
Pain and glory
ความรู้สึกแรกหลังออกจากโรงคือจิตใจมันโศกเศร้าเหลือเกิน แต่ไม่ได้เศร้าแบบฟูมฟายนะ มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ดิ่งๆ หน่วงๆ นอยด์ๆ หน้าบูดเป็นตูดเป็ดพร้อมใจที่สั่นระริกระริกจนถึงบ้านเลยเอาจริง ตอนดูจบแรกๆ ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าความรู้สึกนี้คืออะไร แต่หลังจากได้นั่งคิดไปคิดมาระหว่างทางกลับบ้าน ก็พอเข้าใจความรู้สึกของตัวเองขึ้นมาอีกนิดแล้ว
ไม่อยากเล่าเรื่องย่อ เพราะไม่รู้จะเล่ายังไงดี55555 เอาเป็นว่าตามชื่อหนังเลยอ่ะ pain&glory ความเจ็บปวดและชื่อเสียง เป็นชื่อที่เรียบง่ายแต่เชื่อสิว่าไม่มีชื่อไหนที่เหมาะสมไปกว่านี้แล้ว ไม่ว่าพระเอกของเราอย่างซัลวาดอร์จะมีชื่อเสียง ผู้คนคลั่งไคล้ ชื่นชอบเขามากขนาดไหน แต่ pain ที่ฝังลึกอยู่ในใจเขามันก็ยังคงอยู่ หนังเรื่องนี้จะพาเราสำรวจตัว pain นี่แหละ ซัลวาดอร์จะก้าวข้ามอดีตที่ติดอยู่ในใจไปได้อย่างไร
หนังเรียบมาก ไม่มีไคลแมกซ์ ไม่มีความตื่นเต้นใดๆ เพราะหนังไม่ได้ขายความสนุก แต่หนังเรื่องนี้ขายอารมณ์อารมณ์ล้วนๆ ถ้าไม่อิน นี่จะเป็นหนังที่พาคุณหลับตลอดทั้งเรื่องจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นหนังสารคดีที่เล่าถึงเรื่องราวที่ติดค้างในใจคนๆ หนึ่ง ซึ่งสามารถทำให้คนดูเข้าใจราวกับเป็นตัวละครนั้นเอง
Pain&Glory ไม่ได้เล่าเรื่องราวเป็นเส้นตรง หนังตัดสลับไปมาตั้งแต่ปัจจุบัน วัยเด็ก ความคิด ภาพยนต์ ตอนแรกๆค่อนข้างสับสนว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมมาถึงพระเอกก็ดูเป็นคนซึมเศร้าขนาดนี้ พระเอกกับเพื่อนทะเลาะอะไรกัน (ซึ่งเราว่าเป็นเสน่ห์อย่างนึงของหนังเลยที่ทำให้เราค่อยๆ หาคำตอบไปพร้อมๆ กันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง) แต่พอหนังเริ่มเข้าที่เราก็เริ่มเข้าใจซัลวาดอร์มากขึ้น ถึงแม้หนังไม่ได้เกริ่นเล่าย้อนอดีตมากมาย แต่เรารู้สึกเหมือนได้เอาตัวเองไปทับเส้นซัลวาดอร์เลยอ่ะ อารมณ์ถูกส่งต่อมาได้ทั้งหมดเลยจริงๆ ไม่รู้จะชื่นชมผู้กำกับหรือนักแสดงดี
ตอนที่ดูคือหนังมันราบเรียบมากเลยนะ คิดว่าจะหลับ แต่มันไม่หลับซักที ตาตื่นตลอดทั้งๆ ที่ก็แค่เล่าเรื่องคนๆ นึงผ่านบทสนทนาล้วนๆ แต่หนังจับใจเราอยู่ พอดูจบ ตอนแรกอึ้งเลยนะ (หนังแกล้งเรายันตอนจบอ่ะคุณ เป็นการตัดจบที่อึ้งและทึ่งมาก สตั้นไปเลยทีเดียว) เดินออกจากโรงกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่ปั่นป่วน ตอนนี้เราพอรู้แล้วว่าอารมณ์นั้นคืออะไร ไม่แน่ใจว่าสปอยมั้ย ใครไม่อยากรู้อะไรก็ข้ามย่อหน้านี้ไปเนอะ หนังเรื่องนี้เล่าถึงความเจ็บปวดที่ซัลวาดอร์ต้องเผชิญมาตลอดเกือบ 50 ปี แต่คุณจะไม่เห็นพระเอกของเราร้องไห้เลยซักแอะ ไม่เลยจริงๆ มีเพียงใบหน้าและแววตาเศร้าๆ ของเค้าที่ส่งออกมาแทบจะตลอดทั้งเรื่อง เราว่าเพราะแบบนี้แหละ เพราะตัวเอกของเราไม่แม้แต่จะร้องไห้ออกมา ทำให้คนดูอย่างเราไม่กล้าที่จะร้องไห้ตาม (ทั้งๆ ที่พอมานั่งย้อนนึกอีกที สิ่งที่ซัลวาดอร์เจอมันโคตร impact ทุกเรื่องเลยนะ ทั้งอาการเจ็บป่วยที่เขาเป็นซึ่งรุนแรงมากๆ เรื่องของพ่อ แม่ การศึกษา ความยากจน ความรัก สังคมศาสนา ถ้าเป็นหนังเรื่องอื่นเราคงร้องไห้ตาบวมไปแล้ว) มันเลยเป็นเหมือนความเจ็บปวดที่แสดงออกมาไม่ได้ อึดอัดอยู่ในใจจนทำให้หัวใจเราดิ่งลึกลงเหวแม้จะออกจากโรงมาแล้ว (ซึ่งเราว่าผู้กำกับก็คงอยากให้ซัลวาดอร์รู้สึกแบบนี้แหละ เจ็บปวดมากแต่ไม่ได้แสดงออกให้ใครรู้ ได้แต่เก็บงำความรู้สึกเอาไว้ในใจ เราเลยบอกไงว่าเหมือนเอาตัวเราไปวางทับตัวเอกเลย ได้ความรู้สึกเดียวกันเป๊ะๆ)
ชื่นชม Antonio Banderas จากก้นลึกของจิตใจ สมน้ำสมเนื้อมากๆ ที่ได้เข้าชิงนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (พอได้ดูเรื่องนี้เราเชียร์เขามากกว่าวาคีน ฟีนิกซ์ ในบท jocker ซะอีก) ลุงแอนสามารถส่งต่อความรู้สึกในใจของเขาออกมาผ่านแววตาคู่นั้นได้ทั้งหมด มันต้องเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแบบไม่มีน้ำตาอ่ะคุณ คือแค่เข้าไปมองตา Antonio ตลอด 2 ชั่วโมงก็เศร้าสุดใจแล้ว บทซัลวาดอร์เนี่ยต้องส่งนัยน์ตาเศร้าๆ มาให้คนดูตลอดเรื่องใช่ป่ะ มันถึงขนาดว่ามีซีนนึงที่ซัลวาดอร์มีความสุขมากๆ ซีนนั้นคือช๊อตประทับใจเราเลยนะ แบบเราดีใจมากที่ในที่สุดเค้าก็ส่งยิ้มกว้างที่สุดออกมาซักที เราดีใจที่ในที่สุดคนๆ นี้ก็มีโมเม้นต์เล็กๆ ที่ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ถึงแม้ว่าตอนจบของซีนจะกลับมาส่งนัยน์ตาเศร้าๆ เหมือนเดิมก็ตามทีเถอะ
หนังติดเรท ฉ.20 (แต่บางโรงก็ไม่ตรวจนะ ลองถามพนักงานก่อนก็ได้) เพราะมีซีนเสพยาชัดๆ + ซีนของลับโจ๋งครึ่มอีก1 ซีน ซึ่งเราว่าเฉยๆ แหละ ไม่ได้มีอะไรหวือหวาเกินงาม ทีนี้ถ้าได้เข้าไปดูเราอยากให้ทุกคนลองสังเกตดู (สปอยอีกแล้วรึเปล่าไม่รู้ ไปดูมาก่อนค่อยอ่านก็ได้ว่าสังเกตเหมือนกันมั้ย555555) ว่าในทุกฉากเลยนะ มันจะต้องมีของสีแดงๆซักชิ้นนึงอยู่ในนั้น ตอนแรกเราไม่ได้คิดอะไรแต่พอดูๆ ไปมันก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เราไม่แน่ใจว่า ‘สี’ ที่ผู้กำกับใส่มาตั้งแต่หน้าโปสเตอร์หนังแล้วเนี่ยมันจะสื่อถึงอะไร เพราะตอนแรกคือมองข้ามไปเลย ใครมีความเห็นอะไรยังไงมาคุยๆเม้าๆ กันได้นะ (ถ้ามันไม่ได้มีความหมายอะไร เราก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าสีแดงแสบๆ นั่นมันทำให้ภาพดูสวยขึ้นมาแบบ 300% เหมือนมีจุดดึงสายตาเราอยู่ทุกซีน สวยมากๆ)
ทีนี้ ก่อนที่จะเข้าไปดูเราขอนิดนึงว่าคนอื่นอาจจะรู้สึกไม่ได้กับที่เรารู้สึก หนังไม่ได้ดูยากแต่ก็ค่อนข้างต้องโฟกัสพอสมควร (และเราเชื่อว่ามีอีกหลาย symbol ในหนังที่เราเก็บไม่หมด) ดังนั้นถ้าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ type ของคุณ ผลลัพธ์ที่คุณได้อาจไม่เหมือนกับเราก็ได้นะ ดังนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคนน้า (แต่อยากให้ลองได้ไปสัมผัสจริงๆ อ่ะแหละ)
********สปอยๆๆๆๆๆ*********
-ซีนจบเล่นเราหนักมาก สรุปว่าสิ่งที่หนังเล่ามาเป็นเพียงบทภาพยนต์ที่ซัลวาดอร์เขียนขึ้น มันทำให้เราไม่มีทางรู้เลยนะว่าสรุปแล้วเรื่องราววัยเด็กของซัลวาดอร์จริงๆ เป็นยังไง มันอาจจะมีความ pain ที่มากกว่าที่เขาเล่าผ่านหนังก็ได้ ใครจะรู้ คิดแบบนี้แล้วมันยิ่งเจ็บปวดเข้าไปใหญ่55555
-เราชอบคำว่า ‘นักแสดงที่ดีไม่ใช่นักแสดงที่ร้องไห้เก่ง แต่เป็นนักแสดงที่รู้วิธีกลั้นน้ำตาต่างหาก’ ประโยคนี้คือมันdescribe ความรู้สึกซัลวาดอร์ออกมาได้หมดแล้ว
-ว่ากันว่าตัวผู้กำกับเปโดรเนี่ยตั้งใจสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา base on สตอรี่ของตัวเขาเองส่วนนึงเลยนะ อาการหมดไฟการอภัย การใช้ชีวิต ความรัก อดีตที่หวนหา ซึ่งขนลุกมาก คือมันทำให้เรามองย้อนกลับไปหาตัวเองจริงๆ ว่าอดีตที่ผ่านมาเนี่ยมันยังมีอะไรที่ยังค้างคา เป็นความเจ็บปวดที่เราเลือกที่จะฝังมันไว้ตรงนั้น สุดท้ายแล้วมันก็ยังอยู่ตรงนั้น ไม่เคยหายไปไหน
-ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วตัวซัลวาดอร์จะมูฟออนได้ แต่ทางนี้มู้ปอรเป็นวงกลมเจ้าค่ะ ไปต่อไม่ได้555555
สรุปว่า ไม่รู้เราคิดไปเองรึเปล่าอ่ะนะ แต่เราชอบหนังเรื่องนี้มากๆ ถึงแม้ช่วงแรกจะยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางนัก คนดูก็ยังงงๆ สับสนไปกับหนัง แต่พอทุกอย่างเริ่มลงตัว เริ่มจับทางหนังได้ ท้ายที่สุดแล้วอารมณ์ทุกอย่างมันกระแทกเต็มกลางใจเลยจริงๆ อยากจะเข้าไปเก็บสิ่งที่พลาดไปอีกซักรอบเลย
PS หนังภาษาสเปนนะคะ ในฐานะคนเคยฝึกสเปนคือฟินมาก สำเนียงเพราะมากๆ จริงๆ แล้วมีหนังต่างประเทศที่ดีหลายๆ เรื่องเลย อย่างที่คุณผู้กำกับบองจุนโฮเคยพูดไว้ ถ้าคุณได้ก้าวข้ามกำแพงที่เรียกว่าซับไตเติ้ลไปได้แล้ว คุณจะเจอหนังคุณภาพอีกมากมายเลยค่ะ
9/10
ถ้าชอบการรีวิวครั้งนี้ สามารถติดตามรีวิวภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ได้ที่นี่เลยนะคะ
Facebook:
https://www.facebook.com/justsointoeverything
YouTube:
https://www.youtube.com/c/JanYourDiary/featured
Blogger:
https://iknowyouhavegoodtaste.blogspot.com
Blockdit:
https://www.blockdit.com/iknowyouhavegoodtaste
TikTok:
https://www.tiktok.com/@iknowyouhavegoodtaste?lang=th-TH
Instagram:
https://www.instagram.com/iknowyouhavegoodtaste/
[CR] [Review] Pain and Glory (2019) - แด่หนัง ชีวิต และความเจ็บปวด [9/10]
Pain and glory
ความรู้สึกแรกหลังออกจากโรงคือจิตใจมันโศกเศร้าเหลือเกิน แต่ไม่ได้เศร้าแบบฟูมฟายนะ มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ดิ่งๆ หน่วงๆ นอยด์ๆ หน้าบูดเป็นตูดเป็ดพร้อมใจที่สั่นระริกระริกจนถึงบ้านเลยเอาจริง ตอนดูจบแรกๆ ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าความรู้สึกนี้คืออะไร แต่หลังจากได้นั่งคิดไปคิดมาระหว่างทางกลับบ้าน ก็พอเข้าใจความรู้สึกของตัวเองขึ้นมาอีกนิดแล้ว
ไม่อยากเล่าเรื่องย่อ เพราะไม่รู้จะเล่ายังไงดี55555 เอาเป็นว่าตามชื่อหนังเลยอ่ะ pain&glory ความเจ็บปวดและชื่อเสียง เป็นชื่อที่เรียบง่ายแต่เชื่อสิว่าไม่มีชื่อไหนที่เหมาะสมไปกว่านี้แล้ว ไม่ว่าพระเอกของเราอย่างซัลวาดอร์จะมีชื่อเสียง ผู้คนคลั่งไคล้ ชื่นชอบเขามากขนาดไหน แต่ pain ที่ฝังลึกอยู่ในใจเขามันก็ยังคงอยู่ หนังเรื่องนี้จะพาเราสำรวจตัว pain นี่แหละ ซัลวาดอร์จะก้าวข้ามอดีตที่ติดอยู่ในใจไปได้อย่างไร
หนังเรียบมาก ไม่มีไคลแมกซ์ ไม่มีความตื่นเต้นใดๆ เพราะหนังไม่ได้ขายความสนุก แต่หนังเรื่องนี้ขายอารมณ์อารมณ์ล้วนๆ ถ้าไม่อิน นี่จะเป็นหนังที่พาคุณหลับตลอดทั้งเรื่องจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นหนังสารคดีที่เล่าถึงเรื่องราวที่ติดค้างในใจคนๆ หนึ่ง ซึ่งสามารถทำให้คนดูเข้าใจราวกับเป็นตัวละครนั้นเอง
Pain&Glory ไม่ได้เล่าเรื่องราวเป็นเส้นตรง หนังตัดสลับไปมาตั้งแต่ปัจจุบัน วัยเด็ก ความคิด ภาพยนต์ ตอนแรกๆค่อนข้างสับสนว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมมาถึงพระเอกก็ดูเป็นคนซึมเศร้าขนาดนี้ พระเอกกับเพื่อนทะเลาะอะไรกัน (ซึ่งเราว่าเป็นเสน่ห์อย่างนึงของหนังเลยที่ทำให้เราค่อยๆ หาคำตอบไปพร้อมๆ กันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง) แต่พอหนังเริ่มเข้าที่เราก็เริ่มเข้าใจซัลวาดอร์มากขึ้น ถึงแม้หนังไม่ได้เกริ่นเล่าย้อนอดีตมากมาย แต่เรารู้สึกเหมือนได้เอาตัวเองไปทับเส้นซัลวาดอร์เลยอ่ะ อารมณ์ถูกส่งต่อมาได้ทั้งหมดเลยจริงๆ ไม่รู้จะชื่นชมผู้กำกับหรือนักแสดงดี
ตอนที่ดูคือหนังมันราบเรียบมากเลยนะ คิดว่าจะหลับ แต่มันไม่หลับซักที ตาตื่นตลอดทั้งๆ ที่ก็แค่เล่าเรื่องคนๆ นึงผ่านบทสนทนาล้วนๆ แต่หนังจับใจเราอยู่ พอดูจบ ตอนแรกอึ้งเลยนะ (หนังแกล้งเรายันตอนจบอ่ะคุณ เป็นการตัดจบที่อึ้งและทึ่งมาก สตั้นไปเลยทีเดียว) เดินออกจากโรงกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่ปั่นป่วน ตอนนี้เราพอรู้แล้วว่าอารมณ์นั้นคืออะไร ไม่แน่ใจว่าสปอยมั้ย ใครไม่อยากรู้อะไรก็ข้ามย่อหน้านี้ไปเนอะ หนังเรื่องนี้เล่าถึงความเจ็บปวดที่ซัลวาดอร์ต้องเผชิญมาตลอดเกือบ 50 ปี แต่คุณจะไม่เห็นพระเอกของเราร้องไห้เลยซักแอะ ไม่เลยจริงๆ มีเพียงใบหน้าและแววตาเศร้าๆ ของเค้าที่ส่งออกมาแทบจะตลอดทั้งเรื่อง เราว่าเพราะแบบนี้แหละ เพราะตัวเอกของเราไม่แม้แต่จะร้องไห้ออกมา ทำให้คนดูอย่างเราไม่กล้าที่จะร้องไห้ตาม (ทั้งๆ ที่พอมานั่งย้อนนึกอีกที สิ่งที่ซัลวาดอร์เจอมันโคตร impact ทุกเรื่องเลยนะ ทั้งอาการเจ็บป่วยที่เขาเป็นซึ่งรุนแรงมากๆ เรื่องของพ่อ แม่ การศึกษา ความยากจน ความรัก สังคมศาสนา ถ้าเป็นหนังเรื่องอื่นเราคงร้องไห้ตาบวมไปแล้ว) มันเลยเป็นเหมือนความเจ็บปวดที่แสดงออกมาไม่ได้ อึดอัดอยู่ในใจจนทำให้หัวใจเราดิ่งลึกลงเหวแม้จะออกจากโรงมาแล้ว (ซึ่งเราว่าผู้กำกับก็คงอยากให้ซัลวาดอร์รู้สึกแบบนี้แหละ เจ็บปวดมากแต่ไม่ได้แสดงออกให้ใครรู้ ได้แต่เก็บงำความรู้สึกเอาไว้ในใจ เราเลยบอกไงว่าเหมือนเอาตัวเราไปวางทับตัวเอกเลย ได้ความรู้สึกเดียวกันเป๊ะๆ)
ชื่นชม Antonio Banderas จากก้นลึกของจิตใจ สมน้ำสมเนื้อมากๆ ที่ได้เข้าชิงนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (พอได้ดูเรื่องนี้เราเชียร์เขามากกว่าวาคีน ฟีนิกซ์ ในบท jocker ซะอีก) ลุงแอนสามารถส่งต่อความรู้สึกในใจของเขาออกมาผ่านแววตาคู่นั้นได้ทั้งหมด มันต้องเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแบบไม่มีน้ำตาอ่ะคุณ คือแค่เข้าไปมองตา Antonio ตลอด 2 ชั่วโมงก็เศร้าสุดใจแล้ว บทซัลวาดอร์เนี่ยต้องส่งนัยน์ตาเศร้าๆ มาให้คนดูตลอดเรื่องใช่ป่ะ มันถึงขนาดว่ามีซีนนึงที่ซัลวาดอร์มีความสุขมากๆ ซีนนั้นคือช๊อตประทับใจเราเลยนะ แบบเราดีใจมากที่ในที่สุดเค้าก็ส่งยิ้มกว้างที่สุดออกมาซักที เราดีใจที่ในที่สุดคนๆ นี้ก็มีโมเม้นต์เล็กๆ ที่ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ถึงแม้ว่าตอนจบของซีนจะกลับมาส่งนัยน์ตาเศร้าๆ เหมือนเดิมก็ตามทีเถอะ
หนังติดเรท ฉ.20 (แต่บางโรงก็ไม่ตรวจนะ ลองถามพนักงานก่อนก็ได้) เพราะมีซีนเสพยาชัดๆ + ซีนของลับโจ๋งครึ่มอีก1 ซีน ซึ่งเราว่าเฉยๆ แหละ ไม่ได้มีอะไรหวือหวาเกินงาม ทีนี้ถ้าได้เข้าไปดูเราอยากให้ทุกคนลองสังเกตดู (สปอยอีกแล้วรึเปล่าไม่รู้ ไปดูมาก่อนค่อยอ่านก็ได้ว่าสังเกตเหมือนกันมั้ย555555) ว่าในทุกฉากเลยนะ มันจะต้องมีของสีแดงๆซักชิ้นนึงอยู่ในนั้น ตอนแรกเราไม่ได้คิดอะไรแต่พอดูๆ ไปมันก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เราไม่แน่ใจว่า ‘สี’ ที่ผู้กำกับใส่มาตั้งแต่หน้าโปสเตอร์หนังแล้วเนี่ยมันจะสื่อถึงอะไร เพราะตอนแรกคือมองข้ามไปเลย ใครมีความเห็นอะไรยังไงมาคุยๆเม้าๆ กันได้นะ (ถ้ามันไม่ได้มีความหมายอะไร เราก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าสีแดงแสบๆ นั่นมันทำให้ภาพดูสวยขึ้นมาแบบ 300% เหมือนมีจุดดึงสายตาเราอยู่ทุกซีน สวยมากๆ)
ทีนี้ ก่อนที่จะเข้าไปดูเราขอนิดนึงว่าคนอื่นอาจจะรู้สึกไม่ได้กับที่เรารู้สึก หนังไม่ได้ดูยากแต่ก็ค่อนข้างต้องโฟกัสพอสมควร (และเราเชื่อว่ามีอีกหลาย symbol ในหนังที่เราเก็บไม่หมด) ดังนั้นถ้าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ type ของคุณ ผลลัพธ์ที่คุณได้อาจไม่เหมือนกับเราก็ได้นะ ดังนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคนน้า (แต่อยากให้ลองได้ไปสัมผัสจริงๆ อ่ะแหละ)
********สปอยๆๆๆๆๆ*********
-ซีนจบเล่นเราหนักมาก สรุปว่าสิ่งที่หนังเล่ามาเป็นเพียงบทภาพยนต์ที่ซัลวาดอร์เขียนขึ้น มันทำให้เราไม่มีทางรู้เลยนะว่าสรุปแล้วเรื่องราววัยเด็กของซัลวาดอร์จริงๆ เป็นยังไง มันอาจจะมีความ pain ที่มากกว่าที่เขาเล่าผ่านหนังก็ได้ ใครจะรู้ คิดแบบนี้แล้วมันยิ่งเจ็บปวดเข้าไปใหญ่55555
-เราชอบคำว่า ‘นักแสดงที่ดีไม่ใช่นักแสดงที่ร้องไห้เก่ง แต่เป็นนักแสดงที่รู้วิธีกลั้นน้ำตาต่างหาก’ ประโยคนี้คือมันdescribe ความรู้สึกซัลวาดอร์ออกมาได้หมดแล้ว
-ว่ากันว่าตัวผู้กำกับเปโดรเนี่ยตั้งใจสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา base on สตอรี่ของตัวเขาเองส่วนนึงเลยนะ อาการหมดไฟการอภัย การใช้ชีวิต ความรัก อดีตที่หวนหา ซึ่งขนลุกมาก คือมันทำให้เรามองย้อนกลับไปหาตัวเองจริงๆ ว่าอดีตที่ผ่านมาเนี่ยมันยังมีอะไรที่ยังค้างคา เป็นความเจ็บปวดที่เราเลือกที่จะฝังมันไว้ตรงนั้น สุดท้ายแล้วมันก็ยังอยู่ตรงนั้น ไม่เคยหายไปไหน
-ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วตัวซัลวาดอร์จะมูฟออนได้ แต่ทางนี้มู้ปอรเป็นวงกลมเจ้าค่ะ ไปต่อไม่ได้555555
สรุปว่า ไม่รู้เราคิดไปเองรึเปล่าอ่ะนะ แต่เราชอบหนังเรื่องนี้มากๆ ถึงแม้ช่วงแรกจะยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางนัก คนดูก็ยังงงๆ สับสนไปกับหนัง แต่พอทุกอย่างเริ่มลงตัว เริ่มจับทางหนังได้ ท้ายที่สุดแล้วอารมณ์ทุกอย่างมันกระแทกเต็มกลางใจเลยจริงๆ อยากจะเข้าไปเก็บสิ่งที่พลาดไปอีกซักรอบเลย
PS หนังภาษาสเปนนะคะ ในฐานะคนเคยฝึกสเปนคือฟินมาก สำเนียงเพราะมากๆ จริงๆ แล้วมีหนังต่างประเทศที่ดีหลายๆ เรื่องเลย อย่างที่คุณผู้กำกับบองจุนโฮเคยพูดไว้ ถ้าคุณได้ก้าวข้ามกำแพงที่เรียกว่าซับไตเติ้ลไปได้แล้ว คุณจะเจอหนังคุณภาพอีกมากมายเลยค่ะ
9/10
ถ้าชอบการรีวิวครั้งนี้ สามารถติดตามรีวิวภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ได้ที่นี่เลยนะคะ
Facebook: https://www.facebook.com/justsointoeverything
YouTube: https://www.youtube.com/c/JanYourDiary/featured
Blogger: https://iknowyouhavegoodtaste.blogspot.com
Blockdit: https://www.blockdit.com/iknowyouhavegoodtaste
TikTok: https://www.tiktok.com/@iknowyouhavegoodtaste?lang=th-TH
Instagram: https://www.instagram.com/iknowyouhavegoodtaste/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้