เบิกเนตรระบบการเงินโลก ตอนที่ 5 ปัญหาและวิกฤติการเงินโลก



เบิกเนตรระบบการเงินโลก ตอนที่ 5

ปัญหาและวิกฤติการเงินโลก

ถ้าเรามองโลกการเงินเหมือนเรือใหญ่ที่ลอยอยู่กลางมหาสมุทร… บางครั้งมันก็แล่นได้อย่างสง่างาม แต่บางครั้งคลื่นลมแรงจาก “วิกฤติการเงิน” ก็ซัดจนเรือแทบล่ม นี่แหละคือธรรมชาติของระบบการเงินโลก ที่มีทั้งรุ่งเรืองและพังทลายในเวลาไม่กี่ปี

ในตอนนี้ ผมอยากพาเพื่อน ๆ มาดู 3 วิกฤติสำคัญในประวัติศาสตร์ และปัญหาที่โลกการเงินยังเผชิญอยู่ในทุกวันนี้ เพื่อให้เราเข้าใจว่าความมั่นคงที่เห็น อาจเปราะบางกว่าที่คิด

วิกฤติปี 1929 – The Great Depression

“ตลาดหุ้นพัง เศรษฐกิจถล่ม” คำนี้ไม่ได้เกินจริงเลยในปี 1929 ของอเมริกา

📌 เรื่องเกิดจากการเก็งกำไรหุ้นอย่างบ้าคลั่ง นักลงทุนกู้เงินมาเล่นหุ้น (เรียกว่า buying on margin) เมื่อราคาหุ้นเริ่มตกในเดือนตุลาคม 1929 ทุกคนแห่ขายพร้อมกัน จนตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพังทลาย

•ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงกว่า 80%

•ธนาคารหลายพันแห่งล้มละลาย

•คนตกงานกว่า 25% ของแรงงานทั้งหมด

เศรษฐกิจทั้งโลกสะเทือน เพราะตอนนั้นสหรัฐฯ เป็นเสมือน “เครื่องจักรหลัก” ของการเงินโลก สินค้าส่งออกหยุดชะงัก หนี้ไม่สามารถชำระได้ หลายประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอยยาวนาน

นี่คือตัวอย่างของ “ฟองสบู่แตก” ที่กลายเป็นบทเรียนให้โลกการเงินจนถึงทุกวันนี้

อ้างอิง: Federal Reserve History – The Great Depression

วิกฤติปี 1997 – วิกฤติต้มยำกุ้ง

กลับมาที่เอเชีย… “ประเทศไทย” ของเรากลายเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติที่สะเทือนทั้งภูมิภาค

📌 ก่อนปี 1997 เมืองไทยเปิดเสรีการเงิน กู้เงินต่างประเทศเข้ามาเยอะมาก ทั้งภาคเอกชนและสถาบันการเงิน เมื่อค่าเงินบาทถูกตรึงไว้กับดอลลาร์ ทุกคนมั่นใจว่าความเสี่ยงต่ำ แต่เมื่อเงินทุนไหลออก ค่าเงินบาทถูกโจมตี ธนาคารแห่งประเทศไทยต้านไม่ไหว ต้อง “ลอยตัวค่าเงินบาท” ในวันที่ 2 กรกฎาคม 1997

ผลที่ตามมา

•ค่าเงินบาทอ่อนจาก 25 บาท/ดอลลาร์ → 50 บาท/ดอลลาร์

•ธุรกิจที่กู้เงินดอลลาร์ไว้ เจ๊งเป็นโดมิโน

•เศรษฐกิจไทยหดตัวกว่า 10% ในปีเดียว

•วิกฤติลามไปอินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งภูมิภาค

นี่คือบทเรียนเจ็บปวดว่าการพึ่งพาเงินทุนต่างชาติ และการกู้หนี้เกินตัว อาจนำหายนะมาสู่ทั้งประเทศได้

อ้างอิง: IMF – The Asian Financial Crisis of 1997

วิกฤติปี 2008 – วิกฤติซับไพรม์

ถ้า 1929 คือฟองสบู่หุ้นแตก 2008 ก็คือฟองสบู่ “อสังหาริมทรัพย์” ที่สหรัฐฯ

📌 ก่อนวิกฤติ สถาบันการเงินอเมริกาแจกสินเชื่อบ้าน (subprime mortgage) ให้คนที่ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ แล้วเอา “หนี้บ้าน” เหล่านี้ไปทำเป็นตราสาร (MBS, CDO) ขายต่อให้ทั้งโลก

เมื่อเจ้าของบ้านเริ่มผิดนัดชำระ ราคาบ้านตก ตราสารพวกนี้กลายเป็นหนี้เสียทั้งก้อน สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ล้ม เช่น Lehman Brothers (ที่มีอายุ 158 ปี!)

ผลกระทบคือ

•ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงกว่า 50%

•คนตกงานนับล้าน

•เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย

นี่เป็นตัวอย่างของ “นวัตกรรมการเงิน” ที่กลายเป็น “ระเบิดเวลา” เพราะขาดการควบคุมและความโลภเข้าครอบงำ

อ้างอิง: U.S. Securities and Exchange Commission – The Financial Crisis of 2007–2008

ปัญหาหนี้สาธารณะ – ภาระที่กดทับอนาคต

ปัจจุบันหลายประเทศกำลังเผชิญ “ภูเขาหนี้” โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่หนี้สาธารณะทะลุ 34 ล้านล้านดอลลาร์ (ข้อมูล Q2/2025: U.S. Treasury)

หนี้มากทำให้รัฐบาลต้อง

•พิมพ์พันธบัตรเพิ่ม

•ใช้ภาษีในอนาคตมาชำระดอกเบี้ย

•เสี่ยงต่อการผิดนัด (default) หากนักลงทุนไม่มั่นใจ

ประเทศกำลังพัฒนาก็ไม่ต่างกัน หลายแห่งกู้เงิน IMF หรือ World Bank เพื่อประคองเศรษฐกิจ แต่ยิ่งกู้ก็ยิ่งจมในวังวนหนี้

ความเหลื่อมล้ำทางการเงิน – ปัญหาที่ซ่อนอยู่

ในขณะที่ระบบการเงินขยายตัว เรากลับเห็นความเหลื่อมล้ำที่ชัดขึ้น

•1% ของคนรวยที่สุดในโลกถือครองทรัพย์สินมากกว่าคนจนกว่าครึ่งโลก (Oxfam, 2024)

•คนชั้นกลางและชั้นล่างแทบไม่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ที่สร้างความมั่งคั่ง เช่น หุ้น อสังหาฯ หรือกองทุน

•การศึกษา การรักษาพยาบาล และโอกาสทางการเงินถูกจำกัดเฉพาะคนที่มีต้นทุน

นี่แหละคือ “ระเบิดเงียบ” ของโลกการเงิน ความเหลื่อมล้ำไม่ได้ทำลายตลาดการเงินทันที แต่เป็นตัวบ่มเพาะความไม่มั่นคงในระยะยาว

สรุป

ประวัติศาสตร์การเงินโลกสอนเราว่า ทุกครั้งที่โลกการเงินล่มสลาย จุดเริ่มต้นมักมาจาก “ความมั่นใจเกินจริง” และ “ความโลภ”

1929 นักลงทุนมั่นใจเกินไปในหุ้น
1997 ประเทศไทยมั่นใจเกินไปในค่าเงิน
2008 ธนาคารมั่นใจเกินไปในหนี้ที่ปลอมเป็นสินทรัพย์

วันนี้ปัญหาที่เราเผชิญคือ “หนี้สาธารณะมหาศาล” และ “ความเหลื่อมล้ำทางการเงิน” ซึ่งอาจกลายเป็นวิกฤติครั้งใหม่ในอนาคต ถ้าโลกยังไม่เรียนรู้บทเรียนจากอดีต

“การเงินโลกก็เหมือนเรือใหญ่… ถ้าเราละเลยไม่ดูแล บางทีพายุลูกต่อไปอาจพาเรือล่มจริง ๆ”

#SeamanInvestor #TKMoments #Seaman #seamanlife #SeamanInvester #การเงินสหรัฐ #การเงิน #ระบบเศรษฐกิจ #เงินสำรองระหว่างประเทศ #ระบบการเงินโลก #เบิกเนตรการเงินโลก #บทความ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่