่านโลกจะถูกมองว่าแย่เสมอไป
มันอยู่ที่ว่า "บริษัทนั้นเป็นแบบไหน เค้าต้องการคนแบบไหน"
บางที่มองคนกร่านโลก แกร่นๆว่าเป็นปัญหา , บางที่ก็มองว่าคนแบบนี้จะสู้งาน

แต่ ณ ปัจจุบัน เจ้าของกระทู้ก็ได้กลับมาว่างงานอีกครั้ง จากสถาณการ์โควิท
มันทำให้นึกและอยากแชร์จริงๆเพราะขนาดเราเคยผ่านอะไรแบบนั้นมาแล้ว เรายังมีบางทีเบื่อ รู้สึกขี้เกียจ รู้สึกแย่อีกครั้งเลย

สุดท้ายพอเราได้ผ่านเข้าไปเจออะไรแบบนั้น เราแทบรู้และเข้าใจเลย "ว่าทำไมแม่เราถึงเคยพูดกับเราแบบนั้น"
กระทู้นี้จึงอยากแชร์ประสบการณ์และความรู้สึก บางคนอาจโชคดีไปเจอบริษัทที่เหมาะกับตัวเอง 
บางคนอาจโชคร้ายที่ไม่เจอบริษัทที่เหมาะกับตัวเราซะที

"อย่ารู้สึกแย่ บางทีมันมีอีกหลายปัจจัยมากๆที่ทำให้เราไม่ได้งานในวันนั้น ไม่ใช่เพราะเราไม่ดีไม่เก่ง"
"การที่เราส่งใบสมัครแล้วจะโทรไปสอบถามอีกครั้ง ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะนั้นคือการที่เราพยายามหาโอกาสให้ตัวเองอยู่" 
"แต่การที่เรารู้สึกท้อ เปรียบเทียบอะไรกับคนรอบข้าง นั้นละจะทำให้เราหมดโอกาส"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่