พฤติกรรมแบบนี้ส่งผลต่ออาชีพแพทย์ไหมคะ

สวัสดีค่ะ ยังมีคนจำเรื่องราวฉาวเมื่อปี 2014 กับข่าวแพทย์ผู้ทำเพจเล่าเรื่องตลกในรพ. จนได้รับความนิยมมากในขณะนั้น (อักษรย่อ DSS หรือ หมอห มี ผู้ หห.) แต่แล้วเพจก็ต้องปิดตัวลง ปล่อยให้แฟนเพจอึ้งกิมกี่ เมื่อมีหญิงสาว มาตั้งกระทู้(ถูกลบไปแล้ว) ในหัวข้อ "เมื่อโรงพยาบาลไม่ใช่ที่ปลอดภัยอีกต่อไป และ เมื่อมีมารร้ายแฝงตัวไว้ภายใต้เสื้อกาว"  ท่านที่อยากทราบยังพอมีข้อมูลใน google อยู่ค่ะ  หลังเรื่องราวสงบลง แพทย์ท่านนี้หลุดพ้นจากคำครหาทั้งปวง กลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ที่ไม่ปกติเห็นทีจะมีพฤติกรรมทางเพศที่เหมือนเดิม คือล่อลวงบรรดาแฟนเพจ ที่แม้เพจเฟสบุ๊คจะปิดไป แต่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่บ้างใน ig ใช้คารมประกอบกับความชื่นชมเป็นทุนเดิมของแฟนเพจอยู่แล้ว ทักทาย คุยจนสนิทสนม นัดมาเจอกัน สุดท้ายจะจบที่นัดมาค้างด้วยที่ห้องพักแพทย์เวรศัลยกรรมในวันที่แพทย์ท่านนี้มีเวรนอนพาสไทม์ที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ( จริงๆแล้วคือ 4 แห่ง ) และจบด้วยการขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย และอ้างว่าขอคบเป็นแฟน เหตการณ์คงจะไม่เลวร้ายอะไรมากนัก ถ้าเกิดขึ้นกับผญ เพียงแค่คนเดียว แต่.... เหตการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นกับผญ นับสิบคน ทุกคนคิดว่าตัวเองอยู่ในสถานะ แฟนหมอ! และคิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เพราะแพทย์ท่านนี้จะบอกว่าตัวเองทำงานหนัก ไม่สามารถมีเวลาอยู่ด้วยได้ ซึ่งจริงๆแล้ว วันที่ไม่ได้มีเวรนอน ก็มีแฟนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน อยู่บ้านเดียวกันในฐานะภรรยาคนนึง แต่ทุก รพ.ที่แพทย์ท่านนี้ทำงาน ไม่ว่าประจำหรือพาสไทม์ ก็จะมีแฟนในทุกๆสังคมที่เค้าอยู่ โดยใช้วิธี control ให้ผญ แต่ละคน อยู่ในโลกที่เค้าสร้างให้ ซึ่งสร้างโลกสิบกว่าใบไปเรื่อยๆ ทุกสาขาอาชีพ ทุกคนที่มาติดต่อในทุกรูปแบบ เมื่อมีคนเพิ่มมาในชีวิตเรื่อยๆ ในขณะที่ผญ คนเก่าๆเริ่มงอแง กับความสัมพันธ์ที่ลดลง แม้จะอ้างถึงภาระงาน แต่ก็ยากที่จะทำใจเชื่อ ทำให้วันนึง ความลับค่อยๆเปิดเผย เมื่อแฟนเบอร์ 1 เริ่มขุดคุ้ยหาความจริง ขุดคุ้ย ตามราวี ผญ ทุกๆคน อย่างบ้าคลั่ง จนปะทะ เบอร์ 2,3,4,5,6,7,8......ความลับที่เปิดเผยคล้ายฉนวนระเบิด ปะทุขึ้นอย่างไม่มีวันจบสิ้น เหตการณ์ไม่มีทีท่าจะสงบ เพราะตัวแพทย์เอง เลือกจะรักษาทุกคนไว้ ใช้วิธีเบลมอีกคน เพื่อให้อีกคนสบายใจ เจตนาให้เหล่าบรรดาแฟน ทะเลาะตบตีกันไปเอง ส่วนตัวเองก็เอาตัวรอดด้วยการโกหกไปวันๆ ผญ บางคนยังคงหลงเชื่อ คิดว่ารัก จะยอมทุกอย่าง ยอมเป็นตัวสำรอง เพราะเค้าให้ความหวัง และวิธีการพูดโดยใช้หลักจิตวิทยา จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายลง จนเชื่อใจเค้าในที่สุด ส่วนตัวคิดว่า แพทย์ท่านนี้น่าจะมีความผิดปกติทางจิต เมื่อโมโหจะอารมณ์ร้ายจนควบคุมตัวเองไม่ได้ พูดจาแย่กับคนในองกรค์ที่อยู่ในระดับล่างกว่าตน แต่ประจบสอพลอกับคนที่ตัวเองหวังผลประโยชน์ด้วย ต้องการให้คนมารักมาสนใจตัวเองจำนวนมากๆ คำถามคือ พฤติกรรมแบบนี้ส่งผลต่ออาชีพแพทย์ไหมคะ หรือจริงๆแล้ว ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าไม่รวมการมีเพศสัมพันธ์ในรพ. การล่อลวง หลอกลวงผญ. หัวอ่อนรพ. เพื่อหวังมีเพศสัมพันธ์ด้วย เพราะเรื่องฉาวคราวก่อน แพทยสภาก็ตีตกเป็นเรื่องส่วนตัวไป จะมีแนวทางช่วยเหลือ ผญ คนอื่นๆ ที่ยังคงหลงไปกับคำพูดหรือการกระทำของเค้าอยู่อีกตรงไหนอีกบ้าง เค้าน่าจะไม่สามารถแก้ไขนิสัยแย่ๆตรงนี้ได้ เพราะผญติดกับดักเค้าหลายคนมาก บางคนอยู่มาเกือบสิบปี บางคนจมอยู่ 8 ปี 7 ปี มันเสียเวลาชีวิต สำหรับคนคิดไม่ได้ หรือยอมงมงายอยู่กับคำว่ารัก ปลอมๆที่เค้ามีให้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่