รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 1 ที่มาที่ไป

กระทู้สนทนา
                                                                                  รักเก่าเขาและเธอ


ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์

"อดีตมันผ่านพ้นไป เราไม่สามารถกลับไปแก้อะไรได้ แม้มันจะส่งผลกับปัจจุบันมากน้อยเพียงใด ต้องทำใจยอมรับและอยู่กับมันให้ได้ ใช้ข้อผิดพลาดในอดีตไว้เป็นบทเรียนนำมาแก้ไขปัจจุบันไม่ให้ผิดพลาดซ้ำอีก"

ตอนที่ 1   ที่มาที่ไป

                                                                    อ. เชียงคำ จ. พะเยา ปีพุทธศักราช 2532


เช้าตรู่วันนี้ รถโดยสารปรับอากาศชั้นหนึ่งต้นทางจากกรุงเทพมหานคร เข้าจอดเทียบท่าบริเวณหน้าโรงแรมกลางเมือง ซึ่งเป็นสำนักสาขาย่อยของบริษัทเดินรถ
ขณะที่ผู้โดยสารกำลังทยอยลงจากรถ บรรดาเหล่าสารถีถีบสามล้อรวมถึงคิวรถสองแถวต่างรีบวิ่งกรูเข้ามารุมล้อมเสนอบริการรับส่ง

"ไอ้เดช ทางนี้โว้ย" ชายหนุ่มวัยประมาณ23-24 ปี ผิวขาว รูปร่างสูงผอม ผมรองทรงสั้น โครงหน้ากลม ตาชั้นเดียวใส่แว่นสายตา จมูกเล็กรับกับริมฝีปาก กวักมือเรียกเพื่อนรุ่นเดียวกันที่กำลังลงจากรถ

ชายหนุ่มที่ถูกเรียก โบกมือทักทายตอบกลับพร้อมรอยยิ้มแสดงความดีใจ เขามีรูปร่างสูงโปร่งกำยำล่ำสัน ผิวสองสี ทรงผมแสกข้าง หน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม พิมพ์นิยมระดับพระเอกหนังไทยในยุคนั้น ตาสองชั้นดวงตากลมโตเปล่งประกายมีเสน่ห์เย้ายวนดึงดูดต่อเพศตรงข้ามยิ่งนัก
การแต่งกายโดยรวมของเขาผิดแปลกแตกต่างจากผู้โดยสารคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา เสื้อผ้า กางเกง เข็มขัด กระเป๋า และ รองเท้า ล้วนเป็นสิ่งของยี่ห้อดังราคาแพงจากต่างประเทศทั้งสิ้น แฟชั่นหล่อครบสูตรทุกกระเบียดนิ้วแบบนี้ น่าไปเดินแถวสยามสแควร์หรือมาบุญครองมากกว่าในชนบทไกลปืนเที่ยง

"ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ยังหล่อไม่บันยะบันยังเหมือนเดิม" ชายหนุ่มทักทายเพื่อนรักอย่างดีอกดีใจตามประสาคนที่ไม่ได้เจอหน้ามานานมาก

"ก็ยังหล่อไม่เสร็จเช่นกัน ไอ้หมอเถื่อน กูขอแสดงความยินดีย้อนหลังด้วย ในที่สุดก็ได้เป็นหมอสมใจ" ชายหนุ่มหยอกล้อเพื่อนสนิท

"เรียกหมอคำเดียวก็พอ ไม่ต้องมีเถื่อนต่อท้าย ช่างหาคุกหาตารางมาให้กูจริง กูเป็นหมออย่างถูกต้องตามกฏหมายทุกประการ รับรองโดยแพทยสภาเชียวนะ  น่าจะโทรเลขมาบอกกูซักอาทิตย์หนึ่งก่อน กูจะได้เตรียมตัวทัน นี่เล่นส่งมาเมื่อวาน โชคยังดีกูติดคนไข้อยู่อนามัย ไม่ต้องไปประจำที่โรงพยาบาล โทรเลขเลยถึงมือ นั่งรถข้ามคืนขนาดนี้คงนอนไม่อิ่ม ไปหากาแฟดื่มให้ตาสว่างก่อน" เพื่อนที่เป็นหมอรีบคว้ากระเป๋าเดินทางจากมือชายหนุ่มรูปหล่อ แล้วเดินนำหน้าไปหลังรถจิ๊บเพื่อเอาไปเก็บไว้

ผู้เป็นหมอมีนามว่า "ทรงทรัพย์" ด้วยความชื่นชอบป่าเขาลำเนาไพร รักสงบ มีใจรักในการผจญภัยเป็นทุนเดิม หลังเรียนจบคณะแพทยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับแนวหน้าของประเทศ เขาได้ทำตามฝันของตนเองด้วยการหนีความวุ่นวายแออัดพลุกพล่านของสังคมเมืองหลวง ออกไปเป็นหมอในชนบทห่างไกล

ส่วนชายหนุ่มรูปงามที่เป็นเพื่อนสนิท มีชื่อว่า "เดชศักดา" ทั้งคู่รู้จักและสนิทสนมกันมาตั้งแต่ยังเด็ก โดยทางบ้านของทั้งสองต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดีและไปมาหาสู่กันประจำ

ภายในรถจิ๊บมีหนุ่มน้อยอายุประมาณ21 ปี รูปร่างผอม ไม่ค่อยสูงมาก ผิวขาว ทรงผมเกรียนติดหนังศรีษะ หน้าตาพอใช้ได้ นั่งรออยู่ตรงเบาะตำแหน่งคนขับ

"นี่ สินทบ ผู้ช่วยที่อนามัย กูวานน้องเขาให้ขับรถมาส่ง ช่วงนี้กูนอนดึกเกือบทุกคืน เลยไม่อยากขับรถเอง ถือคติปลอดภัยไว้ก่อน ส่วนคนนี้ ไอ้เดช เพื่อนหมอ" ทรงทรัพย์แนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน

ตลาดเช้าในตัวอำเภอคลาคลั่งไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นคนท้องที่ ชาวเขาเผ่าเย้า ม้ง และผู้คนจากฝั่งลาวที่ข้ามแดนเอาสินค้ามาขาย

ทั้งสามคนนั่งสนทนากันในร้านกาแฟหัวมุมตลาด จิบกาแฟไปดูวิถีชีวิตของผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา

"ตั้งแต่จบม.6 หายหัวไปเลยนะ ตอนอยู่อเมริกาไม่ยอมส่งข่าวมาหากู กลับมานานรึยัง? บทจะมาก็มาอย่างสายฟ้าแล่บทำเอากูตั้งตัวไม่ทัน" หมอทรงทรัพย์ตัดพ้อเพื่อนสนิท

"ขอโทษครับ ไอ้เพื่อนบังเกิดเกล้า พอใจหรือยัง? กูกลับมาได้เกือบเดือนแล้ว รู้สึกเบื่อๆเซ็งๆ"

"จะอยู่ที่นี่กี่วัน?"

"จนกว่าจะไล่" เดชศักดาตอบตรงไปตรงมา

"หน้าด้าน แต่ก็ตรงดีว่ะ มาอยู่นานแบบนี้ พ่อกับคุณหญิงแม่ของไม่ขัดข้องรึ? ไหนจะน้องฟ้าน้องน้ำ พี่น้องสองศรีที่คุณหญิงแม่ท่านหมายหมั้นปั้นมือให้คนใดคนหนึ่งเป็นว่าที่เมียในอนาคต" หมอทรงทรัพย์ซักถาม

"เพราะเหตุนี้ไง กูเลยอยากหนีออกจากบ้านมาเตรียมตัวเตรียมใจซักพัก เที่ยวให้หนำใจก่อนแล้วค่อยกลับไปเจอโลกแห่งความจริง ขีนรีบกลับคุณหญิงแม่จับกูแต่งงานแน่ กูยังอยากเป็นหนุ่มโสดใช้ชีวิตอิสระ สำมะเลเทเมา ไม่อยากผูกมัดตัวเองกับใคร ส่วนยัยฟ้ากับยัยน้ำ กูคิดกับพวกเขาแบบน้องสาว" เดชศักดาบอกเหตุผล

"ถ้าคุณเดชอยากสำมะเลเทเมา คืนนี้ลุยเลยไหมครับ? ไปกินข้าวที่ร้านอ้อยใจก่อน ดื่มสุราให้เลือดลมมันฉีดพล่าน จากนั้นค่อยไปเคล้านารีกันที่บ้านใหม่" สินทบรีบเสนอความคิดเห็น

"ไม่เลว รู้ใจพี่จริงๆไอ้น้อง คืนนี้พวกเราสามทหารเสือเตรียมตัวออกศึกกันได้" เดชศักดาเกิดอาการคึกขึ้นมา

"ยังไม่ทันไรก็ออกลายแล้ว สันดานไม่เคยเปลี่ยนเลย ไปเที่ยวแบบนี้หัดป้องกันเอาไว้บ้าง โรคเอดส์มันกำลังระบาด กินข้าวที่อ้อยใจเสร็จ กูขอตัวกลับก่อน พรุ่งนี้ต้องรีบไปดูคนไข้ที่อนามัยแต่เช้า ไปเที่ยวบ้านใหม่กับสินทบสองคนละกัน" หมอทรงทรัพย์รีบออกตัว

"ที่หมอไม่อยากไปเพราะติดงานหรืออะไรกันแน่เอ่ย?" สินทบย้อนถามอย่างมีเลศนัย

"ไอ้หมอเถื่อนมันมีความลับอะไร? บอกหน่อยสินทบ" เดชศักดาสงสัย

"ติดงานหรือกลัวนังไหมโกรธ?" สินทบแกล้งหลุดปากออกมา

"อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ดูซื่อๆหนิมๆ ร้ายกาจไม่เบานะเรา ที่แท้แอบมีแฟน" เดชศักดาแซวเพื่อนสนิท

"ก็ไปเชื่อคำสินทบมัน เจ้านี่ชอบเพ้อเจ้อปั้นน้ำเป็นตัว กูกับไหมยังไม่อะไรลึกซึ้งถึงขั้นนั้น" หมอทรงทรัพย์หน้าแดงด้วยความเขินอาย

"กูชักอยากเห็นหน้าน้องไหมของแล้วซิ ผู้หญิงคนนี้คงมีดีแน่ๆถึงสามารถพิชิตใจฤาษีอย่างได้" เดชศักดายังไม่หยุดแซว

"คนกันเองครับคุณเดช นังไหมเป็นน้องสาวผม ตอนกลางวันก็ได้เจอมันแล้ว"

หลังจากดื่มกาแฟและสนทนากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามคนได้เดินทางต่อ จนมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอไม่เกิน3 กิโลเมตร

หมู่บ้านนี้อยู่ในเขตสุขาภิบาลของอำเภอ ชาวบ้านในหมู่บ้านร้อยละ 60% ประกอบอาชีพทำไร่ทำนา ที่เหลือรับราชการครู ค้าขาย หัตถกรรมทอผ้า และรับจ้างทั่วไป

ความพิเศษเฉพาะของหมู่บ้านแห่งนี้คือ ชาวบ้านส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 96% เป็นชาวไทลื้อที่อพยพมาจากแคว้นสิบสองปันนา มณฑลยูนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีน ตั้งแต่ครั้นโบราณกาล

ภาษาที่ใช้สื่อสารกันในหมู่บ้านเป็นภาษาไทลื้อ จัดอยู่กลุ่มภาษาไท รากศัพท์ทั่วไปจะคล้ายภาษาคำเมืองล้านนาผสมกับภาษาล้านช้าง แตกต่างแค่สำเนียงการพูดเท่านั้น

บ้านพักของหมอทรงทรัพย์เป็นบ้านที่เช่าจากชาวบ้านแถวนี้ บ้านไทลื้อโบราณ2 ห้องนอน 1ห้องน้ำซึ่งอยู่ทางหลังบ้าน
ตัวบ้านทำจากไม้สัก หลังคามุงด้วยแป้นไม้เกล็ด ยกพื้นใต้ถุนสูง พอขึ้นบันไดจะเห็นชานเรือนขนาดกว้างพอสมควรยื่นออกมาจากตัวบ้าน ขอบยาวของชานทำเป็นม้านั่งมีราวไว้พิงขนานล้อมรอบ เอาไว้พักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งสามารถมองเห็นผู้คนผ่านไปผ่านมาบนท้องถนนได้

เวลาเที่ยงวัน สามหนุ่มเดินมุ่งหน้าไปยังบ้านของสินทบซึ่งอยู่ห่างประมาณ3-4หลังคาเรือน บ้านของสินทกเป็นบ้านปูน2ชั้น ทาสีขาวทั้งหลัง มุงกระเบื้องลอนคู่ นอกจากใช้เป็นที่อยู่อาศัยแล้ว ชั้นล่างของตัวบ้านยังทำเป็นร้านขายของชำขนาดใหญ่ที่สุดในหมู่บ้าน

ถนนฝั่งตรงข้ามเป็นตลาดสดของหมู่บ้านซึ่งมีขนาดกว้างใหญ่มาก เป็นรองแค่ตลาดสดในตัวอำเภอเท่านั้น โครงสร้างตัวตลาดทำจากเสาไม้ขนาดใหญ่หลายเสา มุงหลังคาสังกะสี นั่งร้านสำหรับวางของขายทำด้วยไม้

ตลาดสดของหมู่บ้านหรือ"กาดน้อย"ตามภาษาชาวบ้าน เปิดขายตั้งแต่ก่อนเที่ยงวันไปจนถึง6 โมงเย็น ส่วนตลาดสดในตัวอำเภอหรือ"กาดใหญ่" เปิดขายตั้งแต่ตี3ตี4 ไปจนถึง10 โมงเช้า

บริเวณด้านหน้าก่อนถึงทางเดินเข้าตลาด มีเพิงขายก๋วยเตี๋ยวตั้งอยู่ เจ้านี้ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย สังเกตจากจำนวนลูกค้าที่มาอุดหนุน นอกจากความอร่อยแล้ว ความสวยของแม่ค้ายังทำหน้าที่เป็นนางกวักเรียกลูกค้าเข้าร้านได้ดีอีกด้วย

"ไหม ฉันฝากร้านแป๊บหนึ่ง จะเอาก๋วยเตี๋ยวไปให้พ่อที่นาท้ายหมู่บ้าน และแวะเอาผักกับป้าเป็ง ซักพักพี่บัวเงินคงเข้ามาร้าน" น้ำเสียงอันไพเราะเสนาะหูของเด็กสาววัย17 ปี เอื้อนเอ่ยฝากร้านไว้กับเพื่อนสนิทวัยเดียวกัน  เธอเป็นคนเอวบางร่างน้อย ผิวขาวเนียน ผมสีดำยาวสลวยมัดรวบตึงไว้ตรงท้ายทอย โครงหน้ารูปไข่ คิ้วบางอ่อนโค้งได้รูป ดวงตากลมโต นัยตาสีดำดูสวยปนเศร้า
 เธอรีบใส่งอบพร้อมกับถือปิ่นโตเดินไปที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าดรีมสีขาวรุ่นคุรุสภาที่จอดไว้ข้างเพิง อย่างไม่รอช้า

เสี้ยววินาทีที่เธอกำลังขี่มอเตอร์ไซด์ออกไปนั้น เป็นเวลาเดียวกับกลุ่มของหมอทรงทรัพย์กำลังเดินเข้ามาถึงเพิงก๋วยเตี๋ยวพอดิบพอดี

"บัวซอนไปไหน?" สินทบเอ่ยถามน้องสาวตัวเองที่อาสาเฝ้าร้าน

"เอาก๋วยเตี๋ยวไปให้ลุงแก้ว เพิ่งออกไปเมื่อกี้นี้เอง พี่บัวเงินมาได้จังหวะพอดีเลย ลูกค้ากำลังเข้าร้าน" สินไหมพูดกับพี่ชาย พร้อมทั้งหันหน้าไปทางหญิงสาวร่างท้วมวัย25 ปีที่ชื่อบัวเงิน

"อดเจอแม่ค้าคนสวย อดีตขวัญใจสินทบ เมื่อก่อนอุตส่าห์เช้าถึงเย็นถึงทุกวัน แต่ก็แพ้ไอ้หนุ่มนักมวยจนได้" หมอทรงทรัพย์ได้ทีเอาคืนลูกน้องคนสนิท

"ได้ทีเล่นผมเลยนะหมอ จะพูดให้ได้อะไรขึ้นมา พูดไปผมก็แพ้ไอ้เอกอยู่ดี ทั้งหุ่นทั้งหน้าตามันชนะขาดลอยอยู่แล้ว" สินทบพูดอย่างหัวเสีย

"บัวซอนเป็นคนสวยที่สุดในหมู่บ้านนี้ตำบลนี้ด้วย งานสงกรานต์ของอำเภอที่ผ่านมาประกวดได้ตำแหน่งเทพีสงกรานต์ งานลอยกระทงจะถึงนี้ เห็นทางอำเภอก็จะส่งไปประกวดนางนพมาศที่ตัวจังหวัด รับรองต้องชนะอีกแน่นอน เธอเป็นความหวังของคนทั้งหมู่บ้านและอำเภอ" บัวเงินช่วยบรรยายสรรพคุณความสวยงามของน้องสาว

"สวยระดับนางงาม ชักอยากเห็นหน้าแล้วซิ" เดชศักดาสนใจใคร่รู้

" ไหม นี่เจ้าเดชเพื่อนหมอ และนี่ สินไหม น้องสาวสินทบ" หมอทรงทรัพย์แนะนำให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน

"ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณไหม เห็นไอ้ทรัพย์พูดถึงอยู่บ่อยๆ พอเจอตัวจริง สวยสุดยอด ไอ้ทรัพย์นี่ตาถึงมากๆ" เดชศักดาเอ่ยชมสาวน้อยรูปร่างบอบบาง ไม่สูงมาก ผิวขาว มัดผมมวย โครงหน้ากลม ขนตางอนรับกับดวงตาหวานหยาดเยิ้มทั้งสองข้าง

"ขอบคุณค่ะ คุณเดชก็ชมเกินไป เรียก ไหม เฉยๆก็ได้ เรียกคุณแล้วอายคน ฟังดูแล้วมันเหมือนคุณนาย เกินตัวไป ไหมเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น" สินไหมน้อบรับอย่างเจียมตัว

"จะอายทำไม ฝึกเรียกไว้ดีแล้ว อีกหน่อยจะได้ชิน คุณนายคุณหมอ" เดชศักดาแซวฝ่ายตรงข้าม

สินไหมได้แต่ยิ้ม เธอไม่ยอมพูดจาใดๆทั้งสิ้น เวลานี้แก้มทั้งสองข้างของเธอแดงก่ำไม่ต่างจากลูกตำลึงสุก จนไม่อยากมองหน้าใครทั้งนั้น ไม่ใช่แค่เธอคนเดียวเท่านั้น ตัวหมอทรงทรัพย์เองก็เขินอายเหมือนกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่