JJNY : ทวีจี้ใช้เงินกู้ฟื้นฟู/สถาปนิกสงสารปท.ไอเดียจริงๆThaifilx/สมชัยจี้แจงราคาแมสก์/ผู้ก่อตั้งพปชร.หวด/ติดเชื้อพุ่ง17

'ทวี'โพสต์ จี้รบ.ใช้เงินกู้ฟื้นฟูให้เกิดประโยชน์ต่อปชช.
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2214590

‘เงินกู้’ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 4 แสนล้านบาท ‘เป็นเงินของประชาชน’ รัฐบาลต้องส่งมอบเงินกู้ให้ “ประชาชนคิด ประชาชนใช้ และประชาชนทำประโยชน์”
 
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ(ปช.)โพสต์เฟซบุ๊กระบุ 
 
พ.ร.ก. การกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย 2 มาตรการย่อย คือ 
 
1. แผนงานสาธารณสุขและแผนงานเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ วงเงินรวม 600,000 ล้านบาท แยกเป็น ดูแลด้านสาธารณสุข วงเงิน 45,000 ล้านบาท และเยียวยาประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ วงเงิน 555,000 ล้านบาท 
 
2. แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วงเงินรวม 400,000 ล้านบาท ในกรณีเงินกู้ที่นำไปใช้แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจำนวน 400,000 ล้านบาท เห็นว่ารัฐบาลควรส่งมอบเงินกู้ส่วนนี้ผ่าน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือผ่านตำบล หมู่บ้าน หรือผ่านไปยัง ‘กองทุนหมู่บ้าน’ เพื่อให้ ‘ประชาชนคิด ประชาชนใช้ และประชาชนทำประโยชน์’ แทนการรวมศูนย์ไว้ที่คณะกรรมการเฉพาะกิจที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเพียงไม่เกิน 11 คน แทน
 
ซึ่ง ตาม พ.ร.ก. ในด้านการบริการจัดการเงินกู้ 1 ล้านล้าน อยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังที่ใช้”ระบบของคณะกรรมการ” จำนวนไม่เกิน 11 คน มาจากข้าราชการประจำตำแหน่งวิชาการและอำนวยการ 6 ตำแหน่ง มีเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธานกรรมการ และจากผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจานวนไม่เกิน 5 คน คณะกรรมการ มีอำนาจและหน้าที่ในการวางแผน กำหนดในใช้เงิน 1 ล้านล้าน ที่ พ.ร.ก.ไม่ได้กำหนดรายละเอียดไว้ ทราบว่ามีการกู้เงินและใช้เงินไปเกือบ 200,000 ล้านบาทแล้ว สังคมต้องการทราบว่าผู้ทรงคุณวุฒิที่นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งไปกี่คนแล้ว เป็นใครบ้าง?
 
ในกรณีแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วงเงินรวม 400,000 ล้านบาทนั้น ทราบว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 63 เลขาสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ ประชุมชี้แจง ผู้ว่าราชจังหวัด และหน่วยงานทั่วประเทศ ให้จัดทำคำขอใช้เงินส่งภายในวันที่ 3 มิ.ย. 63 นำเข้า ก.บ.จ. จังหวัด และ วันที่ 4 มิ.ย. 63 รวบรวมส่งให้ คณะกรรมการกลั่นกรองตาม พ.ร.ก. พิจารณา การสั่งการที่ให้เวลาในการจัดทำโครงการน้อยมาก ส่วนราชการ หน่วยงานต่าง ๆ มักจะใช้วิธีการ เอาโครงการเดิม ๆ หรือโครงการเก่าที่เคยขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 หรือ 2563 หรือเก่ากว่ามาปัดฝุ่น และมีความซ้ำซ้อนกับงบประมาณอื่น ๆ ในแต่ละจังหวัดและหน่วยงานกระทรวง กรม จะเสนอโครงการเพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาตัดออก โครงการจึงมี หลายหมื่นโครงการ จึงเกิดคำถามว่า คณะกรรมการฯ จะตรวจสอบกลั่นกรองอย่างไร?
 
โครงการต่าง ๆ ราชการกระทรวง กรม และจังหวัดจะมองว่าเป็นภาระหน่วยงาน ต้องรีบใช้งบประมาณเงินกู้ให้หมดเร็วๆ ขาดการมีส่วนรวมของประชาชน หลายส่วนราชการอาจความคิดว่าเงินกู้เป็นงานฝากที่ไม่มีตัวชี้วัดการปฏิบัติงานของส่วนราชการที่ตกลงไว้กับ กพร. และรัฐสภาตามที่ปรากฏในเอกสารงบประมาณ จึงไม่สำคัญเท่างบประมาณรายจ่ายประจำปี คำกล่าวที่ได้ยินบ่อย คือ “เงินกู้ไม่มีค่าได้มาฟรีๆ ใช้ให้หมดๆ ไป ไม่มีผลกับตัวชี้วัดหน่วยงาน” หรือ “มัวแต่บริหารเงินกู้ไม่บริหารงบประมาณ พ.ศ. 2564 พอกลางปี หรือไตรมาสที่ 2 ใครจะรับผิดชอบถึงความสูญเปล่า ความไร้ประสิทธิภาพที่เกิดขึ้น รวมทั้งอาจจะเกิดการต้องคืนงบประมาณให้รัฐบาลเอาไปทำงบกลาง” ทั้งที่ความเป็นจริงเงินกู้ดังกล่าว “เป็นหนี้สาธารณะ” ที่เมื่อรวมกับหนี้สาธารณะเดิมจะมากกว่า 8 ล้านล้านบาท เป็นภาระของบุคคลทุกคนในปัจจุบันและที่จะเกิดในอนาคต ต้องร่วมกันใช้หนี้อาจใช้เวลาถึง 100 ปีก็เป็นได้ ซึ่ง ‘เงินกู้ ไม่ใช่ได้มาฟรี ๆ ต้องให้ประชาชนได้ประโยชน์อย่างทั่วถึง’

https://www.facebook.com/TaweeSodsongOfficial/photos/a.2640485059300453/3672314859450796/?
 

 
สถาปนิกดัง สงสารประเทศจริงๆ รมต.ผุดไอเดียThaifilx แนะใช้สมอง อย่ามีแค่ปาก
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_4251003
 
สถาปนิกดัง สงสารประเทศ หลังรมต.ผุดไอเดียThaifilx แนะใช้สมอง อย่ามีแค่ปาก
 
วันที่ 4 มิ.ย. ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชื่อดัง แสดงความคิดเห็นกรณี รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงแนวความคิดของเขาที่จะสร้าง “แพลตฟอร์มไทย” แข่งกับแพลตฟอร์มต่างประเทศ โดยอาจสร้าง Thaiflix ขึ้นมาในลักษณะคล้ายกับ Netflix ความว่า
  
เรื่องมีข่าวว่ารัฐมนตรี อยากทำ Thaifilx ออกมาแข่งกับ Netflix นี่ ผมขอด่าอย่างเป็นทางการนะครับ ว่าเป็นความคิดที่ไม่ควรออกมาจากผู้กำหนดนโยบายรัฐอย่างรัฐมนตรี หรือรัฐบาลนะครับ จะด่าว่าปัญญาอ่อนก็เกรงใจ
 
รัฐบาล หรือ รัฐมนตรี ต้องทำงานในการกำหนดนโยบาย เพื่อสร้าง infrastructure ให้กับธุรกิจของเอกชน เมื่อเอกชนทำธุรกิจได้ดี มีเงินเพิ่มขึ้น ก็จะมีกำลังในการจ่ายภาษีมากขึ้น รัฐก็จะมีรายได้มากขึ้น นี่คือวิธีคิดที่ควรจะเป็นในการเป็นฝ่ายบริหารงานของรัฐบาล คิดบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาเพิ่อให้ภาคธุรกิจเขาทำธุรกิจได้
 
ไม่ใช่มาทำธุรกิจแข่งกับเอกชนเสียเอง
 
ผมถึงบ่นอยู่บ่อยๆ ว่าคนมาเป็นรัฐมนตรีนี่ มีแค่ปากอย่างเดียว ยังใช้ไม่ได้ ต้องมีสมองสั่งการด้วย และการคิดอะไรออกมาก่อนพูด ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนส่วนรวมเป็นหลัก เราต้องอยู่กับวิธีคิดที่ไร้ค่ากับประเทศแบบนี้มา 5-6 ปีแล้ว และ GDP วันนี้เราก็ไปรั้งท้ายแถวของอาเซียนที่ -6% และตัวอย่างวิธีคิดแบบนี้ มันก็ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนขึ้น ว่าทำไมประเทศเราถึงตกต่ำได้ขนาดนั้น
 
#สงสารประเทศไทย จริงๆครับ
 
https://www.facebook.com/duangrit.bunnag/posts/10216899345744367


 
"สมชัย"จี้หน่วยงานรัฐชี้แจงเหตุผล ปรับราคาแมสก์การแพทย์จากชิ้นละ 2.50 เป็น 4.28 บาท
https://www.matichon.co.th/politics/news_2214545

วันที่ 4 มิถุนายน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ผอ.ศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ปรึกษา กมธ. ปปช. สภาผู้แทนราษฎร โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า 

ในขณะที่กระทรวงพาณิชย์ยังมีประกาศควบคุมราคาขายปลีกหน้ากากอนามัยที่ ชิ้นละ 2.50 บาท
 
ตามประกาศ กกร.ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2563 และต่อมารัฐบาล อาศัยคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 9/2563 ลงวันที่ 10 เมษายน 2563 ให้องค์การเภสัชกรรม จัดหาหน้ากากอนามัยทางการแพทย์โดยซื้อตรงจากโรงงานผู้ผลิต วันละ 2.3 ล้านชิ้น ในราคาชิ้นละ 4.28 บาท
 
ผมได้ข้อมูลจากโรงงานผู้ผลิตรายหนึ่งเกี่ยวกับต้นทุนทางวัตถุดิบ ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2563 โดยวิเคราะห์ให้เห็นว่า ส่วนประกอบของวัตถุดิบหน้ากากอนามัยทางแพทย์ ประกอบด้วย 5 ส่วน ชิ้นที่มีปัญหาราคาวัตถุดิบ คือ ชิ้นที่ 3 ชิ้นกลาง Middle Layer Melt-blown ซึ่งขาดแคลนแต่สามารถจัดหาได้ แม้ราคาจะสูงขึ้น
 
โดยนำเข้า ราคาตันละ 1.5 ล้านบาท หรือ ขอซื้อจากบริษัทที่ผลิตในประเทศที่มีจำกัดราคาตันละ 363,000 บาท แต่เมื่อมาคำนวณเป็นต้นทุนแล้ว จะตกชิ้นละ 1.8155 บาท จากกรณีนำเข้า Melt-blown และ เพียง 0.6070 บาท กรณีสามารถจัดซื้อจากผู้ผลิตในประเทศได้ ราคา 4.28 บาท ที่รัฐไปทำสัญญาจัดซื้อจากโรงงาน จึงเป็นราคาที่รัฐควรชี้แจงเหตุผลต่อประชาชน และสมควรมีการตรวจสอบว่า เป็นการจัดซื้อที่มีเหตุผลสมควรหรือไม่ หรือ ใครได้ประโยชน์จากการดำเนินการครั้งนี้
 
https://www.facebook.com/Somchai.Srisutthiyakorn/posts/2877041509011900
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่