PART 16.///เมื่อฉันไปเรียนภาษาที่อังกฤษ///BLACKPOOL+SELWICKS BAY

----------------------------

++++สืบเนื่องมาจากที่เราไปเรียนภาษาที่อังกฤษและพบเจอเหตุการณ์บางอย่างที่น่าสนใจเลยเอามาแชร์ให้คนอื่นได้รับรู้ไปกับเราด้วย ++++

----------------------------

+++กระทู้ก่อนหน้า+++

+++ BLACKPOOL +++

ในตอนนี้เราจะพาไปที่เมืองBLACKPOOLเมืองนี้จะตั้งอยู่เหนือเมืองLiverpool หน่อยๆก่อนที่เราจะมาเมืองนี้พี่สาวเราเล่าให้ฟังว่าที่นี่ค่อยข้างที่จะเป็นเมืองที่มีความเถื่อนนิดๆเพราะเนื่องจากได้เห็นข่าวรุนแรงต่างๆที่ส่วนใหญ่มักมาจากเมืองนี้(แต่ไม่ได้ความว่าเมืองอื่นไม่มีนะ)แต่ถึงอย่างไรก็ตามในช่วงเวลาปกติมันก็ยังคงมีความปลอดภัยอยู่และสามารถเที่ยวได้

สภาพเมืองนี้มันจะเป็นที่ติดชายทะเลมีร้านบังเทิงต่างๆมากมายแต่ที่เห็นจะตื่นตาสุดสำหรับเราคือพวกร้านปาจิงโกะและพวกคาสิโนต่างๆที่เปิดเรียงรายกันอยู่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเสี่ยงดวงและอาคารบ้านเรือนที่นี่เราว่ามีโทนที่ค่อยข้างไปทางมืดๆหน่อยบ้านสีเข้มๆจะค่อยข้างเยอะในแถบนี้ทำให้ภาพความรวมดูมีความดาร์กพอสมควร

เราออกมาแถวชายทะเลเดินเลียบไปเรื่อยๆเราเห็นว่าที่นี่มีรถรางนะคือมันวิ่งไม่เร็วนักทำให้มันสามารถวิ่งผ่านเมืองได้และเนื่องจากที่มันวิ่งไม่เร็วทำให้บริรางไม่มีรั้วกั้นเลยทำให้พื้นที่สำหรับคนเดินมีมากขึ้นโดยจะเห็นว่าในรูปมีถนนสำหรับรถยนต์ที่อยู่ด้านขวามือในรูปแคบใช้ได้เลยละ

ที่นี่ยังมีรถม้าฟักทองคอยบริการนักท่องเที่ยวด้วยนะยังกะซินเดอเรลล่าเลยละ

ช่วงที่เราไปอากาศหนาวเย็นเลยละทำให้ไม่ได้เห็นรถม้าฟักทองมากเท่าไรเพราะอากาศเย็นๆคงจะปะทะกายทำให้คนไม่ค่อยนิยมขึ้นเท่าไรนักแต่ยังมีวิ่งเรื่อยๆ ราคาขึ้นไม่รู้เท่าไร

ระหว่างที่ขับรถเข้ามาเมืองนี้สิ่งแรกที่เห็นคือทาวเวอร์นี้ละมันชื่อว่าThe Blackpool Tower โดยที่ลานด้านหน้าทาว์เวอร์นี้มีภาพเขียนที่คล้ายๆแผ่นหนังสือพิมพ์เขียนอยู่เต็มลานเลยละน่าสนใจมาก(แต่เราไม่ได้ถ่ายมา)

เจ้าสิ่งนี้จะเป็นคล้ายเสาใบไม้ที่ตั้งอยู่ข้างทางเดินมันเป็นงานออกแบบที่สามารถโอนเอียงไปกับทะเลได้เวลาที่มีสายลมพัดมาโดนใบที่อยู่ยอดๆมันจะทำให้แท่งเสาส่ายไปมาได้ช้าๆเราคิดว่าเป็นเป็นงานออกแบบที่ดีมากสามารถใช้ประโยคจากพลังงานลมได้เต็มที่และสีของมันยังกลมกลืนกับบ้านเรือนที่ดูมืดๆอีกด้วย

ใบด้านบนสุดที่มี 4 แฉก

เราชอบที่อังกฤษมีความใส่ใจกับงานออกแบบมากยอมที่จ้างนักออกแบบดีมาออกแบบและพัฒนาเมืองให้ดีขึ้นจะเห็นว่าสถาบันศึกษาด้านการออกแบบระดับโลกดีๆส่วนนึงก็มาจากที่อังกฤษนี่ละ

ในรูปจะมีแท่งเสาที่คอยเล่นกับลมและมีเก้าที่ที่ออกแบบเหมือนก้อนหินที่วางกระจายอยู่ไปทั่วอย่างเป็นธรรมชาติคือมันไม่มีป้ายบอกนะว่านี่คือเก้าอี้คุณสามารถนั่งได้นะ แต่มันถูกออกแบบในความสูงที่เหมาะกับการนั่งทำให้คนทั่วไปสามารถรับรู้ได้โดยธรรมชาติเลยว่าถ้ามันวางอยู่ตรงที่สาธารณะแบบนี้และความสูงเท่านี้ฉันสามารถหย่อนตูดลงนั่งได้โดยไม่ผิด

แม้อากาศจะเย็นๆแต่ยังคงมีคนวิ่งหาน้ำทะเลอยู่

เรากำลังจะเดินไปที่ชิงช้าสวรรค์นั่นมันเป็นสถานที่มีเครื่องเล่นต่างๆที่ตั้งอยู่ในส่วนที่ยื่นออกไปในทะเล

แม้อากาศจะหนาวๆแต่คนที่นี่ยังออกมาเดินเล่นข้างนอกกันเยอะอยู่นะ

ระหว่างทางเดินจะมีร้านปาลูกโป่ง ร้านคีบตุ๊กตาต่างๆเหมือนงานวัดบ้านเรา

 

ร้านยิงปืนและเครื่องเล่นต่างๆเราคิดว่ารูปแบบร้านพวกนี้มีมานานแล้วนะแม้ปัจจุบันจะมีพวกเทคโนโลยีแบบจิ้มจอได้เข้ามาแล้วแต่ที่นี่ยังมีร้านค้าแบบเดิมๆที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่

ขึ้นชิงช้าไปแล้วไม่รู้ว่าราคาเท่าไรเพราะพี่สาวเราจ่ายภาพบนนี้ถ่ายลงมาจากชิงช้า

ร้านค้าต่างๆที่ยืนออกไปในทะเลที่นี่มันเป็นเหมือนสวนสนุกย่อมๆเลยนะมีซุ้มเกมต่างๆให้เล่นระดับนึงเลยละแต่ไม่รู้ว่าทำไมคนที่นี่ถึงชอบสร้างสวนสนุกแบบนี้ยื่นลงไปในทะเลเพราะเราเห็นตลอดเลยทุกที่ที่มีเมืองติดกับทะเล

The Blackpool Tower เด่นเป็นสัญลักษณ์ของเมืองขอบอกเลยนะว่าแวบเเรกที่เห็นคิดว่า เฮ้ยยยยยยนี่มันหอไอเฟลถูกหั่นครึ่งป่าววะเพราะมีความคล้ายเลยนะ

เครื่องเล่นยังเล่นต่อไปเรื่อยๆเพลงก็ยังเปิดสนั่นเลยละแม้ว่าจะไม่ค่อยมีคนเล่นเพราะอากาศหนาวก็ตามในช่วงนี้เราคิดว่ามันยังเงียบๆนะที่นี่แต่ก็คิดว่าถ้าช่วงซัมเมอร์หมุนมาใหม่ที่นี่คงจะครึกครื้นกันน่าดูเลยละ

เมืองBLACKPOOLที่อาจจะดูดิบๆหน่อยๆเราสามารถเข้าใจได้นะเพราะที่เกาะอังกฤษนี้มีพวกมาเฟียที่คอยคุมอยู่เงียบๆในบางเมืองโดยเราสามารถดูได้จากในซีรี่ย์Peaky Blinderได้เลยแต่อาจจะไม่ได้ยุ่งกับชาวบ้านปกติและปัจจุบันถูกกวาดล้างไปบ้างแล้วซึ่งในปัจจุบันคนกลุ่มนี้อาจกลายเป็นผู้มีอิทธิพลหรือนักธุรกิจต่างๆไปแล้วก็ตามแต่เมืองนี้ผู้คนยังใช้ชีวิตได้ปกติและน่าจะครึกครื้นมากทีเดียวในซัมเมอร์

+++ SELWICKS BAY +++

เราจะพาไปที่SELWICKS BAY ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองFlamborough ที่นี่จะเป็นหาดที่ออกห่างจากเมืองเป็นพื้นที่เงียบๆมีอาคารไม่กี่หลังแต่หาดที่นี่สวยมากทีเดียวแม้ว่าน้ำจะไม่ใสเลยก็ตามนะแต่มีหน้าผาที่เป็นชั้นหินสีขาวๆที่เป็นเอกลักษณ์ของหาดอังกฤษคนจะนิยมมาพักผ่อนและเดินออกกำลังกายที่นี่พอสมควรเลยละ

ทะเลสีครามที่ตัดกับท้องฟ้าใสๆ ที่นี่ลมแรงประมาณนึงเลยนะใครที่มาหาดอังกฤษในช่วงซัมเมอร์ขอแนะให้พกแว่นกันแดดมาด้วยนะจำเป็นมากทีเดียว

ประภาดาที่นี่จะเปิดไฟส่องตรวจตลอดเวลาแม้ในตอนกลางวันก็เหอะด้านข้างจะเป็นร้านขายของที่ระลึกที่นี่และมีคาเฟ่ขายอาหารเล็กๆและพื้นที่สนามหญ้าจะมีม้านั่งวางเรียงกันเพื่อให้สามารถชมวิวได้เต็มๆที่และมีบันได้ทางลงเล็กๆลงไปหาดด้วยละเเต่แอบบเหนื่อยเหมือนกัน

เราลงบันไดมาที่หาดได้เเล้ว

ชั้นหินขาวๆที่นี่ทำให้มันต่างกับผาบ้านเรานะเพราะที่ไทยจะสีออกเข้มๆเเต่ที่อังกฤษจะเป็นสีขาวๆเราลองเก็นหินที่อยู่รอบๆมาดูมันจะบี้ได้ง่ายๆเลยนะเหมือนคล้ายกับหินปูขาวเลยละ

หาดที่นี่ไม่มีทรายนะแต่จะมีพื้นหินแทนและหินจะเป็นเส้นๆตามกระแสน้ำที่พัดมาดูแปลกดีนะและตามหาดจะมีสาหร่ายทะเลที่พัดมาเต็มเลย

 

สาหร่ายที่โดนพัดกระแสน้ำพัดเข้าฝั่งเหมือนใบไม้แห้งที่กองๆไว้เลย

จากนั่นพี่สาวเราก็พาไปดูช่องผาที่เกิดขึ้นเองโดยช่องผานี่เราเองไม่ค่อยตื่นเต้นมาเท่าไรนักแต่ระหว่างทางระทึกมากเพราะต้องเดินตามโขดหินตามผาซึ่งบางแห่งมีที่ให้เหยียบน้อยมากและลื่นอีกด้วยแต่ก็ผ่านไปมันได้ ในใจกลัวกล้องตกน้ำจัง55555

นี่ก็เป็นช่องผาอีกแห่งจะเข้ามาดูได้ชัดๆตอนที่น้ำลดเเล้วเท่านั้นเพราะถ้าน้ำขึ้นจะไม่สามารถเข้ามายังจุดนี้ได้เลย

เราคิดว่าที่นี่มันแอบคล้ายๆกับเกาะทีมิสคีร่าในหนังWonder Woman เลยนะแต่ไม่เหมือนทั้งหมดหรอกหลังจากที่ขึ้นมาจากหาดแล้วก้แวะที่ร้านค้าขายของที่ระลึกสักหน่อยสำหรับเราไม่ค่อยมีของน่าสนใจมากจากนั้นเราก็กลับบ้านกัน