ตอน4ขวบ
เราโดนแม่ของพ่อเลี้ยงเอาไปปล่อยทิ้ง จำไม่ได้แล้วว่าเป็นยังไง จำได้แค่กลัวมากๆ รอดมาได้เพราะพี่ชาย7ขวบปั่นจักรยานตามหา พี่ปั่นไปบอกตำรวจ ก่อนตำรวจจะเจอเราตอนค่ำๆเรานั่งร้องไห้อยู่แถวศาลากลางจังหวัด
ตอน7ขวบ
ได้เลื่อนชั้นจากอนุบาล2ไปขึ้นป.1แม่มาส่งหน้าโรงเรียนแล้วก็ไปเลย เราไม่รู้เรื่องเลยว่าต้องไปอยู่ห้องไหน พยายามเดินหาห้องเอง กลัวมากๆ โดดเดี่ยวมาก จนเวลาไกล้เคารพธงชาติ ก็ไม่รู้ต้องไปอยู่ที่ไหน กลัวจนตัวสั่น ไม่รู้จะทำยังไง ความคิดเด็ก7ขวบตอนนั้น เอากระเป๋านักเรียนไปไว้ห้องเก่าที่เคยอยู่ตอนอนุบาล แล้วก็วิ่งไปหาแถวเคารพธงชาติ ปกติอนุบาลจะเข้าแถวหน้าห้อง แต่ป.1ไม่รู้ว่าแถวไหน เลยวิ่งไปหลบที่เสา กลัวครูเห็นแล้วจะโดนตี ตอนนั้นคือกลัวจนมือเท้าสั่น จนเคารพธงชาติเสร็จ เห็นแถวเพื่อนหน้าตาคุ้นๆกำลังเดินผ่าน รีบวิ่งออกจากเสาไปแทรกในแถวแล้วเดินขึ้นห้องพร้อมเพื่อน แต่กระเป๋านักเรียนวางไว้ที่ห้องอนุบาล ต้องหาจังหวะวิ่งลงไปเอากระเป๋าที่ชั้นล่าง แล้วก็กลับขึ้นไปห้องเรียน นี่คือเรื่องที่กลัวและตื่นเต้นที่สุดตอน7ขวบ
ตอน9ขวบ
ขายของตลาดนัดกับแม่ แม่ให้เงิน100บาทไปหาซื้อยางมัดผมดอกไม้ให้น้อง4อันใส่เต้นงานโรงเรียน ก็ไปเดินหาซื้อในตลาดนัดให้น้อง ก็ไปเจออัน25บาท4อันร้อยพอดี กลับมาโดนแม่ด่าหนักมากว่ามันแพง จับเราตีกลางตลาดนัดหนักมากแล้วก็ลากไปกับพื้นปูน ลากไปตีไปจนเป็นแผลเต็มตัว แต่ก็ไม่มีใครมาช่วย ตอนนั้นร้านก็ทยอยเก็บเต๊นปิดไฟหมดแล้ว จำไม่ได้แล้วว่าซื้อจากร้านไหน โดนตีจนน่วม แม่ทิ้งเรานอนไว้กับพื้นกลางตลาดพร้อมเลือดเต็มขาตรงนั้นเลย เราต้องค่อยๆลุกทั้งน้ำตานองหน้า เดินกระเพลกๆกลับไปหาแม่ที่ร้าน
ตอน10ขวบ
ถูกทิ้งให้อยู่โรงเรียนคนเดียวจนดึก ไม่มีใครมารับ กลัวจนตัวสั่น ตังค์ก็ไม่มีโทรหาแม่ กลัวภารโรงปิดโรงเรียนก็กลัว จะออกไปข้างนอกก็กลัว นั่งหลบเสารอคนมารับ มืด ว้าเหว่สุด จนเกือบสามทุ่มแม่ถึงมารับกลับบ้าน ทั้งโรงเรียนเหลือเราคนเดียว นั่นคือความกลัวตอน10ขวบ
ตอน12ขวบ
ไปขายของตลาดนัดกับแม่ ขากลับเป็นทางเปลี่ยว มีโจรดักปล้นกลางทาง จอดรถขวางถนนไม่ให้ผ่าน แม่ตัดสินใจ บิดรถพ่วงข้างสุดลูกบิดเลย ตัดสินใจพุ่งชนตายเป็นตาย บอกให้เราเกาะแน่นๆ ตอนนั้นฝนก็ตกหนักด้วย กลัวมาก หนาวด้วยเกาะหลังแม่แน่น นึกว่าต้องตายแน่ๆแต่โจรมันตัดสินใจหลบ ทำให้เรากับแม่รอดมาได้
ตอนอายุ15
จบม.3แล้ว ระหว่างปิดเทอม แม่บังคับขายเราให้กับคนแก่คนนึง เพราะครอบครัวยากจนมาก บังคับให้เราเสียสละ แต่เราหนีด้วยความกลัว ตัดสินใจหนีขึ้นรถบขส.พร้อมกับเงินที่แอบเก็บไว้ประมาณ7500บาท ไปลงที่ภาคเหนือแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่
ตอนอายุ16
พอมาอยู่ที่เหนือเรากลัวจะไม่ได้เรียนต่อ ไกล้จะถึงวันเปิดเทอมแล้ว หมดเขตรับสมัครนานแล้วด้วย เราตัดสินใจไปสมัครเรียนปวช.ถือเอกสารไปสมัครเรียนที่ห้องผอ.เลย เกรดเฉลี่ยเรา3.97 พูดขอร้องจนผอ.รับไว้ทันทีทั้งๆที่อีกไม่กี่วันก็จะเปิดภาคเรียนแล้ว
ตอนอายุ17
เรากลัวจะไม่มีเงินใช้ตัดสินใจหางานทำระหว่างเรียน ได้งานร้านขายส่งที่ตลาดเช้า ต้องตื่น4ทุ่มไปทำงาน ยกของวันๆหลายร้อยโล เข็นไปใส่รถลูกค้า ทำถึงเช้าได้วันละ80บาท พอเช้าก็เปลี่ยนชุดนักเรียนกระโดดขึ้นรถโดยสารไปเรียนต่อ
ตอนอายุ18
ตัดสินใจไปผ่าตัดตา เราตาเขข้างนึงตั้งแต่เด็ก ขึ้นเขียงผ่าตัด โดนวางยาสลบ กลัวมากว่าจะไม่ฟื้น แต่สุดท้ายก็รอดมาได้
ยังมีอีกหลายเรื่องมากมายที่เล่าไม่ได้ มันโหดร้ายเกินไปที่จะออกมาเล่า ทุกสิ่งทุกอย่างเราไม่โทษใคร อย่างเดียวที่เรามองคือการท้องไม่พร้อม มันส่งผลต่อชีวิตคนๆนึงมากๆเลยนะ
ปัจจุบันเราเรียนจบปริญญาตรีมาหลายปีแล้ว มีครอบครัวที่ดี มีธุรกิจส่วนตัวซึ่งเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีชีวิตที่ดีมากๆ ส่งเสียเงินกลับไปให้ครอบครัวทั้งพ่อและแม่ทุกเดือน และเพิ่งจะมารู้ตัววันนี้เองว่าเป็นโรค PTSD ภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรงที่เจอตอนเด็ก ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตหลายๆอย่างแต่ก็ต้องพยายามใช้ชีวิตต่อไปให้ได้
แล้วคุณล่ะ เคยกลัวอะไรมากๆมั้ยในชีวิต?
มาเล่าเรื่องที่กลัวที่สุดในชีวิตกันเถอะ
เราโดนแม่ของพ่อเลี้ยงเอาไปปล่อยทิ้ง จำไม่ได้แล้วว่าเป็นยังไง จำได้แค่กลัวมากๆ รอดมาได้เพราะพี่ชาย7ขวบปั่นจักรยานตามหา พี่ปั่นไปบอกตำรวจ ก่อนตำรวจจะเจอเราตอนค่ำๆเรานั่งร้องไห้อยู่แถวศาลากลางจังหวัด
ตอน7ขวบ
ได้เลื่อนชั้นจากอนุบาล2ไปขึ้นป.1แม่มาส่งหน้าโรงเรียนแล้วก็ไปเลย เราไม่รู้เรื่องเลยว่าต้องไปอยู่ห้องไหน พยายามเดินหาห้องเอง กลัวมากๆ โดดเดี่ยวมาก จนเวลาไกล้เคารพธงชาติ ก็ไม่รู้ต้องไปอยู่ที่ไหน กลัวจนตัวสั่น ไม่รู้จะทำยังไง ความคิดเด็ก7ขวบตอนนั้น เอากระเป๋านักเรียนไปไว้ห้องเก่าที่เคยอยู่ตอนอนุบาล แล้วก็วิ่งไปหาแถวเคารพธงชาติ ปกติอนุบาลจะเข้าแถวหน้าห้อง แต่ป.1ไม่รู้ว่าแถวไหน เลยวิ่งไปหลบที่เสา กลัวครูเห็นแล้วจะโดนตี ตอนนั้นคือกลัวจนมือเท้าสั่น จนเคารพธงชาติเสร็จ เห็นแถวเพื่อนหน้าตาคุ้นๆกำลังเดินผ่าน รีบวิ่งออกจากเสาไปแทรกในแถวแล้วเดินขึ้นห้องพร้อมเพื่อน แต่กระเป๋านักเรียนวางไว้ที่ห้องอนุบาล ต้องหาจังหวะวิ่งลงไปเอากระเป๋าที่ชั้นล่าง แล้วก็กลับขึ้นไปห้องเรียน นี่คือเรื่องที่กลัวและตื่นเต้นที่สุดตอน7ขวบ
ตอน9ขวบ
ขายของตลาดนัดกับแม่ แม่ให้เงิน100บาทไปหาซื้อยางมัดผมดอกไม้ให้น้อง4อันใส่เต้นงานโรงเรียน ก็ไปเดินหาซื้อในตลาดนัดให้น้อง ก็ไปเจออัน25บาท4อันร้อยพอดี กลับมาโดนแม่ด่าหนักมากว่ามันแพง จับเราตีกลางตลาดนัดหนักมากแล้วก็ลากไปกับพื้นปูน ลากไปตีไปจนเป็นแผลเต็มตัว แต่ก็ไม่มีใครมาช่วย ตอนนั้นร้านก็ทยอยเก็บเต๊นปิดไฟหมดแล้ว จำไม่ได้แล้วว่าซื้อจากร้านไหน โดนตีจนน่วม แม่ทิ้งเรานอนไว้กับพื้นกลางตลาดพร้อมเลือดเต็มขาตรงนั้นเลย เราต้องค่อยๆลุกทั้งน้ำตานองหน้า เดินกระเพลกๆกลับไปหาแม่ที่ร้าน
ตอน10ขวบ
ถูกทิ้งให้อยู่โรงเรียนคนเดียวจนดึก ไม่มีใครมารับ กลัวจนตัวสั่น ตังค์ก็ไม่มีโทรหาแม่ กลัวภารโรงปิดโรงเรียนก็กลัว จะออกไปข้างนอกก็กลัว นั่งหลบเสารอคนมารับ มืด ว้าเหว่สุด จนเกือบสามทุ่มแม่ถึงมารับกลับบ้าน ทั้งโรงเรียนเหลือเราคนเดียว นั่นคือความกลัวตอน10ขวบ
ตอน12ขวบ
ไปขายของตลาดนัดกับแม่ ขากลับเป็นทางเปลี่ยว มีโจรดักปล้นกลางทาง จอดรถขวางถนนไม่ให้ผ่าน แม่ตัดสินใจ บิดรถพ่วงข้างสุดลูกบิดเลย ตัดสินใจพุ่งชนตายเป็นตาย บอกให้เราเกาะแน่นๆ ตอนนั้นฝนก็ตกหนักด้วย กลัวมาก หนาวด้วยเกาะหลังแม่แน่น นึกว่าต้องตายแน่ๆแต่โจรมันตัดสินใจหลบ ทำให้เรากับแม่รอดมาได้
ตอนอายุ15
จบม.3แล้ว ระหว่างปิดเทอม แม่บังคับขายเราให้กับคนแก่คนนึง เพราะครอบครัวยากจนมาก บังคับให้เราเสียสละ แต่เราหนีด้วยความกลัว ตัดสินใจหนีขึ้นรถบขส.พร้อมกับเงินที่แอบเก็บไว้ประมาณ7500บาท ไปลงที่ภาคเหนือแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่
ตอนอายุ16
พอมาอยู่ที่เหนือเรากลัวจะไม่ได้เรียนต่อ ไกล้จะถึงวันเปิดเทอมแล้ว หมดเขตรับสมัครนานแล้วด้วย เราตัดสินใจไปสมัครเรียนปวช.ถือเอกสารไปสมัครเรียนที่ห้องผอ.เลย เกรดเฉลี่ยเรา3.97 พูดขอร้องจนผอ.รับไว้ทันทีทั้งๆที่อีกไม่กี่วันก็จะเปิดภาคเรียนแล้ว
ตอนอายุ17
เรากลัวจะไม่มีเงินใช้ตัดสินใจหางานทำระหว่างเรียน ได้งานร้านขายส่งที่ตลาดเช้า ต้องตื่น4ทุ่มไปทำงาน ยกของวันๆหลายร้อยโล เข็นไปใส่รถลูกค้า ทำถึงเช้าได้วันละ80บาท พอเช้าก็เปลี่ยนชุดนักเรียนกระโดดขึ้นรถโดยสารไปเรียนต่อ
ตอนอายุ18
ตัดสินใจไปผ่าตัดตา เราตาเขข้างนึงตั้งแต่เด็ก ขึ้นเขียงผ่าตัด โดนวางยาสลบ กลัวมากว่าจะไม่ฟื้น แต่สุดท้ายก็รอดมาได้
ยังมีอีกหลายเรื่องมากมายที่เล่าไม่ได้ มันโหดร้ายเกินไปที่จะออกมาเล่า ทุกสิ่งทุกอย่างเราไม่โทษใคร อย่างเดียวที่เรามองคือการท้องไม่พร้อม มันส่งผลต่อชีวิตคนๆนึงมากๆเลยนะ
ปัจจุบันเราเรียนจบปริญญาตรีมาหลายปีแล้ว มีครอบครัวที่ดี มีธุรกิจส่วนตัวซึ่งเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีชีวิตที่ดีมากๆ ส่งเสียเงินกลับไปให้ครอบครัวทั้งพ่อและแม่ทุกเดือน และเพิ่งจะมารู้ตัววันนี้เองว่าเป็นโรค PTSD ภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรงที่เจอตอนเด็ก ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตหลายๆอย่างแต่ก็ต้องพยายามใช้ชีวิตต่อไปให้ได้
แล้วคุณล่ะ เคยกลัวอะไรมากๆมั้ยในชีวิต?