[CR] ทริปญี่ปุ่น 3 วัน 2 คืน ด้วย Kansai Wide Area Pass (ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 63)

กระทู้รีวิว
รีวิวที่ 3 ต่อเนื่องจากรีวิวก่อนหน้า เมื่อวานนี้
ด้วยเวลาที่จำกัด+เห็นตั๋วราคาดีเลยเกิดทริปนี้ขึ้นมาแบบงงๆ
รอบนี้ลงคันไซเลยกะเก็บตกจากทริปคันไซครั้งที่แล้ว

พอกดจองตั๋วได้ต้นเดือนกุมภา สิ่งต่อมาที่ทำคือ กุมภาแถบคันไซไปไหนดีหว่า?
ก็ลองเสิร์ชหาดูเรื่อยๆ ก็ได้มิยาม่ามาหนึ่งที่
รอบที่แล้วไปอามาโนะฮาชิดาเตะไปแล้ว แต่เวลาไม่พอเลยไม่ได้ไปอิเนะ
รอบนี้เลยเพิ่มอิเนะ (หมู่บ้านชาวประมง) ไปอีกหนึ่งที่
สุดท้ายทริปคันไซครั้งที่แล้ว ไปชิราฮามะด้วย
แต่ปั่นจักรยานไม่ไหว เลยต้องพับทริปนั้นไป รอบนี้เลยกะไปเก็บตกให้ครบซะเลย

สรุป 3 ที่หลักๆที่จะไปภายใน 3 วันคือ
- หมู่บ้านโบราณ Kayabuki no Sato ที่ Miyama
- หมู่บ้านชาวประมง Ine
- Shirahama

วันแรก

ลงเครื่อง 6 โมงกว่าๆ ตามเวลาท้องถิ่น ที่เซอร์ไพรส์คือ อากาศไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่
สิ่งแรกที่จะทำหลังผ่านด่านศุลกากรด้วยคำถาม 2-3 คำถาม คือแลกพาส Kansai Wide Area Pass
รอบนี้เราใช้พาสนี้อีกรอบ เพราะออกนอกโซนรถไฟเอกฃนหมดเลย
การแลกก็ง่ายแสนง่ายคือเดินไป Ticket Vending Machines สีเขียวด้านซ้าย Ticket Office
ใช้ QR Code และ Passport แค่2อย่าง ใช้เวลาไม่ถึงนาทีก็เสร็จ
(ยืมรูปจากเว็บ JR WEST)

ชอบโซนคันไซอย่างนึงคือ รถไฟส่วนมากมี Non-reserved Seat ซึ่งก็ไม่เคยจะเต็ม ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาจองที่นั่ง

Hozukyō Station
นั่งรถไฟ Haruka จากสนามบินคันไซมาลงเกียวโต
ตอนแรกจะไปมิยาม่าเลย แต่เวลามันเหลือ ถ้าไปก่อนก็ต้องไปรอต่อรถนาน
เลยแวะสถานี Hozukyo ดู (มาช่วงใบไม้แดงน่าจะเหมาะกว่า)
ก็อย่างที่เห็น บรรยากาศแห้งๆ มองเห็นรถไฟ Sagano ไกลๆ โน่นเลย

Miyama Kayabuki-no-Sato
จากสถานี Hozukyo ก็นั่งรถไฟ (ดูจาก Hyperdia ว่าต้องไปต่อยังไง) ไปลงสถานี Hiyoshi
พอถึงสถานี Hiyoshi จะไม่มีเครื่องสแกน/เสียบบัตรออก ต่องโชว์เจ้าหน้าที่
พอออกมาให้เลี้ยวซ้าย ละรอรถตรงกรวยหมายเลข4 รถจะมาจอดช่องนั้น (รถจอดช่องอื่นไม่เกี่ยว)
ค่ารถไปมิยามะ (ไปลงสถานี Kita) ค่ารถขาละ 600 Yen
รายละเอียดเพิ่มเติม+ตารางเดินรถ: https://kyotomiyama.jp/en/column/detail/id=327
ตอนแรกก็นึกว่าจะมีหิมะเหลือหน่อย สรุปแห้งสุดๆ ทั้งๆ ที่วันที่ไปมีเปิดไฟกลางคืนด้วยนะ

พอจบจากมิยาม่าแล้วตอนแรกว่าจะไปอามาโนฮาชิดาเตะต่อ
แต่เช็คเวลาจาก Hyperdia แล้วคือไม่ได้ เลยเปลี่ยนแพลนกะทันหันที่สถานี Hiyoshi เลย

Takamatsu
ไม่รู้ยังไงมาโผล่ที่นี่ได้ นั่งรถไฟมาก็ไกลมากอยู่55 (อยู่กันคนละฟากกับมิยาม่าเลย)
หลังขึ้นรถไฟจาก Hiyashi แล้วมาเปลี่ยนสายที่เกียวโตก่อนไปขึ้น Shinkansen ที่สถานี Shin-Osaka
ก่อนจะลง Shinkansen ที่โอคายาม่าละเปลี่ยนรถไฟไปสถานี Takamatsu
ก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ จากปราสาทยาวไปถึงริมทะเล
คือไม่มีข้อมูลของที่นี่เลย เสิร์ชจากกูเกิลแมพเอาตรงไหนใกล้ๆ สถานีค่อยเดินไป

Kurashiki Bikan Historical Quarter
ไหนๆ ก็มาถึงโอคายาม่าแล้วก็แวะมาคุราชิกิหน่อยแล้วกัน
รอบที่แล้วไปกลางวันรอบนี้มากลางคืนบ้าง

NAMBA Parks
ก่อนจบวันแรกก็แวะไปดูไฟที่สวนนัมบะ

วันที่ 2

ไหนๆ ก็มาอามาโนฮาชิดาเตะแล้วก็น่าจะแวะมาฝั่งตรงข้ามหน่อย
(รอบที่แล้วขึ้นไปแค่ Amanohashidate View Land)
เริ่มจากนั่งรถไฟมาลงสถานี Amanohashidate แล้วมารอรถบัสหน้าสถานี
แต่ของเราขี้เกียจนั่งบัสเลยเปลี่ยนไปนั่งเรือข้ามฟากแทน

Chionji Temple
ก่อนถึงท่าเรือข้ามฟากก็แวะวัดข้างๆ (ข้างซ้ายของท่าเรือ) หน่อยแล้วกัน
จากนั้นก็เดินไปขึ้นเรือข้ามฟาก(สปีดโบ้ท) ขาละ 600 Yen

Kasamatsu Park & Motoise Kono Shrine
ขึ้นเรือมาเดินข้ามถนนมาก็จะเจอศาลเจ้าก่อนเลย
จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายจากข้างๆ ศาลเจ้า ตรงไปเรื่อยๆ จะเจอเคเบิลคาร์
Chair Lift ปิด เลยเหลือแค่เคเบิลคาร์ขาละ 320 Yen

Ine Fishing Village
จาก Kasamatsu Park เดินมารอรถบัสที่ถนนเพื่อไปหมู่บ้านชาวประมง Ine ต่อ
ค่ารถบัสจากตรงนี้ไปลงป้าย Ine 200 Yen (แต่จาก Ine กลับมายังสถานี Amanohashidate 400 Yen)
ตารางเดินรถ: https://www.amanohashidate.jp/lang/en/bus-timetable/
มาถึงฟ้าครึ้ม+ฝนตกรินซะงั้น เลยอยู่ที่นี่ไม่นานก็กลับ

Festa Luce: Wakayama Marina City
ปิดท้ายวันนี้ที่มาริน่า ซิตี้ วากายาม่า โดยนั่งรถไฟมาลงสถานี Kainan
จากนั้นเดินมารอรถบัสที่ชานชาลาหมายเลข 3 (ทุกสายของชานชาลานี้ผ่านมาริน่า ซิตี้) สายไหนมาก็ขึ้นได้เลย
ค่ารถบัส 250 Yen (ระยะทางประมาณเกือบ 4 กิโลเมตรจากสถานี Kainan)

วันที่ 3

วันนี้มีเวลาแค่ครั้งวัน (อีกแล้ว) เลยปิดท้ายที่ชิราฮาม่าแค่เมืองเดียว

Shirahama ฺBeach
วันนี้เราซื้อพาสบัส Shirahama Onsen Pass for Sightseeing 1,100 Yen
สามารถซื้อกับคนขับรถได้เลย (เขาจะให้พาสกระดาษแข็งสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วก็ตารางเดินรถมา)
จากนั้นก็นั่งรถบัสไปลงหาดชิราฮาม่า ก่อนลงก็โชว์พาสให้คนขับดูก่อนลง
มีออนเซ็นเท้าใกล้ๆ หาดด้วย เข้าไปนั่งแช่ได้ ฟรี (แถวนั้นแอบได้กลิ่นกำมะถันหน่อยๆ)

Senjojiki
จากนั้นก็กลับมารอรถบัสที่ป้ายรถบัสเดิม ก่อนจะขึ้นบัสไปลงป้าย Senjojiki
จากนั้นก็เลี้ยวขวาแล้วเดินเข้าไปอีกไม่ถึงร้อยเมตรก็ถึง

Sandanbeki Dokutsu Cave
จาก Senjojiki ก็เดินกลับมาที่ถนนละเดินขึ้นไปทางทิศตะวันออกไม่ไกลก็ถึง (2 ป้ายรถบัส)
ที่นี่สารภาพเลยว่าไม่ได้ลงไปด้านล่างผาด้วยเหตุผลส่วนตัวนิดหน่อย

จากนั้นก็นั่งรถบัสกลับสถานี Shirahama เพื่อนั่งรถไฟกลับสนามบินคันไซ
ตอนนั่งรถบัสกลับผ่าน Nanki Shirahama New Viewing Point ซึ่งจะเห็นเกาะ Engetsu ได้ด้วย

*
ก็เป็นอันจบทริปญี่ปุ่น 3 วัน 2 คืนในภูมิภาคคันไซ เก็บตกของเดิมเมื่อปีที่แล้ว
ส่วนตัวแอบผิดหวังกะหลายๆที่ที่ไป ตอนแรกคิดไว้น่าจะสวยกว่านี้
แต่ญี่ปุ่นเค้าเก่งประฃาสัมพันธ์จริงๆ จากที่ที่ไม่มีอะไรก็ทำให้เราดั้นด้นไปดูไปชมให้ได้ซะอย่างนั้น55

รอบหน้าถ้ามาคันไซอีกก็คงตามเก็บส่วนที่เหลือแหละ
แล้วเจอกันใหม่ในรีวิวต่อไป

*
ปล. ลืมกดให้คะแนนซะงั้น เอาไปเลย 5 ดาวเต็มสำหรับ JR Kansai Wide Area Pass ที่ใช้งานง่ายจริงๆ
แลกก็ง่าย ใช้งานก็ง่ายแค่เสียบบัตรตรงเครื่องกั้นก็ใช้ได้ทั้งรถไฟ JR และ Shinkansen
ชื่อสินค้า:   JR West , Kansai Wide Area Pass
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่