ประมาณปี 61 ผมได้ซื้อบ้านจัดสรรโครงการหนึ่ง ก่อนซื้อ ก็ได้เดินถามเพื่อนบ้านว่าดีไหม เพราะผมไม่เคยมีประสพการณ์การซื้อหมู่บ้านจัดสรรมาก่อนเลย
หลังจากซื้อเข้าอยู่ได้ไม่กี่วัน ก็ได้ยินเสียงน้ำไหลหลังบ้าน จึงได้แจ้งกับโครงการ ปรากฏว่าท่อประปาแตก และทางโครงการจัดช่างมาซ่อม
หลังจากนั้นไม่นาน ยังไม่มีบิลค่าน้ำมา แต่มีบิลแจ้งท่อปะปาแตกมาอีกรอบ จึงแจ้งโครงการอีกครั้ง พบว่า มีท่อแตกอีกจุดใต้ดิน จึงดำเนินการเปลี่ยนท่อ
จากนั้นซักพัก มีบิลค่าน้ำใบแรกมา (ยังไม่เคยจ่ายเองเลย) ปรากฏว่า บิลค่าน้ำมีค่าใช้จ่าย สามพันกว่าๆ จึงแจ้งให้โครงการทราบว่ายังไม่เคยจ่ายค่าน้ำเลย และมันแตกเพราะคุณภาพบ้าน ซึ่งสรุปว่า โครงการจะชำระแต่มีเงื่อนไขให้เซ็น ว่าต้องหยุดเรียกร้องความเสียหาย พร้อมทั้งห้ามบอกใครในเรื่องนี้
(ปิดปากมัดมือชกกันเลย) (บอกตรงๆ ว่าเซ็งและไม่เซ็นรับ สุดท้ายฟ้อง สคบ)
ต่อมา มีหลุมบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน เป็นหลุมลึก ขนาดที่ลูกผมตกลงไปได้ทั้งตัว ซึ่งตอนนี้ ตกไปได้สองสามคนเลย (ผู้ใหญ่คงถึงอก)
จึงแจ้ง ให้ดำเนินการ ก็มีเอาดินมาโปีะๆ นิดหน่อย แต่มันก็เป็นอีก ลึกมากๆๆๆๆ ตอนนี้ ถนนหน้าบ้าน ทรุดตัวเอียงเห็นได้ชัดเลย
จากนั้นผมจึงเดินตรวจหมู่บ้านพร้อมทั้ง รวบรวมลูกบ้านเพื่อให้ร่วมมือกัน
ตอนนี้ ฟ้อง สคบ กรมที่ดิน ศาลปกครอง เทศบาล
จึงอยากบอกเล่าว่า ควรทำอย่างไรบ้าง
-----
1. ค่าบริการสาธารณะ และค่าบริการสาธารณูปโภค
บริการนี้มีนิยามใน พรบ จัดสรร โดยขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้
บริการสาธารณูปโภค คือ บริการที่มีความจำเป็นสำหรับทุกบ้าน ทุกบ้านจะต้องใช้บริการนี้ ไม่สามารถแบ่งแยกได้ เช่น ถนน ท่อระบายน้ำ สวนสาธารณะ ไปทางเดิน ซึ่งบริการสาธารณะ ถูกกำหนดว่าต้องมีอะไรบ้างใน "ข้อกำหนดจัดสรรของแต่ละจังหวัด" บริการนี้ ผู้จัดสรรจะต้องจัดสร้าง และบำรุงรักษา(ผู้จัดสรรจ่ายค่าบำรุงรักษาทั้งหมด) ตามที่มาตรา 43 กำหนด จนกว่าจะส่งมอบ
บริการสาธารณะ คือ บริการที่กฏหมายไม่ได้กำหนดให้มี บ้านแต่ละหลังจะใช้หรือไม่ใช้บริการก็ได้ จะต้องกำหนดค่าบริการต่างๆ ให้ชัดเจน และจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับค่าบริการสาธารณูปโภค ยกเว้นบริการที่ข้อกำหนด กำหนดให้เป็นสาธาณะ เช่น โรงเรียน สระว่ายน้ำ สโมสร
ปัญหาของการจัดเก็บค่าบริการ คือ เมื่อสวน ทางเดินเท้า ไฟทางเดินกลางคืน การบริหารนิติบุคคล ถนน สวนสาธารณะ ระบบรักษาความปลอดภัย ฯลฯ เป็นบริการสาธารณูปโภค ค่าบำรุงรักษา เช่น คนกวาดถนนและทางเดินเท้า ยาม ค่าบริหารนิติบุคคล ค่าไฟฟ้าแสงสว่าง ค่าน้ำและคนตัดสวน ฯลฯ ผู้จัดสรรจะต้องเป็นผู้ชำระทั้งสิ้น ก่อนส่งมอบตามที่มาตรา 43 กำหนด "แต่ผู้จัดสรรเอาค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ให้ผู้ซื้อชำระ อ้างว่าเป็นค่าบริการสาธารณะ ซึ่งขัดต่อกฏหมาย"
รายการนี้ผมฟ้องไปศาลปกครองเรียบร้อยครับ รอชมผล
2. การตรวจบ้าน
การตรวจบ้าน ไม่ใช่แค่เอาคนมาปีน ดู เคาะ ฯลฯ แต่ต้องไปขอแบบจาก เทศบาลหรือ อบต ท้องถิ่น เพื่อขอแบบบ้าน ก่อนการตรวจ
หลังจากได้ขอแบบและตรวจแล้ว พบปัญหาเพียบเลย
2.1 แบบบ้านไม่มีคาน!!! ผมไม่ใช่วิศวโยธา แต่จากที่ศึกษา คาน เป็นส่วนประกอบสำคัญเพื่อถ่ายแรง กรณี เสาเกิดผิดปรกติ (เหมือนประกันบ้าน) อธิบายดังนี้
เมื่อปักเสาบ้าน วันแรกๆ เสาก็จะอยู่ดีไม่มีปัญหาครับ แต่เมื่อนานวันไป ดินอาจไหล ขยับ ยุบ ฯลฯ จนทำให้เสา เกิดปัญหา เช่น ทรุด แตก หัก ฯลฯ ทำให้การรับน้ำหนักไม่ได้ หรือไม่ดีเท่าที่ควร คานจะช่วยถ่ายแรง ออกไป ทำให้หนักกลายเป็นเบา
เมื่อแบบบ้านผมไม่มีคาน และพบว่ากำแพงแตก(กำแพงหล่อในที่ใช้รับแรงแทนเสา(บ้านไม่มีเสา)) ก็แปลง่าย โครงสร้างบ้านที่รับแรงเสียหายครับ งานช้างเลย ซึ่งผมว่าผิดตามมาตรา 8 พรบ ควบคุมอาหาร ที่กำหนดให้อาคารต้องมีความมั่นคง คงทน
2.2 ดินใต้บ้านหายไป ดิน จะช่วยรับแรงของเสาเข็ม และ เมื่อดินใต้บ้านหาย บินบนบ้านก็จะค่อยๆ ไหลไปใต้บ้าน ทำให้ดินรอบบ้านทรุดครับ
2.3 อุปกรณ์ที่กฏหมายกำหนดให้มีหายไป เช่น เซพทีคัท พัดลมระบายอากาศในห้องน้ำ ห้องครัว ถังดับเพลิงและระบบเตือนภัย (กฏหมายกำหนดหลายอย่างเช่น ขนาดเหล็ก ซึ่งไม่รู้จะตรวจยังไง) ขนาดห้องนอนที่ต้องมีพื้นที่ ไม่ต่ำกว่า 7.5 ตารางเมตร (บางที่ก็บอกว่า 8 เอาว่าโดยประมาณ) เอาที่เห็นก่อน
2.4 อุปกรณ์ที่ไม่ตรงตามแบบ เช่น ก๊อกน้ำเตี้ย(ใช้ซักล้าง) โคมไฟไม่ครบตามจำนวน หรือไม่ตรงแบบ สายไฟที่ต้องทิ้งตามจุดต่างๆ
2.5 ผมกำลังจะร้องเรื่องพื้นชั้นสองของบ้านที่ปูด้วยพื้นลามิเนต ซึ่งควรจะขัดต่อมาตรา 8 พรบ ควบคุมอาคารเพราะ วัสดุที่ใช้ไม่คงทน (ไม่ทนน้ำ)
2.6 อาจจะมีปัญหาอื่นๆ ก็คงต้องตรวจชี้กันเพิ่มครับ
3. การตรวจสาธา
ก็เหมือนตรวจบ้านครับ ต้องไปเอาแบบที่กรมที่ดินก่อน จากนั้น ไปหาข้อกำหนดของแต่ละจังหวัดมาอ่านครับ
เมื่อตรวจแล้ว สิ่งที่มักมีปัญหาบ่อยๆ คือ
1. ทางเดินเท้าหาย ข้อกำหนดทุกฉบับ ควรเขียนให้ทางเดินเท้ามีต่อเนื่องไม่ขาดตอน ตั้งแต่ปลายโครงการจนถึงหน้าหมู่บ้าน มักจะมีปัญหา เอาที่ดินไปทำสิ่งปลูกสร้าง ฯลฯ ครับ
2. ขนาดสวนสาธารณะ ครบตามแบบหรือไม่ บางที จะเอาทางเท้าไปเหมารวมด้วย ไม่ใช่นะครับ พื้นที่สวนสาธารณะ ไม่เกี่ยวกับพื้นที่ทางเท้าแม้จะอยู่ติดกัน
3. รั้วหมู่บ้าน ที่ต้องกันดินและกันน้ำ ไม่ให้ไหลออก และสามารถกันภัยได้ด้วยนะ ตอนนี้หมู่บ้านผม มีปัญหาดินไหลออก เช่นรั้วหมู่บ้านในเขตบ้านผม รั่วครับ ดินไหลออก ต้นไม้ล้มเลย บ้านเพื่อน ดินไหลออก สิ่งต่อเติมก็ทรุดเพราะดินหายไป เกิดเหตุว่า ไหลออกจนเป็นโพรงใหญ๋ ตัวเงินตัวทอง เดินเข้ามาเลยครับ(ยาวสองเมตรกว่าๆได้)
4. ทางเท้า ถนน และระบบระบายน้ำ ส่วนมากสามส่วนนี้จะผูกกัน ไปด้วยกัน ตอนนี้ ระบบระบายน้ำที่หมู่บ้าน ทำหน้าที่เป็นระบบระบายดินไปด้วยในตัว เพราะท่อระบายน้ำแตก จากการใช้วัสดุไม่ถูกต้อง และวางผิดตำแหน่ง เมื่อแตกแล้ว ท่อระบายน้ำ อาจระบายน้ำ หรือดูดดินก็ได้ทั้งคู่ จนทำให้ ดินบริเวณโดยรอบทรุดตัว ถนน ทางเดินเท้า และระบบระบายน้ำก็ทรุดตัวด้วย ทำให้ผิดแบบไม่ตรงตามแบบ
5. หัวดับเพลิง รถดับเพลิงแต่ละคันจะมีสายต่อได้ยาว 100 เมตร ฉะนั้น หากเกิน 100 เมตร จะต้องรอรถอีกคัน (แรงดันน้ำจะตกด้วย) ก็คิดครับ บ้านจะไหม้ไปถึงไหน ฉะนั้น หัวแดงควรมีห่างบ้านเป้าหมายไม่เกิน 100 เมตร
6. ที่กลับรถในโครงการ ที่จะต้องมีตามกฏหมายกำหนด ถ้าหลังปี 2535 ก็คือ ที่ 100 เมตร ถ้าหลัง 2545(โดยประมาณ) ก็ตามกฏหมายกำหนด และปลายหมู่บ้านควรมีที่กลับรถด้วย
7. ขนาดทางเข้าหมู่บ้าน หมู่บ้านผมควรมีขนาดหน้ากว้าง 12 เมตร แต่วัดจริงได้ 11.3 เมตร ขาดไป และทางเท้าหน้าหมู่บ้านก็หายด้วย
8. ระบบจ่ายไฟฟ้า ซึ่งควรเป็นไปตามที่โฆษณา เช่น ถ้าโฆษณาว่าใช้แอร์ได้สามหรือสี่เครื่อง เครื่องทำน้ำอุ่น ฯลฯ ก็ต้องตามนั้นครับ ปัญหาคือ มักจะ ออกแบบให้เล็กกว่าขนาดที่ใช้ได้จริง
9. บางหมู่บ้านที่เป็นบ่อบาดาล ก็ต้องมีระบบต่างๆ เช่นระบบวัดแรงดันน้ำ คุณภาพน้ำ ปริมาณน้ำที่ต้องเพียงพอต่อการใช้งาน (แม่ยายพึ่งเสียจากการติดเชื้อ ยังสงสัยเรื่องนี้อยู่)(อีกหมู่บ้าน)
10 สวนสาธารณะที่ต้องเป็นสวน ไม่ใช่ที่รกร้าง
11 แสงสว่างที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กฏหมายกำหนด มักจะสว่างไม่พอ
จริงๆ ต้องมีมากกว่านี้ครับ แต่เขียนเท่านี้ เป็นแนวทาง และเขียนบอกที่มาที่ไปแล้ว หวังว่า จะเป็นทางออกให้ทุกคน
https://pantip.com/topic/41379602
https://pantip.com/topic/41379632
https://pantip.com/topic/41432310
การตรวจรับบ้าน และสาธารณูปโภค
หลังจากซื้อเข้าอยู่ได้ไม่กี่วัน ก็ได้ยินเสียงน้ำไหลหลังบ้าน จึงได้แจ้งกับโครงการ ปรากฏว่าท่อประปาแตก และทางโครงการจัดช่างมาซ่อม
หลังจากนั้นไม่นาน ยังไม่มีบิลค่าน้ำมา แต่มีบิลแจ้งท่อปะปาแตกมาอีกรอบ จึงแจ้งโครงการอีกครั้ง พบว่า มีท่อแตกอีกจุดใต้ดิน จึงดำเนินการเปลี่ยนท่อ
จากนั้นซักพัก มีบิลค่าน้ำใบแรกมา (ยังไม่เคยจ่ายเองเลย) ปรากฏว่า บิลค่าน้ำมีค่าใช้จ่าย สามพันกว่าๆ จึงแจ้งให้โครงการทราบว่ายังไม่เคยจ่ายค่าน้ำเลย และมันแตกเพราะคุณภาพบ้าน ซึ่งสรุปว่า โครงการจะชำระแต่มีเงื่อนไขให้เซ็น ว่าต้องหยุดเรียกร้องความเสียหาย พร้อมทั้งห้ามบอกใครในเรื่องนี้
(ปิดปากมัดมือชกกันเลย) (บอกตรงๆ ว่าเซ็งและไม่เซ็นรับ สุดท้ายฟ้อง สคบ)
ต่อมา มีหลุมบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน เป็นหลุมลึก ขนาดที่ลูกผมตกลงไปได้ทั้งตัว ซึ่งตอนนี้ ตกไปได้สองสามคนเลย (ผู้ใหญ่คงถึงอก)
จึงแจ้ง ให้ดำเนินการ ก็มีเอาดินมาโปีะๆ นิดหน่อย แต่มันก็เป็นอีก ลึกมากๆๆๆๆ ตอนนี้ ถนนหน้าบ้าน ทรุดตัวเอียงเห็นได้ชัดเลย
จากนั้นผมจึงเดินตรวจหมู่บ้านพร้อมทั้ง รวบรวมลูกบ้านเพื่อให้ร่วมมือกัน
ตอนนี้ ฟ้อง สคบ กรมที่ดิน ศาลปกครอง เทศบาล
จึงอยากบอกเล่าว่า ควรทำอย่างไรบ้าง
-----
1. ค่าบริการสาธารณะ และค่าบริการสาธารณูปโภค
บริการนี้มีนิยามใน พรบ จัดสรร โดยขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้
บริการสาธารณูปโภค คือ บริการที่มีความจำเป็นสำหรับทุกบ้าน ทุกบ้านจะต้องใช้บริการนี้ ไม่สามารถแบ่งแยกได้ เช่น ถนน ท่อระบายน้ำ สวนสาธารณะ ไปทางเดิน ซึ่งบริการสาธารณะ ถูกกำหนดว่าต้องมีอะไรบ้างใน "ข้อกำหนดจัดสรรของแต่ละจังหวัด" บริการนี้ ผู้จัดสรรจะต้องจัดสร้าง และบำรุงรักษา(ผู้จัดสรรจ่ายค่าบำรุงรักษาทั้งหมด) ตามที่มาตรา 43 กำหนด จนกว่าจะส่งมอบ
บริการสาธารณะ คือ บริการที่กฏหมายไม่ได้กำหนดให้มี บ้านแต่ละหลังจะใช้หรือไม่ใช้บริการก็ได้ จะต้องกำหนดค่าบริการต่างๆ ให้ชัดเจน และจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับค่าบริการสาธารณูปโภค ยกเว้นบริการที่ข้อกำหนด กำหนดให้เป็นสาธาณะ เช่น โรงเรียน สระว่ายน้ำ สโมสร
ปัญหาของการจัดเก็บค่าบริการ คือ เมื่อสวน ทางเดินเท้า ไฟทางเดินกลางคืน การบริหารนิติบุคคล ถนน สวนสาธารณะ ระบบรักษาความปลอดภัย ฯลฯ เป็นบริการสาธารณูปโภค ค่าบำรุงรักษา เช่น คนกวาดถนนและทางเดินเท้า ยาม ค่าบริหารนิติบุคคล ค่าไฟฟ้าแสงสว่าง ค่าน้ำและคนตัดสวน ฯลฯ ผู้จัดสรรจะต้องเป็นผู้ชำระทั้งสิ้น ก่อนส่งมอบตามที่มาตรา 43 กำหนด "แต่ผู้จัดสรรเอาค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ให้ผู้ซื้อชำระ อ้างว่าเป็นค่าบริการสาธารณะ ซึ่งขัดต่อกฏหมาย"
รายการนี้ผมฟ้องไปศาลปกครองเรียบร้อยครับ รอชมผล
2. การตรวจบ้าน
การตรวจบ้าน ไม่ใช่แค่เอาคนมาปีน ดู เคาะ ฯลฯ แต่ต้องไปขอแบบจาก เทศบาลหรือ อบต ท้องถิ่น เพื่อขอแบบบ้าน ก่อนการตรวจ
หลังจากได้ขอแบบและตรวจแล้ว พบปัญหาเพียบเลย
2.1 แบบบ้านไม่มีคาน!!! ผมไม่ใช่วิศวโยธา แต่จากที่ศึกษา คาน เป็นส่วนประกอบสำคัญเพื่อถ่ายแรง กรณี เสาเกิดผิดปรกติ (เหมือนประกันบ้าน) อธิบายดังนี้
เมื่อปักเสาบ้าน วันแรกๆ เสาก็จะอยู่ดีไม่มีปัญหาครับ แต่เมื่อนานวันไป ดินอาจไหล ขยับ ยุบ ฯลฯ จนทำให้เสา เกิดปัญหา เช่น ทรุด แตก หัก ฯลฯ ทำให้การรับน้ำหนักไม่ได้ หรือไม่ดีเท่าที่ควร คานจะช่วยถ่ายแรง ออกไป ทำให้หนักกลายเป็นเบา
เมื่อแบบบ้านผมไม่มีคาน และพบว่ากำแพงแตก(กำแพงหล่อในที่ใช้รับแรงแทนเสา(บ้านไม่มีเสา)) ก็แปลง่าย โครงสร้างบ้านที่รับแรงเสียหายครับ งานช้างเลย ซึ่งผมว่าผิดตามมาตรา 8 พรบ ควบคุมอาหาร ที่กำหนดให้อาคารต้องมีความมั่นคง คงทน
2.2 ดินใต้บ้านหายไป ดิน จะช่วยรับแรงของเสาเข็ม และ เมื่อดินใต้บ้านหาย บินบนบ้านก็จะค่อยๆ ไหลไปใต้บ้าน ทำให้ดินรอบบ้านทรุดครับ
2.3 อุปกรณ์ที่กฏหมายกำหนดให้มีหายไป เช่น เซพทีคัท พัดลมระบายอากาศในห้องน้ำ ห้องครัว ถังดับเพลิงและระบบเตือนภัย (กฏหมายกำหนดหลายอย่างเช่น ขนาดเหล็ก ซึ่งไม่รู้จะตรวจยังไง) ขนาดห้องนอนที่ต้องมีพื้นที่ ไม่ต่ำกว่า 7.5 ตารางเมตร (บางที่ก็บอกว่า 8 เอาว่าโดยประมาณ) เอาที่เห็นก่อน
2.4 อุปกรณ์ที่ไม่ตรงตามแบบ เช่น ก๊อกน้ำเตี้ย(ใช้ซักล้าง) โคมไฟไม่ครบตามจำนวน หรือไม่ตรงแบบ สายไฟที่ต้องทิ้งตามจุดต่างๆ
2.5 ผมกำลังจะร้องเรื่องพื้นชั้นสองของบ้านที่ปูด้วยพื้นลามิเนต ซึ่งควรจะขัดต่อมาตรา 8 พรบ ควบคุมอาคารเพราะ วัสดุที่ใช้ไม่คงทน (ไม่ทนน้ำ)
2.6 อาจจะมีปัญหาอื่นๆ ก็คงต้องตรวจชี้กันเพิ่มครับ
3. การตรวจสาธา
ก็เหมือนตรวจบ้านครับ ต้องไปเอาแบบที่กรมที่ดินก่อน จากนั้น ไปหาข้อกำหนดของแต่ละจังหวัดมาอ่านครับ
เมื่อตรวจแล้ว สิ่งที่มักมีปัญหาบ่อยๆ คือ
1. ทางเดินเท้าหาย ข้อกำหนดทุกฉบับ ควรเขียนให้ทางเดินเท้ามีต่อเนื่องไม่ขาดตอน ตั้งแต่ปลายโครงการจนถึงหน้าหมู่บ้าน มักจะมีปัญหา เอาที่ดินไปทำสิ่งปลูกสร้าง ฯลฯ ครับ
2. ขนาดสวนสาธารณะ ครบตามแบบหรือไม่ บางที จะเอาทางเท้าไปเหมารวมด้วย ไม่ใช่นะครับ พื้นที่สวนสาธารณะ ไม่เกี่ยวกับพื้นที่ทางเท้าแม้จะอยู่ติดกัน
3. รั้วหมู่บ้าน ที่ต้องกันดินและกันน้ำ ไม่ให้ไหลออก และสามารถกันภัยได้ด้วยนะ ตอนนี้หมู่บ้านผม มีปัญหาดินไหลออก เช่นรั้วหมู่บ้านในเขตบ้านผม รั่วครับ ดินไหลออก ต้นไม้ล้มเลย บ้านเพื่อน ดินไหลออก สิ่งต่อเติมก็ทรุดเพราะดินหายไป เกิดเหตุว่า ไหลออกจนเป็นโพรงใหญ๋ ตัวเงินตัวทอง เดินเข้ามาเลยครับ(ยาวสองเมตรกว่าๆได้)
4. ทางเท้า ถนน และระบบระบายน้ำ ส่วนมากสามส่วนนี้จะผูกกัน ไปด้วยกัน ตอนนี้ ระบบระบายน้ำที่หมู่บ้าน ทำหน้าที่เป็นระบบระบายดินไปด้วยในตัว เพราะท่อระบายน้ำแตก จากการใช้วัสดุไม่ถูกต้อง และวางผิดตำแหน่ง เมื่อแตกแล้ว ท่อระบายน้ำ อาจระบายน้ำ หรือดูดดินก็ได้ทั้งคู่ จนทำให้ ดินบริเวณโดยรอบทรุดตัว ถนน ทางเดินเท้า และระบบระบายน้ำก็ทรุดตัวด้วย ทำให้ผิดแบบไม่ตรงตามแบบ
5. หัวดับเพลิง รถดับเพลิงแต่ละคันจะมีสายต่อได้ยาว 100 เมตร ฉะนั้น หากเกิน 100 เมตร จะต้องรอรถอีกคัน (แรงดันน้ำจะตกด้วย) ก็คิดครับ บ้านจะไหม้ไปถึงไหน ฉะนั้น หัวแดงควรมีห่างบ้านเป้าหมายไม่เกิน 100 เมตร
6. ที่กลับรถในโครงการ ที่จะต้องมีตามกฏหมายกำหนด ถ้าหลังปี 2535 ก็คือ ที่ 100 เมตร ถ้าหลัง 2545(โดยประมาณ) ก็ตามกฏหมายกำหนด และปลายหมู่บ้านควรมีที่กลับรถด้วย
7. ขนาดทางเข้าหมู่บ้าน หมู่บ้านผมควรมีขนาดหน้ากว้าง 12 เมตร แต่วัดจริงได้ 11.3 เมตร ขาดไป และทางเท้าหน้าหมู่บ้านก็หายด้วย
8. ระบบจ่ายไฟฟ้า ซึ่งควรเป็นไปตามที่โฆษณา เช่น ถ้าโฆษณาว่าใช้แอร์ได้สามหรือสี่เครื่อง เครื่องทำน้ำอุ่น ฯลฯ ก็ต้องตามนั้นครับ ปัญหาคือ มักจะ ออกแบบให้เล็กกว่าขนาดที่ใช้ได้จริง
9. บางหมู่บ้านที่เป็นบ่อบาดาล ก็ต้องมีระบบต่างๆ เช่นระบบวัดแรงดันน้ำ คุณภาพน้ำ ปริมาณน้ำที่ต้องเพียงพอต่อการใช้งาน (แม่ยายพึ่งเสียจากการติดเชื้อ ยังสงสัยเรื่องนี้อยู่)(อีกหมู่บ้าน)
10 สวนสาธารณะที่ต้องเป็นสวน ไม่ใช่ที่รกร้าง
11 แสงสว่างที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กฏหมายกำหนด มักจะสว่างไม่พอ
จริงๆ ต้องมีมากกว่านี้ครับ แต่เขียนเท่านี้ เป็นแนวทาง และเขียนบอกที่มาที่ไปแล้ว หวังว่า จะเป็นทางออกให้ทุกคน
https://pantip.com/topic/41379602
https://pantip.com/topic/41379632
https://pantip.com/topic/41432310