(CR) ผ่าริดสีดวง ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

ตัดสินใจอยู่นานค่ะ ว่าจะเขียนรีวิวดีไม๊ แต่สุดท้ายเขียนดีกว่า เผื่อเป็นแนวทางให้ผู้ป่วยโรคเดียวกัน

....... ครั้งแรกที่เป็น คือ ตอนคลอดลูกคนแรกค่ะ แต่ก็เป็นธรรมดาของคนเบ่งคลอด (หมอบอกตอนนั้น)  12 ปีที่แล้วเลย

.....ต่อมา คลอดคนที่สอง ก็เป็นอีกค่ะ ประจวบกับออกมาขายของตลาดนัดเอง ยกของหนัก ยืนนาน เป็นกิจวัตรทุกวัน

ใช้ชีวิตอยู่กับริดสีดวงก้อนโตๆที่โผล่ออกมาทุกครั้งหลังอุจจาระ เราต้องคอยพกวาสลีนปิโตรเลียมเจลติดตัว เพราะต้องช่วยดันกลับเข้าไปหลังอึเสร็จ เป็นแบบนี้อยู่หลายปี ย้ำว่าหลายปี ของเราที่โผล่ออกมา คือ ก้อนใหญ่มาก หลายติ่งด้วยค่ะ แต่เราก็ยังไม่มีความกล้าจะไปผ่าตัด บวกกับว่ากังวลว่าจะต้องพักฟื้นนาน เราจะมีปัญหาเรื่องเงินๆทองๆแน่ๆ

สุดท้าย..... วันที่ 8 ธันวา ช่วงเช้า เราเข้าห้องน้ำ เพื่ออึ เหมือนทุกวัน....แต่ว่า!!!!

วันนั้นเราไม่สามารถดันกลับเข้าไปได้ มันบวมมาก พอเราพยายามกลายเป็นเลือดยิ่งไหลออกมา ออกมาจนมากมาย แถมเรามีอาการปวดริดซี่มากๆๆ ด้วยเหมือนกัน ทนไม่ไหว ต้องให้แฟนพาขับรถไป โรงพยาบาล ตอนนั้นในใจคิดว่าจะไปศิริราช แต่ด้วยความปวดของเรา ทนไม่ไหว บอกแฟนว่าไป โรงพยาบาลจุฬาฯเถอะ ใกล้กว่า

โชคดีว่า วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ รถไม่ติด ใช้เวลา 13 นาที จากบางนาไป รพ.จุฬา

พอพบหมอ หมอก็สั่งงดน้ำงดอาหารรอเลย(แต่....วันนั้นเราเพิ่งตื่น ข้าวปลาน้ำท่ายังไม่ได้กินเลย T_T)
รอจนบ่าย อาจารย์หมอขึ้นมาดู ประจวบกับเตียงว่างพอดีช่วงนั้น เลยสั่งผ่าตัดเลยทันที  



แต่กว่าห้องผ่าตัดจะว่าง ก็ปาไป 2 ทุ่ม คุณพยาบาลก็มาจัดแจงเข็นไป ระหว่างรอบอกตรงๆ กังวลมาก กลัวมาก แต่พอเข้าห้องผ่าตัดแล้ว คุณหมอและน้องๆหมอ ครื้นเครงชวนคุย ทำให้เราผ่อนคลายได้เยอะ

ขั้นตอนผ่าตัด......

เราเลือก ฉีดยาชาค่ะ ไม่บล๊อคหลัง ไม่ดมยาสลบ  เพราะผลข้างเคียงแทบจะไม่มี พอเราเลือกได้  หมอก็ให้นอนคว่ำ  เอาเทปมาแปะๆเนื้อก้นสองข้าง เพื่อให้มันเปิดรูทวาร  เอาแอลกอฮอล์ล้าง เย็นวาบบบบกันเลยทีเดียว หลังจากนั้น หมอก็จัดการ จิ้มยาชาลงรอบๆรูทวาร เจ็บจี๊ดๆ แต่เราทนได้ค่ะ มันจะเจ็บแค่ 3-4 จึ๊ก หลังจากนั้นจะแค่ตุบๆ แต่ไม่รู้สึกแล้ว  
  น้องหมอกลัวว่าเราจะเกร็งและกลัว เลยมียามาพ่นให้เราแค่เคลิ้มๆ พอหมอเสียงน้องหมอ เราว่าภาพตัดไปแล้ว แต่หูยังได้เสียงคุณหมอคุยกับน้องหมอระหว่างผ่าตัด ผ่านไปแค่ 20 นาที เราก็ลืมตาได้พอดี คุณหมอเลยบอกว่า อ้าวตื่นแล้ว เสร็จพอดีน้าคนไข้

....หลังจากออกจากห้องผ่าตัด สิ่งแรกที่เราร้องขอ คือ อาหาร 55555 แต่เนื่องจากดึกแล้ว แฟนเราก็กลับไปแล้ว  คุณพยาบาลเลยสละ นมและขนมสาลี่ ของคุณพยาบาลให้เรามาทานแทน ( ถ้าคุณพยาบาลมาอ่าน ขอบคุณมากๆอีกรอบนะคะ)

กว่าที่เราจะอึได้ คือ หลังผ่าตัดไปแล้ว 28 ชม.เลยค่ะ ถึงจะอึ เรากังวลมาก แต่สุดท้ายก็อึได้ สบายบรื๋อ ไม่ทรมานหรือปวดเวลาอึแล้ว  

เรื่องความปวดหลังผ่าตัด เราว่าไม่มากค่ะ ทนได้ เดินเข้าห้องน้ำได้ ไม่ปวดแบบเจียนตาย หมอถามตลอดว่าปวดไม๊ เราบอกว่า เราคลอดลูกเองมาแล้วสองคน ปวดหลังผ่าตัดริดสีดวงนี่จิ๊บๆค่ะหมอ 5555

คุณหมอแจ้งว่าให้นอนเยอะๆ พักเยอะๆ อย่ารีบเดิน หรือ ยกของหนัก เพราะของเราผ่าริดสีดวงออกไปเยอะมาก หมออยากให้นอนเยอะๆ แผลที่ปลายลำไสก่อนถึงรูทวาร
จะได้หายไวๆ  แต่เราพักแค่ 3 วัน เราก็ต้องไปนั่งขายของแล้ว

ตอนนี้ผ่านไป 1 เดือนแล้ว เราถ่ายปกติ เวลาปวดอึก็อั้นได้ตามปกติ ไม่ปวดที่แผล แต่ตอนนี้ยังมีตึงๆที่แผล บ้างนิดหน่อย อาจจะเพราะเราดื้อ ที่ไม่ได้พักฟื้นนานตามที่หมอบอก

การผ่าตัดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หลังผ่าตัดขีวิตเรามีความสุขเวลาเข้าส้วมเพื่ออึ มากขึ้น ไม่ต้องมากังวลว่าจะตเองคอยกันริดสีดวงกลับเข้าไปอีกต่อไปแล้ว

สุดท้าย...ใครที่ยังไม่กล้าไปหาหมอ ไปเถอะค่ะ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

ขอแถม ..เรื่องสุดท้าย

การเป็นโรคริดสีดวง ไม่ใช่เรื่องขำขัน มันคืออาการเจ็บป่วย กรุณาอย่าเอามาล้อเล่นขำขัน
เราเจอตลอดเวลาบอกจะมีคนจำพวกนึง ที่พอบอกว่าไปผ่าตัดริดสีดวงทวารมาปุ๊บ เค้าจะขำคริกๆๆ จนเราต้องถามว่าเรื่องป่วยมันน่าขำหรอ

ฝากด้วยนะคะ

ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้  
ขอกราบขอบพระคุณ คุณหมอ น้องหมอ และคุณพยาบาลที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ทุกท่านมากๆ ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่