ก็นี่เป็นกระทู้แรกที่ผมเขียนนะครับ เป็นเรื่องที่เขียนครั้งไหนก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้เขียนและได้อ่าน เลยอยากเอามาแบ่งปันให้ทุกคนได้อ่านกันครับ (ทั้งหมดนี้คือเรื่องจริงนะครับ)
ถึง พี่ปอเปี๊ยะ ถ้าพี่ได้อ่านกระทู้นี้ หวังว่าพี่จะยังจำเรื่องราวเหล่านี้ได้นะครับ ไม่ได้เจอกันเลย คิดถึงนะ
ตอนนั้นผมก็เป็นนักเรียนที่กำลังจะขึ้น ม.2 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งแถวเชียงคาน เป็นโรงเรียนประจำนะครับเป็นที่ ๆ ทำให้ผมได้รู้จักกับแฟนคนนี้ เป็นพี่อยู่ปีนึง เอาจริง ๆ ก็แอบปิ๊งตั้งแต่ ม.1 แล้วครับ แต่ก็ไม่ได้บอกใคร จนวันหนึ่ง พี่คนนี้เขาก็เข้ามาในชีวิต ก็อารมณ์ประมาณรุ่นพี่ที่ดีคนนึงแหละครับ ผมก็เหมือนเริ่มจะสนิทกับเขามากขึ้น
ผมก็รู้สึกมีความกล้าที่จะสารภาพรักพี่คนนี้ไป มันต้องรีบบอก เพราะพี่เค้าอยู่ ม.3 (จะจบ ม.ต้นแล้ว) และก็ไม่ได้จะสอบเข้า ม.ปลายที่นี่ต่อด้วย กลัวจะไม่มีโอกาสได้คุยกันอีก
คืนวันนั้นเลยถามเพื่อนของพี่คนนี้ว่าควรบอกไปดีมั้ย และก็ได้คำตอบประมาณว่าเชียร์ให้บอกเลย เราก็ยิ่งมั่นใจขึ้นไปอีก แต่คืนนั้นดึกแล้ว เหมือนพี่คนนั้นจะนอนแล้วด้วย ก็เลยว่าคืนนี้จะนอนแล้ว หลังจากถามเพื่อนพี่คนนั้นก็ หลับไปเลย ว่าจะเก็บไปบอกในวันพรุ่งนี้
แต่หารู้ไม่ว่า เพื่อนพี่คนนั้นเอาไปบอกพี่คนนั้นให้รู้ก่อนเราจะไปบอกอีก
อันนี้ก็ไม่รู้จนวันต่อมา มันคือวันเสาร์ที่โรงเรียนมีเรียนชดเชยของวันพฤหัส ฯ นักเรียน ม. 1 2 4 5 ก็เรียนตามปกติ แต่ ม.3 กับ 6 มีติวโอเน็ต ช่วงบ่าย ๆ ห้องผมครูไม่อยู่ เลยเป็นคาบว่าง จู่ ๆ Direct Message ของ IG ก็เด้งมา ปรากฏว่าเป็นพี่ที่ผมจะสารภาพนั่นแหละครับ เปิดมาก็
"เฮ้อ เครียดว่ะ ขอระบายอะไรหน่อยได้ป้ะ"
โหหห ตอนนั้นก็งงเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไร ตอนนั้นก็คิดว่ามีเรื่องเครียดจริง ๆ คิดได้แบบนั้นไม่นาน
"คือพี่แอบชอบคน ๆ หนึ่งอ่ะ" "แต่ไม่รู้จะเดินหน้าหรือถอยกลับ"
โหหห มาแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เรานี่ก็เหวอเหมือนกันนะ ก็เลย บอกให้เดินหน้าต่อแหละ
"แล้วพี่จะบอกชอบเขายังไงดี"
ก็ตอบไป จะบอกพี่ว่า ถ้าชอบใครก็พูดไปเลยดีกว่า ผลลัพธ์ต่อจากนั้นจะเป็นยังไง ก็ขึ้นอยู่กับเขานั่นแหละอย่างน้อยก็ให้เขาได้รับรู้ไว้ ว่าเราอ่ะชอบ จะตอบรับหรือไม่ตอบรับก็ได้นะ พี่ต้องรับได้ดิ สตรอง สู้ๆ มันทำให้เราสบายใจขึ้นด้วยนะ
"อืมม ก็จริงนะ คนที่พี่ชอบอ่ะ มันเป็นรุ่นน้องอยู่รร.นี่แหละ ตัวมันจะตัวใหญ่ๆ มันสูงกว่าพี่ด้วย แถมคอยรับฟังพี่ระบายตลอดเลย มีอวยพรปีใหม่น่ารักๆอีก แถมยังให้กำลังใจพี่ตลอด" ตอนนั้นเลยออกมาจากในห้อง ก็หมดชั้น 4 มีแต่ห้องเรา ตอนนั้นก็ นั่นล่ะครับ เก็บอาการไม่ไหว ก็เลย บอกกลับไปตอนนี้นี่แหละครับ บอกรักช่วงบ่าย ๆ 5555
"งั้นจะบอกให้เขารู้ละนะ รู้ตัวบ้างไหมว่าชอบพี่มาตั้งนานแล้วเนี่ย"
"แปบนึง ให้พี่เขินก่อน"
"จะรอนะครับ"
"เอาจริงๆก็ไม่รู้ตัวเลยแหละ"
"เอาจริงๆไอ่อิ่มนั่นแหละบอกพี่ แล้วพี่ก็รอให้แกทักมาสักที รอจนเช้าอ่ะ สุดท้ายก็เลยทักเอง"
ขออนุญาตเอ่ยชื่อถึงนะครับ พี่คงไม่มาอ่านกระทู้นี่หรอกน่าาา
"นึกแล้วววว ขอโทษที่ทำให้รอนะพี่"
ตอนนั้นก็รู้สึกโกรธเพื่อนพี่คนนั้นเล็กน้อย แต่ก็ขอบคุณที่พี่เค้าไปบอกก่อนนะครับ
ช่วงเวลาที่ผมรู้จักพี่มาเป็นปี ช่วงเวลาที่เรารู้จักกันในฐานะพี่น้อง สุดท้ายความพยายามอดทน เริ่มจากเราไม่มีอะไรเลย เราก็เติมเต็มให้เขาในฐานะรุ่นน้องที่ดีคนนึงมาตลอด สิ่งที่เราทำนั้นมันไม่สูญเปล่า มันได้กลับมาซึ่งความรักของผู้หญิงคนนี้ที่เรารอมานาน ก็ขอบคุณที่ได้ให้โอกาสผมคนนี้ ผมก็จะดูแลมันไว้ให้ดีที่สุดแล้วกันนะครับ ไม่อยากทำให้เขาเสียใจในเรื่องที่มันไม่ควรจะเสียใจ อยากจะดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ จะช่วยซัพพอร์ตเขาในสิ่งที่เขาต้องการการเติมเต็มที่เราพอจะช่วยได้ให้มากที่สุด
หลังจากวันนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก ๆ ครับ เราทั้งสองคนก็อยากสร้างความทรงจำดี ๆ เหล่านี้ไว้ด้วยกัน เพราะเราทั้งสองคนก็ไม่รู้ว่า เราจะได้มาเจอกันและสร้างช่วงเวลาแบบนี้ไปด้วยกันอีกเมื่อไหร่เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก่อนเขาจะจบการศึกษาจากโรงเรียนนี้ และเรียนต่อ ม.4 ที่โรงเรียนอื่น
เราก็ทั้งไปกินข้าวด้วยกัน ไปวิ่งด้วยกัน ไปออกกำลังกายด้วยกัน ไปเดินเล่นด้วยกัน ไปห้องดนตรีด้วยกันไปห้องสมุดด้วยกัน อยากทำทุก ๆ อย่างเท่าที่เราจะทำได้ในเวลาที่เหลือแค่ไม่กี่เดือนนี้ แต่สุดท้ายก็ยังมีอีกหลายอย่างมากที่เราไม่ได้ทำด้วยกัน หวังว่าเราคงมีโอกาสได้มาใช้เวลาร่วมกันแบบนี้อีกนะ
จนช่วงเวลาก่อนสอบ จู่ ๆ ก็โดนบอกเลิก
ตอนนั้นก็งงกับตัวเองมากว่ามันเกิดขึ้นกับเราได้ยังไง
แต่เมื่อเขาเลือกทางเดินแบบนี้แล้ว เราจะรั้งไว้แค่ไหน เขาก็คงไม่กลับมา
เพราะเขาคงต้องตัดสินใจมาดีแล้ว ได้แต่สงสัยกับคำตอบนั้น และจะยังรอคุณอยู่ตลอดนะครับ
ผมไม่ยอมให้ใครเข้ามาในชีวิตผมได้ นอกจากคุณ ก็ยังรออยู่ตลอดนะ
ช่วงนั้นก็ช่วงก่อนสอบปลายภาคด้วยแหละครับ (ขออนุญาตเสริมอีกนิดนึงนะครับว่า ข้อสอบโรงเรียนวิทยาศาสตร์ เป็นข้อสอบที่ออกโดยคณะครูทั้ง 12 แห่ง และข้อสอบจะไม่ง่ายเหมือนโรงเรียนอื่น จริง ๆครับ โดยเฉพาะคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ไม่มีปรนัย ย้ำ ไม่มีปรนัย มีแต่เติมคำตอบ และแสดงวิธีทำทั้งสิ้น ไม่มีใครในโรงเรียนนี้บอกว่าง่าย จะมีก็มีแต่คนที่เก่งแบบ เก่งจริง ๆ เท่านั้นนะครับ 5555 )
โห ตอนนั้นปล่อยโฮเลย คืนวันนั้นไม่สนโลกเลยครับ 5555 มูฟออนไม่ได้ว่างั้นเหอะ แต่ก็จมอยู่นานไม่ได้เพราะต้องเตรียมตัวสอบปลายภาค ก็เลยมีความคิดว่า โดนบอกเลิก จมอยู่นานไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก หลังจากนั้นก็อ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลังจนสอบเสร็จนั่นแหละครับ
จนถึงคืนก่อนวันสุดท้ายของการสอบ พี่คนนั้นก็แว๊บเข้ามาให้หัวเราอีกแล้วล่ะครับ ก็เลยนึกขึ้นได้ ว่าพรุ่งนี้ต้องกลับบ้านทั้งโรงเรียน นี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน เพราะก่อนหน้านี้หลังโดนบอกเลิกก็มองหน้ากันไม่ติดเลย ฮืออ ที่จริงก็แอบตลอดแหละ แต่ก็มีบางช่วงที่จังหวะก็ตรงกัน ก็หลบแทบไม่ทัน5555 ฮือออ
ก็เลยทำอะไรบางอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เก็บไว้เป็นสิ่งที่เวลาเอากลับมาอ่านก็จะจำได้ว่าเคยรู้จักกับเด็กคนนี้
พอหลังสอบเสร็จวันสุดท้าย เราก็รีบลงมารออยู่แถวอาคารเรียน แต่เพื่อนแม่ที่จะมารับผมกลับก็เหมือนจะรีบด้วย
นานมาจังเลยนะ กะว่าจะให้ต่อหน้า แล้วก็คุยอะไรนิดหน่อย และก็จะขอถ่ายรูปคู่เก็บไว้ด้วย
แต่นานแล้ว ก็ยังไม่มา ก็เข้าใจแหละว่า ม.3 จะจบแล้ว ก็อยากอยู่กับเพื่อนให้นานที่สุด แต่เราต้องรีบกลับแล้ว
เริ่มหมดความหวัง แต่ยังไงของชิ้นนี้ก็ต้องถึงมือเขาให้ได้ แม้เราจะไม่ได้เจอกันก็ตาม
กำลังจะหาคนฝากเอาไปให้ เจอพี่อิ่มบุญ(คนที่เคยกล่าวถึงตอนก่อนหน้านี้) กำลังจะขึ้นหอสกล ฯ เราก็ตั้งตาวิ่งแบบไม่คิดชีวิต เพราะเราก็ไม่รู้จะฝากใครได้อีกแล้วในตอนนั้น ขอบคุณพี่อิ่มบุญนะครับ ที่ทำให้ของชิ้นนั้นไปถึงมือเขา
“ แง ขอโทษนะ ไม่ได้ไปเอาด้วยตัวเองเลย แต่ก็ขอบคุณนะ

“
ก็ขอบคุณที่ยังตอบกลับมานะครับ นึกว่าจะไม่ตอบมาซะแล้ว
ถึงจะเป็นการจบเทอมที่ไม่ค่อยจะมีความสุขเท่าไหร่ก็นะ แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองนี่ก็โชคดีเหมือนกัน สมหวังกับคนที่ตัวเองรัก ได้ใช้เวลาร่วมกัน ได้แบ่งปันความทุกข์สุขด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงเวลาหนึ่งเลยก็ว่าได้ ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตให้เราได้รู้จักกันนะครับ
นานวันผ่านไป ปิดเทอมมาไม่กี่วัน ก็จะเป็นวันสอบคัดเลือกชั้น ม.4 ที่พี่คนนี้ลงสมัครสอบเอาไว้ เราก็เลยอยากส่งกำลังใจไปให้ แต่ก็กลับไปในฐานะน้องชายที่รู้จักคนนึง
“ขอบคุณนะ แกก็ยังดีสำหรับพี่เหมือนเดิมเลย ขอบคุณมากๆ เป็นกำลังใจที่ดีมากเลย

”
วันแล้ววันเล่า ในวันหนึ่งของช่วงปิดเทอม เราก็นั่งเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน จู่ ๆ ไลน์แจ้งเตือนของคนที่ไม่คิดว่าจะทักมาก็ดังขึ้น ใช่แล้วครับ พี่คนนั้น
เขาทักมา
"เอิร์ท พี่สอบเสร็จแล้วนะ รอนานมั้ย"
คำว่า "รอ" ที่เราไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แล้วระหว่างทางก็มีคนพาไปถึงจุดสิ้นสุดนั้น
"รออะไรพี่ รอพี่น่ะหรอ"
"ใช่ แกรออยู่รึป่าว"
"จะไม่รอได้ยังไง ถึงไล่ก็ไม่ไป ก็รอจนกว่าจะถึงวันนั้นนั่นแหละ"
"แกรู้เหตุผลที่พี่เลิกยังล่ะ"
"พี่ก็แค่อยากทุ่มเทกับสอบให้เต็มที่เฉยๆเอง แกก็ต้องสอบปลายภาคด้วย"
ถึงแม้มันอาจจะเป็นเหตุผลที่แอบฟังไม่ขึ้น แต่ถ้าจะเป็นเหตุผลนี้จริง ๆ พี่ทำถูกแล้วล่ะ
"จริงๆก็ว่าจะรอให้ผลสอบออกก่อน แต่ไม่น่าไหวอ่ะ
เอาจริง ๆ จะกลับมาในเวลาไหนก็ได้นะ แต่อยากให้กลับมาในฐานะแฟนเหมือนที่เคยเป็น
"แล้ว...ยอมให้พี่กลับมาได้ใช่มะ"
"ไม่ยอม! แต่เต็มใจให้กลับมาต่างหาก"
ตอนนั้นที่พิมพ์เกรี้ยวกราดแบบนั้น แต่ใจของผมมนี่ โหหหห มีน้ำตาไหลอ่ะ คิดถึงมาก อยากให้กลับมาแล้ววันนี้ก็กลับมาแล้วจริง ๆ
หลังจากนั้นเราก็กลับมาอยู่ในฐานะแฟนอีกครั้ง เป็นเหตุผลของการจากไปที่ได้ฟังแล้วก็รู้สึกดีเหมือนกันตอนนั้นเธอตัดสินใจได้ถูกต้องแล้วล่ะ ขอบคุณที่ยังกลับมานะ
จากช่วงเวลานั้นที่เราอยู่โรงเรียน ได้เจอหน้ากันทุกวัน ได้คุยกันตลอด แม้กระทั่งตอนกลางคืนก็ยังโทรหากัน ยังเจอกันอยู่ระหว่างหอเลย (ผมอยู่หน้าหอนึง และเธอก็อยู่หลังระเบียงอีกหอนึง) เราเจอกันบ่อยมากทั้งเวลาเข้าแถว เวลาเปลี่ยนคาบแล้วเดินสวนกันก็มี ทั้งเวลาพักเที่ยง ทั้งเวลาหลังเลิกเรียน ผมมีความสุขมาก ที่ได้ใช้เวลาช่วงนั้นกับพี่ ถึงแม้มันจะน้อยและสั้น ๆ แต่มันเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากจริง ๆ นะ
แม้แต่วันสุดท้ายที่ผมจะได้อยู่โรงเรียนในเทอมนี้ และเขาก็จะไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อแล้ว เรายังไม่มีโอกาสจะได้เจอเธอเลย ยังเสียดายจนถึงทุกวันนี้ แงงงงง ถ้าลุงไม่รีบนะ จะรอให้ได้เลย อยากเจอมาก ก็ช่วงนั้นยังไม่ได้กลับมาเป็นแฟนเนอะ แต่เราก็อยากใช้โอกาสนี้คุยกับเขาด้วยกันแบบนี้ น่าจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะเราก็ไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีกเมื่อไหร่ หรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ อยากคุยให้เราสบายใจด้วย เพราะถ้าเราไม่ได้คุยกัน มันก็ยังติดอยู่ในความคิดแบบนี้ไม่หายซักที
สุดท้ายสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจ มันก็หายไป เพราะเราได้คำตอบจากสิ่งที่เรายังค้างคามาตลอดแล้ว
ในวันที่เราหรือเธอก็มีเรื่องดี ๆ เราก็เอามาแบ่งปันกันเสมอ
ในวันที่เราหรือเธอมีเรื่องไม่สบายใจ เราก็รับฟัง และให้กำลังใจกันเสมอ
ในวันที่เราหรือเธอต้องการกำลังใจ เราก็พร้อมจะให้กำลังใจกันเสมอ
ในวันที่เราหรือเธอเหนื่อยจากหลาย ๆ อย่างที่เข้ามา เราก็พร้อมจะทำให้เธอหายเหนื่อย
ในวันที่เธอเหงา เราก็พร้อมจะทำให้เธอหายเหงาได้
ในวันที่เธอมีเรื่องอึดอัดใจ หรือไม่สบายใจ เราก็พร้อมจะเป็นที่ปรึกษาเธอได้เสมอ
ขอโทษที่ไม่ได้เป็นผู้ชายที่เพอร์เฟคขนาดนั้น
ขอโทษที่ไม่ได้เป็นคนคุยเก่ง
ขอโทษที่ไม่ได้เป็นผู้ชายที่สายเปย์มากเท่าไหร่
ขอโทษที่บางครั้งผมก็ผิดคำสัญญาที่ให้ไว้ (โดยเฉพาะเรื่องไปวัด)
ขอโทษที่บางครั้งก็ทำให้คุณไม่สบายใจแบบไม่ได้ตั้งใจ
แต่ผมก็พร้อมที่จะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อที่จะเป็นคนที่ดีพอสำหรับคุณนะ
ผมต้องการโอกาสที่จะได้ดูแลคุณและทำให้คุณมีความสุข
ขอบคุณนะ ที่คุณยังเห็นอะไรในตัวผม และยังให้โอกาสแก่ผม
ขอบคุณที่คุณคอยเป็นกำลังใจให้ผมมาตลอด เป็นแรงซัพพอร์ต
และยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “แฟน” ที่น่ารักที่สุดของผมด้วย
มีอีกหลายสิ่งที่อยากจะขอบคุณ แต่ไม่สามารถพรรณนาได้หมดภายในวันเดียวแน่ ๆ
เอาเป็นว่า ขอบคุณสำหรับทุก ๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่างที่เธอมีให้เรานะ
จากวันนั้น วันที่โดนบอกรักก่อน (18 มกราคม 2563 2:22 P.M.)
เราก็ผ่านอะไรมาด้วยกัน จนตอนนี้จะครบรอบ 3 เดือนแล้ว (18 เมษายน 2563)
ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกันมาจนถึงทุกวันนี้นะครับ อยากให้เรารักษาไว้แบบนี้ไปเรื่อย ๆ นะ
เรื่องที่มีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่าน คือรักแรกของผม // ขอบคุณที่ยังยืนอยู่ข้างกันนะ คุณแฟนของผม (pp_psy.sryc)
ถึง พี่ปอเปี๊ยะ ถ้าพี่ได้อ่านกระทู้นี้ หวังว่าพี่จะยังจำเรื่องราวเหล่านี้ได้นะครับ ไม่ได้เจอกันเลย คิดถึงนะ
ตอนนั้นผมก็เป็นนักเรียนที่กำลังจะขึ้น ม.2 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งแถวเชียงคาน เป็นโรงเรียนประจำนะครับเป็นที่ ๆ ทำให้ผมได้รู้จักกับแฟนคนนี้ เป็นพี่อยู่ปีนึง เอาจริง ๆ ก็แอบปิ๊งตั้งแต่ ม.1 แล้วครับ แต่ก็ไม่ได้บอกใคร จนวันหนึ่ง พี่คนนี้เขาก็เข้ามาในชีวิต ก็อารมณ์ประมาณรุ่นพี่ที่ดีคนนึงแหละครับ ผมก็เหมือนเริ่มจะสนิทกับเขามากขึ้น
ผมก็รู้สึกมีความกล้าที่จะสารภาพรักพี่คนนี้ไป มันต้องรีบบอก เพราะพี่เค้าอยู่ ม.3 (จะจบ ม.ต้นแล้ว) และก็ไม่ได้จะสอบเข้า ม.ปลายที่นี่ต่อด้วย กลัวจะไม่มีโอกาสได้คุยกันอีก
คืนวันนั้นเลยถามเพื่อนของพี่คนนี้ว่าควรบอกไปดีมั้ย และก็ได้คำตอบประมาณว่าเชียร์ให้บอกเลย เราก็ยิ่งมั่นใจขึ้นไปอีก แต่คืนนั้นดึกแล้ว เหมือนพี่คนนั้นจะนอนแล้วด้วย ก็เลยว่าคืนนี้จะนอนแล้ว หลังจากถามเพื่อนพี่คนนั้นก็ หลับไปเลย ว่าจะเก็บไปบอกในวันพรุ่งนี้
แต่หารู้ไม่ว่า เพื่อนพี่คนนั้นเอาไปบอกพี่คนนั้นให้รู้ก่อนเราจะไปบอกอีก
อันนี้ก็ไม่รู้จนวันต่อมา มันคือวันเสาร์ที่โรงเรียนมีเรียนชดเชยของวันพฤหัส ฯ นักเรียน ม. 1 2 4 5 ก็เรียนตามปกติ แต่ ม.3 กับ 6 มีติวโอเน็ต ช่วงบ่าย ๆ ห้องผมครูไม่อยู่ เลยเป็นคาบว่าง จู่ ๆ Direct Message ของ IG ก็เด้งมา ปรากฏว่าเป็นพี่ที่ผมจะสารภาพนั่นแหละครับ เปิดมาก็
"เฮ้อ เครียดว่ะ ขอระบายอะไรหน่อยได้ป้ะ"
โหหห ตอนนั้นก็งงเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไร ตอนนั้นก็คิดว่ามีเรื่องเครียดจริง ๆ คิดได้แบบนั้นไม่นาน
"คือพี่แอบชอบคน ๆ หนึ่งอ่ะ" "แต่ไม่รู้จะเดินหน้าหรือถอยกลับ"
โหหห มาแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เรานี่ก็เหวอเหมือนกันนะ ก็เลย บอกให้เดินหน้าต่อแหละ
"แล้วพี่จะบอกชอบเขายังไงดี"
ก็ตอบไป จะบอกพี่ว่า ถ้าชอบใครก็พูดไปเลยดีกว่า ผลลัพธ์ต่อจากนั้นจะเป็นยังไง ก็ขึ้นอยู่กับเขานั่นแหละอย่างน้อยก็ให้เขาได้รับรู้ไว้ ว่าเราอ่ะชอบ จะตอบรับหรือไม่ตอบรับก็ได้นะ พี่ต้องรับได้ดิ สตรอง สู้ๆ มันทำให้เราสบายใจขึ้นด้วยนะ
"อืมม ก็จริงนะ คนที่พี่ชอบอ่ะ มันเป็นรุ่นน้องอยู่รร.นี่แหละ ตัวมันจะตัวใหญ่ๆ มันสูงกว่าพี่ด้วย แถมคอยรับฟังพี่ระบายตลอดเลย มีอวยพรปีใหม่น่ารักๆอีก แถมยังให้กำลังใจพี่ตลอด" ตอนนั้นเลยออกมาจากในห้อง ก็หมดชั้น 4 มีแต่ห้องเรา ตอนนั้นก็ นั่นล่ะครับ เก็บอาการไม่ไหว ก็เลย บอกกลับไปตอนนี้นี่แหละครับ บอกรักช่วงบ่าย ๆ 5555
"งั้นจะบอกให้เขารู้ละนะ รู้ตัวบ้างไหมว่าชอบพี่มาตั้งนานแล้วเนี่ย"
"แปบนึง ให้พี่เขินก่อน"
"จะรอนะครับ"
"เอาจริงๆก็ไม่รู้ตัวเลยแหละ"
"เอาจริงๆไอ่อิ่มนั่นแหละบอกพี่ แล้วพี่ก็รอให้แกทักมาสักที รอจนเช้าอ่ะ สุดท้ายก็เลยทักเอง"
ขออนุญาตเอ่ยชื่อถึงนะครับ พี่คงไม่มาอ่านกระทู้นี่หรอกน่าาา
"นึกแล้วววว ขอโทษที่ทำให้รอนะพี่"
ตอนนั้นก็รู้สึกโกรธเพื่อนพี่คนนั้นเล็กน้อย แต่ก็ขอบคุณที่พี่เค้าไปบอกก่อนนะครับ
ช่วงเวลาที่ผมรู้จักพี่มาเป็นปี ช่วงเวลาที่เรารู้จักกันในฐานะพี่น้อง สุดท้ายความพยายามอดทน เริ่มจากเราไม่มีอะไรเลย เราก็เติมเต็มให้เขาในฐานะรุ่นน้องที่ดีคนนึงมาตลอด สิ่งที่เราทำนั้นมันไม่สูญเปล่า มันได้กลับมาซึ่งความรักของผู้หญิงคนนี้ที่เรารอมานาน ก็ขอบคุณที่ได้ให้โอกาสผมคนนี้ ผมก็จะดูแลมันไว้ให้ดีที่สุดแล้วกันนะครับ ไม่อยากทำให้เขาเสียใจในเรื่องที่มันไม่ควรจะเสียใจ อยากจะดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ จะช่วยซัพพอร์ตเขาในสิ่งที่เขาต้องการการเติมเต็มที่เราพอจะช่วยได้ให้มากที่สุด
หลังจากวันนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก ๆ ครับ เราทั้งสองคนก็อยากสร้างความทรงจำดี ๆ เหล่านี้ไว้ด้วยกัน เพราะเราทั้งสองคนก็ไม่รู้ว่า เราจะได้มาเจอกันและสร้างช่วงเวลาแบบนี้ไปด้วยกันอีกเมื่อไหร่เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก่อนเขาจะจบการศึกษาจากโรงเรียนนี้ และเรียนต่อ ม.4 ที่โรงเรียนอื่น
เราก็ทั้งไปกินข้าวด้วยกัน ไปวิ่งด้วยกัน ไปออกกำลังกายด้วยกัน ไปเดินเล่นด้วยกัน ไปห้องดนตรีด้วยกันไปห้องสมุดด้วยกัน อยากทำทุก ๆ อย่างเท่าที่เราจะทำได้ในเวลาที่เหลือแค่ไม่กี่เดือนนี้ แต่สุดท้ายก็ยังมีอีกหลายอย่างมากที่เราไม่ได้ทำด้วยกัน หวังว่าเราคงมีโอกาสได้มาใช้เวลาร่วมกันแบบนี้อีกนะ
จนช่วงเวลาก่อนสอบ จู่ ๆ ก็โดนบอกเลิก
ตอนนั้นก็งงกับตัวเองมากว่ามันเกิดขึ้นกับเราได้ยังไง
แต่เมื่อเขาเลือกทางเดินแบบนี้แล้ว เราจะรั้งไว้แค่ไหน เขาก็คงไม่กลับมา
เพราะเขาคงต้องตัดสินใจมาดีแล้ว ได้แต่สงสัยกับคำตอบนั้น และจะยังรอคุณอยู่ตลอดนะครับ
ผมไม่ยอมให้ใครเข้ามาในชีวิตผมได้ นอกจากคุณ ก็ยังรออยู่ตลอดนะ
ช่วงนั้นก็ช่วงก่อนสอบปลายภาคด้วยแหละครับ (ขออนุญาตเสริมอีกนิดนึงนะครับว่า ข้อสอบโรงเรียนวิทยาศาสตร์ เป็นข้อสอบที่ออกโดยคณะครูทั้ง 12 แห่ง และข้อสอบจะไม่ง่ายเหมือนโรงเรียนอื่น จริง ๆครับ โดยเฉพาะคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ไม่มีปรนัย ย้ำ ไม่มีปรนัย มีแต่เติมคำตอบ และแสดงวิธีทำทั้งสิ้น ไม่มีใครในโรงเรียนนี้บอกว่าง่าย จะมีก็มีแต่คนที่เก่งแบบ เก่งจริง ๆ เท่านั้นนะครับ 5555 )
โห ตอนนั้นปล่อยโฮเลย คืนวันนั้นไม่สนโลกเลยครับ 5555 มูฟออนไม่ได้ว่างั้นเหอะ แต่ก็จมอยู่นานไม่ได้เพราะต้องเตรียมตัวสอบปลายภาค ก็เลยมีความคิดว่า โดนบอกเลิก จมอยู่นานไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก หลังจากนั้นก็อ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลังจนสอบเสร็จนั่นแหละครับ
จนถึงคืนก่อนวันสุดท้ายของการสอบ พี่คนนั้นก็แว๊บเข้ามาให้หัวเราอีกแล้วล่ะครับ ก็เลยนึกขึ้นได้ ว่าพรุ่งนี้ต้องกลับบ้านทั้งโรงเรียน นี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน เพราะก่อนหน้านี้หลังโดนบอกเลิกก็มองหน้ากันไม่ติดเลย ฮืออ ที่จริงก็แอบตลอดแหละ แต่ก็มีบางช่วงที่จังหวะก็ตรงกัน ก็หลบแทบไม่ทัน5555 ฮือออ
ก็เลยทำอะไรบางอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เก็บไว้เป็นสิ่งที่เวลาเอากลับมาอ่านก็จะจำได้ว่าเคยรู้จักกับเด็กคนนี้
พอหลังสอบเสร็จวันสุดท้าย เราก็รีบลงมารออยู่แถวอาคารเรียน แต่เพื่อนแม่ที่จะมารับผมกลับก็เหมือนจะรีบด้วย
นานมาจังเลยนะ กะว่าจะให้ต่อหน้า แล้วก็คุยอะไรนิดหน่อย และก็จะขอถ่ายรูปคู่เก็บไว้ด้วย
แต่นานแล้ว ก็ยังไม่มา ก็เข้าใจแหละว่า ม.3 จะจบแล้ว ก็อยากอยู่กับเพื่อนให้นานที่สุด แต่เราต้องรีบกลับแล้ว
เริ่มหมดความหวัง แต่ยังไงของชิ้นนี้ก็ต้องถึงมือเขาให้ได้ แม้เราจะไม่ได้เจอกันก็ตาม
กำลังจะหาคนฝากเอาไปให้ เจอพี่อิ่มบุญ(คนที่เคยกล่าวถึงตอนก่อนหน้านี้) กำลังจะขึ้นหอสกล ฯ เราก็ตั้งตาวิ่งแบบไม่คิดชีวิต เพราะเราก็ไม่รู้จะฝากใครได้อีกแล้วในตอนนั้น ขอบคุณพี่อิ่มบุญนะครับ ที่ทำให้ของชิ้นนั้นไปถึงมือเขา
“ แง ขอโทษนะ ไม่ได้ไปเอาด้วยตัวเองเลย แต่ก็ขอบคุณนะ
ก็ขอบคุณที่ยังตอบกลับมานะครับ นึกว่าจะไม่ตอบมาซะแล้ว
ถึงจะเป็นการจบเทอมที่ไม่ค่อยจะมีความสุขเท่าไหร่ก็นะ แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองนี่ก็โชคดีเหมือนกัน สมหวังกับคนที่ตัวเองรัก ได้ใช้เวลาร่วมกัน ได้แบ่งปันความทุกข์สุขด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงเวลาหนึ่งเลยก็ว่าได้ ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตให้เราได้รู้จักกันนะครับ
นานวันผ่านไป ปิดเทอมมาไม่กี่วัน ก็จะเป็นวันสอบคัดเลือกชั้น ม.4 ที่พี่คนนี้ลงสมัครสอบเอาไว้ เราก็เลยอยากส่งกำลังใจไปให้ แต่ก็กลับไปในฐานะน้องชายที่รู้จักคนนึง
“ขอบคุณนะ แกก็ยังดีสำหรับพี่เหมือนเดิมเลย ขอบคุณมากๆ เป็นกำลังใจที่ดีมากเลย
วันแล้ววันเล่า ในวันหนึ่งของช่วงปิดเทอม เราก็นั่งเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน จู่ ๆ ไลน์แจ้งเตือนของคนที่ไม่คิดว่าจะทักมาก็ดังขึ้น ใช่แล้วครับ พี่คนนั้น
เขาทักมา
"เอิร์ท พี่สอบเสร็จแล้วนะ รอนานมั้ย"
คำว่า "รอ" ที่เราไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แล้วระหว่างทางก็มีคนพาไปถึงจุดสิ้นสุดนั้น
"รออะไรพี่ รอพี่น่ะหรอ"
"ใช่ แกรออยู่รึป่าว"
"จะไม่รอได้ยังไง ถึงไล่ก็ไม่ไป ก็รอจนกว่าจะถึงวันนั้นนั่นแหละ"
"แกรู้เหตุผลที่พี่เลิกยังล่ะ"
"พี่ก็แค่อยากทุ่มเทกับสอบให้เต็มที่เฉยๆเอง แกก็ต้องสอบปลายภาคด้วย"
ถึงแม้มันอาจจะเป็นเหตุผลที่แอบฟังไม่ขึ้น แต่ถ้าจะเป็นเหตุผลนี้จริง ๆ พี่ทำถูกแล้วล่ะ
"จริงๆก็ว่าจะรอให้ผลสอบออกก่อน แต่ไม่น่าไหวอ่ะ
เอาจริง ๆ จะกลับมาในเวลาไหนก็ได้นะ แต่อยากให้กลับมาในฐานะแฟนเหมือนที่เคยเป็น
"แล้ว...ยอมให้พี่กลับมาได้ใช่มะ"
"ไม่ยอม! แต่เต็มใจให้กลับมาต่างหาก"
ตอนนั้นที่พิมพ์เกรี้ยวกราดแบบนั้น แต่ใจของผมมนี่ โหหหห มีน้ำตาไหลอ่ะ คิดถึงมาก อยากให้กลับมาแล้ววันนี้ก็กลับมาแล้วจริง ๆ
หลังจากนั้นเราก็กลับมาอยู่ในฐานะแฟนอีกครั้ง เป็นเหตุผลของการจากไปที่ได้ฟังแล้วก็รู้สึกดีเหมือนกันตอนนั้นเธอตัดสินใจได้ถูกต้องแล้วล่ะ ขอบคุณที่ยังกลับมานะ
จากช่วงเวลานั้นที่เราอยู่โรงเรียน ได้เจอหน้ากันทุกวัน ได้คุยกันตลอด แม้กระทั่งตอนกลางคืนก็ยังโทรหากัน ยังเจอกันอยู่ระหว่างหอเลย (ผมอยู่หน้าหอนึง และเธอก็อยู่หลังระเบียงอีกหอนึง) เราเจอกันบ่อยมากทั้งเวลาเข้าแถว เวลาเปลี่ยนคาบแล้วเดินสวนกันก็มี ทั้งเวลาพักเที่ยง ทั้งเวลาหลังเลิกเรียน ผมมีความสุขมาก ที่ได้ใช้เวลาช่วงนั้นกับพี่ ถึงแม้มันจะน้อยและสั้น ๆ แต่มันเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากจริง ๆ นะ
แม้แต่วันสุดท้ายที่ผมจะได้อยู่โรงเรียนในเทอมนี้ และเขาก็จะไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อแล้ว เรายังไม่มีโอกาสจะได้เจอเธอเลย ยังเสียดายจนถึงทุกวันนี้ แงงงงง ถ้าลุงไม่รีบนะ จะรอให้ได้เลย อยากเจอมาก ก็ช่วงนั้นยังไม่ได้กลับมาเป็นแฟนเนอะ แต่เราก็อยากใช้โอกาสนี้คุยกับเขาด้วยกันแบบนี้ น่าจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะเราก็ไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีกเมื่อไหร่ หรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ อยากคุยให้เราสบายใจด้วย เพราะถ้าเราไม่ได้คุยกัน มันก็ยังติดอยู่ในความคิดแบบนี้ไม่หายซักที
สุดท้ายสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจ มันก็หายไป เพราะเราได้คำตอบจากสิ่งที่เรายังค้างคามาตลอดแล้ว
ในวันที่เราหรือเธอก็มีเรื่องดี ๆ เราก็เอามาแบ่งปันกันเสมอ
ในวันที่เราหรือเธอมีเรื่องไม่สบายใจ เราก็รับฟัง และให้กำลังใจกันเสมอ
ในวันที่เราหรือเธอต้องการกำลังใจ เราก็พร้อมจะให้กำลังใจกันเสมอ
ในวันที่เราหรือเธอเหนื่อยจากหลาย ๆ อย่างที่เข้ามา เราก็พร้อมจะทำให้เธอหายเหนื่อย
ในวันที่เธอเหงา เราก็พร้อมจะทำให้เธอหายเหงาได้
ในวันที่เธอมีเรื่องอึดอัดใจ หรือไม่สบายใจ เราก็พร้อมจะเป็นที่ปรึกษาเธอได้เสมอ
ขอโทษที่ไม่ได้เป็นผู้ชายที่เพอร์เฟคขนาดนั้น
ขอโทษที่ไม่ได้เป็นคนคุยเก่ง
ขอโทษที่ไม่ได้เป็นผู้ชายที่สายเปย์มากเท่าไหร่
ขอโทษที่บางครั้งผมก็ผิดคำสัญญาที่ให้ไว้ (โดยเฉพาะเรื่องไปวัด)
ขอโทษที่บางครั้งก็ทำให้คุณไม่สบายใจแบบไม่ได้ตั้งใจ
แต่ผมก็พร้อมที่จะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อที่จะเป็นคนที่ดีพอสำหรับคุณนะ
ผมต้องการโอกาสที่จะได้ดูแลคุณและทำให้คุณมีความสุข
ขอบคุณนะ ที่คุณยังเห็นอะไรในตัวผม และยังให้โอกาสแก่ผม
ขอบคุณที่คุณคอยเป็นกำลังใจให้ผมมาตลอด เป็นแรงซัพพอร์ต
และยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “แฟน” ที่น่ารักที่สุดของผมด้วย
มีอีกหลายสิ่งที่อยากจะขอบคุณ แต่ไม่สามารถพรรณนาได้หมดภายในวันเดียวแน่ ๆ
เอาเป็นว่า ขอบคุณสำหรับทุก ๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่างที่เธอมีให้เรานะ
จากวันนั้น วันที่โดนบอกรักก่อน (18 มกราคม 2563 2:22 P.M.)
เราก็ผ่านอะไรมาด้วยกัน จนตอนนี้จะครบรอบ 3 เดือนแล้ว (18 เมษายน 2563)
ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกันมาจนถึงทุกวันนี้นะครับ อยากให้เรารักษาไว้แบบนี้ไปเรื่อย ๆ นะ