หูฉันได้ยินเสียง ที่คนอื่นไม่ได้ยิน
ฉันมองเห็นสิ่งเล็กๆ ไกลออกไปที่คนทั่วไปมองไม่เห็น
สัมผัสพิเศษที่เป็นผลมาจาก ความโหยหาทั้งชีวิต
โหยหาความช่วยเหลือ... สิ่งที่จะมาเติมเต็ม
เฉกเช่นกระโปรง ที่ต้องการแรงลมเพื่อพลิ้วไหว
ฉันไม่ได้ก่อเกิดจาก ตัวตนฉันเพียงลำพัง
ฉันคาดเข็มขัดของพ่อ สวมทับเสื้อของแม่
รองเท้าที่ได้มาจากอา
นี่คือฉัน
เฉกเช่นดอกไม้ ที่ไม่สามารถเลือกสี
เราเลือกไม่ได้ ว่าเราจะกลายเป็นอย่างไร
เว้นแต่เมื่อคุณตระหนักเช่นนี้ คุณจึงจะเป็นอิสระ
และกลายเป็นผู้ใหญ่ ที่จะได้เป็นอิสระ
- อินเดีย สโตกเกอร์ -
Stoker เป็นหนังระทึกขวัญจิตวิทยาของผกก. Chan-wook Park(เจ้าของผลงานสุดคลาสสิคอย่าง Oldboy) เขียนบทโดย Wentworth Miller(พระเอกซีรี่ส์ Prison Break) นำแสดงโดย Mia Wasikowska(จาก Alice in the Wonderland) Matthew Goode(จาก Leap Year) และ Nicole Kidman(จาก The Others) หนังเล่าเรื่องราวของอินเดีย สโตกเกอร์ ต้องสูญเสียทั้งพ่อที่เธอรักและเพื่อนสนิทของเธออย่างริชาร์ด จากอุบัติเหตุทางรถยนต์อันน่าสลดในวันเกิดของเธอตอนอายุ 18 ปี ชีวิตอันเงียบสงบของเธอบนคฤหาสน์ของครอบครัวลึกลับต้องพังทลายในพริบตา อินเดีย แสดงออกถึงความรู้สึกที่ลึกลับอย่างไม่อาจเปิดเผยได้ ซึ่งมีเพียงพ่อของเธอเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้
อินเดีย ได้พบกับพี่ชายของพ่อที่ขาดการติดต่อกันไปนาน ชาร์ลี ที่มาร่วมงานศพอย่างไม่คาดฝัน เขาตัดสินใจพักอยู่กับเธอและแม่ของเธอที่มีอารมณ์แปรปรวน อีวี่ ในช่วงแรก อินเดีย หวาดระแวงในตัวลุงผู้ลึกลับแต่ดูมีเสน่ห์ชวนหลงใหล เขาเองก็หลงเสน่ห์เธอเข้าเช่นกัน เธอเริ่มรู้ตัวว่าต่างฝ่ายต่างมีใจให้กันอย่างไร
ชาร์ลี เผยตัวตนให้ อินเดีย เห็นทีละนิด จนเธอเริ่มหลงในตัวญาติของเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเริ่มคิดว่าการมาถึงของเขาไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ๆ จากคำโน้มน้าวของลุงเธอ ทำให้เธอหลงเชื่อในพรหมลิขิตที่ไม่ชอบมาพากลครั้งนี้
บอกก่อนนะครับว่าผมไม่ใช่คอหนังแนวนี้เท่าไหร่ ไอ้หนังโรคจิตต่างๆ ที่เคยดูมาก็รู้สึกชอบแค่ไม่กี่เรื่องเอง ไม่ใช่ว่าหนังมันแย่อะไรหรอกนะครับ แต่ว่ามันไม่ถูกจริตผมแค่นั้นเอง ฉะนั้นในการดู Stoker ครั้งก็ไม่ต่างอะไรกับการกินอาหารที่ผมไม่ชอบกินสักเท่าไหร่ แต่พอดูจบสิ่งที่รู้สึกกับหนังคือ "โอเคกว่าที่คาดไว้เป็นไหนๆ"
หนังมาในแนวจิตวิทยาของนิสัยตัวละครในเรื่อง เราจะได้ตามเรื่องราวต่างๆ ในหนังไปพร้อมกับตัวละครอินเดีย ซึ่งหนังก็วางปริศนาให้เราตั้งแต่ต้นเรื่องก่อนจะไปเฉลยทีเดียวตอนท้าย ว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะอะไรกันแน่
Stoker เป็นหนังที่ดูไม่ยากเกินไปสำหรับหนังแนวนี้ แต่กระนั้นก็ยังไม่ใช่หนังที่ดูง่ายย่อยง่ายเหมือนหนังระทึกขวัญทั่วไป นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ความรู้สึกตอนดูนั้นค่อนข้างก้ำๆ กึ่งๆ จะจิตก็ยังกั๊กๆ อยู่ จะระทึกก็ยังกั๊กๆ อยู่เช่นกัน นั่นอาจทำให้หนังยังดูไม่สุดในหลายวาระ(บางฉากยังนึกว่าน่าจะทำได้แรงกว่านี้ จิตกว่านี้) แต่ผมก็ยังชอบอยู่ดีครับ
สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดในเรื่องก็คือการถ่ายภาพครับ หลายฉากที่หนังถ่ายภาพออกมาสวยมาก(ขนาดในฉากระทึกยังถ่ายสวยเลย) และมุมกล้องนั้นก็ค่อนข้างน่าสนใจและส่งเสริมอารมณ์ลึกลับในหนังได้อย่างดี ฉากที่ผมชอบมากที่สุดขอยกให้ฉากเล่นเปียโนของอากับหลานในช่วงกลางเรื่องครับ ฉากนี้มีหลายอย่างที่น่าสนใจเช่นมุมกล้องที่แพนไปมารอบตัวละครทั้งสองขณะที่เล่นเปียโน หรือว่าโน๊ตเพลงที่ทั้งสองเล่นที่สื่อถึงการคุกคามทางเพศของฝั่งเพศชายที่จู่โจมเพศหญิง การบรรเลงของทั้งสองฝ่ายที่คนนึงบรรเลงโน๊ตต่ำกับอีกคนที่บรรเลงโน๊ตสูงบวกกับจังหวะการตัดต่อและมุมกล้องการถ่ายทำ ทำให้ฉากนี้ออกมาถึงอารมณ์และน่าจะจำที่สุดในเรื่อง(ยกให้ฉากนี้เป็นฉากที่ชอบที่สุดในบรรดาหนังจิตวิทยาที่เคยดูมา)
ที่ชอบไม่แพ้กันก็คือประเด็นในหนังที่เหมือนจะสื่อถึง "การเรียนรู้" ของตัวละคร ช่วงแรกของหนังเราก็เห็นแล้วว่าอินเดียเหมือนจะเป็นตัวละครที่ป่วยนิดๆ แต่ไม่ถึงกับเพี้ยน และเราก็เห็นว่าตัวละครอินเดียเป็นคนที่ช่างสังเกตุและเรียนรู้อะไรหลายอย่างจากตัวละครรอบข้าง เธอดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่หลังจากที่อาของเธอโผล่เข้ามาในบ้าน อินเดียก็เหมือนจะเริ่มรู้จักกับความต้องการของอารมณ์(สังเกตุจากฉากที่เธอวาดรูป เธอก็วาดจากสิ่งรอบตัว หรือว่าฉากในห้องน้ำที่เธอสำเร็จความไคร่ด้วยจินตนาการที่เธอสร้างขึ้นมาจากสิ่งที่เธอเห็นจากคนรอบข้าง) เธอเริ่มเรียนรู้ความรุนแรงซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขีดสุดในช่วงท้ายเรื่อง ด้วยประเด็นที่มันดีอยู่แล้ว พอมานำเสนอในหนังผมก็รู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก เสียแค่การดำเนินเรื่องบางหลายช่วงดูทิ้งระยะนานไปหน่อย มิฉะนั้นอารมณ์ในฉากระทึกขวัญมันจะสุดกว่านี้มาก

Wasikowska จากการเป็นนางเอกเรื่อง Alice in the Wonderland ซึ่งผมดูเรื่องนั้นแล้วยังไม่ได้ปลื้มเธอเท่าไหร่ครับ เพราะเรื่องนั้นเธอเล่นแข็งไปหน่อย พอมาเรื่องนี้บอกเลยครับว่าเธอปล่อยของสุดมาก การแสดงของเธอก็ค่อนข้างน่าจดจำในหลายฉาก(โดยเฉพาะฉากเล่นเปียโนและฉากในห้องน้ำ) และฉากที่เธอนิ่งๆ นั้น ก็นิ่งแบบเก็บซ่อนบางอย่างไว้(ขอโทษที่ฉันเก็บซ่อน ความเป็นจริงเอาไว้ต่อไปไม่ไหวววววว #ไม่ใช่ละ!) ส่วน Goode ที่เคยเล่นเป็นหนุ่มสุพรรณคนใจบุญใน Leap Year มาเล่นเรื่องนี้ก็ต้องบอกเลยว่าคนละคนกับเรื่องนั้นเลย555 และ Kidman ที่การแสดงเด็ดมาก สำหรับบทนี้ถือว่าเธอทำได้ยอดเยี่ยมครับ ยิ่งช่วงท้ายที่เธอระบายอารมณ์เหลืออดออกมานี่ผมปรบมือให้รัวๆ เลย

สรุปแล้ว Stoker ในมุมมองของคนที่ไม่ชอบดูหนังแนวจิตวิทยา ต้องบอกว่ารู้สึกบรรเทิงกับหนังพอสมควร(ดูมาทั้งเรื่องยังงงว่าทำไมตรูดูสนุกวะทั้งๆ ที่มันไม่มีอะไรน่าสนุกเลย555) ถือว่าผกก. เก่งและคุมหนังออกมาได้น่าพึงพอใจครับ อาจจะไม่ใช่หนังที่ชอบที่สุดของ Chan-wook Park(เพราะผมชอบความกลมกล่อมของ Oldboy มากกว่า) แต่ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่ผมดูแล้วไม่เสียดายเวลาครับ แต่ถ้าถามว่าแนะนำให้ดูมั้ย..... ก็ต้องถามครับว่าคุณชอบแนวนี้รึเปล่า ถ้าชอบก็ดูได้ครับ แต่ถ้าไม่นี่ก็ผ่านๆ ไปเถอะ555
คะแนนเฉลี่ยรวม : 7.5/10
เรตหนัง : หนังดีที่ควรดู
[CR] [##REVIEW##] Stoker (2013) อำมหิต พิศวาสร้อน | โรคจิต + ความต้องการทางเพศ = ความซับซ้อนทางอารมณ์ [ไร้ส้มป่อย]
ชาร์ลี เผยตัวตนให้ อินเดีย เห็นทีละนิด จนเธอเริ่มหลงในตัวญาติของเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเริ่มคิดว่าการมาถึงของเขาไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ๆ จากคำโน้มน้าวของลุงเธอ ทำให้เธอหลงเชื่อในพรหมลิขิตที่ไม่ชอบมาพากลครั้งนี้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้