ตามหัวข้อเลยค่ะ ถ้าแตกเป็นประเด็นย่อยจะเยอะมาก เค้าจะห้ามนู่นห้ามนี่ไปหมด จะเขียนคร่าวๆเพื่อให้ทุกคนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะคะ เราเป็นพุทธมาก่อนแล้วประสบปัญหาได้พึ่งพาพระเจ้าและพระองค์ตอบคำอธิษฐาน จากนั้นเราก็ได้รับการทรงเรียกค่ะ พระเจ้านำชีวิตมาตลอดโดยไม่มีพี่เลี้ยงมาตลอด2ปี แต่ถึงแบบนั้นก็ยังคงรัษาความเชื่ออยู่ได้ จนได้มีพี่เลี้ยงคนแรก ซึ่งก็ดูแลไม่ถึงปีแต่ทำให้ท้อจนอยากละทิ้งความเชื่อ
จากประเด็นกระทู้เราอ่านเรื่องพระพุทธเจ้ากับพระเจ้ามาบ้างว่าเกี่ยวข้องยังไง และอ่านแนวคิดของมุสลิมที่มีต่อพระเจ้าและพระเยซูมาบ้างเหมือนกัน ตอนนี้เราก็อยากจะตั้งกระทู้เองบ้างเพราะอยากรู้ว่าทุกคนคิดยังไง
-แนวคิด LGBT ห้ามอย่างชัดเจน เป็นเพศทางเลือกไม่ได้ ไม่ใช่แค่ไม่คบกับเพศเดียวกันแต่ต้องเป็นตามเพศสภาพที่ตัวเองเกิดเพราะพระเจ้าสร้างมาแค่ผญ/ผช ถ้าเป็นเค้าบอกว่าบาป ในพระคัมภีร์พระเจ้าห้าม ถ้าใครเป็นก่อนมาเชื่อพระเจ้าเค้าจะให้เราอธิษฐานขอให้พระเจ้าค่อยๆเปลี่ยนเหมือนไซโคเราอ่ะ หรือไม่ก็เป็นโสดรับใช้พระเจ้าตลอดชีวิต
เราคิดว่าหากมีความรักที่บริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง พระเจ้าจะอวยพรเสมอ เพราะพระเจ้าคือความรัก แต่อย่ามีการร่วมเพศเพราะพระเจ้าไม่ได้สร้างให้เพศเดียวกันมาร่วมเพศกัน และความรักกับความใคร่เป็นคนละเรื่องกัน
-แนวคิดการแต่งงานกับคริสเตียนเหมือนกัน เค้าบอกว่าเราต้องแต่งงานกับคริสเตียนเท่านั้นเพื่อที่ความเชื่อของเราทั้งคู่จะมีเท่าๆกัน การเติบโตในฝ่ายวิญญาณจะเท่ากัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรับใช้พระเจ้า และหากคนที่เราจะแต่งงานด้วยเข้ามาเชื่อเพราะรักเราแต่ไม่เชื่อในพระเจ้าก็ไม่ได้ ต้องรอให้เขาเติบโตฝ่ายวิญญาณก่อน
เราคิดว่าเรื่องความรักมันให้คำนิยามได้ยาก ไม่มีสูตรสำเร็จรูปว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ และเพราะความรักนั้นต้องรอคอยและอดทนนาน การค่อยๆเรียนรู้กันไปก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย อย่างน้อยเราจะได้ไม่เสียใจว่าตอนนั้นเราไม่ได้พยายามประคับประคองความรักนั้นเลย และต่อให้เขาไม่เชื่อเหมือนเราแต่ถ้าหากมีความรักอยู่กับเราทั้งสอง ไม่ว่ายังไงเราก็ไปกันได้ ถ้าเรา "รัก เข้าใจ ให้เกียรติ อดทน"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่เราสังเกตุอย่างนึงเลยคือคริสเตียนจะค่อนข้างหัวรุนแรง ไม่ค่อยยอมรับคนที่เห็นต่าง ไม่อะลุ่มอล่วยและมองสถานการณ์แบบแคบ จะบอกว่าแบบนี้เท่านั้น แบบนี้เท่านั้นตามพระคัมภีร์ จนเราสงสัยว่า เขาทำตามธรรมบัญญัติเพื่อเป็นที่พอพระทัยแล้วตอนตายเวลาสอบสวนต่อหน้าพระเยซูจะได้ไปแผ่นดินสวรรค์ หรือเอาความรักและความเชื่อในพระเจ้าเป็นที่ตั้งกันแน่ เหมือนลึกๆแล้วกลัวไม่ได้ไปสวรรค์ทั้งที่พระเยซูไถ่บาปแล้ว
-การช่วยเหลือคนในวันอาทิตย์แบบเลี่ยงไม่ได้
เนื่องจากเราเรียนหมอและสงสัยว่าเราช่วยคนวันอาทิตย์ได้ไหม เราไม่ถือว่าทำงานแต่เป็นการช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก เค้าสอนเราว่า เราคิดว่าตัวเราไม่ถือแต่พระเจ้าจะพอพระทัยไหมที่เราไม่ไปนมัสการวันอาทิตย์เพราะพระเจ้าสร้างวันอาทิตย์ให้เราพักผ่อนและวางภาระงานเพื่อเข้ามาหาพระองค์ ข้อสำคัญคือพระเจ้าให้เรารักพระเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจ และประการต่อมาคือรักเพื่อนบ้านเหมือนตัวเอง ให้เราเลือกพระเจ้าก่อน ส่วนคนป่วยพระเจ้าก็จะดูแลชีวิตเค้าเอง
เราคิดว่าการที่เราช่วยคนอื่นนั่นแหละคือความรักที่เรามีต่อพระเจ้าที่เป็นรูปธรรมที่สุด ทำไมพระเจ้าถึงไม่พอพระทัย และมันคือความสุขที่ได้ทำ ไม่ใช่ภาระหนัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เค้าก็บอกเราอีกว่าสิ่งที่เราคิดว่าถูก อาจจะไม่ถูกก็ได้ ให้ยึดคำในพระคัมภีร์เป็นหลักว่าพระเจ้าพอพระทัยแบบไหน ขอการทรงนำจากพระเจ้า เราท้อใจ
มาก เพราะหลายครั้งที่เราเจอสถานการณ์แบบนี้ เค้าจะยัดเยียดว่าเราไม่รักพระเจ้าบ้างล่ะ ไม่มีชีวิตที่ติดสนิทกับพระเจ้าบ้างล่ะ เรารักพระเจ้าแต่แนวคืดไม่เหมือนเค้า เค้าตัดสินเราแบบนี้ไม่ได้ป่ะ ขนาดพระเยซูยังไม่ให้เราไปตัดสินคนที่โดนปาหินเลย
-การถวายตัวรับใช้และการประกาศ เราต้องรับใช้คริสจักรในส่วนงานใดซักส่วนหนึ่ง เค้าบอกว่าเพราะเราทุกคนมีของประทานที่พระเจ้าให้มาทำการงานของพระเจ้า เพราะในพระคัมภีร์พระเจ้าได้เลือกประชากรของพระองค์ไว้แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ข้อนี้น่าจะทุกคริสตจักร
อ้าวววว เลือกไว้แล้วหมายความว่าไง งงมาก จริงๆเราศึกษาพระคัมภีร์มามีบางตอนที่ขัดแย้งกันจนเราคิดว่าตกลงมันจะยังไงวะ รอดหรือไม่รอด รอดต้องเชื่อพระเยซูเพราะพระองค์เป็นทางเดียว แต่สรุปต้องทำนู่นนี่นั่น ต้องทำเป้าหมายแคร์ เป้าหมายผู้เชื่อ เลี้ยงลูกแกะ ประกาศข่าวประเสริฐ เค้ายกพระคัมภีร์มาว่า ตอนพระองค์จะไปสวรรค์ได้บอกเปโตรก่อนไปว่า "ถ้ารักเราให้ดูแลลูกแกะของเรา" สรุปเราต้องทำทุกฐานะเลย ทำเหมือนเปโตร เชื่อเหมือนอับราฮัม สรรเสริญเหมือนดาวิด ต่อสู้เหมือนเปาโล แล้วความรักล่ะ ความรักแบบพระเยซูเค้าไม่ได้เน้นเลยในการใช้ชีวิต ประเด็นสำคัญคือการพาคนมาเชื่อเยอะๆและทำการงานของพระเจ้าเพื่อความรอด จริงๆเราก็ไม่ได้โต้แย้งเรื่องการรับใช้เท่าไหร่หรอกแต่จุดนึงเรารู้สึกว่านี่ไม่ใช่สันติสุขเลย หรือจะมีอะไรผิดพลาดนะ เราพลาดอะไรไปรึป่าว แต่ทั้งนี้เรายังคงรู้สึกรักพระเจ้าเหมือนเดิมเพราะรู้ว่าพระองค์ให้ความรักเรามาก่อน
ในบางเรื่องทำให้เรากลับมาตั้งข้อสงสัยในพระคัมภีร์ ทำไมพระเจ้าถึงได้โหดร้ายนักและโมโหง่ายในภาคพันธสัญญาเดิม แต่ใจดีเรื่องส่งพระเยซูมาไถ่บาปในพันธสัญญาใหม่ และการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องควรเป็นแบบไหน เราเชื่อพระคัมภีร์ในทุกข้อทุกตอนได้จริงๆเหรอ การบอกให้เชื่อทุกอย่างนั้นยากมาก ทำไมพระองค์อยากให้เราสรรเสริญพระองค์นัก เราเชื่ออย่างเดียวคือความรักที่ยิ่งใหญ่และการยอมตายของพระเยซู จะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อในพระคัมภีร์เพราะมันไม่รู้กี่พันปีอ่ะ เราควรเชื่อโดยไม่สงสัยจริงเหรอ เดี๋ยวจะตั้งกท.แยก
จริงๆเราเริ่มสนใจการใช้ชีวิตของคาทอลิกแล้วเหมือนกันแต่มีบางอย่างที่เราคิดว่ามันเกินไปในด้านความเชื่อ อย่างการมีรูปเคารพ การมีบทสวด บทบูชา การสวดสายประคำ คือพระเจ้าไม่ให้มีของพวกนี้ไม่ใช่เหรอ พวกคาทอลิกทำตามคำของพระเจ้าจริงไหม ชุดความคิดของคาทอลิกบนพื้นฐานพระคัมภีร์เป็นแบบไหน ถ้ารู้ช่วยตอบหน่อยนะ เพราะในด้านการใช้ชีวิตและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเราชอบมากๆเลย และดูจะมีความสุขกว่าโปรเตสแตนท์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จริงๆเราได้เห็นความรักจากพี่เลี้ยงเราและเชื่อในการที่เค้ารักและดูแลแกะของเค้ามากเลยนะ เค้าบอกที่เค้าทำได้เพราะเค้ารักพระเจ้า เราก็รักพี่เลี้ยงเราเหมือนกัน แต่บางอย่างเราว่ามันแปลกและขัดแย้งกันมาก อีกทั้งเค้าคาดหวังว่าพวกเราจะทำได้แบบที่อัครทูตทำ เค้าจะไม่หยุดเคี่ยวเข็ญจนกว่าเราจะพร้อมรับใช้ จนบางทีเรารู้สึกอึดอัดและไม่ได้รับสันติสุข บางทีเค้าโฟกัสที่จิตวิญญาณมากเกินพอดี เพื่อนเราที่เป็นรูมเมทเห็นเราใช้ชีวิตยังอึดอัดแทนเลย ตอนคุยกับพี่เลี้ยงเราเค้าก็อึดอัด เมทบอกว่าเค้าใจดีแต่ไม่มีใครโอเค จริงๆเราอยากค่อยเป็นค่อยไป อีกทั้งคำสอนหรือการตีความบางข้อบางตอนเรารับไม่ได้ จนเรามาทบทวนว่าพระเจ้าคือทางออกของชีวิตเราจริงไหม เรารู้ว่าพระเจ้ามีจริงเพราะมีประสบการณ์ส่วนตัว แต่สิ่งที่เราแสวงหาคือความสุขธรรมดาๆในชีวิต ความบาลานซ์ ไม่ใช่สุดโต่งในด้านใดด้านหนึ่ง และไม่ใช่การต่อสู้เพื่อไปสวรรค์ เพราะเรารู้ว่าสู้ไม่ได้ และเพราะพระเจ้ารู้จึงส่งพระเยซูลงมาไม่ใช่เหรอ
สิ่งที่ทำให้เรายังอยู่ตรงนี้ทั้งที่ไม่มีความสุขก็เพราะความรักนี่แหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอให้พระเจ้าทรงนำ
ไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ตัวเรา อยู่ที่การตีความพระคัมภีร์ของคริสตจักร หรืออยู่ที่ความน่าเชื่อถือของพระคัมภีร์กันแน่ ที่ทำให้เราทุกข์ใจ เรามีความคิดว่าเชื่อพระเจ้าโดยหลักการชาวพุทธได้ไหม หรือเอาข้อดีของแต่ละนิกายมารวมกันได้ไหมเพื่อที่เราจะได้ลองค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิตที่มีความสุข แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะไม่ทำคือละทิ้งความเชื่อที่มีต่อพระเจ้าและไม่ลืมความรักดั้งเดิมของพระเยซู
หวังว่าคริสตชนทุกคนจะเข้ามาตอบกันเยอะๆนะคะ ขอให้พระเจ้าอวยพรค่ะ
มีความทุกข์ใจกับแนวคิดของคริสตจักรที่เป็นสมาชิกอยู่และสงสัยเรื่องพระคัมภีร์ คาทอลิกมาตอบได้นะ แลกเปลี่ยนความคิดกัน
จากประเด็นกระทู้เราอ่านเรื่องพระพุทธเจ้ากับพระเจ้ามาบ้างว่าเกี่ยวข้องยังไง และอ่านแนวคิดของมุสลิมที่มีต่อพระเจ้าและพระเยซูมาบ้างเหมือนกัน ตอนนี้เราก็อยากจะตั้งกระทู้เองบ้างเพราะอยากรู้ว่าทุกคนคิดยังไง
-แนวคิด LGBT ห้ามอย่างชัดเจน เป็นเพศทางเลือกไม่ได้ ไม่ใช่แค่ไม่คบกับเพศเดียวกันแต่ต้องเป็นตามเพศสภาพที่ตัวเองเกิดเพราะพระเจ้าสร้างมาแค่ผญ/ผช ถ้าเป็นเค้าบอกว่าบาป ในพระคัมภีร์พระเจ้าห้าม ถ้าใครเป็นก่อนมาเชื่อพระเจ้าเค้าจะให้เราอธิษฐานขอให้พระเจ้าค่อยๆเปลี่ยนเหมือนไซโคเราอ่ะ หรือไม่ก็เป็นโสดรับใช้พระเจ้าตลอดชีวิต
เราคิดว่าหากมีความรักที่บริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง พระเจ้าจะอวยพรเสมอ เพราะพระเจ้าคือความรัก แต่อย่ามีการร่วมเพศเพราะพระเจ้าไม่ได้สร้างให้เพศเดียวกันมาร่วมเพศกัน และความรักกับความใคร่เป็นคนละเรื่องกัน
-แนวคิดการแต่งงานกับคริสเตียนเหมือนกัน เค้าบอกว่าเราต้องแต่งงานกับคริสเตียนเท่านั้นเพื่อที่ความเชื่อของเราทั้งคู่จะมีเท่าๆกัน การเติบโตในฝ่ายวิญญาณจะเท่ากัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรับใช้พระเจ้า และหากคนที่เราจะแต่งงานด้วยเข้ามาเชื่อเพราะรักเราแต่ไม่เชื่อในพระเจ้าก็ไม่ได้ ต้องรอให้เขาเติบโตฝ่ายวิญญาณก่อน
เราคิดว่าเรื่องความรักมันให้คำนิยามได้ยาก ไม่มีสูตรสำเร็จรูปว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ และเพราะความรักนั้นต้องรอคอยและอดทนนาน การค่อยๆเรียนรู้กันไปก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย อย่างน้อยเราจะได้ไม่เสียใจว่าตอนนั้นเราไม่ได้พยายามประคับประคองความรักนั้นเลย และต่อให้เขาไม่เชื่อเหมือนเราแต่ถ้าหากมีความรักอยู่กับเราทั้งสอง ไม่ว่ายังไงเราก็ไปกันได้ ถ้าเรา "รัก เข้าใจ ให้เกียรติ อดทน"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-การช่วยเหลือคนในวันอาทิตย์แบบเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากเราเรียนหมอและสงสัยว่าเราช่วยคนวันอาทิตย์ได้ไหม เราไม่ถือว่าทำงานแต่เป็นการช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก เค้าสอนเราว่า เราคิดว่าตัวเราไม่ถือแต่พระเจ้าจะพอพระทัยไหมที่เราไม่ไปนมัสการวันอาทิตย์เพราะพระเจ้าสร้างวันอาทิตย์ให้เราพักผ่อนและวางภาระงานเพื่อเข้ามาหาพระองค์ ข้อสำคัญคือพระเจ้าให้เรารักพระเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจ และประการต่อมาคือรักเพื่อนบ้านเหมือนตัวเอง ให้เราเลือกพระเจ้าก่อน ส่วนคนป่วยพระเจ้าก็จะดูแลชีวิตเค้าเอง
เราคิดว่าการที่เราช่วยคนอื่นนั่นแหละคือความรักที่เรามีต่อพระเจ้าที่เป็นรูปธรรมที่สุด ทำไมพระเจ้าถึงไม่พอพระทัย และมันคือความสุขที่ได้ทำ ไม่ใช่ภาระหนัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-การถวายตัวรับใช้และการประกาศ เราต้องรับใช้คริสจักรในส่วนงานใดซักส่วนหนึ่ง เค้าบอกว่าเพราะเราทุกคนมีของประทานที่พระเจ้าให้มาทำการงานของพระเจ้า เพราะในพระคัมภีร์พระเจ้าได้เลือกประชากรของพระองค์ไว้แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อ้าวววว เลือกไว้แล้วหมายความว่าไง งงมาก จริงๆเราศึกษาพระคัมภีร์มามีบางตอนที่ขัดแย้งกันจนเราคิดว่าตกลงมันจะยังไงวะ รอดหรือไม่รอด รอดต้องเชื่อพระเยซูเพราะพระองค์เป็นทางเดียว แต่สรุปต้องทำนู่นนี่นั่น ต้องทำเป้าหมายแคร์ เป้าหมายผู้เชื่อ เลี้ยงลูกแกะ ประกาศข่าวประเสริฐ เค้ายกพระคัมภีร์มาว่า ตอนพระองค์จะไปสวรรค์ได้บอกเปโตรก่อนไปว่า "ถ้ารักเราให้ดูแลลูกแกะของเรา" สรุปเราต้องทำทุกฐานะเลย ทำเหมือนเปโตร เชื่อเหมือนอับราฮัม สรรเสริญเหมือนดาวิด ต่อสู้เหมือนเปาโล แล้วความรักล่ะ ความรักแบบพระเยซูเค้าไม่ได้เน้นเลยในการใช้ชีวิต ประเด็นสำคัญคือการพาคนมาเชื่อเยอะๆและทำการงานของพระเจ้าเพื่อความรอด จริงๆเราก็ไม่ได้โต้แย้งเรื่องการรับใช้เท่าไหร่หรอกแต่จุดนึงเรารู้สึกว่านี่ไม่ใช่สันติสุขเลย หรือจะมีอะไรผิดพลาดนะ เราพลาดอะไรไปรึป่าว แต่ทั้งนี้เรายังคงรู้สึกรักพระเจ้าเหมือนเดิมเพราะรู้ว่าพระองค์ให้ความรักเรามาก่อน
ในบางเรื่องทำให้เรากลับมาตั้งข้อสงสัยในพระคัมภีร์ ทำไมพระเจ้าถึงได้โหดร้ายนักและโมโหง่ายในภาคพันธสัญญาเดิม แต่ใจดีเรื่องส่งพระเยซูมาไถ่บาปในพันธสัญญาใหม่ และการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องควรเป็นแบบไหน เราเชื่อพระคัมภีร์ในทุกข้อทุกตอนได้จริงๆเหรอ การบอกให้เชื่อทุกอย่างนั้นยากมาก ทำไมพระองค์อยากให้เราสรรเสริญพระองค์นัก เราเชื่ออย่างเดียวคือความรักที่ยิ่งใหญ่และการยอมตายของพระเยซู จะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อในพระคัมภีร์เพราะมันไม่รู้กี่พันปีอ่ะ เราควรเชื่อโดยไม่สงสัยจริงเหรอ เดี๋ยวจะตั้งกท.แยก
จริงๆเราเริ่มสนใจการใช้ชีวิตของคาทอลิกแล้วเหมือนกันแต่มีบางอย่างที่เราคิดว่ามันเกินไปในด้านความเชื่อ อย่างการมีรูปเคารพ การมีบทสวด บทบูชา การสวดสายประคำ คือพระเจ้าไม่ให้มีของพวกนี้ไม่ใช่เหรอ พวกคาทอลิกทำตามคำของพระเจ้าจริงไหม ชุดความคิดของคาทอลิกบนพื้นฐานพระคัมภีร์เป็นแบบไหน ถ้ารู้ช่วยตอบหน่อยนะ เพราะในด้านการใช้ชีวิตและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเราชอบมากๆเลย และดูจะมีความสุขกว่าโปรเตสแตนท์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ตัวเรา อยู่ที่การตีความพระคัมภีร์ของคริสตจักร หรืออยู่ที่ความน่าเชื่อถือของพระคัมภีร์กันแน่ ที่ทำให้เราทุกข์ใจ เรามีความคิดว่าเชื่อพระเจ้าโดยหลักการชาวพุทธได้ไหม หรือเอาข้อดีของแต่ละนิกายมารวมกันได้ไหมเพื่อที่เราจะได้ลองค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิตที่มีความสุข แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะไม่ทำคือละทิ้งความเชื่อที่มีต่อพระเจ้าและไม่ลืมความรักดั้งเดิมของพระเยซู
หวังว่าคริสตชนทุกคนจะเข้ามาตอบกันเยอะๆนะคะ ขอให้พระเจ้าอวยพรค่ะ