หนูควรจะไปหาหมอดีไหมคะ

นี้คือกระทู้เเรกของหนูค่ะ ถ้าเเท็กผิดห้องเล่าไม่รู้เรื่องหรือใช้คำไม่เหมาะขอโทษด้วยนะคะ
          อาจจะยาวหน่อยนะคะ คือตั้งเเต่ ป.3 หนูเริ่มไม่สนใจการเรียนเพราะย้าย รร มาอยู่บ้านเกิด รร เก่า หนูเป็นเอกชนซึ่งระบบการสอนดีมากเพื่อนเเต่ละคนก็รวยบ้างฐานะพอดีบ้าง เเต่ รร นั้นเขาไม่ค่อยใช้คำหยาบ เเต่พอมาอยู่ที่ รร ใหม่คือ กูสัตว์มาทั้งสวนเลยค่ะ รร นี้เป็น รร รัฐค่ะ จากไม่รู้อะไรที่เกี่ยวกับเพศเพื่อนก็สอนอันนี้คืออันนี้นะ เเละเริ่มใช้คำหยาบพอโตขึ้นขึ้น ป.6 ไม่สนใจการเรียนเหมือนที่ผ่านมา มา รรเพื่อมาเล่น กิน นอนในห้องเเต่เราก็ไม่ได้ทำตัวเเรดหาเรื่องใครนะคะ พอ ป.6 เทอม 2 เรามีปัญหากับเพื่อนสนิทผิดใจกัน เเล้วคือเพื่อนคนนี้ก็มีเเต่คนเล่นด้วย ในห้องคนในห้องจะกลัวเราเเละเพื่อนคนนี้เเต่เพื่อนสนิทเราเขาสายฮาเป็นทอม        เพื่อนคนอื่นเลยเล่นกับเขา หนูเลยกลายเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนเล่นเลยต้องไปขอเล่นกับเพื่อนอยู่ 3 คนที่ไม่ค่อยสนใครเท่าไรเเต่มีเพื่อนคนหนึ่งที่เราเคยสนิทเขาก็บอกไม่เป็นไรนะมาเล่นกับเราก็ได้ ตอนนั้นยายเราพึ่งเสียได้ไม่นาน ครอบครัวว่าเราทำตัวมีปัญหาเเตกต่างจากเดิมพี่เราก็เอาเเต่พูดเติมไฟให้เเม่กับลง ที่บ้านเราเปิดร้านขายของร้านใหญ่ ลุงไม่คุยกับเราเขาบอกว่าหนูไม่ใช่คนเดิม เขาไม่ร้ว่าหนูต้องเจออะไรบ้างที่หนูเปลี่ยนไป หนูเจอเพื่อนตะโกนด่า ต่อหน้าลับหลัง ทั้งๆที่เราอยู่เฉยๆคิดว่าเพื่อนที่สนิทมาด้วยกันจะไม่กล้าว่าเราขนาดนี้เจอทั้งปัญหาครบครัว ว่าเราด่าเรา ถูกพี่พูดเติมไฟให้ครอบครัว เราโดนเรียกคุยหลายครั้งต่อหน้าครอยครัวเเต่ไม่มีใครเข้าใจโดนดุด่าว่า เเต่ต้องห้ามร้องไห้ห้อมอ่อนเเอ ไม่มีใครรับฟังพอเราพูดเขาบอกเราเถียงพอเราไม่พูดเขาก็บอกไม่มีอะไรจะพูดเเล้วหรอ คน 6 คนยืนอยู่หน้าเรา ลุง เเม่ พี่3คน เเฟนพี่2คน เขาหาว่าเราเปลี่ยนไปเราทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนอยู่เฉยๆกำมือตัวเองจนเล็บจิกมือจนเลือดออก กลับบ้านเข้าห้องน้ำเราอาบน้ำร้องไห้เเต่ไม่มีใครรู้ทุกเย็นจะเจอเรื่องเเบบนี้ตอนเช้าก็ไป รร ไม่มีความสุขเพราะเพื่อนบูลลี่เราเจอเหตุการณ์เเบบนี้อยู่2เดือนเรากลายเป็นคนที่สะดุ้งตื่นทุกตี2ตี3 ผมร่วง ไม่หิวอะไรน้ำหนักลดไม่เคยนอนหลับสนิสักวัน เวลานอนเราร้องไห้เเต่เรียกหายายเเต่ร้องดังไม่ได้เดี๋ยวพี่ได้ยิรเขาจะบอกเเม่ เเม่จะเรียกเราไปคุย เราได้เเต่ยอกยายว่าหนูเหนื่อยเหลือเกินถ้ามียายยายคนปลอบหนูหนูอยากตามยายไปอยู่ด้วย ตอนนั้นเเหละที่หนูเริ่มคิดวิธีการทำร้ายร่างกาย เราพยามวิ่งให้รถชนเเต่เพื่อนที่เขาให้เราเล่นด้วยคือคนที่เราเคยสนิทกันเขาเห็นเเละห้ามเอาไว้ เราพยามเอากรรไกรเเทงข้อมือตัวเองเเต่พี่ดันเข้าบ้านมาก่อน เราทนกับเหตุการณ์เเบบนั้นไป 2 เดือนเหมือนเป็นปีเหมือนตกนรกไม่มีความสุขไม่เคยยิ้ม ที่ทนอยู่2 เดือนเพราะเราจะจบ ป.6 เเล้วพอ1อาทิตย์สุดท้ายเพื่อนคนนั้นให้โอกาสเราไปเล่นกับเขา เราเลยไม่ค่อยคิดมากเรื่องเพื่อน พอเราขึ้น ม1เเต่กลายเป็นที่บ้านหนัก2เท่า เเต่เวลาทั้งหมดนี้เราอยู่ได้เพราะซีรีย์เกาหลีเเละจีนเราขอปฎิติญาณตนว่าจะไม่ทิ้งซีรีย์เด็ดขาดเพราะเรื่องนี้เขาช่วยให้เรามีชิวิตต่อ มาต่อเรื่องที่บ้านเราพยามคุยกับลุงเเล้วไปช่วยขายของที่ร้านเพราะมันค่อนข้างใหญ่ เราไปทำตั้งนานเเต่เขาไม่คุยกับเราเเต่กับคุยกับพี่คนที่หนีไปบ้านเเฟนคนที่มาช่วยเเค่3วันเขาก็คุยเเล้วเราก็ถามตัวเองว่าฉัน ยิ้มขนาดนั้นเลยหรอฉันไปทำอะไรให้อ่ะความยุติธรรมอยู่ไหน? ฉันที่พยามทำทุกอย่างให้เห็นว่าฉันกลับมาเป็นปกติ ตอนนั้นคำถามเป็นล้านอยู่ในหัว สติเราเริ่มไม่มีทำอะไรเลอะเลือนความจำหายอยากตายผมร่วงมือนี่ขาวดผล่เหมือนคนขาดสารอาหารกัดเล็บตัวเอง ตอนนั้นในบ้านเราเหมือนใบ้เเดกอ่ะพ่อถามว่าเป็นอะไรลูก พ่อกับเเม่เราเเยกกันอยู่ เเม่เราไปอยู่บ้านเพื่อนหน้าปากซอยบ้านเราเราอยู่กลางซอย ลุงนอนเฝ้าร้าน ฉันอยู่บ้านกับพอคำที่พอถามหนูอ่ะคือเหมือนโลกกำลังพังฮึย! มีคนสังเกตเราด้วยอ่ะว่าเราเป็นยังไง เราบอกพ่อไม่เป็นอะไรค่ะพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆพเเม่เเยกจากพ่อตอนเราขึ้นม.1พอดีถ้าหนูจำไม่ผิดนะคะ เราสงสารพ่อมากเลยค่ะไม่รู้พ่อทำผิดอะไรทำไมเเม่ถึงต้องไปอยู่กับเพื่อน ทำไมไม่คุยกับพ่อ ตอนนั้นพ่อเราเริ่มเป็นคนใจเย็นพร้อมกับตอนหนูขึ้น ม.1 พอก็เริ่มเป็นคนมีเหตุผล ยังดีที่มีพ่อนี่เเหละค่ะที่ทำให้เรามีกำลังใจเเต่เราไม่เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดนะคะ เรากลายเป็นคนกลัว ไม่เชื่อใจใคร พอ ม.1 มาเรามาอยู่ รร ขนาดใหญ่ดี เราอยากเล่นดนตรี เพราะเมื่อก่อนตอน อนุบาล2เราเล่นดนตรีกับ รร พอ ม.1 เขาก็มีชุมนุมวงโย วงลูกทุ่งตอนเเรกเราเป่าคลาริเน็ต หลังเราเข้าไปเล่นวงลุฏทุ่งเป็นเปอร์เคชั่น ทำให้เรากลับบ้านดึก3ทุ่ม-5ทุ่ม บ้างที่6ทุ่มถ้าใกล้เเข่ง ครูให้นอน รรเเต่เเม่เราไม่อยากให้นอนเราเลยกลับบ้านมา เราต้องมานั่งทำการบ้านกว่าจะเสร็จตี1บ้างเราต้องตั้งใจเรียนตั้งเเต่ขึ้น ม.1มาเพราะเเม่บอกว่าเล่นได้ก็ค้องเรียนได้ดีถ้าเกรดตกให้เราออกทันที่วันนั้นเราทะเลาะกับเเม่เรานอนทำการบ้านไปน้ำตาไหลเปียกกระดาษ พอครูตรวจครูบอกทำแะไรมา พอครูมองหน้าเราครูก็เงียบเหมือนครูรู้เพราะตาเราบวมเเดง เราเลยตั้งใจเรียนเล่นด้วยเรียนด้วยเรากดดันตัวเองมากอาการเเบบเดิมกลับมาอีกครั้ง ผมร่วงความจำหายเลอะเลื่อน เราเก็บกดมากตอนนี้ลุงก็ไม่คุยกับเรานานหลายเดือนเเต่เราไม่สนใจเราไม่ไปเหยียบร้านตอนนั้นคิดชั้งยิ้มไม่อยากทำไม่อยากเเสร้งว่าตั้งใจทำ นอนอยู่บ้านดูซีรีย์ มีพ่ออยู่ในบ้านอุ่นใจถึงไม่ค่อยคุยกันเเค่มองก็อุ่นใจเเล้วอ่ะพ่อที่ค่อยถามกินไรลูกวันนี้เดี๋ยวพ่อไปทำงานนะเดี๋ยวทิ้งตังค์ไว้ให้เราหลับพ่อซื้อข้าวไว้ให้รอ อื้มเราพูดไม่ออกจริงๆที่มีครสนใจเราเเบบนี้ พอ ม.2 รุ่นพี่เเถบเครื่องเป่าออกไปหลายคนหนูเเละเพื่อนจึงได้ขึ้นไปเป่าเราเปลี่ยนเป็นเป่าเเซ็กเราตั้งใจฝึกไม่สนใจที่บ้านเเต่! ครูคนที่มาช่วยสอนเขาเป็นครูจาก รร อื่น เเต่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับครูดนตรีในวงหนูค่ะ เขาเลยมานอนบ้านพักครูอยู่ทีท รร หนู ก็มาสอน เขาจะด่าหนูอยู่บ่อย เเซวหนูตอนเเรกหนูก็เล่นนะคะ พอหลังๆมาเริ่มหนักค่ะหนูเป็นหัวหน้าวงจึงเเบกความหวังไว้ ได้solo เยอะกว่าคนอื่นเพราะเครื่องเอกตัวเองที่ต้องโชว์ เราโดนด่าว่าเเค่นี้เองทำไมทำไม่ได้ soloเเค่นี้ รุ่นพี่เขาทำได้ก็ทำได้ ใช่ทำได้เเต่ไม่ดีเพราะหนูพึ่งเป่าพุ้งฝึกเเต่หนูฝึกก่อนคนอื่นเลยนะคะ ครูเลยเขียนsoloเยอะ คนที่ชอบดุหนูนี่คือครูผู้ช่วยนะคะหนูจะเเทนคำนี้นะคะ ครูผู้สอนคือผู้คุมวงนะคะคนนี้เขาใจเย็นนิ่งค่ะ หนูโดนเปรียบเทียบบ่อยครั้งว่าวงไม่ต้องมีก็ได้นะ หนูเล่นไม่ดีบ้างที่เขาก็ตบหัวหนู ปกติเขาตบเเต่ผู้ชายค่ะ เเต่ครูเขาก็ตบเล่นๆเเหละค่ะอันนี้หนูเข้าใจ เเต่หนักขึ้นเขาพูดว่าsolog เเบบนี้ไม่มีดีกว่าหัวหน้าเเบนี้มีไปทำไมพูดต่อหน้าหลายคนวงลูกทุ่งเป็นวงใหญ่40คนขึ้นเฉพาะนักดนตรีไม่เกิน20คนถ้างานในไม่เน้นคนก็มากว่านั้นได้ค่ะ เขาเคยถามหนูว่ามีปัญหาาทางบ้านหรือเปล่าหนูก็ตอบว่ามีค่ะหนูไม่คุยกับลุงค่ะเขาบอกว่าหนูเปลี่ยนไป เขาก็เเซวหนูว่า คงงั้นเเหละเเล้วก็พูดกับครูท่านอื่นว่า ขนาดลุงมันยังไม่เอามันเลยพี่เเล้วเราจะเอามันทำไม มันทำให้หนูอึ้งไปนาน เเต่ก็พยามคิดบวกว่าเขาเป็นครูเขาพูดเล่นไม่มีอะไรหรอกจากที่เราเครียดกับครอบครัวเราไม่สนใจเเเล้วเเม่หนูได้เห็นหนูขึ้นเวทีเขาตามไปดูเขาเปิดใจให้หนูให้เล่นเเละตามใจเรื่องนี้เเถมยังบริจาคเงินของใช้ต่างๆ หนูก็ไม่กังวลเรื่องนี้เเต่!  กังวลเรื่องวงกับเรื่องเรียนเเทนเรื่องวงนี้เราต้องคิดเลยตื่นมาต้องเจออะไรบ้างวันนี้เราจะรับมือกับคำพูดเเบบนั้นได้ไงดี เราคิดจะออกเเต่เพราะว่า หนูสนิทกับรุ่นพี่ที่เขาจบไปเเล้วหลายคนล้วนเเต่เป็น ผู้ชาย เขาสอนหนูเรื่องมารายาทการทำงานกับคนหลายคนการวางตัวการใช้ชีวิตว่าต้องเดินยังไง รุ่นพี่ที่หนูไว้ใจมี3คน คนหนึ่งจับใบได้เป็นทหารเกณฑ์2ปี  สองคนเรียนมหาลัยเกี่ยวกับดนตรีเเต่คนละที่ เขาจะเข้ามาดูวงบ่อยๆเขาเข้าใจที่หนูเคยเป็นมาหนูบอกเขาว่าหนูไม่รู้ว่าเป็นโรคเครียดหรือซึมเศร้าหนูเล่าให้เขาฟังหมดปัญหาที่เจอมาเเต่ก็ไม่ได้ละเอียดเขารับฟังให้คำเเนะนำ เเต่พวกพี่เขาก็ชอบเเกล้งหนูเวลาเขากลับมา หนูจะบอกว่าหนูรักพวกพี่มากๆนะคะ   เพราะหนูไม่เคยเจออะไรเเบบนี้โตมากับการอยู่ตนเดียวกินข้าวคนเดียวซื้อของคนเดียว   ไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกที่มีคนมาเข้าใจนอกจากพ่อก็มีพวกเขาที่เข้าใจหนู   เวลาครูด่าก็มีรุ่นพี่ที่ให้กำลังใจ   ไม่เป็นไรทำได้   นี่พึ่งฝึกนะจะเก่งเลยไม่ได้ไม่ได้เป็นเทพ  มีคนเดียวนี่เเหละในวงที่รู้เรื่องกูถึงรักไง   ยังดีที่มีกำลังใจให้อยู่ พอเรากำลังขึ้นม.3เราทะเลาะกับเเม่เรื่องเรียนเราเครียดทุกครั้งที่มีสอบโดยเฉพาะภาษาอังกฤษเราลืมบอกตั้งเเต่ม.1มาเราสอบได้ที่1มาตลอด เกรดอัพตลอด มีengนี่เเหละค่ะเราเรียนดีสุดเเล้ว เราจึงคิดว่าความพยามมันไม่สูญเปล่า เเต่เราจะกดดันตัวเองเสอม เพราะเราทำมันได้ดีถ้ามีคนทำได้ดีกว่าเราถ้าเเม่รู้เราต้องโดนด่าเเน่เลยเราไม่เก่งคณิตคือไม่เอาเลยเรามาเอาวิชาอื่น เราบอกเเม่คะ คณิตหนู1.5นะคะ เเม่าเรา โอ้ยหนู เเล้วเป็นเเบบนี้หนูจะได้ที่1ได้ยังไงหนูทำหน้าเหวอ เลยพูดว่าไม่เห็นไปไรเลยค่ะอย่าไปตั้งความหวังให้กับตัวเองค่ะเเม่จะได้ไม่ผิดหวังเวลาเกรดลดเเม่าเราเงียบทั้งๆที่เราหวังเรากลัวเเม่เรากลัวว่าเพื่อนจะมองว่าเราเกรดตกเเต่พวกเพื่อนในห้องก็ไม่มีใครสนในการเรียนเลย    ทำไมเราต้องเก็บมาคิดทำให้เวลาประกาศคะเเนนจุดเราจะกดดันมากจนนอนไม่หลับประกาศเกรดเราจะสะดุ้งตื่นมาเหมือนเดิมเรากลยเป็นคนนอนกัดฟันเพราะสภาวะจิตใจ กับเรื่องเรียนมาก   
           คนที่บ้านตั้งความหวังเราไว้มากพี่ที่เรียนอยู่ม.3เขาก็เรียนไม่ค่อยเก่ง พี่ใหญ่ที่เรียนมหาลัยเมื่อก่อนเกเรจนดร็อปเรียนไปหลายปีจึงจับบวชถึงดีขึ้น ตอนนี้จะ30ล่ะ เหลือกอีกนิดจะจบเเล้วเเต่พี่ใหญ่คนนี้เขาขี้เกียจทำงาน ไม่เคยมาช่วยงานที่ร้านลุงจึงไม่คุยกับพี่ใหญ่คนนี้เป็นพี่ชายนะคะเเต่เรียนเก่งหัวไว           อีกคนเรียนอาชีวะบัญชีปี3ตอนนี้ฝึกงานเสร็จเเล้วว่าจะเรียนมหาลัยต่อเเต่นางไม่อยากทำงานนางว่าจะกลับมาช่วยงานในร้าน  คนในครอบครัวจึงตั้งความหวังไว้กับเราค่ะ ไม่พูดก็ดูออกค่ะว่าคาดหวังกับเราเเค่ไหน พี่คนที่กำลังขึ้น ม.4 ชอบอิจฉาเราเพราะเรียนเก่งกลัวเเม่ชมเราได้ดีมีหลายครั้งที่นางว่าเรา ที่เราเก่งกว่า เเต่เราไม่สนใจเเล้วค่ะ หนูคุยกับลุงเเล้วนะคะตอนนี้ ครอบครัวปัญหาอย่างเดียวคือเรื่องเรียน เเต่มาที่วงต่อค่ะวันนั้นที่เราทะเละกับ  เเม่ซ้อมอยู่ดีๆเราก็ร้องไห้ออมาครูผู้สอนถามเราว่าเป็นไร   วันนั้นคือยกเลิกการซ้อมหมด    หนูได้เล่าปัญหาในวงที่ครูผู้ช่วยว่าเราบ่อยๆทำให้สภาพจิตเราเสียคือมันทรมานจริงๆค่ะกว่าจะได้เเต่ละเพลงเราซ้อมเป็นเดือนนะคะ กว่างานจะสมบรูณ์ใช้เวลา3เดือนเลยเเหละค่ะ   ให้ครูฟังค่ะครูรับฟังเราดี ครูให้เเยกย้ายกลับบ้านทักมาถามเราเป็นไงบ้าง นั่งสมาธิช่วยได้ สวดมนต์บ่อยๆนะจิตใจจะได้สงบเราก็เชื่อนะคะ เเต่มันไม่หายมันกลายเป็นเเบบอารมณ์พวกนี้มันอยู่ติดเราตลอดเวลานึกอยากจะร้องไห้ก็ร้อง   นึกอยากจะเศร้าก็เศร้า   อาการเราเริ่มหลายเเรงเพิ่มขึ้น 
 พอดีมีครูใหม่ที่เขารู้จักกับครูผ้สอนหนูอ่ะค่ะเขาสนิทกันเลยย้ายมาช่วยค่ะมาช่วยสอนดนตรีทำวง    ครูผู้สอนเขาได้เล่าเรื่องของหนูให้ครูที่มาใหม่ฟังหนูก็รู้จักครูคนนี้อยู่เเล้วค่ะเพราะเเกเคยมาช่วยอยู่ครั้งหนึ่งจึงทำให้คะเเนนำดนตรีดีขึ้นเห็นทันตา ครูเขาก็ค่อยพูดกับหนูพยามไม่ใช้อารมณ์เตอนนั้นมันช่วงมีเเข่งวงลูกทุ่งนี้เปิดดเทอม2ต้องซ้อมเลยค่ะถ้างันจะไม่มีเวลา เเต่หลังๆมาครูคนที่ค่อยรับฟังหนูเขาเปลี่ยนไปค่ะ เวลาหนูซ้อมนี่หนูค่อนข้างเครียดเลยค่ะกลัวโดนดุไม่มั่นใจเราก็ซุมเก็บตัวพูดน้อยเหมือนคนจะตายเลยค่ะ เพราะหนูกลัวเหมือนที่ผ่านมาเเค่นี้ทำก็ไม่ได้ ครูเขาไมสนใจหนูว่าหนูมีอาการเเบบไหนหนูก็รู้สึกเสียใจนิดๆค่ะคนที่เคยรับฟังเราเเต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิม ไม่สนใจเรา  เดี๋ยวมาต่อค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่