ผมเขียนกระทู้ขึ้นมาไม่ได้มีเจตนาจะดิสเครดิต หรือ ทำร้ายใครนะครับ แค่เล่าสู่กันฟัง ครับ
ต่อเนื่องมาจากการกลับมาจาก ซาปา
https://pantip.com/topic/39686763
ผ่านไป 11 วัน หลังจากลับมา แฟนผมรู้สึกปวดท้องมาก และมีไข้ตอนกลางคืนเหมือนตอนที่อยู่ซาปา (ซึ่งที่จริงปวดแบบนี้มานานแล้วแต่ไม่มีไข้ ทุกครั้งหมอลงความเห็นว่าลำใส้อักเสบ ตอนไปเที่ยวซาปาก็เกิดปวดขึ้นอีก แต่ครั้งนี้มีไข้ตั้งแต่หัวค่ำ ไปจนถึงเช้า ตอนนั้นยาที่หาซื้อได้ก็คือ พาราเซตามอล เพื่อบรรเทาปวด) ก็เลยซื้อพารามาให้กินเพื่อบรรเทาปวด และ ลดไข้ กิน 1 เม็ด ทุก 4 ชม. (แฟนผมน้ำหนักประมาณ 47 - 49 กิโล) ตอนเช้าขึ้นมาก็ดีขึ้น แต่พอตกเย็น อาการก็เริ่มขึ้นอีก คราวนี้เพิ่มเป็น 2 เม็ด ก่อนนอน - กับตอนตีสาม สรุป 2 วันกินไป 8 เม็ด เหมือนเดิม เช้าดีขึ้น เย็นก็เป็นอีก
สาย ๆ ของวันนี้ก็เลยไปหาหมอที่ ร.พ. แถวรังสิต ( ใกล้บ้าน ) ใช้บัตรประกันสุขภาพ 2 บัตร (จากที่ทำงาน + ซื้อเอง ) แล้วพยาบาลก็สอบถามตามปกติ เพิ่มเติมด้วยการถามว่าเดินทางไปต่างประเทศมาหรือไม่ ก็แจ้งไปว่าไปเวียดนามกลับมาได้ 12 วันแล้ว หลังจากนั้น ก็ไปตามขั้นตอนปกติ จนหาหมอเสร็จ ออกมาแฟนก็บอกว่าหมอบอกว่าเป็นไข้ ธรรมดา อาการไม่เข้าข่ายว่าจะเป็นโควิด หมอไม่ให้ยานะ ที่บ้านมีพาราใช่มั๊ย กินพาราแก้ไขนั่นแหละ ผมก็เลยเฮ้ยย ไปบอกหมอว่าอะไรบ้าง แฟนก็เล่าให้ฟัง ก็บอกตามอาการที่เป็น ปวดท้อง มีไข้ตอนกลางคืน ผมก็เลยงง ๆ ก็เลยบอกแฟนว่าไม่เป็นไรงั้นดู พรุ่งนี้อีกวันนึงถ้าไม่ดีขึ้นตอนเย็นกลับมา (ผมได้รับแจ้งจากทาง HR แล้วว่าเวียดนามไม่ได้อยู่ในรายชื่อกลุ่มเสี่ยง ให้กลับมาทำงานได้เลยตั้งแต่วันที่ 9/3/2020 ) จะพาไปหาหมอที่ ร.พ. แถวบางนา ( ร.พ. ประกันสังคมของแฟน ใกล้ที่ทำงาน)
เย็นผมกลับมาจากที่ทำงานแฟนบอกเริ่มปวดท้องอีก ผมก็เลยพาแฟนไปหาหมอ หลังจากทำตามขั้นตอนเสร็จแล้ว พยาบาลก็ส่งตัวให้ไปตรวจที่แผนก ทางเดินอาหาร ตรวจเสร็จ แฟนก็มาเล่าให้ฟังว่า หมอกดที่ท้องหาจุดเจ็บ แล้วก็ถามว่าทำไมท้องนิ่มแบบนี้ ผิดปกตินะ ขอแอดมิด ละกัน สรุป นอน ร.พ. หลังจากขึ้นห้อง พยาบาล ก็มาใส่น้ำเกลือ เจาะเลือดตามปกติ มาเรื่อย ๆ ทั้งคืน
วันต่อมา ผมมาทำงาน แฟนก็โทรมารายงานว่า วันนี้มีเจาะเลือดไปอีก แล้วก็พาไปอัลตราซาวด์ ตอนบ่าย ๆ ผมก็ไปรับเพราะคิดว่าจะได้ออก สรุป ไม่ได้ออกหมอขอดูอาการอีก 1 วัน หมอแจ้งว่า ตรวจแล้วท่อน้ำเหลือง ตับอะไรที่สงสัยดีหมด แต่ค่าตับสูงมาก หมอสงสัยว่าอาจจะมีไวรัสบางตัวที่ไปรบกวนตรงตับเลยทำให้มีไข้ (แอบคิดในใจขึ้นมาแว๊บนึง โควิดกลายพันธุ์ป่าวว้า ไม่ลงปอด แต่หนีไปลงตับ ) แล้วก็ไม่สามารถให้ยาแก้ไข้ได้ ต้องลดไข้ด้วยเช็ดตัว และ ใช้เจลเย็น ไปก่อน การที่กินพาราเข้าไป เหมือนไปซ้ำเติมตับจึงทำให้ปวดท้อง (จับใจความได้ประมาณนี้นะครับ อาจจะผิดตกบางช่วงบางตอน)
สรุป นอนไป จ - พฤ ซึ่งเราถามหมอว่าเราขอกลับบ้านได้มั๊ย หมอบอกว่าอยากให้อยู่ดูอาการ แต่ตอนนี้อาการดีเยอะแล้วถ้าอยากกลับก็กลับได้ แต่คอยดูเรื่องลดไข้ละกัน เขาห่วงเรื่องเดียวเพราะอยู่นี่มี พยาบาลมาดูตามเวลา
เราก็ยืนยันว่ากลับ ที่ต้องขอกลับเพราะว่าเราหมด Budget ที่ตั้งไว้แล้ว กลัวว่าตอนออกไม่มีเงินจ่าย ซึ่งก่อนที่จะนอน มี จนท ประสานงานประกันมาแจ้งเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่ง แฟนมีบัตรประกันจากที่ทำงาน 1 บัตร และ ที่ซื้อเอง 1 บัตร และ ประกันสังคม จนท แจ้งว่ามีส่วนต่างค่าห้อง อยู่ประมาณนึง เราเลยตั้ง Budget ไว้ตามจำนวนวงเงินที่เหลือในบัตรเครดิต

สรุป ตอนออก ไม่เสียเงินสักบาท ส่วนต่างหักเข้าประกันสังคม มีส่วนเกิน 200 นิด ๆ ทาง ร.พ. ทำส่วนลดให้ เอ๊า ..... ( รู้งี้นอนต่อดีกว่า ) หมอจ่ายยามาให้ไม่มากครับ ให้แค่กินถึงวันนัด กลับมาก็เหมือนเดิมมีไข้ตอนกลางคืนอยู่ 1 วัน แล้วก็เริ่มดีขึ้น จนถึงวันที่เขียนกระทู้นี้ หายปวดท้องแล้ว และรู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ช่วงเย็น แต่พอวัดไข้ก็อยู่ที่ 36.5 - 37.6 ไม่เกินนี้ ยังมีอาการปวดหัว มึน เล็กน้อย
ไปหาหมอตามนัดมาแล้ว หมอขอเจาะเลือดไปตรวจอีก และให้ทำตารางมาให้ว่ารู้สึกมีไข้ช่วงเวลาไหนบ้าง แล้วนัดใหม่อีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า
มาเล่าสู่กันฟังนะครับ
ล้างมือบ่อย ๆ กินร้อน ช้อนใครช้อนมัน นะครับช่วงนี้ ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ ครับ
ประสบการณ์ การหาหมอในช่วงที่ Covid-19 กำลัง Hothit
ผมเขียนกระทู้ขึ้นมาไม่ได้มีเจตนาจะดิสเครดิต หรือ ทำร้ายใครนะครับ แค่เล่าสู่กันฟัง ครับ
ต่อเนื่องมาจากการกลับมาจาก ซาปา https://pantip.com/topic/39686763
ผ่านไป 11 วัน หลังจากลับมา แฟนผมรู้สึกปวดท้องมาก และมีไข้ตอนกลางคืนเหมือนตอนที่อยู่ซาปา (ซึ่งที่จริงปวดแบบนี้มานานแล้วแต่ไม่มีไข้ ทุกครั้งหมอลงความเห็นว่าลำใส้อักเสบ ตอนไปเที่ยวซาปาก็เกิดปวดขึ้นอีก แต่ครั้งนี้มีไข้ตั้งแต่หัวค่ำ ไปจนถึงเช้า ตอนนั้นยาที่หาซื้อได้ก็คือ พาราเซตามอล เพื่อบรรเทาปวด) ก็เลยซื้อพารามาให้กินเพื่อบรรเทาปวด และ ลดไข้ กิน 1 เม็ด ทุก 4 ชม. (แฟนผมน้ำหนักประมาณ 47 - 49 กิโล) ตอนเช้าขึ้นมาก็ดีขึ้น แต่พอตกเย็น อาการก็เริ่มขึ้นอีก คราวนี้เพิ่มเป็น 2 เม็ด ก่อนนอน - กับตอนตีสาม สรุป 2 วันกินไป 8 เม็ด เหมือนเดิม เช้าดีขึ้น เย็นก็เป็นอีก
สาย ๆ ของวันนี้ก็เลยไปหาหมอที่ ร.พ. แถวรังสิต ( ใกล้บ้าน ) ใช้บัตรประกันสุขภาพ 2 บัตร (จากที่ทำงาน + ซื้อเอง ) แล้วพยาบาลก็สอบถามตามปกติ เพิ่มเติมด้วยการถามว่าเดินทางไปต่างประเทศมาหรือไม่ ก็แจ้งไปว่าไปเวียดนามกลับมาได้ 12 วันแล้ว หลังจากนั้น ก็ไปตามขั้นตอนปกติ จนหาหมอเสร็จ ออกมาแฟนก็บอกว่าหมอบอกว่าเป็นไข้ ธรรมดา อาการไม่เข้าข่ายว่าจะเป็นโควิด หมอไม่ให้ยานะ ที่บ้านมีพาราใช่มั๊ย กินพาราแก้ไขนั่นแหละ ผมก็เลยเฮ้ยย ไปบอกหมอว่าอะไรบ้าง แฟนก็เล่าให้ฟัง ก็บอกตามอาการที่เป็น ปวดท้อง มีไข้ตอนกลางคืน ผมก็เลยงง ๆ ก็เลยบอกแฟนว่าไม่เป็นไรงั้นดู พรุ่งนี้อีกวันนึงถ้าไม่ดีขึ้นตอนเย็นกลับมา (ผมได้รับแจ้งจากทาง HR แล้วว่าเวียดนามไม่ได้อยู่ในรายชื่อกลุ่มเสี่ยง ให้กลับมาทำงานได้เลยตั้งแต่วันที่ 9/3/2020 ) จะพาไปหาหมอที่ ร.พ. แถวบางนา ( ร.พ. ประกันสังคมของแฟน ใกล้ที่ทำงาน)
เย็นผมกลับมาจากที่ทำงานแฟนบอกเริ่มปวดท้องอีก ผมก็เลยพาแฟนไปหาหมอ หลังจากทำตามขั้นตอนเสร็จแล้ว พยาบาลก็ส่งตัวให้ไปตรวจที่แผนก ทางเดินอาหาร ตรวจเสร็จ แฟนก็มาเล่าให้ฟังว่า หมอกดที่ท้องหาจุดเจ็บ แล้วก็ถามว่าทำไมท้องนิ่มแบบนี้ ผิดปกตินะ ขอแอดมิด ละกัน สรุป นอน ร.พ. หลังจากขึ้นห้อง พยาบาล ก็มาใส่น้ำเกลือ เจาะเลือดตามปกติ มาเรื่อย ๆ ทั้งคืน
วันต่อมา ผมมาทำงาน แฟนก็โทรมารายงานว่า วันนี้มีเจาะเลือดไปอีก แล้วก็พาไปอัลตราซาวด์ ตอนบ่าย ๆ ผมก็ไปรับเพราะคิดว่าจะได้ออก สรุป ไม่ได้ออกหมอขอดูอาการอีก 1 วัน หมอแจ้งว่า ตรวจแล้วท่อน้ำเหลือง ตับอะไรที่สงสัยดีหมด แต่ค่าตับสูงมาก หมอสงสัยว่าอาจจะมีไวรัสบางตัวที่ไปรบกวนตรงตับเลยทำให้มีไข้ (แอบคิดในใจขึ้นมาแว๊บนึง โควิดกลายพันธุ์ป่าวว้า ไม่ลงปอด แต่หนีไปลงตับ ) แล้วก็ไม่สามารถให้ยาแก้ไข้ได้ ต้องลดไข้ด้วยเช็ดตัว และ ใช้เจลเย็น ไปก่อน การที่กินพาราเข้าไป เหมือนไปซ้ำเติมตับจึงทำให้ปวดท้อง (จับใจความได้ประมาณนี้นะครับ อาจจะผิดตกบางช่วงบางตอน)
สรุป นอนไป จ - พฤ ซึ่งเราถามหมอว่าเราขอกลับบ้านได้มั๊ย หมอบอกว่าอยากให้อยู่ดูอาการ แต่ตอนนี้อาการดีเยอะแล้วถ้าอยากกลับก็กลับได้ แต่คอยดูเรื่องลดไข้ละกัน เขาห่วงเรื่องเดียวเพราะอยู่นี่มี พยาบาลมาดูตามเวลา
เราก็ยืนยันว่ากลับ ที่ต้องขอกลับเพราะว่าเราหมด Budget ที่ตั้งไว้แล้ว กลัวว่าตอนออกไม่มีเงินจ่าย ซึ่งก่อนที่จะนอน มี จนท ประสานงานประกันมาแจ้งเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่ง แฟนมีบัตรประกันจากที่ทำงาน 1 บัตร และ ที่ซื้อเอง 1 บัตร และ ประกันสังคม จนท แจ้งว่ามีส่วนต่างค่าห้อง อยู่ประมาณนึง เราเลยตั้ง Budget ไว้ตามจำนวนวงเงินที่เหลือในบัตรเครดิต
สรุป ตอนออก ไม่เสียเงินสักบาท ส่วนต่างหักเข้าประกันสังคม มีส่วนเกิน 200 นิด ๆ ทาง ร.พ. ทำส่วนลดให้ เอ๊า ..... ( รู้งี้นอนต่อดีกว่า ) หมอจ่ายยามาให้ไม่มากครับ ให้แค่กินถึงวันนัด กลับมาก็เหมือนเดิมมีไข้ตอนกลางคืนอยู่ 1 วัน แล้วก็เริ่มดีขึ้น จนถึงวันที่เขียนกระทู้นี้ หายปวดท้องแล้ว และรู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ช่วงเย็น แต่พอวัดไข้ก็อยู่ที่ 36.5 - 37.6 ไม่เกินนี้ ยังมีอาการปวดหัว มึน เล็กน้อย
ไปหาหมอตามนัดมาแล้ว หมอขอเจาะเลือดไปตรวจอีก และให้ทำตารางมาให้ว่ารู้สึกมีไข้ช่วงเวลาไหนบ้าง แล้วนัดใหม่อีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า
มาเล่าสู่กันฟังนะครับ
ล้างมือบ่อย ๆ กินร้อน ช้อนใครช้อนมัน นะครับช่วงนี้ ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ ครับ