ช่วงหนึ่งที่จิตผมสงบ สติดี ก็เกิดระลึกขึ้นได้ว่า "นี่คือสังฆเภท!" รายละเอยดผมขอเล่าให้ท่านฟังด้านใน

สมัยผมเรียนแพทย์ อยู่ชั้นปีที่ 4 / ป่วยจนต้องออกจากการเรียน และทำให้ตาบอดแบบไม่สนิท จมูกไม่รับรู้กลิ่น เป็นโรคลมชักและเป็นโรคซึมเศร้าด้วย
ตอนที่ผมออกจากการเรียน เพื่อนร่วมรุ่นของผมกำลังเรียนอยู่ชั้นปีสุดท้ายครับ (ปี 6) 
ที่เป็นเช่นนี้เพราะการป่วยทำให้ผมต้องตกซ้ำชั้นถึง 2 ปีคิดต่อกัน
ออกมาแล้วก็กลับมาอยู่บ้าน เผอิญมีพระซึ่งคือเพื่อนเก่าสมัยเรียนมาเยี่ยมและชวนให้บวชผมเลยบวชครับ
ตอนโกนถูกใบมีดบาดเลือดไหลอาบ
บวชเสร็จเขาให้ผมไปอยู่กุฏิห้องแถวเล็กๆ มีราว 6 ห้องติดกันมั้งครับ
ห้องที่ผมอยู่อยู่ติดกันกับพระวัยรุ่น 2 รูป
ทราบภายหลังว่าอดีตเคยเป็นนักเลงและติดยาด้วยทั้งคู่
ในย่ามเขามีปืนด้วย
แต่ประเด็นคือเขามีเครื่องเสียงชุดใหญ่ในห้องเขา แล้วเปิดเพลงคาราบาวดังลั่นตลอด 24 ชม.
ผมนอนไม่หลับครับ แต่ก็ทน ทนมาตลอด
กุฏิท่านเจ้าอาวาสอยู่ห่างออกไปแค่ 2-3 เมตรทำไมท่านจะไม่ได้ยิน
จนนับได้วันที่เจ็ดที่บวช เช้านั้นผมสติแตกเลย เพราะสุดที่จะทนแล้ว
ผมออกมาหน้าห้องแล้วตะโกนไม่ไหวแล้วโว้ย แล้วปิดหน้าต่างห้องตัวเองอย่างแรงๆ
ผลคือพอผลักปิดหน้าต่างแรงหน้าต่างมันกระแทกดังปังแล้วบานหน้าต่างก็เด้งกลับออกมากระแทกแถวหน้าผากผมเอง เลือดไหลโจ๊ก
ผมเลยได้สติ แล้วไปกราบพระผู้ใหญ่ขอลาสิกขาตอนนั้นเลย
ทีแรกดูท่านก็โกรธผมที่ผมบันดาลโทสะอย่างนั้นในเขตวัดซึ่งถือเป็นเขตอภัยทาน
แต่ครู่หนึ่งท่านก็บอกว่าผมอย่าเพิ่งสึกเลย แต่ให้ย้ายวัดเถอะ ผมก็ย้ายครับตามที่ท่านแนะนำ
ทีนี้เพื่อเลี่ยงปัญหาเดิม ผมเลยเลือกไปอยู่วัดป่าแถวนอกเมืองครับ
แต่ด้วยความเป็นพระใหม่ ผมไม่รู้ว่าถ้าเป็นวันพระต้องลงแุโบสถ ตอนนั้นผมเลยไปอาบน้ำอยู่ที่ห้องน้ำในกุฏิของพระผู้ใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งสนิทกัน
ประตูห้องน้ำไม่มีกลอน ปิดแง้มไว้เฉยๆครับ
ขณะที่ผมกำลังอาบน้ำพระผู้ใหญ่ท่านนั้นก็ถีบประตูห้องน้ำโครมเข้ามาแล้วด่าว่าผมอย่างรุนแรง
วันนั้นเป็นวันที่เจ็ดนับแต่ย้ายมาที่นี่
ผมขอลาสิกขาครับ แล้วก็ออกมาจากวัด
เมื่อมานึกย้อนเหตุการณ์ดีๆ อะไรคือเหตุให้ผมต้องไปพบเจอแต่เหตุการณ์ที่ทำให้อยู่วัดไหนก็ไม่ได้
คำว่าสังฆเภทก็ลอยมาครับ ผมเองน่าจะเคยกระทำอนันตริยกรรมข้อนี้มาแต่อดีตชาติ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่