----------------------------
++++สืบเนื่องมาจากที่เราไปเรียนภาษาที่อังกฤษและพบเจอเหตุการณ์บางอย่างที่น่าสนใจเลยเอามาแชร์ให้คนอื่นได้รับรู้ไปกับเราด้วย ++++
----------------------------

+++กระทู้ก่อนหน้า+++

++++ WINDERMERE LAKE ++++

พี่สาวเราชอบชวนที่ออกไปเที่ยวด้วยกันทุกครั้งที่มีโอกาสครั้งนี้เราไปที่ WINDERMERE LAKE สภาพพื้นที่คือมันเป็นทะเลสาบสำหรับพักตากอากาศของคนอังกฤษ โดยทะเลสาบจะเป็นแนวยาวๆแคบๆมีเรือใบพักผ่อนและมีเรือท่องเที่ยวไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยอากาศคงจะดีมากในช่วงซัมเมอร์แต่เราไปใช่ช่วงที่อากาศหนาวๆแล้วแต่มันก็ยังมีคนท่องเที่ยวอยู่(แอบเห็นทัวร์จีนประมาณนึง) แถวนั้นก็จะมีร้านค้าต่างๆไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย

นอกจากมีทะเลสาบแล้วยังมีหมู่บ้านเล็กๆเดินไปได้ เป็นแหล่งช็อปปิ้งและมีร้านอาหารคาเฟ่ต่างๆไว้ดูดเงินจากนักท่องเที่ยว มีร้านอาหารไทยด้วยนะติดๆกันเลยอย่างต่ำคือ 2 ร้านละที่เราเห็น ได้ไปกินร้านนึงจำไม่ได้ว่าชื่อร้านอะไรรสชาติก็ถูๆไถๆไปได้ละ คิดว่าดีกว่ากินขนมปังละกันเนาะ

เราเดินทางถึงถึงที่นี่ในช่วงเวลาเย็นๆและอากาศก็เย็นเช่นกันแสงพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกในช่วงหนาวๆก็สวยกันนะ เรือก็จะจอดเข้าเข้าแล้วช่วงตอนนี้นี้คือใกล้ฤดูหนาวแล้วเวลาที่ถ่ายคือ 4 โมงเย็นมันมันดูเหมือน 6 โมงแล้วแบบแสงจะหมดเลย นี่ละเวลาของฤดูหนาว

พระอาทิตย์กำลังจากลาไปแล้วววววววววววว

ดูแสงสุดท้ายของวันที่กำลังตกกระทบยอดต้นไม้สิ สวยนะโว้ยยยยย อีกทั้งต้นไม้ทั้งหลายกำลังเปลี่ยนสีตามช่วงฤดูกาลของมันยังกะหลุดไปในโลกนิยายเลยละ อยากคนอ่านให้มาสัมผัสที่นี่จริงๆ

จังหวะที่แสงกระทบหน้าต่างพอดีเลยถ่ายภาพมาได้

หลังจากที่แสงหมดเลยก็เดินไปกินอาหารไทยที่แถวๆหมู่บ้านแม้ว่าจะห่างจากอาหารไทยมาแค่ 1 เดียวก็ตามหลังจากกินเสร็จก็มานั่งเล่นที่ผับของโรงแรมผิงความร้อนจากเตาผิงในอากาศหนาวๆนี่มันฟินยุนะ เราสั่งโกโก้ร้อนมากิน

สักพักระหว่างที่นั่งๆอยู่ได้ยินเสียงคนร้องลั่นเลยละ นี่ถามพี่สาวว่าเกิดอะไรขึ้น แกบอกว่าตอนหน้าหนาวเวลากลางวันมันจะสั้นมากทีนี้มีการปรับเวลาใหม่โดยเพิ่มเวลาให้ 1 ชั่วโมงในวันนี้เพื่อในเวลามันขยับต่อไปในวันถัดไป ส่วนเวลาที่ใกล้ฤดูร้อนก็จะมีการปรับเวลาคืนเหมือนเดิม  งั้นแสดงว่าตอนที่คนร้องลั่นดีใจเพราะว่าเค้าจะมีเวลาเพิ่มฟรีๆ 1ชม. ในวันนี้นี่เอง แบบนอนตื่นสายได้อีก 1 ชม.

สักพักอีกมีตำรวจเข้ามาในร้านมาตรวจความเรียบร้อย พอตำรวจมาเจอเราถามใหญ่เลยนี่อายุเท่าไร พอเราบอกอายุไปก็ไม่เชื่อให้เราไปเอาพลาสปอร์ตมาแสดง พอเอามาให้ดูก็บอกว่าโอเค ยูอยู่ได้.............  นี่อาจเป็นเพราะเบ้าหน้าเราเป็นเอเชียทำให้ฝรั่งแยกอายุเราไม้ได้เลยนึกว่าเรายังไม่ถึง 18 .

ตอนไปตัดผมที่ลีดส์ก็เช่นกันไม่คิดราคาผู้ใหญ่นะ คิดราคาเด็กนักเรียนให้เราเลย บอกยูเป็นนักเรียนใช่มั้ย นี่ยังไม่บอกไงแบบขอคิดก่อนนนนนนว่าถามไรเรา  แต่เค้าบอกราคามาละเลยตามเลย เหมือนได้ลดราคาไปในตัวเพราะเบ้าหน้า 555555555555

ด้านหน้าของโรงแรมก็จะดูดเก่าๆหน่อยแต่ไม่โทรมนะ

วิวจากห้องนอนเราเองตอนแรกนั่งว่าจะได้เห็นทะเลสาบ นี่กลับกลายเป็นเห็นหลังคาซะงั้น ราคาห้องเราก็ประมาณเกือบๆ 3000 เลยนะ และไปเช็คราคาโรงแรมที่ติดกับทะเลสาบมาราคาราว 7000++  โห้แพงใช้ได้ยุนะนิ

ตื่นเช้ามาเราบอกพี่สาวว่าจะออกไปถ่ายรูปก่อนที่จะไปกินอาหารเช้านะ แล้วไปเจอกันที่โต๊ะเลย  สภาพตอนเช้าคือหนาวละแต่แอบเห็นคนมาออกกำลังการยุนะเวลาประมาณเกือบๆจะ 7 โมง น้ำแข็งจะเกาะเต็มพื้นไปหมดเลยโว้ยยยยยยยย  นี่เพิ่งเห็นไงตื่นเต้นเบาๆ

คราบน้ำแข็งบนถังขยะ

และคราบน้ำแข็งบนโต๊ะจนดูเหมือนฝุ่นไปเลยแต่พอพระอาทิตย์มามันจะหายไปเอง

ถึงจะหนาวแต่ดอกไม้ยังบานยุนะและมีน้ำเเข็งเกาะเบาๆ

ภาพนี้เป็นตอนที่น้ำโดนแสงอาทิตย์พอน้ำเย็นๆมาเจอความร้อนไอน้ำก็เกิดขึ้นมา เหมือนฝูงเป็ดแช่ออนเซ็นอยู่เลยนะทั้งที่น้ำเย็นเจี๊ยบบบบบบบบบบ

น้ำแข็งเกาะบนผ้าใบหลังคาเรือกับแสงที่ค่อยๆร้อนขึ้นมา

เกร็ดน้ำแข็งที่อยู่บนโต๊ะพอซูมเข้าไป

กลับมาโรงแรมแล้ววววววว นี่คืออาหารเช้าแบบอังกฤษ เรากินทุกอย่างยกเว้นมะเขือเทศเพราะไม่ชอบอะยกให้พี่สาวไป

หลังจากที่กินอาหารเช้าเสร็จแล้วก็ออกไปเดินที่ทะเลสาบอีกครั้งในตอนกลางวัน

วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสดีแต่อากาศยังคงเย็นๆอยู่

 

ที่นี่มีนกด้วยนะใครมาระวังด้วยเพราะมันจ้องกินอาหารในมือคุณอยู่

พอสายๆเรือก็จะออกจากฝั่งไปในทะเลสาบเพื่อพักผ่อนกัน ทางนี้นั่งงงมากเพราะอากาศมันหนาวไงและน้ำก็เย็นคือมันเป็นการพักผ่อนที่ดีใช่มั้ยหรือแค่ไปกางเรือใบให้แล่นเฉยๆ

เรือที่จอดเรียงรายอยู่เราคิดว่าน่าจะเป็นเรือให้เช่านะแต่อาจจะมีส่วนที่ซื้อมาบ้างแล้วมาจอดไว้

นี่ถ้ามาช่วงอากาศดีๆในซัมเมอร์น่าจะดีสุดๆละ

อันนี้น่าจะเป็นเรือบริการ อารมณ์ประมาณเรือเป็นถีบบ้านเราแต่ไม่มีใครเล่นเลยก็อากาศเย็นซะขนาดนั้น

นี่ก็เรือท่องเที่ยงแบบเหมาๆ

มีตอนนึงกำลังเดินอยู่เห็นกองอ้วกกระจายเต็มพื้นเลยแล้วเจ้าของร้านซุ้มเครื่องดื่มแถวนั้นเอาน้ำมาลาดพื้น นี่ก็ไปถามไงกะจะหัดฟังภาษาปรากฏว่าเจ้าของร้านฝรั่งคนนั้นตอบด้วยสำเนียงที่เหมือนแร็ปมากกกกกก  พี่พูดเร็วมากกกมีหันลิ้นรัวๆเหมือนภาษาอาหรับเลยเเต่แกเป็นฝรั่งนะเบ้าฝรั่งเลยไม่มีไรผสม

เราได้แต่ยืนนิ่งๆเพราะสมองโหลดอยู่แล้วมันก็เออเร่อ จากนั้นเราก็ยิ้มสยามแล้วเดินหนีไป อย่าถามเราแล้วว่าเข้าใจมั้ยนี่ขนาดสำเนียงปกติเรายังต้องคอยเอียงหูฟังเลยมาจากสำเนียงทางเหนือบอกเลยไปไม่ถูก ขอพักก่อนนนนนนนนนนนนนนนนน

ออกไปเดินแถวหมู่บ้านซะหน่อย เริ่มๆมีคนออกมาซื้อของเเล้วละอาคารบ้านเรือนแถวนี้จะเป็นบ้าน 2 ชั้นซะส่วนใหญ่เป็นบ้านแบบเก่าๆหน่อยสไตล์อังกฤษและเเต่ละหลังจะมีปล่องไฟด้วย เนื่องจากแถวนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวไงแล้วเขาจะแต่งสีบ้านให้เด่นๆแบบสมัยใหม่เพื่อสร้างความสนใจให้กับร้านค้า คือมันเป็นความผสมระหว่างบ้านเก่าๆที่ชั้นสองกับบ้านใหม่ที่ชั้นหนึ่งนะ ถ้าดูในรูปชั้น1จะแต่งด้วยสีเด่นๆเลยละ

อากาศก็จะครึ้มๆบางช่วงแล้วแต่เมฆจะบัง

คาเฟ่จะเยอะพอสมควรเลยนะแต่มันแตกต่างจากคาเฟ่บางเราที่เน้นสร้างสวยๆแล้วให้คนมาถ่ายรูป ที่นี่จะเน้นเก่าๆหน่อยมีเครื่องดื่มๆเฉพาะของร้านนั้นๆด้วยและมีร้านเบอเกอรี่ด้วยโดยที่นี่จะเน้นกินขนมปังที่มีความแน่นๆแข็งๆหน่อยไม่ได่กินแบบนุ่งๆเบาๆฟูๆเเบบบ้านเรา

มีร้านขายกิ๊ฟช็อปพวก สร้อย แหวนเครื่องประดับต่างๆแล้วถ้ามันเป็นงานแฮนด์เมดด้วยละมันจะมีคุณค่าขึ้นทันทีแล้วคนจะสนใจงานแฮนด์เมดมากกว่างานที่ใช้เครื่องจักร

ที่นี่ก็มีร้านขายงานศิลปะภาพวาดด้วยนะบางร้านจะจัดเป็นแกลลอรี่เลยละให้คนชมภาพถูกใจภาพใหนค่อยซื้อเอา

นอกร้านหนาวๆแบบนี้จะไม่ค่อยมีคนนั่ง ส่วนมากจะไปนั่งข้างในกันแล้วข้างในร้านเกือบๆทุกร้านจะเป็นเก้าอี้คล้ายๆโซฟายาวๆซึ่งเวลานั่งลงมันจะอุ่นๆมากกว่าพวกเก้าอี้ไม้ซะอีก

ร้านข้างหน้าเป็นร้านคาเฟ่ที่เราข้างไปนั่งกันมันมีอาหารขายด้วย

ถึงเวลากลับแล้วละเจอแสงแดดกระทบกับผนังบ้านพอดีเลยมันกลายเป็นแสงสีทองที่ดูนุ่มนวลมากๆบ้านดูเปล่งประกายออกมาเลย