เขียนกระทู้ส่งเดช ทำคนค้าขายเดือดร้อน

เขียนกระทู้ส่งเดช ทำคนค้าขายเดือดร้อน 
ว่าจะไม่เขียนละ แต่เริ่มไม่ไหวจริงๆ 

เนื่องจากอ่านกระทู้นี้มา
https://pantip.com/topic/39623976?fbclid=IwAR16w8I4VjmIpGHL3dG3r5sDD34_y4cELfmgc_xSAzR6PvQBq68p5RmAf0E

                จริงๆแล้วห้างนี้ก็ยังเปิดตามปกติ ธุรกิจก็ยังดำเนินต่อไปทุกวัน เหตุเพราะเพื่อแสดงความคิดเห็นที่คุณเหมือนจะหวังดี ให้ทุกคนเตรียมตัวระมัดระวังการทำมาหากิน บลาๆ  แต่ดันหยิบยกเคส*****มาอย่างชัดเจน พร้อมภาพถ่าย ************************* ผลกกระทบตกที่คนที่ยังอยู่นะคะ ลูกค้าเขาจะตัดสินพวกเรายังไง
                การที่คุณนำเรื่องนี้ในมุมมองของคุณมาตีแผ่***  โดยไม่ได้หันมามองในด้านของคนที่ยังอยู่**** ไม่มีการเซ็นเซอร์  กลุ่มคนที่เขายังทำมาหากินในห้างนี้เช่นเรา  พวกรับจ้าง ขายของให้กับร้านเจ้ประกอบคอมที่นี่มาตลอดชีวิต เพื่อหาเลี้ยงปากท้อง  และก็ยังมีคนที่ยังเปิดร้านตามปกติหลายร้าน  เรายังคงขายของในตึกนี้  มีลมหายใจ ของพวกเรามากมายที่รอความหวังเหมือนทุกธุรกิจอื่น**  ยังมีช่างซ่อมคอมที่มีกลุ่มลูกค้าประจำ ร้านเก่าแก่ที่ปรับตัวขายออนไลน์ แต่มีที่นี่เป็นหน้าร้าน ............
                ก็ยังมีลูกค้าให้ความไว้วางใจมาใช้บริการ .....  ยังมีพนักงานขายในนี้ที่ต้องทำยอด และคนทำงานที่อาศัยอยู่แถบย่านนี้ ลูกจ้าง คนงาน 
                แต่เจอการเขียนข่าวแบบนี้เรียกว่าขาดความไตรตรองมากนะคะ 
                เราขายของในห้างนี้อยู่ตลอด  ร้านค้าที่เปิดอยู่คุณก็ไม่ได้ถ่ายรูปมาลง แบบนี้คุณมีจิตใจที่สกปรกมากนะคะ เราเข้าใจนะคะว่าคุณต้องการตีแผ่ในแง่ว่าเศรษฐกิจไม่ดี ซื้อออนไลน์ อะไรต่าง ๆ แต่การตีแผ่ในมุมมองของคุณ มันยิ่งทำร้ายพวกเราที่ยังเปิดร้านขายของ และธุรกิจที่ยังต้องดำเนินต่อไปนะคะ

ปล.ทุกวันนี้ทุกคนมีสื่ออยู่ในมือ เวลาจะเขียนอะไรก็อยากให้เอาใจเข้ามาใส่ใจเราเหมือนกันค่ะ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
ผม จขกท. โน้น กระทู้ต้นเรื่องนะครับ ขออนุญาตแสดงความเห็นประกบทีละเรื่องดังนี้:
ตัวเอียงคือข้อความของคุณ จขกท. นี้นะครับ

เขียนกระทู้ส่งเดช ทำคนค้าขายเดือดร้อน
>> นิยาม "ส่งเดช" ให้หน่อยครับ ถ้างานเขียนที่บอกเล่าสิ่งที่พบเห็นถือเป็นเรื่องส่งเดช งั้นรายงานข่าวเศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ ของทุกสำนักข่าว ก็คงเข้าข่ายด้วยกันทั้งสิ้น
>> รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่ไปแล้วไม่ประทับใจ = ทำไม่ได้ = เพราะทำให้เจ้าของสถานที่ท่องเที่ยวเดือดร้อน
>> รีวิวร้านอาหารที่อาหารไม่ถูกปาก = ทำไม่ได้ = เพราะทำให้เจ้าของร้านอาหารเดือดร้อน
>> รีวิวสินค้าที่ไม่ถูกใจ = ทำไม่ได้ = เพราะทำให้เจ้าของสินค้าเดือดร้อน
>> รีวิวเครือข่ายมือถือที่ไม่เร็วและแรง = ทำไม่ได้ = เพราะทำให้เจ้าของเครือข่ายมือถือเดือดร้อน
>> รีวิวบั๊กบนมือถือ = ทำไม่ได้ = เพราะทำให้เจ้าของแบรนด์มือถือเดือดร้อน
>> ถ้าใช้ตรรกะเดียวกัน เราควรปิดข่าวเรื่องไวรัสโคโรนาให้เงียบที่สุด เพราะทำให้ภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล .... เดือดร้อน

ว่าจะไม่เขียนละ แต่เริ่มไม่ไหวจริงๆ
>> เขียนเถอะครับ

เนื่องจากอ่านกระทู้นี้มา
https://pantip.com/topic/39623976?fbclid=IwAR16w8I4VjmIpGHL3dG3r5sDD34_y4cELfmgc_xSAzR6PvQBq68p5RmAf0E

>> กระทู้ของผมเองครับ

จริงๆแล้วห้างนี้ก็ยังเปิดตามปกติ ธุรกิจก็ยังดำเนินต่อไปทุกวัน
>> ผมก็ไม่ได้บอกเลยว่าห้างปิดครับ คือ มันแค่ต่างจากความทรงจำของผม (และของคนอื่นๆ ตามที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกัน ....)

เหตุเพราะเพื่อแสดงความคิดเห็นที่คุณเหมือนจะหวังดี ให้ทุกคนเตรียมตัวระมัดระวังการทำมาหากิน บลาๆ  
>> เข้าใจผิดละครับ ผมวิพากษ์ตลาดไอทีในฐานะคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการนี้มานาน และผมไม่ได้สนใจคุณเลยครับ ผมเขียนเพื่อบันทึกความทรงจำและชวนคนอื่นที่รุ่นเดียวกันมาแชร์เรื่องราวในอดีต

แต่ดันหยิบยกเคส*****มาอย่างชัดเจน พร้อมภาพถ่าย *************************
>> งานเขียนที่ดี คือ งานเขียนที่ชัดเจนครับ ไม่ใช่เขียนอะไรคลุมเครือ

ผลกกระทบตกที่คนที่ยังอยู่นะคะ ลูกค้าเขาจะตัดสินพวกเรายังไง
>> ลูกค้าเป็นเจ้าของเงินครับ ที่จริงมันก็ซบเซาแบบนี้มานานแล้ว ดังนั้นคุณได้รับผลกระทบมานานแล้วครับ ด้วยหลายปัจจัยตามที่เพื่อนๆ ได้แชร์กัน

การที่คุณนำเรื่องนี้ในมุมมองของคุณมาตีแผ่***  โดยไม่ได้หันมามองในด้านของคนที่ยังอยู่**** ไม่มีการเซ็นเซอร์  กลุ่มคนที่เขายังทำมาหากินในห้างนี้เช่นเรา  พวกรับจ้าง ขายของให้กับร้านเจ้ประกอบคอมที่นี่มาตลอดชีวิต เพื่อหาเลี้ยงปากท้อง  และก็ยังมีคนที่ยังเปิดร้านตามปกติหลายร้าน  เรายังคงขายของในตึกนี้  มีลมหายใจ ของพวกเรามากมายที่รอความหวังเหมือนทุกธุรกิจอื่น**  ยังมีช่างซ่อมคอมที่มีกลุ่มลูกค้าประจำ ร้านเก่าแก่ที่ปรับตัวขายออนไลน์ แต่มีที่นี่เป็นหน้าร้าน ............
>> ถ้าผมไม่ตีแผ่มุมมองของผม จะให้ผมตีแผ่มุมมองของใคร? ในเมื่อผมล้วงไปในสมองคนอื่นไม่ได้ และเรื่องที่ถ่ายทอดก็เป็นข้อเท็จจริง
>> หรือถ้าจะให้ถูกใจผมต้องไปนั่งรีวิวทุกร้านที่เปิด ไปสัมภาษณ์ ไปถ่ายรูปมาลง? จ้างผมมั้ยครับ? วันนั้นผมไปจอดรถ เดินวนๆ ดูของแต่ไม่ได้ของที่ต้องการ เห็นสภาพห้างแล้วก็นึกถึงความหลัง ก็แค่นั้นครับ
>> คนทำมาหากินน่าเห็นใจหมดละครับ แต่ถ้าเป็นผม ผมก็จะมานั่ง "รีวิว" ตัวเองและร้านของตัวเอง ว่าเหตุเกิดเพราะอะไรที่มันกลายมาเป็นสภาพแบบนี้ จะหาทางแก้อย่างไร จะทำยังไงให้ลูกค้ารู้สึกไว้ใจ จะทำยังไงให้ลูกค้าหลงรัก จะทำยังไงให้มีภาพลักษณ์มืออาชีพ จะทำยังไงให้ลูกค้าสัมผัสถึงความจริงใจ
>> และที่จริงคุณอยู่ที่นั่น คุณน่าจะ "ถ่ายรูป" ทุกๆ ร้านที่เปิดกิจการ มารีวิวนะครับว่า แต่ละร้านขายอะไร ราคาเทียบกับที่อื่นเป็นอย่างไร ทำไมถึงต้องซื้อของร้านนี้ ช่างคนนี้เก่งกว่าคนอื่นอย่างไร มีโปรโมชันอะไร ร้านที่ปรับตัวไปขายออนไลน์ขายที่ไหนเว็บอะไร ถ้าลูกค้าถือของหนักๆ จะช่วยถือของข้ามถนนไปเรียกรถมั้ย (ร้านเดิมของผมอย่างอิทธิพัฒน์ ช่วยผมแบกคอมฯ ไปที่รถหรือเรียกรถตลอดทุกครั้งโดยไม่ต้องร้องขอ เป็นต้น) เรียกว่ามีบริการอะไรที่ดี ก็ไปรีวิวมาครับ -- นี่คือทางต่อลมหายใจโดยพึ่งพาตัวเอง

ก็ยังมีลูกค้าให้ความไว้วางใจมาใช้บริการ .....  ยังมีพนักงานขายในนี้ที่ต้องทำยอด และคนทำงานที่อาศัยอยู่แถบย่านนี้ ลูกจ้าง คนงาน
>> ดีแล้วครับ

แต่เจอการเขียนข่าวแบบนี้เรียกว่าขาดความไตรตรองมากนะคะ
>> ต้องรบกวนแจ้งหน่อยว่า ผมเขียนตรงไหนผิดครับ ถ้ายังงงๆ ก็ย้อนกลับไปอ่านด้านบนๆ นะครับ

เราขายของในห้างนี้อยู่ตลอด  ร้านค้าที่เปิดอยู่คุณก็ไม่ได้ถ่ายรูปมาลง แบบนี้คุณมีจิตใจที่สกปรกมากนะคะ
>> จิตใจสกปรก คือ จิตใจที่มีโทสะ มองความโดยตั้งมั่นบนพื้นฐานและเส้นกรอบที่ล้อมรอบตัวเองครับ
>> บทความของผมเป็นเรื่องราวบอกเล่าอดีตและชักชวนกันระลึกความหลัง (ย้อนกลับไปอ่านบนๆ นะครับ) และยังงงกับนิยาม "สกปรก" ที่ยัดเยียดเข้ามาให้ผม
>> เรื่องนี้ผมว่าสมาชิกและผู้อ่าน รวมถึงตัวคุณ สามารถตัดสินใจกันเองได้ว่า งานเขียนอันสกปรกเป็นอย่างไร มุมมองของคุณผมไม่แตะต้องครับ
>> มีเรื่องเดียวที่มั่นใจคือ เป็นบทความที่เขียนขึ้นโดยบริสุทธิ์ใจ เพราะมันคือความทรงจำของผม -- ถ้าจะมีสกปรกบ้าง ก็คงเรื่องความทรงจำเรื่อง "โป๊มั้ยพี่....ๆๆๆๆ" แค่นี้ครับ ยิ้ม
>> ปล. ไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะถ่ายรูปร้านที่เปิดมาลงครับ และรูปเปิดก็บอกอยู่แล้วว่า ก็มีคนขายของอยู่ -- ดังนั้นย้อนกลับไปอ่านด้านบนว่า คุณควรเป็นคนถ่ายและรีวิวร้านที่เปิดมาครับ เดี๋ยวผมรออ่าน

เราเข้าใจนะคะว่าคุณต้องการตีแผ่ในแง่ว่าเศรษฐกิจไม่ดี ซื้อออนไลน์ อะไรต่าง ๆ แต่การตีแผ่ในมุมมองของคุณ มันยิ่งทำร้ายพวกเราที่ยังเปิดร้านขายของ และธุรกิจที่ยังต้องดำเนินต่อไปนะคะ
>> ผมเข้าใจว่า คุณน่าจะอ่านภาษาไทยไม่แตกนะครับ ผมไม่ได้ไล่จริงจัง แต่บทความผม "ไม่มีคำว่า เศรษฐกิจ" ... แต่ผมยังไม่ได้เช็กละเอียดว่ามีตรงจุดไหนที่ผมไปเขียนจนคุณเข้าใจว่าเศรษฐกิจไม่ดี เดี๋ยวว่างจะกลับไปอ่าน นี่แวะมาตอบเพราะมีคนทักมา
>> ส่วนการตีแผ่ของผม ถ้ามันจะทำร้ายพวกคุณ ต้องเรียนว่า ผมไม่ได้มีเจตนา แต่ผมไม่สามารถขอโทษได้ครับ เหตุผลก็เป็นไปตามที่ชี้แจงข้างต้น ย้อนไปอ่านดูนะครับ

ปล.ทุกวันนี้ทุกคนมีสื่ออยู่ในมือ เวลาจะเขียนอะไรก็อยากให้เอาใจเข้ามาใส่ใจเราเหมือนกันค่ะ
>> ผมสนใจเรื่องข้อเท็จจริงมากกว่าครับ เพราะใจเขาใจเรามันคือความรู้สึก ข้อเท็จจริงมันคือรูปธรรม แต่ไม่ใช่ไม่เห็นใจนะครับ ท้ายสุดถ้าต้องเลือก ผมยังยึดข้อเท็จจริงเหมือนเดิม
>> สมมติว่าไทยสนใจเรื่องเอาใจเขามาใส่ใจเรา กลัวว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวจะพังเป็นระนาบ ง่ายๆ ครับ ก็แค่ประกาศว่า ประเทศไทยปลอดเชื้อโควิค-19 ... เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ; บางที "เขา" และ "เรา" มันมีหลากฝั่งหลายฝ่ายหลายบริบท ที่แน่ๆ คือ ไม่มีเรื่องใดที่จะถูกใจ "ทุกคน" ครับ ซึ่งหากคุณไม่ถูกใจ ก็เชิญบรรยายความรู้สึกได้แบบในกระทู้นี้ ผมและคนอื่นๆ ก็จะเข้าใจ

-------------------

ตอบหมดแล้ว ครบถ้วนนะครับ

ท้ายสุด: ใช้เวลาให้เยอะเพื่อมองหาทางแก้ปัญหาที่เป็นปัจจัยหลักครับ เรื่องกระทู้เป็นเรื่องที่เสียเวลามานั่งคิดมาก ปัญหาสำคัญอยู่ตรงไหนไปแก้ตรงนั้น แก้ไม่ได้ ก็ปรึกษาคนอื่น อย่ามัวเสียเวลากับเรื่องไร้สาระแบบกระทู้ของผม

ท้ายสุดๆ: สิ่งที่รู้สึกสำนึกผิดมากก็คือ การลืมนึกไปว่าบางคน "ไม่อ่าน" แต่ชอบแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นเรื่องชวนหดหู่ครับ เศร้า

ท้ายสุดๆๆ: หวังว่าคุณ จขกท. นี้ จะเข้ามา "อ่าน" นะครับ และหากอยากตอบกลับ รบกวนตอบกลับมาเป็นประเด็นๆ จะได้เข้าใจตรงกันและพูดเรื่องเดียวกัน เพราะพูดรวมๆ บางทีทำให้ผมต้องอธิบายยาวๆ ให้ครอบคลุมทุกอย่าง และอาจทำให้บางท่าน "ไม่อ่าน" เข้าไปอีก
ความคิดเห็นที่ 6
กระทู้นั้นเราอ่านทุกตัวอักษร เข้าใจว่าห้างยังเปิดปกตินะคะ เพียงแต่เงียบเหงาลงและปิดไฟมืดไปสองชั้น

แต่ถ้ามีการหยิกยกเคส...... พร้อมภาพถ่ายมา จนคนเข้าใจผิด ทาง จขกท นั้นก็สมควรชี้แจงแก้ไขเนื้อหากระทู้ให้ค่ะ หลังไมค์ไปด้วยเลย เพราะเราคนนอกที่ไม่เคยไปห้างนั้นมาตั้งยี่สิบปีแล้ว ก็ไม่รู้ว่าร้านไหนปิดจริง ร้านไหนยังเปิดอยู่
ความคิดเห็นที่ 72
ผมเข้าใจนะ

กระทู้นู้นพาดหัว  เหลือไว้แค่ความทรงจำ  ....  คือสำหรับประโยคนี้  มันใช้สำหรับการปิดกิจการนะครับ

ต้องอ่านกระทู้ ถึงจะรู้ว่ายังไม่ได้ปิด

แถมกระทู้พันทิปถูกแชร์ไปหลายแพทฟอร์ม  ส่วนมากคนอ่าน ก็อ่านแต่หัวข้อทั้งนั้น


ดังนั้น ผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบจากกระทู้นั้น ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้มากครับ เพราะกระทู้นั้นผมเห็นในเฟซ มีคนสนใจเยอะอยู่  แต่ธรรมชาติของคนทั่วไปที่ไม่ใช่สมาชิกพันทิป เขาจะอ่านแต่พาดหัวนะครับ  ไม่ค่อยคลิกมายังลิงค์ต้นทางเท่าไหร่   คืออัตราการคลิ้กลิงค์จาก facebook สู่เว็บภายนอกมันไม่ได้เยอะมากครับ  

อันนี้คือกรณีของคนอ่านไม่ครบนะ


ส่วนกรณีคนอ่านครบ  ผมว่ากระทู้นั้นก็สร้างความรู้สึกว่า ห้างมันไม่น่าไปจริงๆนั่นแหล่ะ  ใครจะไปอยากเดินห้างที่เงียบเหงาขนาดนั้น

วัดจากความรู้สึกผมเองนะ  ว่าอ่านกระทู้แล้ว รู้สึกอย่างไร  1. อ่านแล้วรู้สึกอยากไปเพิ่มขึ้น 2. รู้สึกเหมือนเดิม 3. รู้สึกไม่น่าไปเดิน

ความรู้สึกผมคือแบบที่ 3. ครับ  คือกระทู้นั้นทำให้รู้สึกไม่อยากไปเดินห้างนี้ ( แต่ความเห็นเรื่องที่จอดรถว่าง ถือว่าเป็นบวกต่อความรู้สึกผมนะ)

ดังนั้น ผู้ประกอบการจะโกรธ ผมว่าเป็นเรื่องเข้าใจได้  

แต่อีกเรื่องนึงคือ เราก็ต้องยอมรับด้วย ว่ากระทู้ต้นเรื่องนั้น มันเป็นเรื่องจริง ยกเว้นพาดหัวที่บอกว่า  เหลือไว้เพียงความทรงจำ  ที่ผมมองว่าเป็นการใช้คำที่เกินจริงไปซักหน่อย  

ขอถกคำว่า เหลือไว้เพียงความทรงจำหน่อย  คำๆนี้ถ้าใช้กับคน  แปลว่าคนๆนั้นต้องตายนะครับ เราไม่ใช้กับคนบาดเจ็บหรือพิการ  ถ้าใกล้ตายแล้วบอกเหลือไว้เพียงความทรงจำ คือแช่งให้ตายนั่นแหล่ะ

ใช้กับทางอาชีพ  เช่น  นักกีฬา  ก็ต้องเลิกเล่น  ไม่ใช่แค่ฟอร์มตก

ใช้กับกิจการ  คือ ปิดเลย  ไม่ใช่แค่ร่อแร่ ถ้าแค่ร่อแร่เรายังไม่ใช้คำนี้

หรือถ้าใช้กับความหมายเจาะจงเฉพาะ  จะเขียนขยายให้ชัดเจนครับ  เช่นถ้าพูดถึงกิจการที่ยังไม่ปิดแต่แย่ลงมาก อยากใช้คำนี้  ต้องขยายให้ชัด  เช่น ความรุ่งเรืองของร้านอาหารนี้คงเหลือไว้แค่ความทรงจำเท่านั้น   ถ้าขยายแบบนี้  คือความรุ่งเรืองหายไป แต่กิจการยังปืดหรือไม่ปิดก็ได้

ถ้าขยายว่า รสชาตที่อร่อยของร้านนึ้เหลือไว้เพียงความทรงจำเท่านั้น  แปลว่าปัจจุบันร้านนี้ไม่อร่อยแล้ว แต่ร้านปิดหรือไม่ปิดไม่ได้บอกไว้


แต่ถ้าบอกว่า   ร้านอาหารนี้เหลือเพียงความทรงจำเท่านั้น  กรณีนี้คือร้านต้องปิดเท่านั้น ไม่สามารถตีความแบบอื่นได้    

ความคิดเห็นที่ 17
เค้าก็เล่าตามสิ่งที่เห็นและรู้สึกในฐานะผู้บริโภค  ไม่ได้ไปโจมตีหรือ discredit ใคร   จากที่ไปเดินด้วยตัวเอง บรรยากาศมันเปลี่ยนไปมาก  ในมุมมองจากคนที่เคยเดินมาเป็นสิบๆ ปี  ความคึกคักมันเทียบกับสมัยก่อนไม่ได้จริงๆ

เห็นด้วยกับ คห. 7  นะ  ลองอธิบายในมุมมองของผู้ประกอบการว่าห้างพันทิปยังคงมีอะไรดีๆ อยู่เหมือนเดิมบ้าง  นี่อาจเป็นโอกาสที่จะช่วยแก้ความเข้าใจผิดของหลายๆ คนได้ด้วยนะ  กระทู้นั้นคนแชร์ไปเยอะ  ถ้ามีคนมาอธิบายว่าอะไรไม่จริงบ้าง  ก็เหมือนช่วยโปรโมทห้างได้อีกทาง
ความคิดเห็นที่ 7
กระทู้นั้น เขียนในมุมมองของเขา หลายๆ คน ที่เคยเดินพันทิบ ก็เห็นด้วยกับความเป็นไป และกล่าวเสริมในมุมมองลูกค้า

กระทู้นี้ จขกท. ก็เขียนในมุมมองของคุณไป (แต่ไม่เห็นเขียนอะไร) จขกท. ซึ่งเป็นผู้ค้าในพันทิบ ก็ลองเขียนความเป็นไปของพันทิบในสายตาของ จขกท. บ้างสิ จะได้ให้สังคมเห็นหลายๆ มุมมอง

จะติดตามอ่านนะครับ (ทุกคนเป็นเจ้าของโลก online)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่