คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
• มันคือการแซงคิวแบบศรีธนญชัย แบบข้างๆ คูๆ
• พ่อค้าแม่ค้าที่ไทยส่วนใหญ่ ถ้าทำอาหารพร้อมๆ กันหลายจาน หรือ ทำแบบรีบๆ ทำ จะรวนทันที อาหารจะไม่อร่อยทันที
เพราะเขาเน้นทำเวลา เน้นความไว เน้นทำให้เสร็จๆ ทำส่งๆ ไป เพราะเขากลัวลูกค้าหนี กลัวลูกค้ายกเลิก
แต่ไม่เน้นการรักษาคุณภาพ และ ปริมาณ
ขอให้เขาได้เงิน ขอให้ลูกค้าได้ของ แค่นั้นจบ วิสัยทัศน์ไม่ยาว ขาดความละเอียดอ่อน ละเมียดลมัยในการกินอยู่
เพราะชีวิตต้องต่อสู้ให้มีกินมีใช้ แบบแทบจะวันต่อวัน ขอแค่ให้เขาขายได้ แค่นั้นพอ
//
• การสั่งอาหารตามสั่ง แบบต้องรีบได้ของ รีบกิน รีบไป เพราะเวลาบีบคั้น สำหรับมนุษย์เงินเดือน คือต้องรีบกลับไปทำงาน
ส่วนใหญ่ เวลาพักเหมือนกัน คือ เที่ยงถึงบ่ายโมง เวลาเลิกงาน 5 โมงแย่งกันขึ้นรถไฟ แย่งกันขับรถออกสู่ท้องถนน เช้าเข้างาน 8.30-9 โมง
เป็นแบบนี้ทุกเมืองใหญ่
แต่บางเมือง หรือ บางออฟฟิสดีๆ เขามีการจัดการที่ดีไง คือ คนเอาของมากินเอง หรือ ซื้อมาล่วงหน้า หรือ สั่งดีลิเวอรี่
ที่ทำงานมีห้องให้นั่งกินอาหาร อุ่นอาหาร มีชากาแฟให้ มันคือสวัสดิการที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เครียดน้อยลง
จะได้ทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น
บางออฟฟิสมีการจัดการที่ดี เช่น ให้พนักงานแบ่งกันไปทานอาหารกลางวัน 3 รอบ คนทยอยไปทานข้าวได้
สามรอบ เช่น 11/11.30-12/12.30, 12.00-13.00, 13.00-14.00 เป็นต้น
//
ที่เมืองไทย หรือ ที่ ปท กำลังพัฒนาหลายๆ แห่ง ที่สังคมมีชนชั้นวรรณะเยอะ มีการแบ่งเขาแบ่งเรา มีการคอรัปชั่น
มีการไม่ทำตามกฏระเบียบ มีการไม่ค่อยรักษากฏหมาย มีระบบแข่งขัน แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น
มักจะมีผลผลิตบางส่วนเป็นดังนี้ เช่น …
• ต้องได้ก่อน ได้มาด้วยวิธีใดก็ได้ เพราะถ้าไม่ได้ก่อน กลัวจะไม่เหลืออะไรเลย เพราะถ้าไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่สามารถเรียกร้องอะไรกับใครได้
(กฏระเบียบไม่มี จรรยาบรรณไม่สำคัญ)
• ทำอะไรก็แล้วแต่ เอาความกลัวเป็นตัวตั้ง (แสดงถึงการขาดความยุติธรรม การกดขี่ข่มเหง)
• อันดับรองลงมาหรือสูสีกัน คือการเอากำไรขาดทุนเป็นตัวตั้ง (แสดงถึงระบบทุนนิยม ระบบเศรษฐกิจ)
• ต้องโกงนิดๆ ได้มาซึ่งการไม่ตรงไปตรงมานิดๆ คนจะเกิดความภาคภูมิใจ คิดว่าตนเองฉลาดกว่าคนอื่น (การคอรัปชั่น การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น)
• คนส่วนใหญ่ขาดจิตสาธารณะ ขาดความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา ขาดมารยาทสังคมขั้นพื้นฐาน (เพราะสภาพสังคม การศึกษา ครอบครัว)
เป็นต้น
//
เรื่องแค่นี้ แค่สั่งข้าวพ่วงกับคนข้างหน้า โดยที่ไม่ยอมรอตามคิวของตนเอง
มองเผินๆ เหมือนเป็นแค่เรื่องเล็กๆ หยวนๆ น่า แค่นี้เอ๊ง ถ้ายอมได้ ปล่อยได้ ปล่อยไปเถ้อะ อย่าเรื่องมากนักเลย
แต่ถ้ามองลึกๆ มองอย่างคิดพิจารณาให้ถ้วนถี่ รอบด้าน
มันสามารถสะท้อนอะไรได้หลายอย่างเลย เช่น
• สภาพสังคม
• สภาพเศรษฐกิจ
• ระบบความคิด
• การรักษากฏระเบียบ
• การที่คนในสังคมเคารพซึ่งกันและกันหรือไม่
• คนให้ความสำคัญกับเรื่องเข้าคิวหรือไม่
เป็นต้น
//
ทุกสิ่งทุกอย่าง ของทุกประเทศ มีที่มาที่ไป ตั้งแต่โบราณ เป็นเหตุ เป็นผล มีการสั่งสมของความรุ่งเรือง หรือ ของความเสื่อมถอย
หรือ การสั่งสมของปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง จนตรรกะบิดเบี้ยว จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไป
ทุกประเทศ ประกอบไปด้วย สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา พลเมือง ระบบความคิดของคน การเมือง การปกครอง การบริหาร ศาสนา
ความเชื่อ ค่านิยม กฏหมาย กฏระเบียบ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม สภาพภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ ที่ตั้ง เป็นต้น
ทุกๆ อย่างที่เป็นผลลัภพ์ที่ปรากฏในสังคมไหนก็แล้วแต่ มีที่มาที่ไปจากสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้น
_____
อนึ่ง เท่าที่ดีลกับคนมาแทบจะทั่วโลก ตลอดระยะเวลาหลายสิบปี แทบจะทุกสัญชาติ ไม่ว่าจะจากเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว หรือ เรื่องใช้ชีวิตประจำวัน
พบว่า คน ปท กำลังพัฒนาส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยมีคุณภาพ หรือ คนที่เห็นแก่ตัว จะไม่เคารพเรื่องคิว เข้าคิวไม่ค่อยเป็น
ไม่ชอบเข้าคิว รออะไรไม่ค่อยได้ (หลายๆ คนแสดงความเกลียดชังคนที่ยืนคิวข้างหน้าออกมาทางสีหน้าท่าทาง)
จิตไม่นิ่ง ลักษณะเหมือนหนูติดจั่น
เวลาเข้าคิว ถ้าไม่เข้าแบบยืนเป็นกลุ่มๆ ก้อนๆ (ถ้ามากันหลายคน) จนไม่รู้ว่าท้ายคิวอยู่ที่ไหน
ก็มักจะเข้าคิวแบบประชิด ชนิดที่หายใจรดต้นคอคนข้างหน้า มือถือจ่อทิ่มหลังคนข้างหน้า
หรือเข้าคิวแบบเกือบจะมายืนข้างๆ คนข้างหน้าเลย
เจอมาเยอะมาก และ คนเหล่านี้ ถ้ามีโอกาส พวกเขามักจะแซงคิวทันที และ เขาจะไม่สนใจ ไม่รับรู้นัก ว่าใครมาก่อนมาหลัง
แต่ขอให้เขาได้เท่านั้น เป็นพอ และ ไม่ต้องพูดเรื่องมารยาทสังคมกับคนเหล่านี้ เพราะเขาไม่รู้จัก ไม่เคยถูกสอนจากทางบ้าน จากทางสถานศึกษา
และ ในสังคมที่เขาอยู่ไม่มีตัวอย่างดีๆ ให้เห็น
• พ่อค้าแม่ค้าที่ไทยส่วนใหญ่ ถ้าทำอาหารพร้อมๆ กันหลายจาน หรือ ทำแบบรีบๆ ทำ จะรวนทันที อาหารจะไม่อร่อยทันที
เพราะเขาเน้นทำเวลา เน้นความไว เน้นทำให้เสร็จๆ ทำส่งๆ ไป เพราะเขากลัวลูกค้าหนี กลัวลูกค้ายกเลิก
แต่ไม่เน้นการรักษาคุณภาพ และ ปริมาณ
ขอให้เขาได้เงิน ขอให้ลูกค้าได้ของ แค่นั้นจบ วิสัยทัศน์ไม่ยาว ขาดความละเอียดอ่อน ละเมียดลมัยในการกินอยู่
เพราะชีวิตต้องต่อสู้ให้มีกินมีใช้ แบบแทบจะวันต่อวัน ขอแค่ให้เขาขายได้ แค่นั้นพอ
//
• การสั่งอาหารตามสั่ง แบบต้องรีบได้ของ รีบกิน รีบไป เพราะเวลาบีบคั้น สำหรับมนุษย์เงินเดือน คือต้องรีบกลับไปทำงาน
ส่วนใหญ่ เวลาพักเหมือนกัน คือ เที่ยงถึงบ่ายโมง เวลาเลิกงาน 5 โมงแย่งกันขึ้นรถไฟ แย่งกันขับรถออกสู่ท้องถนน เช้าเข้างาน 8.30-9 โมง
เป็นแบบนี้ทุกเมืองใหญ่
แต่บางเมือง หรือ บางออฟฟิสดีๆ เขามีการจัดการที่ดีไง คือ คนเอาของมากินเอง หรือ ซื้อมาล่วงหน้า หรือ สั่งดีลิเวอรี่
ที่ทำงานมีห้องให้นั่งกินอาหาร อุ่นอาหาร มีชากาแฟให้ มันคือสวัสดิการที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เครียดน้อยลง
จะได้ทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น
บางออฟฟิสมีการจัดการที่ดี เช่น ให้พนักงานแบ่งกันไปทานอาหารกลางวัน 3 รอบ คนทยอยไปทานข้าวได้
สามรอบ เช่น 11/11.30-12/12.30, 12.00-13.00, 13.00-14.00 เป็นต้น
//
ที่เมืองไทย หรือ ที่ ปท กำลังพัฒนาหลายๆ แห่ง ที่สังคมมีชนชั้นวรรณะเยอะ มีการแบ่งเขาแบ่งเรา มีการคอรัปชั่น
มีการไม่ทำตามกฏระเบียบ มีการไม่ค่อยรักษากฏหมาย มีระบบแข่งขัน แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น
มักจะมีผลผลิตบางส่วนเป็นดังนี้ เช่น …
• ต้องได้ก่อน ได้มาด้วยวิธีใดก็ได้ เพราะถ้าไม่ได้ก่อน กลัวจะไม่เหลืออะไรเลย เพราะถ้าไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่สามารถเรียกร้องอะไรกับใครได้
(กฏระเบียบไม่มี จรรยาบรรณไม่สำคัญ)
• ทำอะไรก็แล้วแต่ เอาความกลัวเป็นตัวตั้ง (แสดงถึงการขาดความยุติธรรม การกดขี่ข่มเหง)
• อันดับรองลงมาหรือสูสีกัน คือการเอากำไรขาดทุนเป็นตัวตั้ง (แสดงถึงระบบทุนนิยม ระบบเศรษฐกิจ)
• ต้องโกงนิดๆ ได้มาซึ่งการไม่ตรงไปตรงมานิดๆ คนจะเกิดความภาคภูมิใจ คิดว่าตนเองฉลาดกว่าคนอื่น (การคอรัปชั่น การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น)
• คนส่วนใหญ่ขาดจิตสาธารณะ ขาดความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา ขาดมารยาทสังคมขั้นพื้นฐาน (เพราะสภาพสังคม การศึกษา ครอบครัว)
เป็นต้น
//
เรื่องแค่นี้ แค่สั่งข้าวพ่วงกับคนข้างหน้า โดยที่ไม่ยอมรอตามคิวของตนเอง
มองเผินๆ เหมือนเป็นแค่เรื่องเล็กๆ หยวนๆ น่า แค่นี้เอ๊ง ถ้ายอมได้ ปล่อยได้ ปล่อยไปเถ้อะ อย่าเรื่องมากนักเลย
แต่ถ้ามองลึกๆ มองอย่างคิดพิจารณาให้ถ้วนถี่ รอบด้าน
มันสามารถสะท้อนอะไรได้หลายอย่างเลย เช่น
• สภาพสังคม
• สภาพเศรษฐกิจ
• ระบบความคิด
• การรักษากฏระเบียบ
• การที่คนในสังคมเคารพซึ่งกันและกันหรือไม่
• คนให้ความสำคัญกับเรื่องเข้าคิวหรือไม่
เป็นต้น
//
ทุกสิ่งทุกอย่าง ของทุกประเทศ มีที่มาที่ไป ตั้งแต่โบราณ เป็นเหตุ เป็นผล มีการสั่งสมของความรุ่งเรือง หรือ ของความเสื่อมถอย
หรือ การสั่งสมของปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง จนตรรกะบิดเบี้ยว จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไป
ทุกประเทศ ประกอบไปด้วย สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา พลเมือง ระบบความคิดของคน การเมือง การปกครอง การบริหาร ศาสนา
ความเชื่อ ค่านิยม กฏหมาย กฏระเบียบ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม สภาพภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ ที่ตั้ง เป็นต้น
ทุกๆ อย่างที่เป็นผลลัภพ์ที่ปรากฏในสังคมไหนก็แล้วแต่ มีที่มาที่ไปจากสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้น
_____
อนึ่ง เท่าที่ดีลกับคนมาแทบจะทั่วโลก ตลอดระยะเวลาหลายสิบปี แทบจะทุกสัญชาติ ไม่ว่าจะจากเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว หรือ เรื่องใช้ชีวิตประจำวัน
พบว่า คน ปท กำลังพัฒนาส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยมีคุณภาพ หรือ คนที่เห็นแก่ตัว จะไม่เคารพเรื่องคิว เข้าคิวไม่ค่อยเป็น
ไม่ชอบเข้าคิว รออะไรไม่ค่อยได้ (หลายๆ คนแสดงความเกลียดชังคนที่ยืนคิวข้างหน้าออกมาทางสีหน้าท่าทาง)
จิตไม่นิ่ง ลักษณะเหมือนหนูติดจั่น
เวลาเข้าคิว ถ้าไม่เข้าแบบยืนเป็นกลุ่มๆ ก้อนๆ (ถ้ามากันหลายคน) จนไม่รู้ว่าท้ายคิวอยู่ที่ไหน
ก็มักจะเข้าคิวแบบประชิด ชนิดที่หายใจรดต้นคอคนข้างหน้า มือถือจ่อทิ่มหลังคนข้างหน้า
หรือเข้าคิวแบบเกือบจะมายืนข้างๆ คนข้างหน้าเลย
เจอมาเยอะมาก และ คนเหล่านี้ ถ้ามีโอกาส พวกเขามักจะแซงคิวทันที และ เขาจะไม่สนใจ ไม่รับรู้นัก ว่าใครมาก่อนมาหลัง
แต่ขอให้เขาได้เท่านั้น เป็นพอ และ ไม่ต้องพูดเรื่องมารยาทสังคมกับคนเหล่านี้ เพราะเขาไม่รู้จัก ไม่เคยถูกสอนจากทางบ้าน จากทางสถานศึกษา
และ ในสังคมที่เขาอยู่ไม่มีตัวอย่างดีๆ ให้เห็น
แสดงความคิดเห็น
สั่งข้าวเหมือนคนข้างหน้าผิดไหม?