----------------------------
++++สืบเนื่องมาจากที่เราไปเรียนภาษาที่อังกฤษและพบเจอเหตุการณ์บางอย่างที่น่าสนใจเลยเอามาแชร์ให้คนอื่นได้รับรู้ไปกับเราด้วย ++++
----------------------------
+++กระทู้อื่นๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/39800272
https://pantip.com/topic/39801509
https://pantip.com/topic/39802615
https://pantip.com/topic/39803259
https://pantip.com/topic/39805824
https://pantip.com/topic/39806465
++++ LEEDS ++++
เมื่ออยู่ในช่วงกักตัวไม่มีอะไรทำเลยขุดหาเรื่องราวสมัยตอนที่ไปเรียนภาษาที่อังกฤษในปี 2018มาลงในพันทิปสักหน่อยเพราะก่อนไปเราก็เคยหาข้อมูลในนี้เหมือนกันเลยอยากบอกเล่าเรื่องราวของเราในคนอื่นรู้บ้างและกระทู้"เมื่อฉันไปเรียนภาษาที่อังกฤษ"นี้จะมีหลายๆตอนและจะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการเรียนไว้ในตอนสุดท้ายละกันนะ
จุดเริ่มต้นคือหลังจากที่เราเรียนจบมหาลัยเเละทำงานได้สักพักเรามีความฝันว่าอยากจะพูดภาษาอังกฤษให้ได้และได้คุยกับครอบครัวและได้สรุปว่าถ้าอยากจะไปเรียนต้องไปที่อังกฤษเท่านั้นเพราะเนื่องจากมีพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องเราอยู่ที่อังกฤษและพี่สาวเราแกอยู่ที่เมืองHUDDERSFIELD เราจึงหาที่เรียนที่ไม่ไกลจากเมืองพี่เราอยู่ มองจากแผนที่ ซ้ายเป็น MANCHERSTER ด้านขวาเป็น LEEDS กลางเป็นเมืองHUDDERSFIELD ที่พี่เราอยู่ พอเราไปอ่านข้อมูลในพันทิปสรุปได้ว่าจะไปเรียนที่ลีดส์เพราะเราไม่ชอบความวุ่นวาย
จากนั้นทำให้เราได้มารู้จักกับเมืองนี้"LEEDS" เราคิดว่ามันเป็นเมืองใหญ่ที่ไม่ค่อยวุ่นวายนักเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ข้างเคียง มีมหาวิทยาลัยที่คนไทยชอบมาเรียน มีร้านไทยมากมายทุกระดับราคาและในวันแรกที่เราได้เดินสัมผัสเราชอบมันมากเพราะ มหาวิทยาลัย แหล่งช็อปปิ้ง โรงพยาบาล ออฟฟิศ และซุปเปอร์มาร์เก็ต คือมันเชื่อมต่อกันหมดเลยและมีทางเท้าที่เอื้อต่อคนเดินสุดๆมันทำให้เกิดความที่อยากจะเดินไปเองโดยไม่ต้องขึ้นรถเมย์เลย
นี่คือ Leeds Town Hall ตั้งเป็นสง่าเลยมันเป็นเหมือนสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองนี้
อยู่ติดกับห้องสมุดเมืองและมิวเซียมด้วยมันเป็นทางผ่านที่เราต้องเดินไปเรียนทุกวัน
รูปนี้ถ่ายในช่วงใกล้ฤดูหนาวเราชอบแสงสีทองๆส้มๆตอนเย็นมากเพราะเมื่อแสงมันกระทบกับอาคารมันจะทำให้อาคารกลายเป็นสีทองเลยละ
ในบางครั้งที่นี่ถูกใช้เป็นที่รับปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยและบางครั้งเราก็เห็นมันถูกใช้เป็นที่เเสดงดนตรีแนวโอเปร่าและที่เปิดงานอีเว้นท์ต่างๆอีกด้วย ในช่วงตอนที่ใช้รับปริญญาจะมีญาติๆของผู้รับมาร่วมยินดีทำให้เราเห็นการแต่งกายเป็นผู้ดีอังกฤษมากกกกกก เช่นผู้ชายจะใส่สูทผู้กระต่าย ส่วนใหญ่จะเป็นสูทลายๆอย่างที่เห็น ผู้หญิงจะนุ่งเดสและบางคนจะติดหมวกตาข่ายด้วย และที่สำคัญไม่มีดอกไม้และตุ๊กตาขายเหมือนที่ไทยเลย จะมีแค่ซุ้มเล็กๆไว้ถ่ายรูป ย้ำาาาา..........ซุ้มเล็กๆเท่านั้น!!!!
และถ้าสังเกตุ 3 รูปด้านบนจะเห็นว่ามีคนสวมแว่นกันแดดเยอะมาก เพราะที่นี่จะคิดว่าเป็นเป็นเครื่องเครื่องมือที่จำเป็นเพื่อใช้ป้องกันแสงแดดจริงๆและพอเข้าร่มเค้าจะถอดออกซึ่งต่างกับบ้านเราตรงที่บางคนสวมมันเพราะความเท่ๆแม้แต่ในที่ร่มยังไม่ถอดเลย บางคนเท่านั้นละ
เราขอชมกับผู้บริหารเมืองนี้สักหน่อยคือบางช่วงในซัมเมอร์เทศบาลเค้าจะปิดถนนเส้นหนึ่งแล้วเอาเก้าอี้ชายมาวางไว้ให้คนนั่ง บางครั้งจะจัดอีเว้นท์ศิลปะตอนเด็กปิดเทอมให้เด็กเอาสีชอล์กมาระบายพื้น คือมันกิจกรรมหลายๆอย่างเกิดขึ้นให้กับคนเมืองของเขามันสัมผัสได้ถึงการใส่ใจกับการบริการสังคมเราชอบมันมากๆ
รูปนี้ถ่ายไม่ไกลจากLeeds Town Hall จะเห็นว่าอาคารสมัยเก่าๆจะมีรายละเอียดต่างๆเยอะเช่น กรอบหน้าต่าง กรอบคานที่มีการสร้างลวดลายทับ ซึ่งลายละเอียดเยอะแบบนั้นทำให้สัมผัสถึงความร่ำรวยของอังกฤษในสมัยก่อนเป็นอย่างดี เพราะลายละเอียดหลายอย่างใช้ช่างทำเยอะมากกกกก เเละมีความแตกต่างกันในวัสดุอีกด้วยจะเห็นว่ามีตึกสีอิฐส้ม อิฐครีมหม่นๆ
อาคารที่สร้างแบบสมัยก่อนจะมีปล่องควันไว้ก่อไฟในบ้านแม้ปัจจุบันจะมีฮีสเตอร์แล้วก็ตามแต่มันก็ทำให้เกิดความคลาสสิคของเมืองนี้
รูปนี้ถ่ายตอนเที่ยวจะเห็นเล่ามนุษย์เงินเดือนของที่นี่ออกมากินข้าวกัน และมันจะมีสวนสาธารณะเล็กๆบริเวณนั้นในช่วงพักเที่ยงตอนซัมเมอร์จะเห็นกลุ่มมนุษย์เงินเดือนออกมามานั่งกินข้าวและเราตกใจมาก คือเขามากกันเยอะมากๆแทบไม่มีที่นั่งเลยหมายถึงนั่งพื้นอ่ะ เพราะมันไม่ค่อยมีร้านแบบร้าน ก๋วยเตี๋ยว ร้านตามสั่ง ร้านลาบนั่งกินแบบบ้านเรา
บางคนที่มาต่างประเทศกลัวว่าคนจะเยียด เราคิดว่าที่นี่มันมีความแตกต่างด้านเชื้อชาติมากอยู่เเล้วทำให้เขาชินกับการอยู่รวมกับการคนชาติอื่นๆอยู่แล้ว เราว่าไม่ต้องกลัวหรอกแค่ยิ้มให้เขาก่อนคุณจะได้ยิ้มดีๆกลับคืน เช่นภาพบนเรากำลังถ่ายภาพมีผู้หญิงกำลังโบกมือให้สวยๆ
จุดช็อปปิ้งของที่นี่จะอยู่แถวTrinity Leeds (เราไม่มีรูปในห้างนั้น)ที่นี่จะมีร้านแบรนด์ดังต่างๆพอสมควร และในช่วงซัมเมอร์คือลดหนักมาก จนเราแทบจะไม่เชื่อ เช่น เราเคยได้เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์zara จาก เกือบสองพันเหลือแค่ 800 บาท มันลดหนักมากก ขนาดที่เราเป็นคนไม่ค่อยซื้อเสื้อผ้ายังได้ซื้อจนขนกลับไม่พอต้องฝากไว้บ้านพี่สาว และอีกแบรนด์ที่ราคาดีคือPrimark แนะให้ซื้อพวกเสื้อยืดพื้นๆจะตกตัวละ 60-70 บาทเลยละ
นี่แถวcity cente ในช่วงสุดสัปดาห์คนจะเยอะมากกกกกกก บางครั้งจะมีคนมาเปิดหมวกร้องเพลง และมีโชว์เปิดหมวกต่างๆและในซัมเมอร์คนจะประดับดอกไม้หน้าร้านกันเพราะดอกไม้จะบานสวยมากในช่วงนี้
ส่วนห้างๆต่างๆมักมีเปียโนวางไว้ให้เล่นฟรีๆเลย ไม่ได้มีแค่ตรงนี้นะในห้างยังมีอีก
ทางเดินแถวcity cente มันจะมีความหรูหราจนนึกว่าอยู่โรงแรม 5 ดาวจะมีการตกแต่งด้วยภาพวาดและใช้สีทอง-เขียว-ครีมและหินอ่อนซึ่งจะแตกต่างจากอิฐส้มๆข้างนอก ร้านส่วนมากจะเป็นพวกร้านรองเท้า สูท พวกสินค้าแบบดูดี "ถามว่าได้เข้าไปมั้ย" หึ!!!!
นอกจากมีซุปเปอร์มาร์เก็ตแบบสมัยใหม่แล้วยังมีตลาดด้วย Leeds Kirkgate Market เป็นตลาดที่เราคิดว่าสมัยก่อนมันคงรุ่งเรืองมากๆเพราะร่อยรองทางสถาปัตยกรรมต่างๆที่ทิ้งรอยไว้เช่น ความละเอียดและการตกแต่งของอาคาร ยอดโดมเล็กๆต่าง เนื่องจากความสะดวกแบบสมัยใหม่ทำให้ตลาดซบเซาลงอย่างที่คนที่เพิ่งมาอยู่ใหม่แบบเราสังผัสมันได้
ที่นี่มีร้านอาหารไทยด้วยอ่านในพันทิปบอกว่าราคาดี ชาไทยก็ดี แต่เราไม่เคยกินนะเพราะเราทำอาหารกินเองเลยไม่ได้ซื้ออาหารกินเท่าไร
สินค้าที่นี่จะขายพวกเสื้อผ้าสไตล์แม่บ้านแขกที่เหมือนตัดมายกโหลและแขวนขายราคาก็จะดี มีขายพวกพรมต่างและพวกเนื้อสัตว์ด้วย
ผลไม้ที่นี่จะราคาถูกมาก ถูกว่าที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตอีกและที่นี่ยังมีโซนข้างนอกซึ่งเราไม่ได้ถ่ายรูปมา จะเจอพวกสตอเบอรี่กล่องละ 1 ปอนด์ และผลไม้กล่องละ 1 ปอนด์เยอะมากกกกซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านแขกมาขาย (เราแอบเห็นแม่บ้านไทยที่ทำยูทูปมาถ่ายที่นี่) ตลาดที่นี่มีความตลาดแขกเยอะพอสมควรแต่ก็มีคนอังกฤษอยู่บ้างส่วนใหญ่จะขายเนื้อสัตว์ต่างๆ
ตลาดที่นี่เด่นมากเลยนะเเค่เดินออกมาจากTrinity Leeds 10 นาทีก็ถึงละ แนะให้มาลองเดินหาของกินราคาถูกที่นี่ละ
รูปนี้ถ่ายข้างๆตลาดเลย ช่วงนั้นอากาศจะเย็นๆหน่อยสังเกตุคนในรูปจะใส่เสื้อแขนยาวกันแล้ว
Leeds Corn Exchange สมัยก่อนเป็นที่แลกเปลี่ยนสินค้าของพ่อค้าแม่ค้า ปัจจุบันเป็นร้านค้าต่างๆ นี่ก็เป็นอีกแห่งที่สัมผัสถึงความซบเซาเหมือนกันคือไม่ค่อยมีคนเดินเลยละ จุดเด่นคือหลังคาที่เป็นโดมซึ่งเป็นCorn Exchangeไม่กี่แห่งในอังกฤษ และมีประตูหลายสีกับบันไดโค้งๆ ที่นี่มีคาเฟ่น่ารักๆอยู่ด้วย
ตอนเราไปด้านล่างเหมือนกำลังรีโนเวทอยู่ แนะให้มาถ่ายรูปและเข้าคาเฟ่กัน
มีอยู่วันหนึ่งได้ยินเสียง กั๊บ กั๊บ กั๊บ หันหน้าไปดูเจอตำรวจขี่ม้าตรวจความสงบเมืองอยู่ ย้ำ!!!!!!!!ตำรวจขี่ม้าาาาาาาา มันเท่มากโว้ยยยยทั้งนี่ปัจจุบันมีรถแล้วนะ แต่ความคลาสสิคนั่นต้องยกให้อังกฤษจริงๆละ เขียวมาแต่ไกล คือไม่เห็นก็ไม่รู้จะพูดไรละ ตำรวจเค้าตรวจตลอดนะ บางครั้งตอน2ทุ่มยังเห็นเดินมาเป็นคู่ๆเลย รู้สึกคุ้มค่ากับภาษีที่เค้าเสียจริงๆ
เรื่องเข้าแถวที่นี่ก็สำคัญมากนะ รูปนี้ถ่ายตอนช่วงเวลาเลิกงานจะเจอคนต่อแถวขึ้นรถเมย์กันและมันจะมีป้ายไฟบอกตารางเวลารถเมย์ด้วย
รูปนี้ถ่ายตอนช่วงเวลาเลิกงานเหมือนกันทำให้รู้ว่าเวลารถติดมันติดแค่ใหน สรุปก็ไม่มากเพราะเนื่องจากการจัดการการเดินทางสาธารณะเข้าทำไว้ได้ดีทำให้คนนิยมให้รถสาธารณะและที่จอดรถในเมืองส่วนใหญ่เสียเงินนะ
ที่นี่เป็นสะพานแขวนไว้ข้ามคลอง เนื่องจากมีคลองในลีดส์มันจะมีสะพานแขนไว้คลองเป็นจุดๆ เราว่าอากาศที่นี่ดีมากเลยนะเพราะมันติดคลองจะมีลมพัดตลอดเลยเเละน้ำก็ไม่สกปรกนะ
[img]
https://f.p
เมื่อฉันไปเรียนภาษาที่อังกฤษ///LEEDS
เมื่ออยู่ในช่วงกักตัวไม่มีอะไรทำเลยขุดหาเรื่องราวสมัยตอนที่ไปเรียนภาษาที่อังกฤษในปี 2018มาลงในพันทิปสักหน่อยเพราะก่อนไปเราก็เคยหาข้อมูลในนี้เหมือนกันเลยอยากบอกเล่าเรื่องราวของเราในคนอื่นรู้บ้างและกระทู้"เมื่อฉันไปเรียนภาษาที่อังกฤษ"นี้จะมีหลายๆตอนและจะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการเรียนไว้ในตอนสุดท้ายละกันนะ
จุดเริ่มต้นคือหลังจากที่เราเรียนจบมหาลัยเเละทำงานได้สักพักเรามีความฝันว่าอยากจะพูดภาษาอังกฤษให้ได้และได้คุยกับครอบครัวและได้สรุปว่าถ้าอยากจะไปเรียนต้องไปที่อังกฤษเท่านั้นเพราะเนื่องจากมีพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องเราอยู่ที่อังกฤษและพี่สาวเราแกอยู่ที่เมืองHUDDERSFIELD เราจึงหาที่เรียนที่ไม่ไกลจากเมืองพี่เราอยู่ มองจากแผนที่ ซ้ายเป็น MANCHERSTER ด้านขวาเป็น LEEDS กลางเป็นเมืองHUDDERSFIELD ที่พี่เราอยู่ พอเราไปอ่านข้อมูลในพันทิปสรุปได้ว่าจะไปเรียนที่ลีดส์เพราะเราไม่ชอบความวุ่นวาย
จากนั้นทำให้เราได้มารู้จักกับเมืองนี้"LEEDS" เราคิดว่ามันเป็นเมืองใหญ่ที่ไม่ค่อยวุ่นวายนักเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ข้างเคียง มีมหาวิทยาลัยที่คนไทยชอบมาเรียน มีร้านไทยมากมายทุกระดับราคาและในวันแรกที่เราได้เดินสัมผัสเราชอบมันมากเพราะ มหาวิทยาลัย แหล่งช็อปปิ้ง โรงพยาบาล ออฟฟิศ และซุปเปอร์มาร์เก็ต คือมันเชื่อมต่อกันหมดเลยและมีทางเท้าที่เอื้อต่อคนเดินสุดๆมันทำให้เกิดความที่อยากจะเดินไปเองโดยไม่ต้องขึ้นรถเมย์เลย
นี่คือ Leeds Town Hall ตั้งเป็นสง่าเลยมันเป็นเหมือนสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองนี้
อยู่ติดกับห้องสมุดเมืองและมิวเซียมด้วยมันเป็นทางผ่านที่เราต้องเดินไปเรียนทุกวัน
รูปนี้ถ่ายในช่วงใกล้ฤดูหนาวเราชอบแสงสีทองๆส้มๆตอนเย็นมากเพราะเมื่อแสงมันกระทบกับอาคารมันจะทำให้อาคารกลายเป็นสีทองเลยละ
ในบางครั้งที่นี่ถูกใช้เป็นที่รับปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยและบางครั้งเราก็เห็นมันถูกใช้เป็นที่เเสดงดนตรีแนวโอเปร่าและที่เปิดงานอีเว้นท์ต่างๆอีกด้วย ในช่วงตอนที่ใช้รับปริญญาจะมีญาติๆของผู้รับมาร่วมยินดีทำให้เราเห็นการแต่งกายเป็นผู้ดีอังกฤษมากกกกกก เช่นผู้ชายจะใส่สูทผู้กระต่าย ส่วนใหญ่จะเป็นสูทลายๆอย่างที่เห็น ผู้หญิงจะนุ่งเดสและบางคนจะติดหมวกตาข่ายด้วย และที่สำคัญไม่มีดอกไม้และตุ๊กตาขายเหมือนที่ไทยเลย จะมีแค่ซุ้มเล็กๆไว้ถ่ายรูป ย้ำาาาา..........ซุ้มเล็กๆเท่านั้น!!!!
และถ้าสังเกตุ 3 รูปด้านบนจะเห็นว่ามีคนสวมแว่นกันแดดเยอะมาก เพราะที่นี่จะคิดว่าเป็นเป็นเครื่องเครื่องมือที่จำเป็นเพื่อใช้ป้องกันแสงแดดจริงๆและพอเข้าร่มเค้าจะถอดออกซึ่งต่างกับบ้านเราตรงที่บางคนสวมมันเพราะความเท่ๆแม้แต่ในที่ร่มยังไม่ถอดเลย บางคนเท่านั้นละ
เราขอชมกับผู้บริหารเมืองนี้สักหน่อยคือบางช่วงในซัมเมอร์เทศบาลเค้าจะปิดถนนเส้นหนึ่งแล้วเอาเก้าอี้ชายมาวางไว้ให้คนนั่ง บางครั้งจะจัดอีเว้นท์ศิลปะตอนเด็กปิดเทอมให้เด็กเอาสีชอล์กมาระบายพื้น คือมันกิจกรรมหลายๆอย่างเกิดขึ้นให้กับคนเมืองของเขามันสัมผัสได้ถึงการใส่ใจกับการบริการสังคมเราชอบมันมากๆ
รูปนี้ถ่ายไม่ไกลจากLeeds Town Hall จะเห็นว่าอาคารสมัยเก่าๆจะมีรายละเอียดต่างๆเยอะเช่น กรอบหน้าต่าง กรอบคานที่มีการสร้างลวดลายทับ ซึ่งลายละเอียดเยอะแบบนั้นทำให้สัมผัสถึงความร่ำรวยของอังกฤษในสมัยก่อนเป็นอย่างดี เพราะลายละเอียดหลายอย่างใช้ช่างทำเยอะมากกกกก เเละมีความแตกต่างกันในวัสดุอีกด้วยจะเห็นว่ามีตึกสีอิฐส้ม อิฐครีมหม่นๆ
อาคารที่สร้างแบบสมัยก่อนจะมีปล่องควันไว้ก่อไฟในบ้านแม้ปัจจุบันจะมีฮีสเตอร์แล้วก็ตามแต่มันก็ทำให้เกิดความคลาสสิคของเมืองนี้
รูปนี้ถ่ายตอนเที่ยวจะเห็นเล่ามนุษย์เงินเดือนของที่นี่ออกมากินข้าวกัน และมันจะมีสวนสาธารณะเล็กๆบริเวณนั้นในช่วงพักเที่ยงตอนซัมเมอร์จะเห็นกลุ่มมนุษย์เงินเดือนออกมามานั่งกินข้าวและเราตกใจมาก คือเขามากกันเยอะมากๆแทบไม่มีที่นั่งเลยหมายถึงนั่งพื้นอ่ะ เพราะมันไม่ค่อยมีร้านแบบร้าน ก๋วยเตี๋ยว ร้านตามสั่ง ร้านลาบนั่งกินแบบบ้านเรา
บางคนที่มาต่างประเทศกลัวว่าคนจะเยียด เราคิดว่าที่นี่มันมีความแตกต่างด้านเชื้อชาติมากอยู่เเล้วทำให้เขาชินกับการอยู่รวมกับการคนชาติอื่นๆอยู่แล้ว เราว่าไม่ต้องกลัวหรอกแค่ยิ้มให้เขาก่อนคุณจะได้ยิ้มดีๆกลับคืน เช่นภาพบนเรากำลังถ่ายภาพมีผู้หญิงกำลังโบกมือให้สวยๆ
จุดช็อปปิ้งของที่นี่จะอยู่แถวTrinity Leeds (เราไม่มีรูปในห้างนั้น)ที่นี่จะมีร้านแบรนด์ดังต่างๆพอสมควร และในช่วงซัมเมอร์คือลดหนักมาก จนเราแทบจะไม่เชื่อ เช่น เราเคยได้เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์zara จาก เกือบสองพันเหลือแค่ 800 บาท มันลดหนักมากก ขนาดที่เราเป็นคนไม่ค่อยซื้อเสื้อผ้ายังได้ซื้อจนขนกลับไม่พอต้องฝากไว้บ้านพี่สาว และอีกแบรนด์ที่ราคาดีคือPrimark แนะให้ซื้อพวกเสื้อยืดพื้นๆจะตกตัวละ 60-70 บาทเลยละ
นี่แถวcity cente ในช่วงสุดสัปดาห์คนจะเยอะมากกกกกกก บางครั้งจะมีคนมาเปิดหมวกร้องเพลง และมีโชว์เปิดหมวกต่างๆและในซัมเมอร์คนจะประดับดอกไม้หน้าร้านกันเพราะดอกไม้จะบานสวยมากในช่วงนี้
ส่วนห้างๆต่างๆมักมีเปียโนวางไว้ให้เล่นฟรีๆเลย ไม่ได้มีแค่ตรงนี้นะในห้างยังมีอีก
ทางเดินแถวcity cente มันจะมีความหรูหราจนนึกว่าอยู่โรงแรม 5 ดาวจะมีการตกแต่งด้วยภาพวาดและใช้สีทอง-เขียว-ครีมและหินอ่อนซึ่งจะแตกต่างจากอิฐส้มๆข้างนอก ร้านส่วนมากจะเป็นพวกร้านรองเท้า สูท พวกสินค้าแบบดูดี "ถามว่าได้เข้าไปมั้ย" หึ!!!!
นอกจากมีซุปเปอร์มาร์เก็ตแบบสมัยใหม่แล้วยังมีตลาดด้วย Leeds Kirkgate Market เป็นตลาดที่เราคิดว่าสมัยก่อนมันคงรุ่งเรืองมากๆเพราะร่อยรองทางสถาปัตยกรรมต่างๆที่ทิ้งรอยไว้เช่น ความละเอียดและการตกแต่งของอาคาร ยอดโดมเล็กๆต่าง เนื่องจากความสะดวกแบบสมัยใหม่ทำให้ตลาดซบเซาลงอย่างที่คนที่เพิ่งมาอยู่ใหม่แบบเราสังผัสมันได้
ที่นี่มีร้านอาหารไทยด้วยอ่านในพันทิปบอกว่าราคาดี ชาไทยก็ดี แต่เราไม่เคยกินนะเพราะเราทำอาหารกินเองเลยไม่ได้ซื้ออาหารกินเท่าไร
สินค้าที่นี่จะขายพวกเสื้อผ้าสไตล์แม่บ้านแขกที่เหมือนตัดมายกโหลและแขวนขายราคาก็จะดี มีขายพวกพรมต่างและพวกเนื้อสัตว์ด้วย
ผลไม้ที่นี่จะราคาถูกมาก ถูกว่าที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตอีกและที่นี่ยังมีโซนข้างนอกซึ่งเราไม่ได้ถ่ายรูปมา จะเจอพวกสตอเบอรี่กล่องละ 1 ปอนด์ และผลไม้กล่องละ 1 ปอนด์เยอะมากกกกซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านแขกมาขาย (เราแอบเห็นแม่บ้านไทยที่ทำยูทูปมาถ่ายที่นี่) ตลาดที่นี่มีความตลาดแขกเยอะพอสมควรแต่ก็มีคนอังกฤษอยู่บ้างส่วนใหญ่จะขายเนื้อสัตว์ต่างๆ
ตลาดที่นี่เด่นมากเลยนะเเค่เดินออกมาจากTrinity Leeds 10 นาทีก็ถึงละ แนะให้มาลองเดินหาของกินราคาถูกที่นี่ละ
รูปนี้ถ่ายข้างๆตลาดเลย ช่วงนั้นอากาศจะเย็นๆหน่อยสังเกตุคนในรูปจะใส่เสื้อแขนยาวกันแล้ว
Leeds Corn Exchange สมัยก่อนเป็นที่แลกเปลี่ยนสินค้าของพ่อค้าแม่ค้า ปัจจุบันเป็นร้านค้าต่างๆ นี่ก็เป็นอีกแห่งที่สัมผัสถึงความซบเซาเหมือนกันคือไม่ค่อยมีคนเดินเลยละ จุดเด่นคือหลังคาที่เป็นโดมซึ่งเป็นCorn Exchangeไม่กี่แห่งในอังกฤษ และมีประตูหลายสีกับบันไดโค้งๆ ที่นี่มีคาเฟ่น่ารักๆอยู่ด้วย
ตอนเราไปด้านล่างเหมือนกำลังรีโนเวทอยู่ แนะให้มาถ่ายรูปและเข้าคาเฟ่กัน
มีอยู่วันหนึ่งได้ยินเสียง กั๊บ กั๊บ กั๊บ หันหน้าไปดูเจอตำรวจขี่ม้าตรวจความสงบเมืองอยู่ ย้ำ!!!!!!!!ตำรวจขี่ม้าาาาาาาา มันเท่มากโว้ยยยยทั้งนี่ปัจจุบันมีรถแล้วนะ แต่ความคลาสสิคนั่นต้องยกให้อังกฤษจริงๆละ เขียวมาแต่ไกล คือไม่เห็นก็ไม่รู้จะพูดไรละ ตำรวจเค้าตรวจตลอดนะ บางครั้งตอน2ทุ่มยังเห็นเดินมาเป็นคู่ๆเลย รู้สึกคุ้มค่ากับภาษีที่เค้าเสียจริงๆ
เรื่องเข้าแถวที่นี่ก็สำคัญมากนะ รูปนี้ถ่ายตอนช่วงเวลาเลิกงานจะเจอคนต่อแถวขึ้นรถเมย์กันและมันจะมีป้ายไฟบอกตารางเวลารถเมย์ด้วย
รูปนี้ถ่ายตอนช่วงเวลาเลิกงานเหมือนกันทำให้รู้ว่าเวลารถติดมันติดแค่ใหน สรุปก็ไม่มากเพราะเนื่องจากการจัดการการเดินทางสาธารณะเข้าทำไว้ได้ดีทำให้คนนิยมให้รถสาธารณะและที่จอดรถในเมืองส่วนใหญ่เสียเงินนะ
ที่นี่เป็นสะพานแขวนไว้ข้ามคลอง เนื่องจากมีคลองในลีดส์มันจะมีสะพานแขนไว้คลองเป็นจุดๆ เราว่าอากาศที่นี่ดีมากเลยนะเพราะมันติดคลองจะมีลมพัดตลอดเลยเเละน้ำก็ไม่สกปรกนะ
[img]https://f.p