เครียตจนเกือบบ้า และทางแก้
ผมต้องพิมว่าและทางแก้ เพราะผมทำงานมักจะพูดว่า ไม่ใช่มองแต่ปัณหา มองทางแก้ไว้ด้วย
ผมเปิดรับทุกความเห็นนะครับ เพราะทำงานจะเด็กจะแก่ผมรับฟังหมด
เมื่อช่วงต้นเดือน พฤจิกยา 2019 ผมไปตามข่าวๆนึง คดีฆาตกรรม
ลูกทำร้ายแม่ (ข่าวดังสะเทือนขวัญ) แรกๆผมไม่สนใจ ผมไม่เคยดูข่าวมาเป็นปีแล้ว
วันรุ่งขึ้นผม ก็มาตามข่าวในยูทูปดู ไม่รู้ตัวว่าดำดิ่งไป ตั้งแต่เมื่อไร ผมฟังตั้งแต่เช้า จนเย็น
ผมฟังข่าวนี้ ทั้งวันจนเครียต กลับบ้านมึนไปหมด คุยข่าววิจารย์กับที่บ้าน
และเครียต ครุ่นคิดถึงข่าวจนนอนไม่หลับ (แล้วมันเกี่ยวกับผมตรงไหนเหรอ ถึงนอนไม่หลับ ไม่ได้เกี่ยวกันเลย)
ผมเอง ก็เป็นชายโสด จบป.ตรี มา15 ปีได้ ตอนนี้อายุ 41 ทำงานพอมีเก็บ เลี้ยงแม่ และยายแก่ๆ ยังไม่มีเมีย
ผมรักแม่และยายผมมาก ชีวิตผมปกติสุขดีผมว่านะ ทำงานกลับบ้าน อยู่กับแม่และยาย ก่อนกลับเที่ยวห้างบ้าง ดูหนังบ้าง ชีวิตแค่นี้ผมว่าดีแล้ว
แต่ข่าวนี้มันสะเทือนใจมากๆ ผมไม่ชอบข่าวนี้ แต่ก็ยังเข้ามาฟัง และหามาฟังทั้งสัปดาห์ ยิ่งฟังยิ่งเครียตๆๆ
แล้วกลับมาวิจารย์กับ ที่บ้าน แม่เองบอกฟังแล้วก็เครียต จนอ้วกเลย(เครียต) ผมเองก็ว่าผมเครียตมากๆด้วย
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ผมเองก็ยังนึกถึงข่าวนี้อยู่ ทั้งตามข่าว หรือนึกถึงคอมเม้น การวิจารย์ต่างๆนาๆ คดีมันสรุปไปนานแล้ว (ศพก็เผาไปแล้ว)
นึกๆๆคิดๆๆ จนเครียต(คนในข่าวไม่ใช่คนรู้จัก ไม่ใช่ญาติพี่น้อง ใกล้เคียงใดๆ) คิดข่าวนึกตาม แม้ตดีจะสิ้นสุดไปแล้ว แล้วจู่ๆผมก็แวป จากเนื้อหาในข่าว
ประมาณว่า ศพอยู่ตรงนั้น แล้วมันทำแบบนี้ๆๆ (ผมมองเป็นบ้านผมซะงั้น.....) แล้วศพนั้นกลายเป็นคนในบ้านผม... (นี่คือภาพที่มันแวปมาในหัว)
เฮ้ยยย จากความเครียตตอนนั้นมันทวีๆๆๆ (ไม่ๆๆๆเฮ้ยยยย บ้าๆๆไปแล้ว) ผมกลัวภาพแวปในหัว มันถี่ขึ้น แวปๆๆ มาเรื่อยๆ ศพตรงนั้น(หยากให้มันหาย มันยิ่งผุดๆๆ) ผมรู้ไม่ใช่ภาพหลอน เหมือนคนจิตเภท ที่เห็นภาพหลอนจริงจังและเชื่อภาพนั้นเป็นจริง (แต่ภาพนี้มันแวป เสี้ยววินาที)
ตรงนู้และตรงนี้ ที่ทำงานบ้าง แม้แต่ไปเที่ยว ตจว. ปีใหม่ ภาพอะไรต่อมิอะไร มันก็แวปมา เรื่อยตอนกินข้าว นั่งรถ ผมเครียตใจสั่น กลัวภาพแวปเหล่านั้น
ผมทุกข์มากๆ หนักๆเข้าจนเห็นเงาแวปๆ และผมตกใจง่ายขึ้น กลัวเงาขึ้นมาซะงั้น คิดไปว่าเป็นผี ปีศาจ แวปภาพปีศาจจากหนังสือ การตูน25 ปีที่แล้ว
มาหลอก ภาพแวป (โธ่ๆๆ เรื่องแต่งกลัวทำไม) ไม่กล้ามองตัวเองในกระจก กลัวตัวเอง ขึ้นมา แวปคำพูด เนี่ยๆโรคจิต (เฮ้ยผมเครียต ตูกำลังบ้าใช่ไหม)
กลับบ้าน สายตาจะมองเหล่ๆๆ มีดในบ้านบ่อยๆเข้าครัว (แล้วว่าตัวเอง มองทำไม มะรึงเป็นอะไร)
ตอนนี้เข้าใจเลย เคนตลกเห็นคนผีเข้า ไล่ผี เราขำตลกเขา ดูสิคนบ้าผีเข้าตลกจัง (ตอนนี้ละ เจอกับตัว ใกล้บ้าแล้ว)
และผมมีอารมณ์โกรษง่ายบ่อยๆ ทั้งๆที่ใจดีซื้อขนมกลับบ้านกันกันในครอบครัว ร่าเริงตลก มันเหมือนจะพลันจะให้ผมโกรษง่ายๆ
โกรษทุกเรื่องได้ คนในบ้านถ้าจะพูดไรไม่พอใจ แล้วโมโหแบบดับไม่ค่อยลง (ไม่รู้สาเหตุ)
**********เกือบจะไปหาหมอตอนหยุดปีใหม่
จนผมได้ฟังเรื่อง การปรุงแต่งของจิต
https://www.youtube.com/watch?v=FVkqP6-xNt4
และใช้ธรรมะเข้าช่วย (อานาปานสติกรรมฐาน) ฟังหลังเห็นภาพได้สัปดาห์ ไม่รู้ยังไงไปพิมเจอ
ผมฟังเป็นเดือนๆ ในช่วงที่เห็นภาพแวปแรกๆ ภาพพวกนั้นมันก็ลดลงไป หนักบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่วันเวลา
ธรรมะเรียกว่า อนัตตา สิ่งที่เกิดมาเอง และจะดับไปเองได้
ให้รู้ตัวรู้ทันจิต อยู่กับลมหายใจ ของตัวเอง
ในวิทยาศาสตร์ คือผมเอง คลุกคลีกับหนังมากไป ดูซีรีย์ที่มีแต่เรื่องโหดร้าย รุนแรงมันแฝงอยู่เยอะสารคดี
เรื่องราวรุนแรงในโลกโซเชี่ยล ทุกเรื่อง (มีแต่พวกจิตอ่อนเท่านั้นที่เป็น คุณจะรู้ได้ยังคุณจิตแข็ง และแค่ไหนที่เรียกว่าแข็ง)
สิ่งนี้มันค่อยๆซึมเข้าไปในจิต (คนปัจจุบัน จึงเครียตและเกิดเรื่องต่างๆมากมาย)
การปรุงแต่งของจิต เอาเรื่องราวต่าง เรื่องหนังเรื่องจริงเรื่องอ่าน ภาพยนต์ ไปซ้อนกับคนรู้จัก
ไปปนกันเกิดภาพแวป (ไม่ถึงกับเห็นภาพหลอน และผมรู้สิ่งนั้นไม่ใช่ของจริง)
ผมดีขึ้น 2 เดือนภาพแวปน้อยลง และเปลี่ยนแปลงไปเป็นแวปภาพอื่น (เป็นผมจับมีด ถือมีด) แต่ผมไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ
ผมรู้กายรู้ใจตัวเอง ผมไม่ได้มีความยินดี หรือมีความสุข กับภาพแวปนั้น ดังนั้นพระท่านว่า ภาพแวปนั้น มันไม่ใช่ตัวตนของผม แน่นอน เพราะเราไม่ชอบมัน
ส่วนอารมณ์โกรษผมยังมีอยู่ ผมมองว่า อาจมีความเครียตจากการทำงาน ซึ่งใช่ ผมเครียตงานมาก มา2-3ปี ผมโดนเลื่อยเก้าอี้
ก่อนเรื่องนี้ กว่าปี ที่ผมเครียตกับงาน โกรษเพื่อนร่วมงานหลายคน หัวหน้างาน จนบางคืนนอนไม่หลับ
โกรษเกลียตแค้น (ตอนนี้ผมอภัยให้เขาทุกคนแล้ว โกรษเขาเราทุกข์)
ผมโกรษเขา ผมเกลียตพวกเขา สิ่งเหล่านี้คืออาหารของ จิตอกุศล จิตอกุศล ตั้งอยู่ได้ด้วยอาหารที่เลี้ยงมันอยู่
โทสะ โมหะ โลภะ กิเลศ ตันหา ราคะ ของพวกนี้ใครมีมาก วันนึงเมื่อเจอจิตอกุศลเข้า
จิตอกุศลจะไม่หายง่ายๆเพราะมันมีพลังงานอาหารที่เลี้ยงมัน
ตัวอย่าง
คนมีโทษะมาก ขี้โมโห วันนึงรถปาดหน้า(จิตอกุศล) ก็ขับตามยิงกันเลย นี่ละตัวอย่าง
ผมจึงต้องเปลี่ยนตัวเอง ออกจากความเครียต
1.ตอนนี้ผมหันมาฟังธรรมบ้าง เอาแบบแง่คิดดีๆ(ไม่เน้น ภาษาพระฟังยากๆ)
2.หลังเลิกงาน ไปหาอะไรรีแลคบ้าง ออกกำลังกายเดินเล่นสวนสาธารณะ
3.ห่างไกลจากคนที่ทำให้แย่ จะเพื่อนที่ทำงาน เหตุเดิมๆชวนปะทะคารม เราควรออกห่าง
หรือคนในบ้านก็ดี (รำคาญบ่น หรืออะไรก็แล้วแต่) และใช้ธรรมะมาช่วยปรับความคิดครับ
4.ชวนคนที่บ้านออกๆไปเที่ยวบ้าง เพื่อผ่อนคลายจากมุมเดิมๆ จะสวนสาธารณะ ใกล้ไกล ไปเถอะ
ขอให้ไปออกไปจากที่เดิมๆ มันจะผ่อนคลายได้มากครับ เที่ยวเยอะๆ
5.สื่อต่างๆข่าวหนังภาพยนต์ ดูแต่สิ่งที่มันส้างสรร นั้นดีที่สุด หนังหลายๆเรื่องแฝงไว้ด้วยความรุนแรง โหดร้าย
จนคนปัจจุบัน มีแต่ความคุ้นชินกับความรุนแรงซะเยอะ มันอยู่ในสื่อทุกสื่อแต่หลายคนไม่สนใจและรับมันเข้าไป
เหมือนของไม่ดี แต่ไม่มีใครรู้กินดื่มไป 20 ปีเพิ่งมาวิจัยเจอมามีแต่โทษ
ผมทำ 5ข้อนี้วันนี้ภาพแวปนั้นมัน ลดลงน้องลงๆๆๆ และผมก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันแล้วครับ
แล้วหาไรดีๆมาฟังบ้าง
เครียตจนเกือบบ้า และทางแก้
ผมต้องพิมว่าและทางแก้ เพราะผมทำงานมักจะพูดว่า ไม่ใช่มองแต่ปัณหา มองทางแก้ไว้ด้วย
ผมเปิดรับทุกความเห็นนะครับ เพราะทำงานจะเด็กจะแก่ผมรับฟังหมด
เมื่อช่วงต้นเดือน พฤจิกยา 2019 ผมไปตามข่าวๆนึง คดีฆาตกรรม
ลูกทำร้ายแม่ (ข่าวดังสะเทือนขวัญ) แรกๆผมไม่สนใจ ผมไม่เคยดูข่าวมาเป็นปีแล้ว
วันรุ่งขึ้นผม ก็มาตามข่าวในยูทูปดู ไม่รู้ตัวว่าดำดิ่งไป ตั้งแต่เมื่อไร ผมฟังตั้งแต่เช้า จนเย็น
ผมฟังข่าวนี้ ทั้งวันจนเครียต กลับบ้านมึนไปหมด คุยข่าววิจารย์กับที่บ้าน
และเครียต ครุ่นคิดถึงข่าวจนนอนไม่หลับ (แล้วมันเกี่ยวกับผมตรงไหนเหรอ ถึงนอนไม่หลับ ไม่ได้เกี่ยวกันเลย)
ผมเอง ก็เป็นชายโสด จบป.ตรี มา15 ปีได้ ตอนนี้อายุ 41 ทำงานพอมีเก็บ เลี้ยงแม่ และยายแก่ๆ ยังไม่มีเมีย
ผมรักแม่และยายผมมาก ชีวิตผมปกติสุขดีผมว่านะ ทำงานกลับบ้าน อยู่กับแม่และยาย ก่อนกลับเที่ยวห้างบ้าง ดูหนังบ้าง ชีวิตแค่นี้ผมว่าดีแล้ว
แต่ข่าวนี้มันสะเทือนใจมากๆ ผมไม่ชอบข่าวนี้ แต่ก็ยังเข้ามาฟัง และหามาฟังทั้งสัปดาห์ ยิ่งฟังยิ่งเครียตๆๆ
แล้วกลับมาวิจารย์กับ ที่บ้าน แม่เองบอกฟังแล้วก็เครียต จนอ้วกเลย(เครียต) ผมเองก็ว่าผมเครียตมากๆด้วย
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ผมเองก็ยังนึกถึงข่าวนี้อยู่ ทั้งตามข่าว หรือนึกถึงคอมเม้น การวิจารย์ต่างๆนาๆ คดีมันสรุปไปนานแล้ว (ศพก็เผาไปแล้ว)
นึกๆๆคิดๆๆ จนเครียต(คนในข่าวไม่ใช่คนรู้จัก ไม่ใช่ญาติพี่น้อง ใกล้เคียงใดๆ) คิดข่าวนึกตาม แม้ตดีจะสิ้นสุดไปแล้ว แล้วจู่ๆผมก็แวป จากเนื้อหาในข่าว
ประมาณว่า ศพอยู่ตรงนั้น แล้วมันทำแบบนี้ๆๆ (ผมมองเป็นบ้านผมซะงั้น.....) แล้วศพนั้นกลายเป็นคนในบ้านผม... (นี่คือภาพที่มันแวปมาในหัว)
เฮ้ยยย จากความเครียตตอนนั้นมันทวีๆๆๆ (ไม่ๆๆๆเฮ้ยยยย บ้าๆๆไปแล้ว) ผมกลัวภาพแวปในหัว มันถี่ขึ้น แวปๆๆ มาเรื่อยๆ ศพตรงนั้น(หยากให้มันหาย มันยิ่งผุดๆๆ) ผมรู้ไม่ใช่ภาพหลอน เหมือนคนจิตเภท ที่เห็นภาพหลอนจริงจังและเชื่อภาพนั้นเป็นจริง (แต่ภาพนี้มันแวป เสี้ยววินาที)
ตรงนู้และตรงนี้ ที่ทำงานบ้าง แม้แต่ไปเที่ยว ตจว. ปีใหม่ ภาพอะไรต่อมิอะไร มันก็แวปมา เรื่อยตอนกินข้าว นั่งรถ ผมเครียตใจสั่น กลัวภาพแวปเหล่านั้น
ผมทุกข์มากๆ หนักๆเข้าจนเห็นเงาแวปๆ และผมตกใจง่ายขึ้น กลัวเงาขึ้นมาซะงั้น คิดไปว่าเป็นผี ปีศาจ แวปภาพปีศาจจากหนังสือ การตูน25 ปีที่แล้ว
มาหลอก ภาพแวป (โธ่ๆๆ เรื่องแต่งกลัวทำไม) ไม่กล้ามองตัวเองในกระจก กลัวตัวเอง ขึ้นมา แวปคำพูด เนี่ยๆโรคจิต (เฮ้ยผมเครียต ตูกำลังบ้าใช่ไหม)
กลับบ้าน สายตาจะมองเหล่ๆๆ มีดในบ้านบ่อยๆเข้าครัว (แล้วว่าตัวเอง มองทำไม มะรึงเป็นอะไร)
ตอนนี้เข้าใจเลย เคนตลกเห็นคนผีเข้า ไล่ผี เราขำตลกเขา ดูสิคนบ้าผีเข้าตลกจัง (ตอนนี้ละ เจอกับตัว ใกล้บ้าแล้ว)
และผมมีอารมณ์โกรษง่ายบ่อยๆ ทั้งๆที่ใจดีซื้อขนมกลับบ้านกันกันในครอบครัว ร่าเริงตลก มันเหมือนจะพลันจะให้ผมโกรษง่ายๆ
โกรษทุกเรื่องได้ คนในบ้านถ้าจะพูดไรไม่พอใจ แล้วโมโหแบบดับไม่ค่อยลง (ไม่รู้สาเหตุ)
**********เกือบจะไปหาหมอตอนหยุดปีใหม่
จนผมได้ฟังเรื่อง การปรุงแต่งของจิต https://www.youtube.com/watch?v=FVkqP6-xNt4
และใช้ธรรมะเข้าช่วย (อานาปานสติกรรมฐาน) ฟังหลังเห็นภาพได้สัปดาห์ ไม่รู้ยังไงไปพิมเจอ
ผมฟังเป็นเดือนๆ ในช่วงที่เห็นภาพแวปแรกๆ ภาพพวกนั้นมันก็ลดลงไป หนักบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่วันเวลา
ธรรมะเรียกว่า อนัตตา สิ่งที่เกิดมาเอง และจะดับไปเองได้
ให้รู้ตัวรู้ทันจิต อยู่กับลมหายใจ ของตัวเอง
ในวิทยาศาสตร์ คือผมเอง คลุกคลีกับหนังมากไป ดูซีรีย์ที่มีแต่เรื่องโหดร้าย รุนแรงมันแฝงอยู่เยอะสารคดี
เรื่องราวรุนแรงในโลกโซเชี่ยล ทุกเรื่อง (มีแต่พวกจิตอ่อนเท่านั้นที่เป็น คุณจะรู้ได้ยังคุณจิตแข็ง และแค่ไหนที่เรียกว่าแข็ง)
สิ่งนี้มันค่อยๆซึมเข้าไปในจิต (คนปัจจุบัน จึงเครียตและเกิดเรื่องต่างๆมากมาย)
การปรุงแต่งของจิต เอาเรื่องราวต่าง เรื่องหนังเรื่องจริงเรื่องอ่าน ภาพยนต์ ไปซ้อนกับคนรู้จัก
ไปปนกันเกิดภาพแวป (ไม่ถึงกับเห็นภาพหลอน และผมรู้สิ่งนั้นไม่ใช่ของจริง)
ผมดีขึ้น 2 เดือนภาพแวปน้อยลง และเปลี่ยนแปลงไปเป็นแวปภาพอื่น (เป็นผมจับมีด ถือมีด) แต่ผมไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ
ผมรู้กายรู้ใจตัวเอง ผมไม่ได้มีความยินดี หรือมีความสุข กับภาพแวปนั้น ดังนั้นพระท่านว่า ภาพแวปนั้น มันไม่ใช่ตัวตนของผม แน่นอน เพราะเราไม่ชอบมัน
ส่วนอารมณ์โกรษผมยังมีอยู่ ผมมองว่า อาจมีความเครียตจากการทำงาน ซึ่งใช่ ผมเครียตงานมาก มา2-3ปี ผมโดนเลื่อยเก้าอี้
ก่อนเรื่องนี้ กว่าปี ที่ผมเครียตกับงาน โกรษเพื่อนร่วมงานหลายคน หัวหน้างาน จนบางคืนนอนไม่หลับ
โกรษเกลียตแค้น (ตอนนี้ผมอภัยให้เขาทุกคนแล้ว โกรษเขาเราทุกข์)
ผมโกรษเขา ผมเกลียตพวกเขา สิ่งเหล่านี้คืออาหารของ จิตอกุศล จิตอกุศล ตั้งอยู่ได้ด้วยอาหารที่เลี้ยงมันอยู่
โทสะ โมหะ โลภะ กิเลศ ตันหา ราคะ ของพวกนี้ใครมีมาก วันนึงเมื่อเจอจิตอกุศลเข้า
จิตอกุศลจะไม่หายง่ายๆเพราะมันมีพลังงานอาหารที่เลี้ยงมัน
ตัวอย่าง
คนมีโทษะมาก ขี้โมโห วันนึงรถปาดหน้า(จิตอกุศล) ก็ขับตามยิงกันเลย นี่ละตัวอย่าง
ผมจึงต้องเปลี่ยนตัวเอง ออกจากความเครียต
1.ตอนนี้ผมหันมาฟังธรรมบ้าง เอาแบบแง่คิดดีๆ(ไม่เน้น ภาษาพระฟังยากๆ)
2.หลังเลิกงาน ไปหาอะไรรีแลคบ้าง ออกกำลังกายเดินเล่นสวนสาธารณะ
3.ห่างไกลจากคนที่ทำให้แย่ จะเพื่อนที่ทำงาน เหตุเดิมๆชวนปะทะคารม เราควรออกห่าง
หรือคนในบ้านก็ดี (รำคาญบ่น หรืออะไรก็แล้วแต่) และใช้ธรรมะมาช่วยปรับความคิดครับ
4.ชวนคนที่บ้านออกๆไปเที่ยวบ้าง เพื่อผ่อนคลายจากมุมเดิมๆ จะสวนสาธารณะ ใกล้ไกล ไปเถอะ
ขอให้ไปออกไปจากที่เดิมๆ มันจะผ่อนคลายได้มากครับ เที่ยวเยอะๆ
5.สื่อต่างๆข่าวหนังภาพยนต์ ดูแต่สิ่งที่มันส้างสรร นั้นดีที่สุด หนังหลายๆเรื่องแฝงไว้ด้วยความรุนแรง โหดร้าย
จนคนปัจจุบัน มีแต่ความคุ้นชินกับความรุนแรงซะเยอะ มันอยู่ในสื่อทุกสื่อแต่หลายคนไม่สนใจและรับมันเข้าไป
เหมือนของไม่ดี แต่ไม่มีใครรู้กินดื่มไป 20 ปีเพิ่งมาวิจัยเจอมามีแต่โทษ
ผมทำ 5ข้อนี้วันนี้ภาพแวปนั้นมัน ลดลงน้องลงๆๆๆ และผมก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันแล้วครับ
แล้วหาไรดีๆมาฟังบ้าง