รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 15 คืนสู่เหย้า 2 (เหตุการณ์ดำเนินต่อ... )

                                                         รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 15  คืนสู่เหย้า 2 (เหตุการณ์ดำเนินต่อ...  )


ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
......................................................................................

บัวซอนเล่าเรื่องราวที่ได้เกิดขึ้นกับชีวิตของเธอตลอดระยะเวลาที่หายไปให้พี่สาวฟัง

"พี่เสียใจด้วยนะ เรื่องเด็กในท้องคนแรก ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดกับเธอได้ แต่เธอยังโชคดีมากที่ได้เจอคนดี ได้มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่และสร้างครอบครัวใหม่ที่อบอุ่นมีความสุข" บัวเงินจับมือน้องสาวเพื่อปลอบขวัญ

"ได้ยินว่า พ่อไปบวชได้หลายสิบพรรษา ท่านสบายดีนะ เป็นเพราะฉันแท้ๆทำให้ท่านต้องทุกข์ใจจนต้องหนีไปพึ่งพระธรรม" บัวซอนรู้สึกผิดมหันต์

"อย่าโทษตัวเองแบบนี้ซิ ถึงไม่ใช่เรื่องของเธอ ท่านก็มีแผนจะบวชเหมือนกัน เพียงแค่รอให้พวกเราแต่งงานออกเรือนไปกันหมดซะก่อน ท่านถึงจะหมดห่วงทางโลก  ก่อนจะบวชท่านได้แบ่งทรัพย์สินมรดกเอาไว้ บ้านหลังนี้และสวนกล้วยข้างหลังท่านยกให้พี่ ส่วนที่นาท้ายหมู่บ้าน 20 ไร่ ติดกับรีสอร์ตคุณเดช เป็นของเธอทั้งหมดนะ ตอนแรกคุณเดชก็มาติดต่อถามซื้อกับพี่เหมือนกัน พอพี่บอกว่าหลวงพ่อท่านยกให้เธอ คุณเดชก็ไม่ถามต่ออีกเลย" 

"พูดถึงหลวงพ่อ พรุ่งนี้ฉันจะพาไบร์นี่ไปเยี่ยมท่าน ตั้งใจจะไปกราบขออโหสิกรรมกับท่าน" 

.......................................................................................

"บัวซอน..  ในที่สุดเราก็ได้เจอกันตัวเป็นๆอีกครั้ง ฉันดีใจมากๆที่เธอกลับมาบ้านเรา นี่ลูกสาวใช่ไหม? สวยเหมือนแม่ไม่มีผิด สำเนาถูกต้องทุกประการ  เข้ามานั่งคุยในบ้าน ดื่มน้ำท่ากันก่อน เอกด้วยนะ เหมือนนัดรวมรุ่นสมัยเรียนเลยเนอะ"  สินไหมเชิญชวนแขกคนพิเศษเข้ามาในบ้าน 

บ้านในปัจจุบันของสินไหมและหมอทรงทรัพย์ คือบ้านเดิมที่หมอทรงทรัพย์เคยเช่าอยู่สมัยเพิ่งมาทำงานที่อำเภอแห่งนี้  ก่อนที่จะแต่งงาน หมอทรงทรัพย์ได้ขอซื้อบ้านหลังนี้กับเจ้าของเดิม เพื่อเอามาเป็นเรือนหอของเขากับสินไหม
โดยเขาได้ทำการต่อเติมและตกแต่งใหม่ เพื่อความสวยงามน่าอยู่  ส่วนบริเวณลานสนามหญ้าข้างตัวบ้าน ได้ก่อสร้างทำเป็นสถานพยาบาลขนาดเล็กเพื่อรักษาคนไข้

บรรดาผองเพื่อนต่างผลัดเล่าสารทุกข์สุกดิบและเรื่องราวปัญหาของตนสู่กันฟัง มีทั้งหัวเราะร่วมกัน ผลัดกันปลอบใจบ้าง ตามประสาวิถีทางโลกที่มีทั้งสุขและทุกข์คละเคล้ากันไป

"ฉันว่าปัญหาเธอท่าทางจะหนักกว่าใครเพื่อนนะ  เอก..   ไปทำอีท่าไหนถึงได้พลาดถูกนังเหลียวมันมอมเหล้า จับเอาทำผัวซะงั้น เสียเชิงชายหมด กับนังเหลียวมันต้องใช้คำนี้ นรกมีจริง" สินไหมแซวเพื่อนด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง

"นึกว่าแขกที่ไหนมาเยี่ยม ที่แท้ก็คนกันเอง สบายดีนะ บัวซอน  ไม่ได้เจอตั้งนาน ยังสาวยังสวยเหมือนเดิม" หมอทรงทรัพย์เดินเข้ามากลางวงสนทนา

"สวัสดีค่ะ..  หมอ  ฉันสบายดี  หมอก็ยังหล่อเหมือนสมัยหนุ่มๆ ไม่มีคนไข้แล้วหรือค่ะ? ตอนฉันลงมาจากรถ ยังเห็นคนไข้มานั่งรอคิวยาวมาก"  บัวซอนทักทาย 

"คนไข้เยอะเหมือนเดิม หมอยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่ตอนสาย เลยแอบแว๊บมาหาข้าวกินก่อน จะได้มีแรงไปตรวจคนไข้ ไม่งั้นมีหวังเป็นลมก่อนคนไข้แน่ ตามสบายนะ หมอขอตัวก่อน แล้วค่อยคุยกันใหม่ ถ้าว่างหมอจะพาครอบครัวไปเยี่ยมที่ไร่ไอ้เดช  ไหว้พระเถิดหนู  ลูกสาวบัวซอนหรือ? แม่สวยยังไงลูกก็สวยอย่างนั้น ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ"  หมอทรงทรัพย์รับไหว้ไบร์นี่

"ตื่นแล้วหรือลูก  มาสวัสดีเพื่อนแม่ก่อน  น้าบัวซอนเพื่อนสนิทแม่ และน้องไบร์นี่ลูกน้าบัวซอน   ทรงศีลลูกชายฉันกับหมอทรัพย์  เขาไปสัมมนาทางวิชาการที่นครปฐม เพิ่งกลับมาถึงตอนเช้ามืด เลยสลบและตื่นเอาป่านนี้" สินไหมแนะนำตัวลูกชายคนเดียว 

ชายหนุ่มวัย 26 ปี ที่ชื่อ "ทรงศีล" รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้ากลม ทรงผมตามสมัยนิยม ตาชั้นเดียว ใส่แว่นสายตา จมูกเล็กรับกับริมฝีปาก ยกมือไหว้บัวซอน และส่งยิ้มทักทายไบร์นี่

"พี่ทะเลกลับมาแล้วหรือครับ? พี่ทะเลโชคดีจัง ได้แฟนทั้งเก่งทั้งสวย บอกพี่ทะเลด้วยนะครับ พรุ่งนี้ผมจะแวะเข้าไปคุยด้วย"

.......................................................................................................

"อีนังสองแม่ลูกรุมบูลลี่เหลียว  อีนังตัวแม่ดูถูกดูแคลนเหลียวว่า คนอย่างเหลียวมีปัญญาเป็นได้แค่ขี้ข้าเท่านั้น ไม่มีทางลืมตาอ้าปากได้หรอก แถมตัวลูกก็ร้ายใช่ย่อย ด่ากระทบถึงคุณฟ้าว่า น้ำหน้าอย่างคุณฟ้าจะมีปัญญาคุ้มกะลาหัวเหลียวได้ซักกี่น้ำ เป็นแค่เมียรองไม่ใช่เมียเอกตีทะเบียนอย่างคุณน้ำ ศักดิ์ศรีมันต่างกัน"  เฉลียวศรีบีบน้ำตาแกล้งร้องให้สะอึกสะอื้น แถมยังตอกไข่ใส่สีเพิ่มเติมเรื่องราวเพื่อให้สายนภาโกรธแค้น เธอจะได้ใช้สายนภาเป็นไม้กันหมา เอาไว้ตีแสกหน้าศัตรูหมายเลข1

"พี่เหลียวทันสมัยกับเขาเหมือนกัน รู้จักใช้คำว่า บูลลี่ เป็นซะด้วย" สายเมฆที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องเดียวกัน บังเอิญได้ยินเข้า เลยพูดติดตลกอย่างตั้งใจเพื่อไม่ให้บรรยากาศเคร่งเครียดเกินไป

"คุณหนูเมฆก็...   พูดเล่นอีกแล้ว เหลียวซีเรียสนะคะ  คำว่า บูลลี่ เหลียวเห็นเขาใช้ในเฟสบุ๊คบ้าง ในทีวีบ้าง เลยจำมาอีกต่อหนึ่ง" 

"หยุดเลยตาเมฆ  นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ   มันว่าอย่างนั้นจริงๆหรือเหลียว?  นังไบ ....  อะไร? ชื่อมันเรียกยากจริง  นังไบโพล่าร์  รู้จักคนอย่างฉันน้อยไปซะแล้ว แกมากับฉัน ไปหาพี่เดชด้วยกัน ฉันไม่ยอมให้แกโดนบูลลี่ฟรีหรอก" อารมณ์โกรธของสายนภาพุ่งปรี๊ดขึ้นสุดปลายปรอท

.............................................................. 

"พี่เดชต้องจัดการให้ถึงที่สุดนะคะ ฟ้าไม่ยอมด้วย บัวซอนกับลูกมารุมด่าเหลียว ดูถูกดูแคลนว่าเป็นได้แค่ขี้ข้า แถมยังด่ากระทบถึงฟ้าด้วยว่า เป็นเมียไม่มีทะเบียน มันหมิ่นศักดิ์ศรีกันเกินไป  ขนาดยังไม่ได้แต่งเป็นสะใภ้เข้าบ้าน ยังกล้าผยองขนาดนี้ อีกหน่อยคงเหยีบหัวพวกเราแน่"  สายนภารายงานปัญหาคับข้องใจ

"อยู่อย่างสงบสุขกันไม่เป็นหรือ? สงสารพี่บ้างเถิด ทุกวันนี้ปวดหัวจนแทบระเบิดกับเรื่องงานมากพอแล้ว ยังจะเอาเรื่องหยุมหยิมไร้สาระมาใส่หัวพี่เพิ่มอีก  ที่ผ่านมาอย่าให้พี่ต้องพูดเลยว่า พวกเธอสองคนทำวีรกรรมวีรเวรอะไรกับบัวซอนไว้บ้าง คิดว่าพี่โง่ไม่รู้หรือไง?  เรื่องเหลียว เมตตาบอกพี่หมดแล้ว เหลียวไปนินทาบัวซอนที่โรงอาหารก่อน พอเจ้าตัวมาได้ยินเข้า ก็สมควรที่เขาจะด่ากลับ พี่เห็นว่าใครเป็นคนก่อเรื่องก่อน คนนั้นเป็นฝ่ายผิด  เหลียวก็เหมือนกัน หัดสงบปากสงบคำเอาไว้บ้าง อย่าคิดว่าคุณฟ้าให้ท้ายถือหางแล้วจะทำอะไรพูดอะไรก็ได้ตามใจนะ  ชอบทำตัวเป็นบ่าวช่างยุจริง ถ้ายังไม่เลิกพฤติกรรมแบบนี้ เราคงอยู่ด้วยกันต่อไปไม่ได้"  
เดชศักดาตักเตือนด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด ทำเอาสายนภาและเฉลียวศรีหน้าชาจนไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร

สายนภาสะบัดหน้าเดินออกจากห้องด้วยความน้อยใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่