[CR] [CR] 4 วันในภูมิภาคคันไซด้วย Kansai WIDE Area Pass

กระทู้รีวิว
ก่อนอื่น นี่เป็นริวิวแรกของจขกท. ถ้ามีข้อผิดพลาดใดๆ ก็ขออภัยไว้ ณ ทีนี้ด้วย
จขกท. แค่อยากแชร์แพลนคร่าวๆ เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวในแถบคันไซ
เพราะจขกท. เอง ก็ลอกแพลนหลายๆ อันจากพันทิปด้วยเหมือนกัน

ทริปครั้งนี้ จขกท. มีเวลาแถบคันไซแค่ 4 วัน แต่ก็โลภมากอยากไปหลายๆ ที่ที่คนเขารีวิวเอาไว้
ดังนั้น พาส JR Kansai Wide Area Pass จึงน่าจะตอบโจทย์จขกท. มากที่สุด

ด้วยเวลาจำกัดเพียง 4 วัน 4 คืน ทำให้แพลนที่ออกมาค่อนข้างแน่น แต่จะแค่ไหน.. ไปดูกัน


วันแรก



หลังจากเดินทางถึงสนามบินคันไซในช่วงเช้า จขกท. ก็ตรงไปแลกตั๋ว JR Kansai Wide Area Pass
ด้วยเวาเชอร์ที่ได้รับทางอีเมล โดย จขกท. จองกับเว็บๆ หนึ่ง ในราคาเมื่อแปลงเป็นสกุลเงินไทยแล้วประมาณ 2,425 บาท

เมื่อได้ตั๋วมาแล้ว ตั๋วมีระยะเวลา 5 วันหลังเริ่มใช้งานครั้งแรก
โดยการใช้งานครั้งแรกให้เดินเข้าช่องพิเศษที่มีจนท. ยืนอยู่ (มักจะอยู่ขวามือหรือซ้ายมือสุดของช่องทางเข้าออกสถานี)
จากนั้น ยื่นพาสให้เขา เขาจะปั๊มวันที่เริ่มใช้งานและวันสุดท้ายที่ใช้งานได้
และครั้งต่อๆ ไปที่จะใช้งาน ก็แค่เดินเข้าออกช่องนี้และยื่นพาสให้จนท. ดู แค่นั้น


โดยวันแรก จขกท. เริ่มจากฝั่ง Wakayama ก่อน
จากสถานี Kansai Airport ก็มาง่ายๆ แค่นั่งมาเปลี่ยนสายที่สถานี Hineno
การเปลี่ยนสายของที่นี่ก็ต้องดูด้วยว่าต้องเปลี่ยนชานชาลาไหม อย่างถ้าไป Wakayama ก็ต้องข้ามสะพานไปขึ้นรถไฟอีกฝั่ง
มาถึง Wakayama ก็ตรงดิ่งไปที่ชานชาลาที่ 9 ชานชาลารถไฟ Wakayama Electric Railway เพื่อจะไปสถานี Kishi
พอไปถึงก็ยื่นพาสให้จนท. เขาพยักหน้าให้ก็เป็นอันใช้ได้
(ถ้าไม่มี JR Kansai Wide Area Pass ก็เสีย 370¥ ต่อเที่ยว หรือ Day Pass 720¥)
จขกท. เดินเข้าไปถ่ายรูป กับเข้าไปนั่งในรถไฟแป๊ปนึง เป็นรถไฟอิชิโกะสตรอเบอรี่ ข้างในไม่มีอะไรเลยเป็นรถไฟท่องเที่ยวธรรมดา

ตอนแรก จขกท. กะว่าจะนั่งจนสุดสาย ก็เลยเปลี่ยนใจกะทันหัน เดินออกจากสถานีซะงั้น
โดยกะว่าค่อยรอรอบที่เป็นรถไฟแมวทามะดีกว่า ค่อยไปแล้วกัน
แต่พอดูตารางรถไฟแล้ว อีกครึ่งชั่วโมง ดังนั้น จขกท. เลยเปลี่ยนแผนไปสำรวจจังหวัด Wakayama แทน


และเป็นครั้งแรกในการใช้บริการเช่ารถจักรยานฟรี Ekirin Kun ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษของผู้ถือตั๋ว JR Pass (ถ้าไม่มีตั๋วก็เช่าได้ครั้งละ 500¥)
โดย Ekirin Kun สาขา Wakayama หลังออกจากสถานี อยู่ด้านซ้ายมือประมาณ 100 เมตร จะมีซุ้มเล็กๆ มีรถยนต์จอดอยู่
และเมื่อเห็นสัญลักษณ์ Ekirin Kun ก็ตรงเข้าไปแล้วบอกจะเช่ารถจักรยานด้วย JR Pass
เขาก็จะให้กรอก ชื่อสกุล โรงแรม และจะเช่าจนถึงกี่โมง (อย่างสาขาที่คนใช้บริการบ่อย จะเพิ่มเบอร์โทรศัพท์ พาสปอร์ต ด้วย)

เพิ่มเติม สำหรับบางสาขา เจ้าของร้าน Ekirin Kun เขาจะมีโน้ตว่า ให้เฉพาะผู้ถือบัตร JR West Area Pass แค่นั้น
เพราะฉะนั้น คนที่ถือพาสอื่นๆ รวมถึง Kansai Wide Area Pass เขาจะไม่ให้เช่าฟรี
จขกท. จึงต้องเปิดเว็บ JR West แล้วโชว์หน้าเว็บ Kansai Wide Area Pass ให้ดู เขาถึงยอมให้เช่า

เมื่อเช้าจักรยานเรียบร้อยแล้วก็ปั่นสำรวจเมือง Wakayama ทันที
ปั่นไปกลับปราสาท Wakayama ประมาณ เกือบ 4 กิโลเมตร แต่ก็ใช้เวลาไม่นาน เพราะอากาศดี

มีขึ้นเนินนิดหน่อย แต่มีเพื่อนร่วมทริปปั่นกันเยอะ เส้นทางก็ไม่ค่อยซับซ้อน เพราะงั้น ไม่ต้องกลัวหลง ปั่นจนเหนื่อยก็กลับมาคืนจักรยาน

คืนจักรยานเสร็จก็กลับไปที่ชานชาลาที่9 สถานี Wakayama อีกครั้ง ปรากฎว่า ก็ยังเจอขบวนอิชิโกะสตรอเบอรี่อีก
เพราะงั้น เลยล้มแพลนนี้แล้วไปต่อที่อื่นดีกว่า (เพราะเดี๋ยวจะไม่ทันเป้าหมายสำหรับวันนี้ด้วย)
โดยนั่งรถขบวน Ltd. Exp Kuroshio ไปลงสถานี Shirahama
ซึ่งบางสถานีจะมีเขียนไว้ทั้งที่ชานชาลาและบนบอร์ดว่าตู้ไหนเป็น Non-reserved Seat
เพราะงั้น ขึ้นๆ ไปก่อนก็ได้(ดีกว่าตกขบวน) แล้วค่อยเดินไปตู้ที่เป็น Non-Reserved Seat เอา
หรือถ้าไม่รู้ เดี๋ยวจะมีจนท.เดินตรวจตั๋ว หลังจากยื่นตั๋วให้เขา เขาจะถามว่าเรามาจากไหน และ/หรือ จะไปที่ไหน
ถ้าเราขึ้นผิดตู้ เขาก็จะบอกเราเองว่าให้ไปนั่งตู้ไหนแทน

ถึงสถานี Shirahama อ่านรีวิวมา บอกว่าที่นี่มี Shirahama Beach กับ Sandanbeki Rock Cliff ที่น่าไป
ก็เอาหล่ะ สถานีนี้มี Ekirin Kun เหมือนกัน ปั่นอีกดีกว่า เพราะได้ทั้งบรรยากาศและประหยัดค่ารถบัส
ปรากฎว่าคิดผิดอย่างแรง เพราะที่ปั่นมันไม่ใช่ทางเรียบและเป็นปั่นขึ้นลงเนินเขา จบเลย
ปั่นไปแค่กิโลกว่าก็ไม่ไหว เลยตัดสินใจกลับสถานีดีกว่า ไม่งั้นเป็นลมกลางทางคงลำบากแล้ว

จุดมุ่งหมายต่อไปคือสถานี Kiikatsuura ซึ่งเป็นทางผ่านไปสู่ Nachi Falls อันเป็นเป้าหมายวันนี้ของ จขกท.
มาถึงสถานี เดินออกมาจะเจอบิลบอร์ดของรถบัสไป Nachi Falls ทันที
จขกท. ก็เดินไปสอบถาม เขาจะถามว่าเราจะกลับมาที่สถานีนี้อีกไหม ถ้ากลับแนะนำให้ซื้อพาส 1,000¥ จะคุ้มกว่า
ซึ่งถ้าคำนวณราคาไปกลับปกติก็คุ้มกว่าจริงๆ แล้วก็จะให้ตารางมา รวมทั้งบอกว่าเที่ยวต่อไปเมื่อไหร่ แล้วเที่ยวสุดท้ายที่กลับมาที่นี่ได้

ข้อแนะนำสำหรับคนที่จะไป Nachi Falls ให้ไปลงสถานีสุดท้าย Nachisan(ด้านบน)
แล้วเดินลัดเลาะลงมา Nachi Falls(ด้านล่าง) จขกท. เดินจากล่างขึ้นบน แทบจะเดินไม่ไหว

ถ้าไม่ค้างที่ Kiikatsuura จะมีรถไฟ Ltd. เที่ยวสุดท้ายกลับโอซาก้าประมาณ 6 โมงเย็น
เพราะงั้น ต้องกลับจาก Nachi Falls เที่ยวรองสุดท้าย คือมาถึงสถานี Kiikatsuura ประมาณ 17.35 น.

สามทุ่มกว่าถึงที่พักแวะเก็บของ แล้วออกไปเดินเล่นย่านนัมบะ จน 5 ทุ่มกว่าๆ ก็เดินกลับที่พัก
เป็นอันจบทริปวันแรก (Note: ค่าเดินทางเฉพาะรถไฟทั้งหมดในวันแรก 13,100¥ ..แค่วันแรกก็เกินค่าพาสไปแล้ว~)



วันที่สอง



ตื่นเช้ามาก็เจอฝนลงแต่เช้า ถึงกับต้องเดินกางร่มไปสถานีรถไฟกันเลยทีเดียว
และสถานีแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นคือสถานี Saga Arashiyama ในเกียวโต
ไปถึงประมาณ 7 โมงกว่าฝนซาแล้ว แต่ฟ้ายังครึ้มอยู่เลย แถมวัดต่างๆ ก็ยังไม่เปิด เลยเดินเล่นแถวสะพาน Togetsukyo

แล้วก็แวะเข้าวัด Tenryuji เฉพาะส่วนที่เข้าได้ ปิดท้ายที่ป่าไผ่

เดินทะลุป่าไผ่ก็จะเข้าสู่สถานี Torokko Arashiyama ซึ่งเป็นสถานีที่2 ของรถไฟสายโรแมนติก
ไปซื้อตั๋วที่นั่นได้เหมือนกัน แถมไม่มีคิวด้วย ได้เที่ยวแรก 09.04น. ตู้5 ด้านข้างเปิดโล่ง
และบอกเลยว่าเป็นอะไรที่ฟินมาก เพราะวิวสวยมาก แต่ข้อเสียคือ รถไฟขับเร็วมาก เก็บภาพไม่ทัน ภาพสั่นไปหมด
แต่พูดไปแล้วแค่เสพด้วยตาก็ถือว่าคุ้มมากๆ กับเงินที่เสียไปแค่ 620¥ สำหรับรถไฟเที่ยวเดียว

ไปถึงสถานีปลายทาง 09.25น. โดยประมาณ จากนั้น ลงจากสถานี เดินไปตามถนนเลียบทุ่งนา เกือบกิโลมั้ง แต่มีป้ายบอกทางตลอด
จนเจออุโมงลอดใต้สะพาน เดินลอดไปทางซ้าย พ้นอุโมงแล้วเลี้ยวขวา ก็จะเจอสถานี JR Umahori


นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Emmachi เดินออกด้านหน้าแล้วเลี้ยวขวาไปสี่แยก จากนั้นเลี้ยวซ้ายข้ามฝั่งถนนจะเจอป้ายรถเมล์
รอจนรถบัส JR West ผ่านมา ให้ขึ้นรถบัสที่ด้านหน้าเขียนว่า Takao ขึ้นกลาง/หลังรถ ขึ้นเฉยๆ ไม่ต้องดึงตั๋วกระดาษที่มีตัวเลข
พอตอนลงก็เดินถือพาสไปให้คนขับดูเป็นอันจบวิธีสำหรับขึ้นรถบัส JR West ด้วยพาส JR

จขกท. ลืมเช็คล่วงหน้าไปเลยไม่รู้ว่าต้องลงสถานีไหน
เคยอ่านรีวิว เขาบอกว่า ให้ลงสถานี Yamashiro Takao แล้วเดินลงเขาไปเรื่อยๆ ก็เลยลง
ปรากฎว่าทางเดินลงเขาปิด เงิบเลย สำหรับใครที่จะไปน่าจะไปลงสถานี Toganoo ซึ่งต้องนั่งเลยต่อไปอีก 2 สถานี มั้ง
จขกท. ลงผิดป้ายไปแล้ว ก็เลยเดินถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสีแถวนั้นนิดหน่อย พอดีรถบัสมา ก็เลยนั่งรถบัสกลับสถานี Emmachi แทน
(เส้นทางไป Takao ยังผ่าน ปราสาท Nijo วัด Ryoanji วัด Ninnaji ด้วย แวะลงได้ทุกป้าย)

ถึงสถานี Emmachi ก็นั่งรถไฟไปรอรถไฟ Ltd. Exp Hashidate ที่สถานี Kamioka แล้วนั่งยาวๆ ไปสุดสายที่สถานี Amanohashidate
ซึ่งที่นี่ จขกท. ใช้วิธีเดินเที่ยวเอา(เพราะไม่มีจักรยานเช่าฟรี) เป็นเมืองเล็กๆ บรรยากาศดี
เริ่มจากนั่งกระเช้า/โมโนเรล ขึ้นเขาชมวิว ค่าโดยสาร 850¥ แต่มีบัตร Kansai Wide Area Pass เลยลดเหลือ 700¥

จากนั้นก็เดินชมเมือง ไปจนถึงเกาะที่ยื่นลงไปในทะเล ยาวจนถึงอีกฝั่ง
แต่จขกท. เดินไม่ถึง เพราะอากาศมันเย็นๆ ขึ้นจมูก เลยเดินกลับไปสถานี รอเดินทางไปสถานี Kinosaki Onsen ต่อไป

จากสถานี Amanohashidate ถ้าจะไปสถานี Kinosaki Onsen ด้วยรถไฟ JR
มันจะต้องอ้อมกลับไป Fukushiyama ใช้เวลาเป็นชาติ จขกท. เลยได้ขึ้นรถไฟที่ไม่ใช่ JR อีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ไม่ต้องเสียตังค์เพิ่ม เพราะ JR Kansai Wide Area Pass รวมรถไฟ Kyoto Tango Railway ไว้แล้ว  

รถไฟ Kyoto Tango Railway ไปสุดสายที่สถานี Toyooka
แล้วก็ต่อรถไฟ JR ไปจนถึงสถานี Kinosaki Onsen (ถ้าไม่ลงสถานีนี้ก็นั่งไปสุดพาสที่สถานี Tottori)
ออกมาก็จะเจอบ่อแช่เท้าข้างสถานี แล้วก็บ่อน้ำดื่มหน้าสถานีรถไฟเลย
เดินเข้าไปในเมืองก็จะเจอคนหนุ่มสาว นุ่งชุดยูกาตะเดินรอบเมือง
แต่จขกท. จองที่พักไว้แล้ว เลยไม่ได้ค้างที่นี่ แต่แอบกรอกน้ำดื่มหน้าสถานีไว้กินอยู่ เค็มใช้ได้เลย

กลับถึงสถานีโอซาก้าสามทุ่มกว่า ยังคึกคักอยู่เลย เดินเล่นชิลๆ จนเบื่อ ก็นั่งรถไฟ JR กลับที่พัก
ชื่อสินค้า:   kansai , Japan
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่