💖 ป้องกันมะเร็งปากมดลูก: 3 วิธีหลักที่ผู้หญิงทุกคนต้องรู้

มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิง แต่เป็นโรคที่สามารถ ป้องกันได้เกือบ 100%หากมีการดูแลและป้องกันที่ถูกต้อง สาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกคือการติดเชื้อ ไวรัสเอชพีวี (Human Papillomavirus - HPV) การป้องกันจึงเน้นไปที่การหลีกเลี่ยงและกำจัดเชื้อไวรัสนี้
นี่คือ 3 วิธีหลักที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งปากมดลูก:


1. การฉีดวัคซีนป้องกัน HPV (HPV Vaccine)

การฉีดวัคซีนเป็นการป้องกันที่ต้นเหตุ เพราะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งมากที่สุด
ใครควรฉีด?
สามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป
ช่วงอายุที่แนะนำคือ 11-12 ปี เพื่อให้ได้รับภูมิคุ้มกันสูงสุดก่อนการมีเพศสัมพันธ์
ผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วก็ยังสามารถฉีดได้เพื่อลดความเสี่ยง
โดยทั่วไป สามารถฉีดได้ถึงอายุ 26 ปี หรือบางกรณีอาจฉีดได้ถึง 45 ปี ควรปรึกษาแพทย์
จำนวนเข็ม:
อายุ 9-14 ปี: มักฉีดเพียง 2 เข็ม ห่างกันประมาณ 6-12 เดือน
อายุ 15 ปีขึ้นไป: มักฉีด 3 เข็ม (วันที่ 0, 1-2 เดือน, และ 6 เดือน)


2. การตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ (Screening)

แม้จะฉีดวัคซีนแล้ว แต่การตรวจคัดกรองก็ยังมีความสำคัญเพื่อตรวจหาความผิดปกติของเซลล์ตั้งแต่ ระยะก่อนเป็นมะเร็ง ซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ง่าย
วิธีการตรวจ: การตรวจภายในร่วมกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (เช่น Pap Smear หรือ HPV DNA Test)
เริ่มตรวจเมื่อไหร่?
ผู้หญิงควรเริ่มตรวจคัดกรองตามคำแนะนำของแพทย์ โดยทั่วไปอาจเริ่มเมื่ออายุ 21 ปี หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
การตรวจมักทำเป็นประจำทุก 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับผลการตรวจครั้งล่าสุดและวิธีที่ใช้
ข้อดี: มะเร็งปากมดลูกในระยะแรกมัก ไม่มีอาการชัดเจน การตรวจคัดกรองจึงเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยให้ค้นพบเซลล์ผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ


3. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยง

ปัจจัยเสี่ยงบางอย่างส่งผลให้ร่างกายติดเชื้อและพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้ง่ายขึ้น การปรับพฤติกรรมจึงช่วยเสริมการป้องกัน:
มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย: หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนคู่นอนหลายคน และใช้ถุงยางอนามัยเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ
งดสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูก
ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง: รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้

🚩 สัญญาณเตือนที่ควรรีบพบแพทย์: แม้จะป้องกันดีแล้ว แต่หากมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที:
มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด (เช่น เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างรอบเดือน)
มีตกขาวผิดปกติ (เช่น มีปริมาณมาก มีกลิ่นเหม็น หรือมีเลือดปน)
ปวดท้องน้อย หรือเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่