รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 3 รักแรกพบ

กระทู้สนทนา
                                                                        รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 3 รักแรกพบ


ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์

        " ใจเขาใจเราไม่มีใครรู้ ฟ้าฝนจะตก คนมันจะรักกัน ของแบบนี้ห้ามไม่ได้ "

ตอนที่ 1     https://pantip.com/topic/39180863
ตอนที่  2    https://pantip.com/topic/39197402


สินไหมเดินออกจากร้านของตัวเอง เธอรีบข้ามถนนมายังเพิงก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

"วันนี้เตรียมของขายเสร็จเร็วจัง" เธอมองเห็นบัวซอนนั่งเหม่อลอยอยู่บนโต๊ะ ปรกติเพื่อนรักของเธอแทบจะไม่เคยแสดงอาการแบบนี้ออกมาเลย ในมือของบัวซอนถือกระดาษแผ่นหนึ่ง

บัวซอนพยักหน้าแทนคำตอบ

" เกิดอะไรขึ้น?" สินไหมสังเกตเห็นความไม่ปรกติบางอย่าง

บัวซอนยื่นกระดาษที่อยู่ในมือส่งให้

"อกอีแป้นจะแตก เอกหนอเอก ทำไมเป็นคนแบบนี้ อุตส่าห์รอนแรมไปอยู่ค่ายมวยตั้งเชียงใหม่เพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว ผ่านไปยังไม่ถึงปี ดันดีแตกไปทำลูกสาวเจ้าของค่ายมวยท้อง ใช้ไม่ได้จริงๆ คนที่รอทางนี้อย่างเธอกลายเป็นสายบัวรอเก้อ น้ำเต้าหู้ค้างคืน ฉันคิดไม่ถึงว่าเอกจะกล้าทำให้เธอเสียใจเพียงนี้" สินไหมเป็นเดือดเป็นร้อนแทน

"ไม่ต้องไปโทษเอกหรอก เราควรยินดีกับเขา ทำผิดแล้วยอมรับผิดโดยไม่แก้ตัวใดๆ แบบนี้ถึงเรียกว่าลูกผู้ชายตัวจริง เขาทำถูกแล้ว" บัวซอนตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน เธอไม่รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อย แถมยังยินดีด้วยซ้ำที่เขาคนนั้นไปได้ดี พบคนที่เหมาะสมกว่าเธอ

ความจริงแล้วเธอแอบรู้สึกดีใจนิดๆที่ได้เป็นอิสระ พ้นจากคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับเขาคนนั้น คำสัญญาที่เธอไม่ค่อยเต็มใจจะเอ่ยมันออกมา

จากส่วนลึกของหัวใจ เธอไม่ได้รู้สึกกับเขาแบบคนรัก มันเป็นความรู้สึกก้ำกึ่งที่มากกว่า"เพื่อนสนิท" แต่ยังไม่ถึงขั้น"คู่รัก"

สาเหตุที่ทำให้เธอยอมเปิดโอกาสคบกับเขา เพราะแรงยุยุงจากบรรดาเพื่อนๆร่วมรุ่นและคนในหมู่บ้านบางกลุ่มที่เห็นว่าทั้งคู่นั้นต่างก็สวยหล่อเหมาะสมกันอย่างที่สุด (เทียบกับสมัยยุคปัจจุบัน คงตรงกับฉายา "คู่จิ้นประจำหมู่บ้าน") เมื่อมีแรงยุเข้ามากๆ ตัวเธอไม่ใช่พระอิฐพระปูน ย่อมอ่อนไหวไปตามกระแสบ้าง

อีกเหตุผลหนึ่งคือ เธอรู้สึกสงสารเอก ตลอดเวลาที่เคยรู้จักกันมา เขาเป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลายกับเธอตลอด ทุกลมหายใจเข้าออกของเขามีแค่เธอ ทุกสิ่งที่เขาทุ่มเททำลงไป ก็ล้วนทำเพื่อเธอเท่านั้น เมื่อเขาได้เอ่ยปากขอคบกับเธอแบบคู่รัก เธอจึงตอบรับไป โดยไม่กล้าปฏิเสธ

"ฉันอยากให้เอกมาได้ยินที่เธอพูดซะจริงๆ อยากดูน้ำหน้ามัน ตัวเองได้เพชรเม็ดงามอยู่ในมือแท้ๆ ยังขว้างทิ้งได้ นี่แหละนะ โทษฐานของการเป็นคนไม่หนักแน่นพอ ไม่รู้จักหักห้ามใจตัวเอง" สินไหมได้แต่ส่ายหน้า

                                          ........................................................................

"พี่เดชจะพาฟ้าเดินไปอีกไกลไหม? ร้อนก็ร้อน แดดก็แรงเปรี้ยงๆอีก เราน่าจะขับรถไปกินร้านที่มีแอร์ในเมืองดีกว่า ถ้าอยากกินร้านนี้จริงๆ ทำไมไม่ให้นังเหลียวซื้อมาให้ที่บ้าน นั่งกินที่บ้านสบายกว่ากันเยอะ" สายนภาเดินไปบ่นไป มือข้างซ้ายถือร่มไว้กันแดด ส่วนข้างขวาถือพัดจีนไว้คลายร้อน

"ไม่ไกลหรอก ทนอีกนิดนะคนดีของพี่ ถือซะว่าเดินชมธรรมชาติ อยากกินของอร่อยต้องใจเย็นๆนะคนสวย ร้านนี้เขาอร่อยขึ้นชื่อมาก พี่เคยให้เหลียวซื้อใส่ถุงกลับบ้านตั้งหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้อยากเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งกินที่ร้านบ้าง" เดชศักดาพาสายนภาเดินอ้อมวกไปวนมาทั่วหมู่บ้าน มันเป็นแผนการของเขาที่จะทำให้สายนภาอยู่ที่นี่อย่างขาดความสะดวกสบายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขารู้ดีว่าตัวเธอเป็นคนติดหรูรักสบายรักความสวยงาม เมื่อเธอไม่สามารถหาปัจจัยเหล่านี้ได้จากที่นี่ ในที่สุดเธอต้องถอยกลับกรุงเทพไปเอง

ทั้งสองเดินมาถึงเพิงขายก๋วยเตี๋ยวของบัวซอน เวลาในตอนนี้บ่าย2 โมงกว่า ซึ่งเลยเวลาอาหารกลางวันมาพอสมควร ลูกค้าค่อนข้างบางตา

"สวัสดีค่ะ เชิญนั่งก่อนนะคะ" บัวซอนส่งยิ้มต้อนรับลูกค้า

วินาทีแรกที่สบตาแม่ค้าคนสวย เดชศักดาถึงกับต้องมนต์ในความสวยของเธอ ดวงตาสวยปนเศร้ามันช่างรับกับรอยยิ้มอันแสนหวานได้อย่างมีเสน่ห์น่าหลงไหลยิ่งนัก เขาน่าจะพบเจอเธอเร็วกว่านี้ซักนิด ไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องมาเสียเวลากับบุนตา แต่ยังดีที่ได้พบไม้งาม ก่อนที่ขวานจะบิ่น

"ฉันขอเส้นเล็กไม่ใส่ผัก ใส่ลูกชิ้นอย่างเดียว น้ำอัดลมและน้ำแข็งเปล่า" สายนภาสั่งแม่ค้าคนสวย

"ของผมเส้นใหญ่เนื้อสดกับโอเลี้ยง" เดชศักดายังคงมองแม่ค้าคนสวยอย่างไม่ละสายตา

"แบบนี้เอง ฟ้ารู้แล้วว่าทำไมพี่เดชถึงอยากมากินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้นัก ที่แท้ก็มาติดยัยแม่ค้าใช่ไหม?" สายนภาหันมาค้อนใส่ชายคนรัก เธอสังเกตเห็นความผิดปรกติบางอย่างบนใบหน้าของเขา

"ฟ้าอย่าหาเรื่องพี่ซิจ๊ะ พี่เพิ่งเจอแม่ค้าคนนี้พร้อมๆกับฟ้าเมื่อกี้นี้เอง ตอนพี่มากินครั้งแรกมีแม่ค้าอีกคนหนึ่งขายไม่ใช่คนนี้ แค่เรื่องบุนตาพี่รู้สึกผิดจนเกินอภัยแล้ว ฟ้ายังจะยัดเยียดข้อกล่าวหาให้พี่เพิ่มอีกหนึ่งกระทง" เดชศักดาวิงวอนให้เข้าใจในตัวเขา

"ครั้งนี้ฟ้ายอมเชื่อพี่ ถ้าฟ้าจับได้อีกละก็ ฟ้าไม่ปล่อยเอาไว้แน่ จะมาหาว่าใจร้ายไม่ได้นะ" สายนภาเตือนฝ่ายตรงข้าม

                                                              ..................................................

"ยัยฟ้าไปไหนเหรอ? ไม่เห็นหน้าเห็นตา" หมอทรงทรัพย์เดินขึ้นมาบนบ้าน เห็นบ้านเงียบผิดปรกติ

"ไปร้านเสริมสวยกับเหลียว" เดชศักดานั่งจิบเบียร์อย่างอารมณ์ดีอยู่ที่ชานบ้าน

"สองคนนี้ไม่น่าจะเข้าขากันได้เลย ยัยฟ้าเข้ากับคนได้ยากมาก ใครทำอะไรไม่ถูกใจนิดหน่อย คุณเธอก็แสดงแผลงฤทธิ์ซะ สงสัยยัยเหลียวคงประจบสอพลอถูกอกถูกใจ กูว่าอีกหน่อยคงกลายนางต้นห้องติดสอยห้อยตามไปรับใช้ที่กรุงเทพแน่นอน" หมอทรงทรัพย์พูดอย่างขำขัน

"วันนี้กลับเร็วจัง คนไข้น้อยเหรอ? เบียร์อยู่ในตู้เย็น เป็นวุ้นกำลังดี" เดชศักดาเห็นเพื่อนสนิทกลับบ้านเร็วกว่าปรกติ

หมอทรงทรัพย์พยักหน้ารับ เขารีบเดินไปหยิบเบียร์ในตู้เย็น

"กูมีเรื่องจะถามหน่อย เด็กสาวชื่อบัวซอนร้านก๋วยเตี๋ยว ที่บอกว่าสวยระดับนางงาม" เดชศักดาเปิดหัวข้อสนทนา

"เออ.. ทำไมเหรอ? เดี๋ยว.. คงไม่ไปหลงเสน่ห์บัวซอน?" หมอทรงทรัพย์ตกใจ

"กูชอบบัวซอน คนอะไรทั้งสวยทั้งเรียบร้อยทั้งเก่ง ถ้ากูอยากจีบบัวซอน ว่าไง?" เดชศักดาขอความเห็น

"ก่อนจะจีบบัวซอน กูว่าเอาตัวให้รอดก่อนดีกว่าไหม? ยัยฟ้าควบคุมความประพฤติเข้มงวดขนาดนี้แล้ว ยังมีหน้ามาคิดจีบคนนั้นคนนี้อีก กูเหนื่อยใจแทนจริงๆเพื่อน" หมอทรงทรัพย์ส่ายหัวไม่เห็นด้วย

"จำไว้เลย ไม่ช่วยแล้วยังจะซ้ำเติมกูอีก เรื่องยัยฟ้าไม่ต้องห่วงเลย กูจัดการของกูได้ แป๊บเดียวคุณเธอก็ต้องรีบแจ้นกลับกรุงเทพ"

"อย่าเลย กูขอนะ สงสารบัวซอน เด็กมันไร้เดียงสาต้องมาเจอกับพ่อปลาไหลบ้ากาม กูไม่อยากเห็นบัวซอนน้ำตาเช็ดหัวเข่า เลิกคิดไปเลย อีกอย่างบัวซอนมีแฟนแล้ว แฟนเป็นถึงนักมวย งานนี้ได้กินยำจระเข้ฟาดหางตบท้ายด้วยบาทาลอยแก้วแน่" หมอทรงทรัพย์ตักเตือนก่อนที่จะสายเกินแก้

"ไอ้นักมวยนั่นออกลายซะแล้ว มันไปทำลูกสาวเจ้าของค่ายมวยท้อง ตอนนี้บัวซอนโสดโว้ย ไปอยู่ไหนมา ตกข่าวได้ไงวะ ความจริงน่าจะรู้ข่าวนี้ก่อนกูซะอีก" เดชศักดาแปลกใจ

"อ้าวเหรอ กูเพิ่งรู้เรื่องนะเนี่ย ช่วงนี้กูต้องอบรมให้ความรู้พวก อสม แต่ละหมู่บ้านทุกวัน หน้าฝนไข้เลือดออกระบาดหนัก ต้องบอกวิธีป้องกันให้พวกเขา  กูเลยไม่มีเวลาว่างไปรับรู้เรื่องคนอื่นเท่าไหร่ ให้กูเดา คงรู้เรื่องนี้จากยัยเหลียวแน่ๆ ยัยนั่นรู้หมดทุกเรื่อง แบบนี้น่าไปทำงานที่อำเภอแผนกทะเบียนราษฏรหรือไม่ก็สำมะโนประชากร จะได้ใช้ความรู้ความสามารถในทางที่ถูกที่ควร"

"กูรู้เรื่องนี้มาจากใคร มันไม่สำคัญหรอก ช่วยกูหน่อย เพื่อนรัก กูเข้าหาบัวซอนทางยิ้มและไหม สะดวกและปลอดภัยมากที่สุด กูรู้ว่าท้ายที่สุดต้องช่วยกูอยู่แล้ว ไม่งั้นพวกเราคงไม่คบกันเป็นเพื่อนมาจนป่านนี้" เดชศักดาขอร้องเพื่อนสนิท

"จะเอาให้จนได้เลยเนอะ สันดานไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่เด็กจนโตเป็นควาย เอาอย่างนี้ดีกว่าไหม? ใจเขาใจเราไม่มีใครรู้ ฟ้าฝนจะตก คนมันจะรักกัน ของแบบนี้ห้ามไม่ได้ สมมุติว่ากับบัวซอนต่างรักใคร่ชอบพอกันจริงๆ ให้สัญญากับกูได้ไหมว่า จะรักและไม่ทำให้บัวซอนต้องเสียใจเป็นอันขาด? ถ้าทำได้ กูก็ยินดีที่จะช่วยเพื่อนทุกวิถีทาง" หมอทรงทรัพย์ลองเชิงฝ่ายตรงข้าม

"ต้องอย่างนี้ซิ เพื่อนรัก ชนแก้วหน่อยเพื่อน" เดชศักดาดีใจที่เพื่อนสนับสนุนและอยู่ข้างตน

                              
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่