---

ในวันธรรมดา ถนนคนเดิน ร้านค้า ร้านอาหารของที่นี่อาจจะเงียบเหงากว่าช่วงอื่นๆ แต่โดยส่วนตัวแล้วเราว่าแบบนี้นี่แหละคือช่วงที่เชียงคานมีเสน่ห์ และน่าเดินทางมาเที่ยวมากที่สุด
 
นั่งจิบกาแฟมองน้ำโขง ปล่อยใจไปกับสายฝนและสายหมอกยามเช้า  ปั่นจักรยานหาของกินง่ายๆ สัมผัสกับความเรียบง่ายของชุมชน เดินเล่นถนนคนเดินในบรรยากาศที่ไม่วุ่นวาย
 
ไม่มีจะทำให้เรามีความสุขไปว่านี้อีกแล้ว

อ่อ! ขอบอกนิดนึงว่าเพื่อนๆ คนไหนกำลังมองหาที่พักใน 55 จังหวัดเมืองรอง ลองดูโปรนี้ก่อนได้เลย 
 
ซึ่งตอนนี้ทาง ShopBack เค้าจัดแคมเปญร่วมกับทาง Agoda ,Booking.com,Expedia และTrip.com ให้เราจองที่พักในเมืองรอง ต้องลอง โดยจองที่พักเริ่มต้นที่ 0 บาท 
 
หากจองที่พักที่มีราคาต่ำกว่า 300 บาท จะได้รับเงินคืนตามราคาที่พักจนเหลือ 0 บาท ส่วนที่พักที่มีราคาสูงกว่า 300 บาท จะได้รับเงินคืนสูงสุด 300 บาท
 
โดยจะได้สามารถกดจองได้ วันที่ 16-18 มีนาคม 2563 ซึ่งจะได้สิทธิพิเศษดังนี้
1.จองที่พักในเมืองรอง บนหน้าร้านค้าและชำระค่าที่พักตามจริง
2.รับเงินคืนปกติ 5% ในบัญชี ShopBack ภายใน 48 ชม.
3.รับเงินคืนที่เหลือจนครบ 300 บาท ภายใน 14 วันทำการ
 
ลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.shopback.co.th/muang-rong-must-try เลยค่ะ

อีกเมนูยอดฮิตที่ต้องโดนหากมาเชียงคาน คือ “ข้าวเปียกเส้น” หรือก๋วยจั๊บญวน 

ข้าวเปียกเส้นหรือก๋วยจั๊บญวน นับเป็นอาหารท้องถิ่นของเชียงคานที่เค้าว่ากันว่ามาแล้วต้องกินค่ะ ส่วนร้านที่เรามาโดน คือ ร้านข้าวเปียกเส้น ซอย 10 ที่เปิดตั้งแต่เช้ายันเย็นค่ะ
 
นอกจากข้าวเปียกเส้นเหนียวนุ่มแล้ว ยังมีโจ๊กหมู กับเกาเหลาเลือดหมูรสเด็ดไม่แพ้กันให้อร่อยด้วยล่ะ

นอกจากเสน่ห์ความเรียบง่ายของชุมชนแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่เคียงคู่กับเชียงคาน คือ ความผูกพันและศรัทธาในศาสนา
 
ใครได้มาเชียงคานอย่าลืมแวะเที่ยวชมวัดสวยๆ ของที่นี่ อย่างวัดศรีคุณเมือง วัดนี้เป็นแหล่งรวมงานศิลปะแบบล้านนาผสมล้านช้าง ที่งดงามแปลกตา หน้าโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพชุดทศชาติชาดกซึ่งวาดขึ้นใหม่แทนของเดิม

รวมถึงอีกหลายวัดที่เป็นแหล่งรวมศรัทธาของชาวเมืองเชียงคาน เช่น วัดมหาธาตุ, วัดป่ากลาง, วัดท่าคก ที่ล้วนแต่เป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองทั้งนั้น

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารักเชียงคาน คือ ความน่ารัก มีเสน่ห์ของร้านค้า ร้านกาแฟ คาเฟ่ของที่นี่
 
และอีกหนึ่งสถานที่ที่เราบอกเลยว่า “ต้องมา” คือ การมานั่งจิบชากาแฟโบราณ ทานขนมปัง ในบรรยากาศโรงหนังเก่า”สุวรรณรามา” ของเมืองนี้ 

---

มาต่อกันที่ฝั่งตะวันออกกับ เมืองเก่าของจังหวัด “จันทบุรี”
 
ถ้าจะให้พูดถึงจังหวัดที่มีสถานที่เที่ยวสวยงาม หลากหลายครบทุกแนว เดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพ เราขอยกให้“จันทบุรี” เป็นหนึ่งในจังหวัดโปรดของเราที่จะให้ไปกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ
 
ที่นี่มีทั้งทะเลสงบๆ มีจุดชมวิวสวยๆ มีเมืองเก่าน่ารักๆ มีคาเฟ่ให้ได้ชิล มีที่เที่ยวแนวธรรมชาติมากมาย

ยิ่งโดยเฉพาะ ย่านเมืองเก่า ‘จันทบูร’ ย่านโปรดที่เราต้องแวะมาทุกครั้งที่มาจังหวัดนี้
 
ซึ่งที่นี่เป็นชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำจันทบุรีด้านตะวันตก แต่เดิมรู้จักกันในชื่อที่เรียกกันติดปากว่า "บ้านลุ่ม" ซึ่งเป็นชุมชน เก่าแก่ของชาวจีนและญวนอพยพตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ต่อมาได้พัฒนามาเป็น ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการค้าของ จันทบุรีที่สำคัญแห่งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 5 
 
ปัจจุบันคือสถานที่ท่องเที่ยว ที่หากใครที่มาเยือนจังหวัด จันทบุรี แล้วไม่ควรพลาด 

นอกจากมุมสวยๆ ของอาคารบ้านเรือนริมน้ำแล้ว ที่นี่ยังมีทั้งที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ให้ชิลกันเพียบเลยล่ะ
 
อ่อ มานี่ห้ามพลาดร้านไอศครีมตราจรวด ซึ่งถือเป็นโรงงานผลิตไอศกรีมด้วยเครื่องจักร เป็นแห่งแรกของจันทบุรี มีทั้งไอศกรีมแท่ง ไอศกรีมตัด ไอศกรีมกะทิสด ค่ะ

จากย่านเมืองเก่า เดินข้ามแม่น้ำมาชมหนึ่งใโบสถ์คริสต์ที่สวยที่สุดในประเทศ โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล
 
ที่นี่มีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมตะวันตก แบบโกธิค ภายในตกแต่งด้วยกระจกสี ที่เรียกว่า สเตนกลาส เป็นภาพนักบุญต่างๆ หลังจากนั้นได้มีการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด จนถึงปี พ.ศ. 2528 ได้มีการจัดงานฉลองโบสถ์คาทอลิกจันทบุรีครบรอบ 75 ปี นับได้ว่า โบสถ์ คาทอลิก แห่งนี้เป็น โบสถ์ ขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่ และกล่าวกัน ว่า มีความงดงามมากที่สุดในประเทศ