แนวหน้านิลูก ของเพ่เบิ้มเมกานิน่า

กระทู้สนทนา
ใช่
การกินบุญ หรือ การเสวยผลบุญนั้น
ต้องทำมาก่อน ให้ถูกต้องตามลำดับเวลา
ถึงจะกิน หรือเสวยได้ตามความเหมาะสม
ปีที่แล้วไปส่งแม่
วัคซีนเหลือเพราะคนในหมู่บ้านเสียไปคน
พยาบาลเลยใจดีแจกให้
เพราะเห็นว่าเป็นลูกกตัญญู
เกี่ยวตรงไหน
ประเทศไทยเรา
สนใจสุขภาพคนไทยสูงอายุ
และไม่สูงอายุอย่างต่อเนื่อง
อานิสงฆ์นี้ 
แรงถูกตามลำดับกาลพอดี
.
.
แต่จะให้มองเมกาในแง่ดี
ก็ยากทำใจ
เพราะเป็นตัวร้ายมากกว่าตัวดีมาตลอด
เหมือนกันนิ
.
อย่าเอาความจำเป็นมาอ้าง
เพราะหลายต่อหลายเกินจะทนคะ
https://www.naewna.com/lady/482335
ไขข้อข้องใจ'โรคปอดอักเสบ' แพทย์เผย'อาการ-วิธีรักษา'
วันเสาร์ ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2563, 08.11 น.

โรคปอดอักเสบ (pneumonia) คือ การอักเสบที่เกิดขึ้นบริเวณเนื้อปอด ถุงลม และเนื้อเยื่อข้างเคียง เป็นโรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อย และอาจรุนแรงถึงชีวิตได้ ขึ้นอยู่กับอายุ โรคประจำตัว เกิดได้จากการติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ โดยทั่วไปมักจะพบปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อมากกว่า โดยสามารถแบ่งชนิดของปอดอักเสบติดเชื้อได้หลายแบบ ปัจจุบันนิยมแบ่งตามสภาพแวดล้อมที่เกิดปอดอักเสบ ได้แก่ ปอดอักเสบในชุมชน (Community acquired pneumonia, CAP) หรือปอดอักเสบในโรงพยาบาล (Hospital acquired pneumonia, HAP) เพื่อประโยชน์ในการรักษาที่เหมาะสม ในทีนี้จะกล่าวถึงปอดอักเสบในชุมชน
 
ลักษณะอาการของปอดอักเสบติดเชื้อที่พบได้บ่อยได้แก่ มีไข้ ไอ มีเสมหะหายใจเหนื่อย หายใจลำบากเจ็บเสียดบริเวณหน้าอกเวลาหายใจเข้า ซึ่งแพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยโรคด้วยการตรวจร่างกายฟังเสียงปอดผิดปกติ ร่วมกับเอกซเรย์ปอดพบฝ้าขาวผิดปกติ โดยบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดปอดอักเสบติดเชื้อ ได้แก่ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคไต โรคเบาหวาน โรคตับ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ที่ติดเชื้อไวรัส HIV โรคมะเร็ง ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ

ทั้งนี้ เชื้อที่ก่อโรคปอดอักเสบติดเชื้อพบได้ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อราที่สามารถติดต่อได้หลายวิธี คือ
1.เชื้อจากระบบทางเดินหายใจส่วนบนสำลักลงไปในระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง
2.การนำเชื้อเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจส่วนล่างโดยตรง ผ่านการไอ จาม หรือหายใจรดกัน ซึ่งเป็นการนำเชื้อที่อยู่ในละอองฝอยขนาดเล็กเข้าสู่ปอดโดยตรง
 
3.การแพร่กระจายผ่านการติดเชื้อในกระแสเลือด
4.การลุกลามจากการติดเชื้อจากอวัยวะข้างเคียง เช่น การเป็นฝีในตับแตกเข้าปอด เชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบติดเชื้อในชุมชนที่พบได้บ่อยคือ เชื้อแบคทีเรีย เช่น Strephylococuspneumoniae, Haemophilus influenzae,Moraxella catarrhalis เป็นต้น หรือเชื้อไวรัส เช่น influenza, rhinovirus, adenovirus, coronavirus เป็นต้น
วิธีการรักษาโรคปอดอักเสบติดเชื้อ มีดังนี้ 
1.การรักษาแบบจำเพาะ โดยการใช้ยาฆ่าเชื้อ แพทย์จะเลือกยาที่คิดว่าครอบคลุมเชื้อก่อโรคที่น่าจะเป็นสาเหตุของปอดอักเสบติดเชื้อ โดยพิจารณาจากอาการทางคลินิก และระบาดวิทยา
2.การรักษาแบบประคับประคอง โดยจะให้ยาเพื่อบรรเทาอาการ เช่น ยาพ่นขยายหลอดลม ยาละลายเสมหะ ยาลดไข้ หรือยาแก้ไอ
3.การรักษาภาวะแทรกซ้อนในบางรายภาวะปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรงมาก อาจมีภาวะระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ซึ่งต้องใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งทุกคนสามารถดูแลและป้องกันตัวเองจากโรคนี้ได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบติดเชื้อ
ในปัจจุบันมีวัคซีนที่ป้องกันปอดอักเสบติดเชื้ออยู่ 2 ชนิด เพื่อลดความรุนแรงและภาวะแทรกซ้อน
1.วัคซีน นิวโมคอกคอล (Pneumococcal vaccine)
2.วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenzavaccine) ซึ่งควรจะฉีดวัคซีนทุกปี ร่วมกับการดูแลสุขอนามัยส่วนตัว เช่น หมั่นล้างมือเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการไปอยู่ในที่ที่มีผู้คนหนาแน่น สร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ข้อมูลโดย
แพทย์หญิงมัณฑนา สันดุษฎี แพทย์ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลพระรามเก้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่