มาต่อกันจากกระทู้ที่แล้วนะครับ ที่สัญญาว่าจะกลับมารีวิว Infinix S5 Pro กันต่อ โดยครั้งนี้ผมจะมาลองเล่นตัวเครื่องแบบจริง ๆ จัง ๆ ให้ดู โดยเฉพาะการเล่นเกม กับดูหนังฟังเพลง เพราะเชื่อว่าหลายคนคงจะอยากเห็นว่าเวลาเล่นเกมแบบเต็มหน้าจอภาพจะสวยขนาดไหน หรือเวลาดูหนังภาพจะออกมาเป็นอย่างไร เดี๋ยวมาดูกัน

อย่างแรกก็คือการตั้งค่าก่อนการใช้งาน เลือกภาษาที่ต้องการใช้ ซึ่งผมก็ตั้งเป็นภาษาไทยอันดับ 1 แล้วก็เลือกภาษาอังกฤษเป็นลำดับที่ 2

จากนั้นก็เชื่อมต่อ WIFI กับเซตค่า Google ตามสเต็ปของ Android

Part 1 การใช้งานตัวเครื่อง
การเปิด – ปิดเครื่อง และ การรีบูต เราสามารถกดได้จากปุ่มด้านขวามือ โดยกดค้างไว้ 1-3 วินาที หน้าจอก็จะแสดงปุ่มให้เลือกว่าปิดเครื่อง หรือ รีบูต สามารถกดใช้งานได้ทันที ส่วนการใส่ซิมการ์ดมือถือ Infinix S5 Pro ต้องใช้เข็มจิ้มจากบริเวณด้านซ้ายของตัวเครื่อง โดยถาดซิมสามารถใส่ได้สูงสุด 2 ซิม และมีถาดใส่การ์ดหน่วยความจำเพิ่มได้อีกด้วยแต่ถ้าใครไม่ได้เล่นอะไรมาก เน้นฟังเพลง ดูหนัง เล่นเฟส ก็ไม่ต้องใส่เพิ่มก็ได้นะครับ เพราะตัวเครื่องมันมีมาให้ตั้ง 64 GB อยู่แล้วครับ
พอใส่ซิมเสร็จตัวเครื่องก็จะจับสัญญาณเครือข่ายมือถือ จากนั้นก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ

สามารถรองรับสัญญาณได้ทั้ง 4G 3G 2G

แบตมือถือจะอยู่ที่ 4000 mAh ถ้าไม่เน้นใช้เล่นเกมที่ต้องใช้ Ram หนัก ๆ ก็อยู่ได้ถึง 8 ชั่วโมงเลย ครับ ตัวเครื่องจะรองรับการชาร์จแบบ Micro USB

การอัปเดตระบบก็สามารถทำได้โดยกดเข้าไปที่ตั้งค่า >> อัปเดตระบบ ได้เลยนะครับ แต่ตัวเครื่องพอแกะกล่องมาก็จะเป็นเวอร์ชั่นปัจจุบันอยู่แล้ว ถ้ามีเวอร์ชั่นใหม่มา ระบบจะมีแจ้งเตือนให้เราทราบอีกที

ระบบ Google Assistant ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ

Topper Interface ด้านบนเมื่อเลื่อนลงมาก็จะเจอกลับปุ่ม Quick Action ไม่ว่าจเป็นการ เปิด - ปิด WIFI , บลูทูธ ,หรือจะเป็นการปรับเปลี่ยนโหมดก็มีให้เลือกใช้

อีกหนึ่งส่วนที่ผมค่อนข้างชอบคือ การใช้รูปแบบสัญญาลักษณ์มือแทนการกดปุ่มเช่นเมื่อต้องการรับสายโทรศัพท์แค่ชู 2 นิ้ว บริเวณหน้าจอหนึ่งครั้งเพื่อกดรับสาย หรือจะเป็นการชู5นิ้ว เพื่อปฎิเสธการรับสาย ซึ่งมันสะดวกมาก ๆเลยครับ

ทั้งนี้ตัวเครื่องยังสามารถปรับเป็นโหมดถนอสายตา สำหรับคนที่กลัวสายตาเสียเมื่อต้องจ้องมือถือเป็นเวลานาน

นอกจากนี้เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของมือถือ ด้วย แอป Antutu Score คะแนนจะอยู่ที่ 116,885 ซึ่งก็อยู่ในระดับปานกลางไม่ได้น้อยหรือมากเกินไป

Part 2 การใช้งานแอปพลิเคชันและ การปรับแต่งหน้าจอ
ในส่วนการปรับแต่งของหน้าจอใช้งาน เมื่อเรากดค้างที่หน้าจอ จะมีปุ่มคีย์ลัดการตกแต่งแสดงขึ้นมา คือปุ่ม Wallpaper, Widget, XTheme , ปุ่มเมนู

อย่างเช่น ปุ่ม wallpaper เราสามารถเลือกเปลี่ยน wallpaper ที่แถมมากับตัวเครื่องได้เพิ่ม เพราะตัวที่ Set หน้าจอตอนแรกจะเป็นสีเดียวกับตัวเครื่อง อันนี้ผมลองเปลี่ยนเป็นสีชมพูดู

หรือถ้าอยากจะเปลี่ยนธีม ปุ่มกด หรือภาพพื้นหลังทั้งเซต ก็เข้าไปที่ XTheme ได้เลยผมลองโหลด ธีม “ หนังสีแดง” มาลองใช้ก็สวยงามตามท้องเรื่อง

จะสังเกตุว่าตัวแอปพลิเคชันจะถูกเปลี่ยนดีไซน์เป็นทรงกลม คล้ายเม็ดกระดุม

ส่วนใครที่ต้องการ จะเคลียร์หน้าจอ หรืออยากจัดตำแหน่งของแอปก็สามารถกดปุ่มวิดเจ็ตได้

ในส่วนของการทัชสกรีนหน้าจอมือถือ จะรองรับการสัมผัสพร้อมกันสูงสุด 5 จุด

มาต่อกับอีกหนึ่งฟังก์ชั่น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ผมชอบเหมือนกัน ก็คือ Smart Panel หรือ ตัวแผงอัจฉริยะ ที่จะรวมปุ่มคีย์ลัดที่เอาไว้เข้าแอปอื่น ๆ หรือ อยากอัดวิดีโอหน้าจอ แคปหน้าจอบางส่วนแบบทันใจก็กดได้เลยทันที ไม่ว่าเราจะเข้าแอปไหนอยู่ อยากจะเปลี่ยนแอปที่ต้องการใช้ก็กดได้จากแถบตรงนี้ได้ ส่วนถ้าดูหนังหรือเล่นเกมอยู่ ก็สามารถกดปิดได้นะครับ จะได้ไม่รำคาญกวนใจ

และสำหรับคนที่ต้องการแชร์ภาพ, เพลง หรือไฟล์แบบเร็ว ๆ ก็สามารถใช้ XShare ได้ครับ ซึ่งเวลาส่งข้อมูลก็จะทำได้รวดเร็ว โดยเป็นแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาสำหรับคนใช้ Infinix ให้เชื่อมต่อแชร์ข้อมูลถึงกันได้ง่ายขึ้น
Part 3 การใช้งานเว็บและแอปสโตร์ + การเล่นเกม ของ Infinix S5 Pro
ในส่วนของการเข้าเว็บ ตัวเครื่องจะติดตั้งตัว PHX Browser กับตัว Chrome มาให้แล้ว ซึ่งถ้าไม่ได้ใช้อะไรมากมายก็ใช้เป็น PHX Browser ก็ได้ครับ เพราะตัว Interface มันจะมีพวก Bookmarks ที่รวมหน้าเว็ปที่เข้าบ่อย ๆ ไว้ให้ด้วย

ส่วนการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันก็ใช้ Play Store หรือตัว Plam Store ก็ได้ครับอารมณ์คล้าย ๆ กับ App Store

ส่วนใครเป็นสายเล่นเกมก็ใช้แอป AHA Games ในการดาวน์โหลดก็ได้ครับ จะเป็น Game Store ที่มากับเครื่องก็ได้ มีเกมเยอะดีครับ

อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าเราจะมาลองเล่นเกมกันโดยเกมจะเอามาลองทดสอบกันคือ ROV

เมื่อดาวน์โหลดและติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ก็กดเข้าเกม ซึ่งก็ไม่มีกระตุกอะไร ตัวกราฟฟิคในเกมก็ออกมาสวย ดูสบายตา น่าเล่น

ซึ่งอันนี้ผมก็ลองปรับตั้งค่าการแสดงผลหน้าจอเกมให้มีความละเอียดสูงสุด เพื่อจะดูความสมูทระหว่างเล่นเกม

หลังจากที่ลองเล่นแล้ว ผลก็คือตัวมือถือก็สามารถประมวลผลหน้าจอได้เป็นอย่างดี ภาพสวย เล่นแล้วภาพไม่สะดุด

เมื่อเล่นเกมเสร็จแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ การดูหนัง โดยผมจะใช้ Netflix ในการรับชม

ทั้งนี้สามารถดูได้แบบ ไม่เต็มจอ กับ Full Screen โดยกดขยายได้จากตัวหน้าจอได้เลย

พอกดขยายตัวหน้าจอ ตัวภาพวิดีโอก็สามารถแสดงผล ได้เต็มจอสุดขอบมือถือ ด้วยขนาดหน้าจอกว้าง 6.53 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ที่นี้ก็ดูหนังได้แบบถึงอารมณ์ได้เลย

Part 4 หูฟังลำโพง
และอีกเรื่องที่ขาดไม่ได้คือเรื่องของการฟังเพลง เพราะตัวมือถือจะมีระบบเสียงแบบ DTS ซึ่งเสียงที่ออกมาก็ชัด เบสหนัก ฟังเพลินดีครับ หรือใครอยากจะฟังแบบใส่หูฟังก็เสียงดังฟังชัด ดีครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับฟังก์ชันที่ผมเอามาให้ดู คร่าว ๆ ทั้งเรื่องฟังก์ชันเด่น ๆ หรือจะเป็น การทดลองเล่นเกมส์ ฟังเพลง ก็เรียกว่าเจ้า Infinix S5 Pro ทำออกมาได้ดีทีเดียวในระดับราคาเท่านี้ นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งยังทำได้ดีคือการถ่ายรูปที่ออกมาสวย สมจริง อย่างที่เคยพูดไว้ในกระทู้ที่แล้ว ใครที่ชื่นชอบมือถือระบบ Android อยู่แล้วเจ้ารุ่นนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าหยิบมาใช้
สำหรับการรีวิวเจ้ามือถือ Infinix S5 Pro ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ หากมีส่วนไหนผิดพลาด ก็สามารถเม้นติชมได้นะครับ แล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้าครับ
[SR] แกะมาลองเล่น : Infinix S5 Pro กับการทดสอบ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ ROV จะเป็นไงมาดูกัน
อย่างแรกก็คือการตั้งค่าก่อนการใช้งาน เลือกภาษาที่ต้องการใช้ ซึ่งผมก็ตั้งเป็นภาษาไทยอันดับ 1 แล้วก็เลือกภาษาอังกฤษเป็นลำดับที่ 2
จากนั้นก็เชื่อมต่อ WIFI กับเซตค่า Google ตามสเต็ปของ Android
Part 1 การใช้งานตัวเครื่อง
การเปิด – ปิดเครื่อง และ การรีบูต เราสามารถกดได้จากปุ่มด้านขวามือ โดยกดค้างไว้ 1-3 วินาที หน้าจอก็จะแสดงปุ่มให้เลือกว่าปิดเครื่อง หรือ รีบูต สามารถกดใช้งานได้ทันที ส่วนการใส่ซิมการ์ดมือถือ Infinix S5 Pro ต้องใช้เข็มจิ้มจากบริเวณด้านซ้ายของตัวเครื่อง โดยถาดซิมสามารถใส่ได้สูงสุด 2 ซิม และมีถาดใส่การ์ดหน่วยความจำเพิ่มได้อีกด้วยแต่ถ้าใครไม่ได้เล่นอะไรมาก เน้นฟังเพลง ดูหนัง เล่นเฟส ก็ไม่ต้องใส่เพิ่มก็ได้นะครับ เพราะตัวเครื่องมันมีมาให้ตั้ง 64 GB อยู่แล้วครับ
พอใส่ซิมเสร็จตัวเครื่องก็จะจับสัญญาณเครือข่ายมือถือ จากนั้นก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ
สามารถรองรับสัญญาณได้ทั้ง 4G 3G 2G
แบตมือถือจะอยู่ที่ 4000 mAh ถ้าไม่เน้นใช้เล่นเกมที่ต้องใช้ Ram หนัก ๆ ก็อยู่ได้ถึง 8 ชั่วโมงเลย ครับ ตัวเครื่องจะรองรับการชาร์จแบบ Micro USB
การอัปเดตระบบก็สามารถทำได้โดยกดเข้าไปที่ตั้งค่า >> อัปเดตระบบ ได้เลยนะครับ แต่ตัวเครื่องพอแกะกล่องมาก็จะเป็นเวอร์ชั่นปัจจุบันอยู่แล้ว ถ้ามีเวอร์ชั่นใหม่มา ระบบจะมีแจ้งเตือนให้เราทราบอีกที
ระบบ Google Assistant ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ
Topper Interface ด้านบนเมื่อเลื่อนลงมาก็จะเจอกลับปุ่ม Quick Action ไม่ว่าจเป็นการ เปิด - ปิด WIFI , บลูทูธ ,หรือจะเป็นการปรับเปลี่ยนโหมดก็มีให้เลือกใช้
อีกหนึ่งส่วนที่ผมค่อนข้างชอบคือ การใช้รูปแบบสัญญาลักษณ์มือแทนการกดปุ่มเช่นเมื่อต้องการรับสายโทรศัพท์แค่ชู 2 นิ้ว บริเวณหน้าจอหนึ่งครั้งเพื่อกดรับสาย หรือจะเป็นการชู5นิ้ว เพื่อปฎิเสธการรับสาย ซึ่งมันสะดวกมาก ๆเลยครับ
ทั้งนี้ตัวเครื่องยังสามารถปรับเป็นโหมดถนอสายตา สำหรับคนที่กลัวสายตาเสียเมื่อต้องจ้องมือถือเป็นเวลานาน
นอกจากนี้เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของมือถือ ด้วย แอป Antutu Score คะแนนจะอยู่ที่ 116,885 ซึ่งก็อยู่ในระดับปานกลางไม่ได้น้อยหรือมากเกินไป
Part 2 การใช้งานแอปพลิเคชันและ การปรับแต่งหน้าจอ
ในส่วนการปรับแต่งของหน้าจอใช้งาน เมื่อเรากดค้างที่หน้าจอ จะมีปุ่มคีย์ลัดการตกแต่งแสดงขึ้นมา คือปุ่ม Wallpaper, Widget, XTheme , ปุ่มเมนู
อย่างเช่น ปุ่ม wallpaper เราสามารถเลือกเปลี่ยน wallpaper ที่แถมมากับตัวเครื่องได้เพิ่ม เพราะตัวที่ Set หน้าจอตอนแรกจะเป็นสีเดียวกับตัวเครื่อง อันนี้ผมลองเปลี่ยนเป็นสีชมพูดู
หรือถ้าอยากจะเปลี่ยนธีม ปุ่มกด หรือภาพพื้นหลังทั้งเซต ก็เข้าไปที่ XTheme ได้เลยผมลองโหลด ธีม “ หนังสีแดง” มาลองใช้ก็สวยงามตามท้องเรื่อง
จะสังเกตุว่าตัวแอปพลิเคชันจะถูกเปลี่ยนดีไซน์เป็นทรงกลม คล้ายเม็ดกระดุม
ส่วนใครที่ต้องการ จะเคลียร์หน้าจอ หรืออยากจัดตำแหน่งของแอปก็สามารถกดปุ่มวิดเจ็ตได้
ในส่วนของการทัชสกรีนหน้าจอมือถือ จะรองรับการสัมผัสพร้อมกันสูงสุด 5 จุด
มาต่อกับอีกหนึ่งฟังก์ชั่น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ผมชอบเหมือนกัน ก็คือ Smart Panel หรือ ตัวแผงอัจฉริยะ ที่จะรวมปุ่มคีย์ลัดที่เอาไว้เข้าแอปอื่น ๆ หรือ อยากอัดวิดีโอหน้าจอ แคปหน้าจอบางส่วนแบบทันใจก็กดได้เลยทันที ไม่ว่าเราจะเข้าแอปไหนอยู่ อยากจะเปลี่ยนแอปที่ต้องการใช้ก็กดได้จากแถบตรงนี้ได้ ส่วนถ้าดูหนังหรือเล่นเกมอยู่ ก็สามารถกดปิดได้นะครับ จะได้ไม่รำคาญกวนใจ
และสำหรับคนที่ต้องการแชร์ภาพ, เพลง หรือไฟล์แบบเร็ว ๆ ก็สามารถใช้ XShare ได้ครับ ซึ่งเวลาส่งข้อมูลก็จะทำได้รวดเร็ว โดยเป็นแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาสำหรับคนใช้ Infinix ให้เชื่อมต่อแชร์ข้อมูลถึงกันได้ง่ายขึ้น
Part 3 การใช้งานเว็บและแอปสโตร์ + การเล่นเกม ของ Infinix S5 Pro
ในส่วนของการเข้าเว็บ ตัวเครื่องจะติดตั้งตัว PHX Browser กับตัว Chrome มาให้แล้ว ซึ่งถ้าไม่ได้ใช้อะไรมากมายก็ใช้เป็น PHX Browser ก็ได้ครับ เพราะตัว Interface มันจะมีพวก Bookmarks ที่รวมหน้าเว็ปที่เข้าบ่อย ๆ ไว้ให้ด้วย
ส่วนการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันก็ใช้ Play Store หรือตัว Plam Store ก็ได้ครับอารมณ์คล้าย ๆ กับ App Store
ส่วนใครเป็นสายเล่นเกมก็ใช้แอป AHA Games ในการดาวน์โหลดก็ได้ครับ จะเป็น Game Store ที่มากับเครื่องก็ได้ มีเกมเยอะดีครับ
อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าเราจะมาลองเล่นเกมกันโดยเกมจะเอามาลองทดสอบกันคือ ROV
เมื่อดาวน์โหลดและติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ก็กดเข้าเกม ซึ่งก็ไม่มีกระตุกอะไร ตัวกราฟฟิคในเกมก็ออกมาสวย ดูสบายตา น่าเล่น
ซึ่งอันนี้ผมก็ลองปรับตั้งค่าการแสดงผลหน้าจอเกมให้มีความละเอียดสูงสุด เพื่อจะดูความสมูทระหว่างเล่นเกม
หลังจากที่ลองเล่นแล้ว ผลก็คือตัวมือถือก็สามารถประมวลผลหน้าจอได้เป็นอย่างดี ภาพสวย เล่นแล้วภาพไม่สะดุด
เมื่อเล่นเกมเสร็จแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ การดูหนัง โดยผมจะใช้ Netflix ในการรับชม
ทั้งนี้สามารถดูได้แบบ ไม่เต็มจอ กับ Full Screen โดยกดขยายได้จากตัวหน้าจอได้เลย
พอกดขยายตัวหน้าจอ ตัวภาพวิดีโอก็สามารถแสดงผล ได้เต็มจอสุดขอบมือถือ ด้วยขนาดหน้าจอกว้าง 6.53 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ที่นี้ก็ดูหนังได้แบบถึงอารมณ์ได้เลย
Part 4 หูฟังลำโพง
และอีกเรื่องที่ขาดไม่ได้คือเรื่องของการฟังเพลง เพราะตัวมือถือจะมีระบบเสียงแบบ DTS ซึ่งเสียงที่ออกมาก็ชัด เบสหนัก ฟังเพลินดีครับ หรือใครอยากจะฟังแบบใส่หูฟังก็เสียงดังฟังชัด ดีครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับฟังก์ชันที่ผมเอามาให้ดู คร่าว ๆ ทั้งเรื่องฟังก์ชันเด่น ๆ หรือจะเป็น การทดลองเล่นเกมส์ ฟังเพลง ก็เรียกว่าเจ้า Infinix S5 Pro ทำออกมาได้ดีทีเดียวในระดับราคาเท่านี้ นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งยังทำได้ดีคือการถ่ายรูปที่ออกมาสวย สมจริง อย่างที่เคยพูดไว้ในกระทู้ที่แล้ว ใครที่ชื่นชอบมือถือระบบ Android อยู่แล้วเจ้ารุ่นนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าหยิบมาใช้
สำหรับการรีวิวเจ้ามือถือ Infinix S5 Pro ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ หากมีส่วนไหนผิดพลาด ก็สามารถเม้นติชมได้นะครับ แล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้าครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้