ปี 40 ดอกเบี้ยเงินฝากเกือบ 20% แต่คนไม่มีเงินให้ฝาก
ป 63 ดอกเบี้ยเงินฝากเกือบ 0 % แต่คนมีเงินยังมีเยอะไปหมด
ปี 40 รัฐเอาตัวแทบไม่รอดต้องกู้เงินนานาชาติ
ปี 63 รัฐยังมีเงินแจกผู้ตกงาน ถ้าไม่พอก็กู้ในประเทศเงินยังเหลือเฟือ
ปี 40 อยากให้บาทแข็งเพราะหนี้ต่างประเทศเยอะ
ปี 63 บาทอ่อนเป็นเรื่องที่ต้องดีใจ หนุนการส่งออก
ปี 40 ตลาดหุ้นพังเพราะฝรั่งขาย หรือ short sell แล้วขาย
ปี 63 ตลาดหุ้นยังยืนอยู่ได้เพราะเปิดให้มีพนันทิศทางตลาด นักพนันส่วนใหญ่เลยแทงลง มันเลยเด้งกลับหงายท้องผึ่ง
ปี 40 เจ็บป่วยแบบนี้จ่ายเองทุกอย่าง
ปี 63 รัฐจ่ายให้เกือบทุกอย่าง
ปี 40 ตกงานนอนอยู่บ้านไม่ได้ต้องเปิดท้าย ขายของ หรือ ต้องไปขายของ หารายได้ตลาดนัดคนเคยรวย
ปี 63 ตกงานรัฐบอกนอนอยู่บ้านเฉยๆ
ปี 40 วิกฤติแบบนี้อยากได้รถใหม่ส่วน ใหญ่ต้องซื้อสดเพราะไม่เชื่อเครดิต
ปี 63 ห้างขอร้องให้ซื้อแบบผ่อนได้ไหมอยากได้ดอกเบี้ย
ปี 40 หลับหูหลับตาเดาหุ้นเพราะเครื่องมือดูหุ้นเครื่องมือตีเส้นก็ไม่มี
ปี 63 เส้นกราฟยั๊วเยี๊ย แต่จะขึ้นหรือลงเซียนต้องนั่งเถียงกัน เพราะมันคนละตำรา
จากที่เห็นความแตกต่าง วิกฤติปี 40 กับ ปีนี้ ก็ประมาณนี้
//// ความต่างวิกฤติ63 ตอนนี้ กับปี40......////
ป 63 ดอกเบี้ยเงินฝากเกือบ 0 % แต่คนมีเงินยังมีเยอะไปหมด
ปี 40 รัฐเอาตัวแทบไม่รอดต้องกู้เงินนานาชาติ
ปี 63 รัฐยังมีเงินแจกผู้ตกงาน ถ้าไม่พอก็กู้ในประเทศเงินยังเหลือเฟือ
ปี 40 อยากให้บาทแข็งเพราะหนี้ต่างประเทศเยอะ
ปี 63 บาทอ่อนเป็นเรื่องที่ต้องดีใจ หนุนการส่งออก
ปี 40 ตลาดหุ้นพังเพราะฝรั่งขาย หรือ short sell แล้วขาย
ปี 63 ตลาดหุ้นยังยืนอยู่ได้เพราะเปิดให้มีพนันทิศทางตลาด นักพนันส่วนใหญ่เลยแทงลง มันเลยเด้งกลับหงายท้องผึ่ง
ปี 40 เจ็บป่วยแบบนี้จ่ายเองทุกอย่าง
ปี 63 รัฐจ่ายให้เกือบทุกอย่าง
ปี 40 ตกงานนอนอยู่บ้านไม่ได้ต้องเปิดท้าย ขายของ หรือ ต้องไปขายของ หารายได้ตลาดนัดคนเคยรวย
ปี 63 ตกงานรัฐบอกนอนอยู่บ้านเฉยๆ
ปี 40 วิกฤติแบบนี้อยากได้รถใหม่ส่วน ใหญ่ต้องซื้อสดเพราะไม่เชื่อเครดิต
ปี 63 ห้างขอร้องให้ซื้อแบบผ่อนได้ไหมอยากได้ดอกเบี้ย
ปี 40 หลับหูหลับตาเดาหุ้นเพราะเครื่องมือดูหุ้นเครื่องมือตีเส้นก็ไม่มี
ปี 63 เส้นกราฟยั๊วเยี๊ย แต่จะขึ้นหรือลงเซียนต้องนั่งเถียงกัน เพราะมันคนละตำรา
จากที่เห็นความแตกต่าง วิกฤติปี 40 กับ ปีนี้ ก็ประมาณนี้