10 ไอเดียอยู่บ้านยังไง ปลอดภัยจากมลพิษ 🤧😷

สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ถึงจะคลี่คลายบ้างแล้ว แต่ยังมีเชื้อไวรัสโคโรน่าเข้ามาอีก ตอนนี้อยู่ในบ้านน่าจะปลอดภัยที่สุด
แหม...แต่จะทำยังไงได้ งานก็ต้องไปทำ ผจญทั้งฝุ่นทั้งมลพิษมาทั้งวันแล้ว เมื่อเข้ามาในบ้าน รอบรั้วชายคาเลยขอแนะนำไอเดียอยู่บ้านยังไง ปลอดภัยจากมลพิษ เพิ่มสุขภาพดีๆ ให้กับผู้ตัวเองและคนที่เรารักในบ้านด้วย   

1.เริ่มจากทางเข้าบ้านเลย 👟
พรมเช็ดเท้าที่หน้าบ้านเรื่องเล็กๆ ที่สำคัญเลยนะ พรมจะช่วยจับสิ่งสกปรกที่มาจากรองเท้าได้ ทั้งสารกำจัดศัตรูพืช แบคทีเรีย โลหะหนัก พรมเช็ดเท้าเลยเป็นปราการด่านแรกที่สามารถป้องกันมลพิษก่อนเข้าถึงบ้านได้ พรมเช็ดเท้าภายนอกควรจะทำจากวัสดุที่ทนต่อสภาพอากาศ กันแดด กันฝนได้ และอย่าลืมทำความสะอาดพรมเป็นประจำด้วยนะ อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะแทนที่จะช่วยป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ตัวบ้านจะกลายเป็นแหล่งหมักหมมเชื้อโรคเสียเอง

2. ล้างมือ ล้างเท้า ✋
นอกจากจะล้างมือ กินร้อน ช้อนกลางเมื่ออยู่นอกบ้านแล้ว เข้าบ้านแล้วสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือล้างมือ ล้างเท้าให้สะอาดด้วย มือเราจับของที่เป็นสาธารณะมากมาย เช่น ราวรถไฟฟ้า เข้าห้องน้ำสาธารณะ ประตูแท็กซี่ ซึ่งมีคนจับมาร้อยแปดพันเก้า ก่อนจะเข้าบ้านก็ควรล้างมือ และล้างเท้าให้สะอาดเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้ามาในบ้าน 

วิธีล้างมือให้สะอาดคือใช้สบู่ล้างฝ่ามือ หลังมือ ซอกนิ้ว หลังนิ้ว ปลายนิ้วจนถึงข้อมือให้สะอาด ส่วนเท้าก็ล้างด้วยน้ำและเช็ดให้แห้งทันที 

3. ต้นไม้ป้องกันมลพิษได้ ☘️   
ต้นไม้เลื้อยสามารถดักจับฝุ่นได้ดีที่สุด 
อย่างที่เรารู้ว่าต้นไม้ช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ ปล่อยออกซิเจน ดูดซับสารพิษอย่างเช่นคาร์บอนไดออกไซด์ ต้นไม้บางชนิดยังสามารถดักฝุ่นได้ดีอีกด้วย  

กรมอนามัยแนะนำว่า “พืชตระกูลสนจะช่วยดักจับฝุ่นได้ เพราะโครงสร้างของใบมีความละเอียดซับซ้อน สำหรับไม้เลื้อยจะดักจับฝุ่นได้มากกว่าไม้อื่น เพราะมีพื้นผิวใบมากกว่าต้นไม้อื่น ด้วยลักษณะใบที่เรียวเล็ก ชื้น หยาบ มีขน หรือผิวใบที่เหนียวจะทำให้ฝุ่นเกาะติดใบได้ดี ส่วนลำต้น กิ่งก้านที่มีโครงสร้างพันกันอย่างสลับซับซ้อนมีส่วนช่วยดักจับฝุ่นได้เช่นกัน เช่น ไทรเกาหลี คริสตินา โมก ตะขบ การเวก พวงครามออสเตรเลีย อโศกอินเดีย และสนฉัตร” 
ต้นไทรเกาหลีเป็นต้นไม้ที่นิยมปลูกไว้เป็นแนวรั้วบ้าน สร้างความสดชื่น และดักจับฝุ่นได้อีกด้วย 
“ส่วนในบ้านควรเลือกไม้ประดับในอาคารที่สามารถปลูกได้ง่าย เช่น พลูด่าง ลิ้นมังกร เสน่ห์จันทร์แดง ลิ้นมังกร เสน่ห์จันทร์แดง ยางอินเดีย สาวน้อยประแป้ง วาสนาราชินี ที่ช่วยดูดสารพิษได้มาก”
ต้นยางอินเดีย เป็นต้นไม้ที่นิยมปลูกในบ้าน 
การวางต้นไม้ฟอกอากาศคือวางไว้แสงอาทิตย์ส่องถึงเพื่อเกิดการฟอกสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้นไม้ในบ้านควรจะมี 1 ต้นต่อ 100 ตารางฟุตจึงจะฟอกอากาศได้ดี  

4. ทำความสะอาดบ้าน 🧹
ฝุ่นเป็นพาหะที่นำมลพิษเข้าสู่บ้าน การทำความสะอาดบ้านก็จะช่วยให้บ้านลดมลภาวะลงได้ อย่าลืมทำความสะอาดสิ่งทอเช่นพรม โซฟา ม่าน ด้วย เมื่อกวาดบ้านหรือดูดฝุ่นแล้วก็ต้องเช็ดบ้าน เพราะผ้าชุบน้ำหมาดๆ สามารถดักจับฝุ่นไม่ให้ฝุ่นแพร่กระจายไปในอากาศได้อีก 

ทำความสะอาดบ้านเสร็จแล้วอย่าลืมทำความสะอาดไม้กวาด เครื่องดูดฝุ่น ไม้ม๊อบด้วย เพราะเป็นอุปกรณ์ที่หมักหมมเชื้อโรคได้

5. ถ่ายเทอากาศ 💨
ติดตั้งพัดลมระบายอากาศในห้องครัว เพราะการเผาไหม้เชื้อเพลิงทำให้เกิดมลภาวะภายในบ้านและเป็นผลกระทบต่อสุขภาพแก่เด็ก คนชรา และผู้ป่วยได้ ส่วนในบ้านอย่างห้องน้ำที่มีความชื้นเยอะทำให้เชื้อจุลินทรีย์เติบโตได้ และเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดหอบหืด ห้องไหนที่มีความชื้นน้อยเกินไปก็ทำให้ผิวแห้ง หายใจลำบาก เลยต้องเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทบ้าง และอย่าลืมล้างแอร์สม่ำเสมอ เปลี่ยนฟิลเตอร์แอร์ด้วยเมื่อถึงกำหนดต้องเปลี่ยน

6. ทิ้งและเก็บข้าวของที่ไม่จำเป็น 📦
สิ่งของที่เก็บไว้นานๆ ไม่ได้ใช้ก็จะมีฝุ่นจับ อะไรที่ไม่จำเป็นก็ทิ้งไปดีกว่า ถ้ายังเสียดายอยู่เก็บไว้ในกล่องดีกว่าวางไว้เฉยๆ เสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ก็นำไปบริจาค เพราะถ้าแขวนในตู้ซึ่งเป็นที่อับชื้นนานๆ ก็จะทำให้เกิดเชื้อราได้ 

สำหรับใครที่รักพี่เสียดายน้อง ไม่รู้จะทิ้งข้าวของไหนดี คนโด มาริเอะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดบ้าน (บางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อในภาพยนตร์เรื่อง How to ทิ้ง) บอกไว้ในหนังสือวิธีจัดบ้านให้เรียกความสุขว่า ให้พิจารณาว่าตอนที่สัมผัสสิ่งของมันปลุกเร้าความสุขคุณได้หรือเปล่า ชิ้นไหนที่ปลุกเร้าความสุขไม่ได้ก็โยนทิ้งไป สิ่งสำคัญคือการเลือกของที่จะเก็บไว้ ไม่ใช่ของที่จะทิ้ง 

7. ดูแลน้องหมา และเจ้านายเหมียว 🐶
ตัวเราทำความสะอาด ล้างมือ ล้างเท้าก่อนเข้าบ้านเป็นประจำแล้ว อย่าลืมทำความสะอาดน้องหมาและน้องแมวด้วยนะ เพราะสัตว์เลี้ยงแสนทะโมนทั้งหลายออกไปวิ่งเล่นข้างนอก เผชิญฝุ่นควันเช่นเดียวกัน น้องหมาสามารถนำเชื้อโรคมาสู่คนทั้งโดยตรง และเป็นพาหะได้ คนอาจได้รับเชื้อผ่านการกัด หายใจ สัมผัสทางผิวหนัง และสารคัดหลั่งต่างๆ นอกจากนี้น้องหมายังเป็นพาหะของ เห็บ หมัด เหา ไร และยุงอีกด้วย เราควรอาบน้ำน้องสัปดาห์ละ 1 ครั้ง (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์สุนัขด้วย) 

ส่วนทาสแมว เจ้านายบอกว่าพวกมะนุดยากหน่อยนะที่จะอาบน้ำข้า เพราะข้าเป็นสัตว์รักความสะอาดอยู่แล้ว แต่ถ้าพวกเจ้าจะอาบน้ำข้าก็สามารถอาบได้ทุกๆ 1 - 3 เดือน 

8.ทำความสะอาดเครื่องนอน 💤
การจำกัดไรฝุ่นบนที่นอนก็สำคัญนะ เพราะไรฝุ่นเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ 
เมื่อเข้าบ้าน เรานำเชื้อโรคเข้ามาด้วย ทั้งร่างกาย เส้นผม และเสื้อผ้า แล้วเราก็นอนบนเตียงอยู่ทุกวัน เลยเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เพราะฉะนั้นก็ควรจะต้องนำผ้าปู ปลอกหมอน มาซักทุกๆ 1-2 สัปดาห์ ลองคิดดูนะ เสื้อผ้าเราใส่ทุกวัน เรายังซักเลย แล้วผ้าปูเรานอนทุกวันเหมือนกัน ก็ควรจะทำความสะอาดเช่นเดียวกัน 

9. ไม่สูบบุหรี่ในบ้าน ❌
การสูบบุหรี่ในบ้านเป็นผลกระทบต่อสุขภาพของคนที่ไม่สูบบุหรี่แต่อยู่ในบริเวณเดียวกันหรือเรียกว่าบุหรี่มือสอง และควันบุหรี่มือที่สามคือไม่ได้อยู่ร่วมกันตอนสูบ สารพิษที่ตกค้างจากควันจะตกไปตามเครื่องใช้ต่างๆ และเสื้อผ้า เป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยในบ้าน แล้วยังเป็นผลเสียต่อสัตว์เลี้ยงอีกด้วย ถ้ามีคนสูบบุหรี่ในบ้าน ก็ต้องขอให้ไปสูบบุหรี่ข้างนอกบ้านดีกว่า 

10. รักษาตัวเองให้สุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ 🤩
รอบรั้วชายคาเข้าใจว่าช่วงนี้มีเหตุการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ทำให้เราเครียดได้ แต่ชีวิตยังคงดำเนินต่อไป เราควรใส่ใจสุขภาพกายและใจของตัวเอง นอนหลับให้เพียงพอ กินอาหารที่เป็นประโยชน์ ออกกำลังกาย อยู่กับคนที่เรารัก ปลีกตัวเองจากข่าวสารที่วุ่นวายไปสู่โลกของความบันเทิงบ้าง 
เพี้ยนยิ้ม
เพราะที่สุดแล้วเมื่อทั้งกายและใจแข็งแรงก็เป็นพลังสำคัญที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับตัวเองและคนที่เรารักต่อไป 
#moveon 

อ้างอิง 
https://www.fragrancex.com/blog/indoor-air-pollution/
med.mahidol.ac.th
https://www.makaan.com/iq/living/tips-to-keep-your-house-insulated-from-the-effect-of-smog-and-pollution
https://www.balancedhomebalancedlife.com/healthy-indoor-air-quality/
https://www.anamai.moph.go.th/ewt_news.php?nid=13773&filename=index
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่