เรื่อง ฉันยังตายไม่ได้
เรื่องโดย นัฐพันธ์
เธอเกาะราวระสะพานสูงที่ด้านล่างเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ในยามค่ำของคืนหนึ่งด้วยหัวใจที่บอบช้ำ ภาพที่เธอโดนแอบถ่ายจากผู้ชายมักง่ายคนนั้น เผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วผ่านสายตาประชาชนบนโลกออนไลน์นับล้านคน มันไวยิ่งกว่าการยิงจรวดขึ้นไปบนฟ้าและรอให้มันตกลงมา เพียงไม่กี่นาที เธอก็ตกเป็นข่าวใหญ่ทางสังคมออนไลน์ เฟสบุ๊คของเธอแทบล่มเมื่อมีคนกดเข้ามาเพิ่มเพื่อนและอินบ็อก จนเธอต้องรีบปิดมัน เพียงเพราะไม่ทันรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้น สายโทรศัพท์ มิสคอล อะไรต่อมิอะไร ดังขึ้นอยู่เป็นร้อยสาย ไลน์กรุ๊ป ไลน์ส่วนตัวดังขึ้นระงมจนรับไม่ไหว ความทนทานต่อเหตุการณ์ไม่มีเลยแม้แต่น้อย เธอทิ้งตัวลงบนที่นอนหลับตาลงพร้อมคราบน้ำตาที่ไหลนองหน้า
“ผมไม่รู้จริงๆว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร คุณต้องเชื่อผมนะเปิ้ล ว่าผมไม่ได้ปล่อยคลิปบ้าๆนั่น” เสียงของชนนท์ดังขึ้นเมื่อเขาเข้ามาที่คอนโดของเธอ เธอตบหน้าเขาไปหนึ่งครั้งจนหัน ด้วยความโกรธ เขาหมดแรงไม่ได้ต่อว่าเธอแม้แต่น้อย เพียงแต่หน้าเสียที่ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น
“คุณมันเลว ฉันรู้ว่าคุณจงใจ”
“โถ ใครเขาจะให้ตัวเองมาเสียหายกับเรื่องแบบนี้ คิดบ้างสิ มีใครจะหน้าด้านเอารูปบนเตียง มาโชว์อล่างฉ่างแบบนี้ ทุเรศสิ้นดี ผมไม่มีวันทำเรื่องอุบาทว์

พรรค์นั้นหรอก”
“แต่มันก็หลุดไปแล้ว คุณก็รู้ว่าผู้หญิงในรูปที่กำลังเล่นรักกับคุณมันคือฉัน ฉันเสียหาย คุณรู้มั้ย”
“มันต่างกันเหรอ นี่ผมก็โดนประณามด้วยนะคุณ อย่ามาพูดชุ่ยๆแบบนี้สิ คุณโดนผมก็โดนด้วย ไม่ใช่คุณคนเดียว” เขายอกย้อนด้วยท่าทีไม่ลดราวาศอกแต่อย่างใด
.........................................................................................................................................................................................................................
ตัดภาพกลับมา ณ ปัจจุบันที่เธอยืนอยู่บนสะพาน ความช้ำใจกำลังทำให้เธอคิดสั้น ใช่ เธอกำลังมองหาความตาย เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันจบสิ้นลงแล้ว ตั้งแต่ภาพลับบนเตียงของเธอกับเขาหลุด
เธอคิดไปถึงเรื่องราวต่างๆ มันคงจะดี หากเขารักเธอจริงอย่างที่เคยบอก แต่นี่ เขากลับทำให้เธอต้อง..
เธอหมดสิ้นทุกอย่างเสียแล้ว มือกำแน่นที่ราวสะพานกำลังโน้มตัวลงไปเพื่อจะทะยานไปสู่เวิ้งน้ำอันอยู่เบื้องล่างด้วยท่าทีที่ปลดปล่อย แต่ไม่ทันที่จะพุ่งตัวลงไปแบบที่เคยเห็นตามโทรทัศน์ เสียงโทรศัพท์ก็ขัดจังหวะขึ้นมาซะก่อน เธอหยิบมันขึ้นมาเพื่อจะกดปิดเครื่อง แต่เมื่อเปิดดูปรากฏว่า แม่ของเธอโทรมา
“เปิ้ล แม่จะโทรมาถาม แม่จะไปสักคิ้ว แกอยู่ไหนพาแม่ไปหน่อยสิ ตอนนี้แม่กำลังเดินหาร้านอยู่” เสียงของแม่ดังขึ้นมา มีเสียงรถแทรกอยู่บนท้องถนน ทำให้ภวังค์แห่งความผิดหวังช้ำชอกนั้นมลายลงไปอย่างสิ้นเชิง
“แกได้ยินที่แม่พูดมั้ย แม่เผลอไปกันคิ้วจนแหว่ง นี่ผ่านมาหลายวันแล้วมันไม่ขึ้นซักที” เธออดขำไม่ได้เมื่อนึกถึงใบหน้าของแม่ที่คิวหายไปครึ่งหนึ่ง ตอนเด็กเธอก็เคยแอบเอามีดโกนมากันคิ้วเล่น ปรากฏว่าเผลอเลื่อยคิวหายไปเป็นแทบ แม่กลับมาเห็นก็ดุเป็นการใหญ่พอจะตีก็อดขำเธอไม่ได้ ก่อนจะสอนว่าอย่าเอามีดโกนมาเล่นเดี๋ยวมันบาดมือ นึกถึงตอนนั้นแล้วเธอก็ตลกตัวเอง แม่น่ะยิ่งแก่ตัวก็ทำตัวเหมือนเด็ก สองอาทิตย์ก่อนก็โทรมาบอกว่าลืมโทรศัพท์หาไม่เจอ เธอถามกลับไปว่าแล้วแม่ใช่มือถือใครโทรมา เท่านั้นแหละรู้ความจริงว่า ไม่ได้ลงได้ลืมที่ไหนหรอกก็อยู่ในมือตัวเองนั้นแหละ พอพูดถึงแม่ เธอก็คิดถึงแม่ขึ้นมา แม่มีเธอเป็นลูกคนเดียว หากขาดเธอไป แล้วแม่จะอยู่กับใคร แม่ก็แก่ลงทุกวัน เธอได้แต่บ่นกับตัวเอง พึมพำเบาๆว่า
“จะตายอยู่แล้ว แม่ดั๊นโทรมาตามอีก” นาทีนั้นเธอตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่เพื่อแม่ เธอปลดมือลงและก้าวลงมายืนที่พื้นอย่างมั่นคง
เสียงไซเรนของรถพยาบาลผ่านมา ความตายมันเกิดขึ้นได้กับทุกคนจริงๆ ไม่เว้นแม้แต่คนรวยยันคนจนไม่มีใครหนีความตายพ้น คิดแล้วก็อดที่จะหัวเราะตัวเองไม่ได้ที่อยากจะตายทั้งๆที่มีคนอีกมากมายอยากมีชีวิตอยู่
เธอยิ้มให้กับตัวเอง เดินต่อไปข้างหน้า เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก
“คุณปวีณาหรือเปล่าครับ ตอนนี้คุณดวงสมัย เกิดอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตที่ถนน.............”
เสียงปลายสายพูดอะไรต่อ เธอจำไม่ได้ รู้แต่เพียงว่า แม่ของเธอจากโลกนี้ไปแล้ว
ก็อย่างที่เธอบอกตัวเองเมื่อครู่ว่า คิดแล้วก็อดที่จะหัวเราะตัวเองไม่ได้ที่อยากจะตายทั้งๆที่มีคนอีกมากมายอยากมีชีวิตอยู่
จบ
ฉันยังตายไม่ได้ (เรื่องสั้น)
เรื่องโดย นัฐพันธ์
เธอเกาะราวระสะพานสูงที่ด้านล่างเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ในยามค่ำของคืนหนึ่งด้วยหัวใจที่บอบช้ำ ภาพที่เธอโดนแอบถ่ายจากผู้ชายมักง่ายคนนั้น เผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วผ่านสายตาประชาชนบนโลกออนไลน์นับล้านคน มันไวยิ่งกว่าการยิงจรวดขึ้นไปบนฟ้าและรอให้มันตกลงมา เพียงไม่กี่นาที เธอก็ตกเป็นข่าวใหญ่ทางสังคมออนไลน์ เฟสบุ๊คของเธอแทบล่มเมื่อมีคนกดเข้ามาเพิ่มเพื่อนและอินบ็อก จนเธอต้องรีบปิดมัน เพียงเพราะไม่ทันรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้น สายโทรศัพท์ มิสคอล อะไรต่อมิอะไร ดังขึ้นอยู่เป็นร้อยสาย ไลน์กรุ๊ป ไลน์ส่วนตัวดังขึ้นระงมจนรับไม่ไหว ความทนทานต่อเหตุการณ์ไม่มีเลยแม้แต่น้อย เธอทิ้งตัวลงบนที่นอนหลับตาลงพร้อมคราบน้ำตาที่ไหลนองหน้า
“ผมไม่รู้จริงๆว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร คุณต้องเชื่อผมนะเปิ้ล ว่าผมไม่ได้ปล่อยคลิปบ้าๆนั่น” เสียงของชนนท์ดังขึ้นเมื่อเขาเข้ามาที่คอนโดของเธอ เธอตบหน้าเขาไปหนึ่งครั้งจนหัน ด้วยความโกรธ เขาหมดแรงไม่ได้ต่อว่าเธอแม้แต่น้อย เพียงแต่หน้าเสียที่ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น
“คุณมันเลว ฉันรู้ว่าคุณจงใจ”
“โถ ใครเขาจะให้ตัวเองมาเสียหายกับเรื่องแบบนี้ คิดบ้างสิ มีใครจะหน้าด้านเอารูปบนเตียง มาโชว์อล่างฉ่างแบบนี้ ทุเรศสิ้นดี ผมไม่มีวันทำเรื่องอุบาทว์
“แต่มันก็หลุดไปแล้ว คุณก็รู้ว่าผู้หญิงในรูปที่กำลังเล่นรักกับคุณมันคือฉัน ฉันเสียหาย คุณรู้มั้ย”
“มันต่างกันเหรอ นี่ผมก็โดนประณามด้วยนะคุณ อย่ามาพูดชุ่ยๆแบบนี้สิ คุณโดนผมก็โดนด้วย ไม่ใช่คุณคนเดียว” เขายอกย้อนด้วยท่าทีไม่ลดราวาศอกแต่อย่างใด
.........................................................................................................................................................................................................................
ตัดภาพกลับมา ณ ปัจจุบันที่เธอยืนอยู่บนสะพาน ความช้ำใจกำลังทำให้เธอคิดสั้น ใช่ เธอกำลังมองหาความตาย เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันจบสิ้นลงแล้ว ตั้งแต่ภาพลับบนเตียงของเธอกับเขาหลุด
เธอคิดไปถึงเรื่องราวต่างๆ มันคงจะดี หากเขารักเธอจริงอย่างที่เคยบอก แต่นี่ เขากลับทำให้เธอต้อง..
เธอหมดสิ้นทุกอย่างเสียแล้ว มือกำแน่นที่ราวสะพานกำลังโน้มตัวลงไปเพื่อจะทะยานไปสู่เวิ้งน้ำอันอยู่เบื้องล่างด้วยท่าทีที่ปลดปล่อย แต่ไม่ทันที่จะพุ่งตัวลงไปแบบที่เคยเห็นตามโทรทัศน์ เสียงโทรศัพท์ก็ขัดจังหวะขึ้นมาซะก่อน เธอหยิบมันขึ้นมาเพื่อจะกดปิดเครื่อง แต่เมื่อเปิดดูปรากฏว่า แม่ของเธอโทรมา
“เปิ้ล แม่จะโทรมาถาม แม่จะไปสักคิ้ว แกอยู่ไหนพาแม่ไปหน่อยสิ ตอนนี้แม่กำลังเดินหาร้านอยู่” เสียงของแม่ดังขึ้นมา มีเสียงรถแทรกอยู่บนท้องถนน ทำให้ภวังค์แห่งความผิดหวังช้ำชอกนั้นมลายลงไปอย่างสิ้นเชิง
“แกได้ยินที่แม่พูดมั้ย แม่เผลอไปกันคิ้วจนแหว่ง นี่ผ่านมาหลายวันแล้วมันไม่ขึ้นซักที” เธออดขำไม่ได้เมื่อนึกถึงใบหน้าของแม่ที่คิวหายไปครึ่งหนึ่ง ตอนเด็กเธอก็เคยแอบเอามีดโกนมากันคิ้วเล่น ปรากฏว่าเผลอเลื่อยคิวหายไปเป็นแทบ แม่กลับมาเห็นก็ดุเป็นการใหญ่พอจะตีก็อดขำเธอไม่ได้ ก่อนจะสอนว่าอย่าเอามีดโกนมาเล่นเดี๋ยวมันบาดมือ นึกถึงตอนนั้นแล้วเธอก็ตลกตัวเอง แม่น่ะยิ่งแก่ตัวก็ทำตัวเหมือนเด็ก สองอาทิตย์ก่อนก็โทรมาบอกว่าลืมโทรศัพท์หาไม่เจอ เธอถามกลับไปว่าแล้วแม่ใช่มือถือใครโทรมา เท่านั้นแหละรู้ความจริงว่า ไม่ได้ลงได้ลืมที่ไหนหรอกก็อยู่ในมือตัวเองนั้นแหละ พอพูดถึงแม่ เธอก็คิดถึงแม่ขึ้นมา แม่มีเธอเป็นลูกคนเดียว หากขาดเธอไป แล้วแม่จะอยู่กับใคร แม่ก็แก่ลงทุกวัน เธอได้แต่บ่นกับตัวเอง พึมพำเบาๆว่า
“จะตายอยู่แล้ว แม่ดั๊นโทรมาตามอีก” นาทีนั้นเธอตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่เพื่อแม่ เธอปลดมือลงและก้าวลงมายืนที่พื้นอย่างมั่นคง
เสียงไซเรนของรถพยาบาลผ่านมา ความตายมันเกิดขึ้นได้กับทุกคนจริงๆ ไม่เว้นแม้แต่คนรวยยันคนจนไม่มีใครหนีความตายพ้น คิดแล้วก็อดที่จะหัวเราะตัวเองไม่ได้ที่อยากจะตายทั้งๆที่มีคนอีกมากมายอยากมีชีวิตอยู่
เธอยิ้มให้กับตัวเอง เดินต่อไปข้างหน้า เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก
“คุณปวีณาหรือเปล่าครับ ตอนนี้คุณดวงสมัย เกิดอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตที่ถนน.............”
เสียงปลายสายพูดอะไรต่อ เธอจำไม่ได้ รู้แต่เพียงว่า แม่ของเธอจากโลกนี้ไปแล้ว
ก็อย่างที่เธอบอกตัวเองเมื่อครู่ว่า คิดแล้วก็อดที่จะหัวเราะตัวเองไม่ได้ที่อยากจะตายทั้งๆที่มีคนอีกมากมายอยากมีชีวิตอยู่
จบ